เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
อ่าน: 30004 ธิดา กงศุลเยเนอราลอังกฤษ แฟนนี น้อกซ์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 09:07

เรือของพระปรีชากลการที่สร้างขึ้นที่ปราจีณนั้น ยาวประมาณ ๑๕๐ ฟุต  เป็นที่สนใจมีเอ่ยไว้ในบันทึกราชการ
หลายครั้ง  ชื่อไทย ชื่ออัษฎางค์

เรือลำนี้พระปรีชากลการพาแฟนนี น้อกซ์ไปเที่ยวบางปะอิน  ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า ฟุ้งซ่านนัก
หนังสือประวัติศาสตร์บางเล่มบอกว่าไปเสพมธุจันทร์รส(ภาษาโบราณ)
มีเรื่องที่อ่านมาว่า ที่จริงภรรยาสองคนของพระปรีชากลการอยู่ในเรือด้วย
แต่ถ้าจะคิดอย่างสิวิไลซ์  หญิงสองคนนั้นไม่มีเกียรติหรือวัยหรือสกุลสูงพอที่จะเป็นชาเปอโรนของธิดากงสุล

...

มีคำให้การของภรรยาคนหนึ่งของพระปรีชากลการว่า  พระปรีชากลการกับแฟนนีรักกันที่ปราจิณ  พี่น้องก็ถูกกัน
(อ่านมาจากเล่มอื่นว่า    ตอนนั้นนอกซ์พาลูกไปเที่ยวและพักอยู่กับพระปรีชากลการ  ถ้าจำไม่ผิดเป็นเวลาสองอาทิตย์)

ในหนังสือลูกท่านหลายเธอ ของคุณศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย พูดถึงเรื่องนี้ในอีกทางหนึ่ง

คุณศันสนีย์เธอว่าทั้งสองชอบกีฬาขี่ม้าเหมือนกัน วันหนึ่งในเวลาเช้า ฝ่ายชายอยู่ในกลุ่มข้าราชบริพารที่ทรงโปรดปราน  ขี่ม้าตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝ่ายหญิงก็ขี่ม้าเล่นกับบิดา แม้ว่าฝ่ายชายจะมีภรรยาและบุตรชายหญิงอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสรู้จักกันครั้งแรกจึงอยู่ในฐานะมิตรสหาย ต่อมาเมื่อภรรยาฝ่ายชายถึงแก่กรรม ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนจึงพัฒนาเป็นความรักในที่สุด

ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่บางปะอิน คุณศันสนีย์เธอเล่าว่าเป็นเหตุการณ์ก่อนการแต่งงาน มิใช่ไปเพื่อเสพมธุจันทร์รส (honeymoon) ไม่ ครั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๑ พระปรีชากลการได้พาแฟนนี่นั่งเรือส่วนตัวไปในงานแลองพระราชวังบางปะอินและค้างแรมด้วยกันบนเรือ มีบ่าวไพร่อยู่บนเรือด้วยกันหลายคน แต่ทั้งคู่มิได้อยู่ร่วมห้องกัน และกลับกรุงเทพฯในขณะที่งานฉลองยังไม่เสร็จสิ้น โดยไม่ได้กราบบังคมทูลลาให้ทรงทราบ

เหตุการณ์ที่บางปะอินจึงเป็นเหตุให้ทั้งสองต้องจัดงานแต่งงานโดยเร็วเพื่อกันข้อครหา

คุณวันดีมีความเห็นอย่างไรในข้อมูลข้างต้น

 ฮืม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 11:17



ดิฉันสนใจ ความทรงจำของนายโหมดมานาน
สนใจก.ศ.ร. ด้วยค่ะ
สุดจะสนใจกฎหมายที่พิมพ์เล่มแรกของประเทศไทย 


หนังสือที่ใช้ในการเล่าเรื่องแฟนนีเหล่านี้     กองเรียบร้อยอยู่ในตู้ฝากระจกเป็นเวลาหลายสิบปี
นำออกมาอ่านเรื่อยๆ
ประสม ผูกพัน เข้าด้วยกัน



ภรรยาคนอื่น ๆ ของ พระปรีชากลการ  ได้ให้การไว้ ในเรื่องคดี

คนหนึ่งให้การว่า นายโหมดและลูก เอาเงินไปฝากมิสซิสไว้  สี่หมื่นชั่ง
คนหนึ่งก็เข้าไปพึ่งแฟนนีในบ้านนอกซ์
คนหนึ่งยังให้การว่านายโหมดและลูกนำเงินที่เหลือจากโรงกสาปน์มาบ้าน
สอบสวนว่าเป็นเงินที่แข็งค้างในเบ้า
เป็นเอกสารทางการทั้งสิ้น
แต่บางเล่มก็หายากสักหน่อย เพราะไม่มีการพิมพ์เพิ่มเติม


คดีประหารพระปรีชากลการนั้น หนังสือพิมพ์ในสิงคโปร์ลงก่อน
แล้วหนังสือพิมพ์ในอเมริกาเอาไปลง  ตื่นเต้นมาก เพราะอ้างว่า เงินของนายโหมดที่โดนราชบาตรไปนั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ
ดิฉันไม่กล้าใช้ข้อมูลจากหนังสือนวนิยาย  หรือหนังสือที่ไม่มีอ้างอิง
เพราะดิฉันเป็นเพียงนักอ่าน  ไปอ่านมาจากเล่มอื่น ๆ  ก็ต้องอ้างอิงเต็มที่


ที่จริงชีวิตของแฟนนีนั้น ยังเป็นที่สนใจของชาวโลกอยู่ 
มีผู้คนเขียนจดหมายไปถามนักประพันธ์หรือเว็บของนักประพันธ์ ขอข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ


ดิฉันสนใจในความรักของคนทั้งสองที่โลกรับรู้     ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาเท่าไร สามเดือนหรือหกเดือน
ดูจากวันที่ลูกเกิดก็ได้

พระปรีชาพึ่งแฟนนีมาก  คิดฝากชีวิตไว้กับเธอ      อือม์นี่หนอที่เราเรียกว่า คู่ชีวิต

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 11:50

คุณนวรัตนเคยนำข้อมูลด้านการเงิน Fanny@Paris มาแสดง

ชีวิตดั่งนิยาย-พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ กระดูกสันหลังพระปิยะมหาราช?
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8075368/K8075368.html#11

แฟนนีได้ไปหาหม่อมเจ้าปฤษฎางค์ที่ปารีสในฐานะอัครราชทูต แล้วไขความลับว่า สามียังมีเงินฝากอยู่ในประเทศอังกฤษอีก ๒ บัญชี ตนเองถอนออกมาไม่ได้ เพราะถูกรัฐบาลไทยอายัตไว้ แต่ถ้าราชทูตมีหนังสือไปแจ้งธนาคารว่ายินยอมให้ถอน ก็คงจะถอนได้ แล้วเอาเงินออกมาแบ่งกัน

ท่านราชทูตจึงรีบเรียกพนักงานมาเป็นพยาน แล้วบันทึกคำให้การของแฟนนี อย่างตรงไปตรงมา หลังจากปรึกษานายธนาคารที่รับฝากเงินไว้ ได้ความว่า ถ้ารัฐบาลไทยทำหนังสือเรียกเงินมา ก็จะจ่ายให้ตามสัญญา จึงทำหนังสือรายงานไปทูลเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ และเสนอความเห็นขอพระมหากรุณาธิคุณให้ลูกแฟนนีที่ยังเล็ก ก็โปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชานุญาตให้ตามที่ขอ

มีรูปนี้แถมมาด้วย

รูปเครื่องแต่งกายแฟนซีล้อเลียนนายนอกซ์กับนางปรางนี้ ทรงแต่งในวันฉลองปีใหม่ปี๒๔๑๙ในวัง เมื่อทรงกลับมาเมืองไทยหลังจากเรียนจบใหม่ ๆ

 ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 12:37

ในหนังสือของคุณณัฐวุฒิ/สมเด็จเจ้าพระยา/ หน้า ๑๐๖๖ - ๑๐๖๙


ร. ที่๒๒/๔๑
ถึงเจ้าคุณสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์  ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน


       ด้วงกงสุลมาหาฉันวันนี้

.....................................
.....................................


     เขาว่า  ได้มีหนังสือออกไปถึงคอเวอนเมนต์อังกฤษฉบับหนึ่งแล้ว         พรุ่งนี้จะมีไปอีก
จึงมาถามเสียก่อน

การเรื่องนี้เป็นการดูถูกเขาใหญ่นัก       ซึ่งคนทั้งปวง   มาพูดกับฉันว่า  มิสเตอร์นอกซ์อินเตอเฟีย
ไม่ได้นั้นเป็นการไม่ถูก

การเรื่องนี้เขามีอำนาจที่จะอินเตอเฟียได้         เพราะเมืองไทยไม่เป็นเมืองซิวิไลซ์เหมือนเมืองทั้งปวง
ถ้าจะทำโทษแก่คนผิด ๆ  เขาก็อินเตอเฟียได้

เหมือนหนึ่งการในเมืองพม่า  มิสเตอร์นอกซ์เอาหนังสือพิมพ์ให้มิสเตอร์กูลด์อ่าน

หนังสือนั้นเป็นอัลติเมตัม  ซึ่งเรซิเดนซ์อังกฤษยืนต่อคอเวอนเมนต์พะม่า        ที่อ่านนั้นอู้อี้   ไม่ค่อยจะได้ยินถนัด
ให้แปลก็ไม่แปล         อ่านเป็นภาษาอังกฤษ       ในข้อใจความนั้น ๓ ข้อ

หนึ่ง   เรสิเดนต์อังกฤษ  มีอำนาจที่จะอินเตอร์เฟียการในบ้านเมืองได้

หนึ่ง   การที่คอเวอนเมนต์พะม่าจะทำต้องปรึกษาเรสิเดนต์ก่อน

หนึ่ง  เรสิเดนต์มีเวลาที่จะเข้าเฝ้าแอดไวซ์ได้


อ่านไปได้หน่อยหนึ่งก็หยุดเสีย           มิสเตอร์นอกซ์จึงว่า  นี่เป็นการในบ้านเมืองยังอินเตอร์เฟียได้

การครั้งนี้เป็นการอินซัลต์ใหญ่แก่เขาด้วย


คอเวอนเมนต์อังกฤษคงต้องเอาเป็นธุระด้วยเป็นแน่



     ฉันถามว่า  ความประสงค์ของกงสุลเดี๋ยวนี้  จะเอาอย่างไร

     ก็พูดเอะอะไปทีละข้อ       คงความอยู่กับสามข้อ         คือให้ขอโทษให้ชัดเจน

ข้อ ๑        ให้พระปรีชาพ้นโทษ       เป็นขาดตอนในความอินซัลต์เสียชั้นหนึ่ง

ข้อ ๑         ที่จะชำระความต่อไป      ขอให้เลือกตลาการที่เป็นยุติธรรม

ความสามข้อนี้    ถ้าไม่ได้เต็มตามที่ขอ   จะยังเป็นอันไม่พอใจเขา       แล้วบอกว่าอีกสองสามวันเรือรบเห็นจะมาถึง
แลพูดการอื่น ๆ ต่อไปอีกยืดยาวมาก  แต่ไม่เป็นการสำคัญอันใด

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 12:49

ขอบคุณคุณเพ็ญมากเลยค่ะ

     คิดถึงคุณนวรัตน์ ซี.      ท่านเป็นผู้ที่มีจุดยืนเข็มแข็ง   ให้เหตุผลคล่องแคล่ว

จุดธูป   จุดธูป    จุดธูป      ไหว้ด้วยแฮมเสปนหมูขาดำของคุณน้องเทียนทองผ่องใส

ไวน์ไม่มี (แพง ต้องเก็บสตางค์ไว้ซื้อหนังสือ)
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 13:23

ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูสักหน

สักวาน้องคนงามนามดวงแข
คงเพราะแม่อยากให้เป็นไทยหนา
แต่ดวงจิตพันผูกลูกแอนนา
ฝรั่งจ๋ามีชีวิตจิตสบาย

ส่วนแฟนนี่ไร้ชื่อไทยหมายเป็นหรั่ง
ต้องผิดหวังมีผัวไทยแม่ใจหาย
ที่สำคัญพูดให้ช้ำย้ำก่อนตาย
ชีพต้องวายได้เมียหรั่งนั่งปลงเอย

 ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 14:07

ร. ที่ ๒๙๔/๔๑

ถึง เจ้าคุณสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์  ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน

     ด้วยพระยาภาษกรวงษ  มี เตเลเกรฟ  มาถึงเจ้าพระยาพระคลัง ๓ ฉบับ   เป็นไซเฟอ ๒ ฉบับ
คำตรง ๑ ฉบับ          ถึงเทวัญ ๒ ฉบับ   ถึงภรรยา ๑  ฉบับ


     ที่ปลายเทเลแกรฟฉบับนี้    ที่ว่า แฟนนีรักษ

คำที่ว่ารักษนี้   ดูในภาษาอังกฤษก็ว่าลอย ๆ     สงสัยว่าคำที่ว่ารักษนี้จะผิดตัว   เมื่อบอกเตเลแกรฟ


     ถ้าคิดไปอย่างหนึ่งว่า        ในการเรื่องที่รักษของแฟนนี คือ  พระปรีชา      หรือการที่แฟนนีรักใคร่กับพระปรีชา
เพราะทำเนียมอังกฤษเขายังไม่รับแมเรช             จะเรียกว่าเป็นผัวแฟนนียังไม่ได้นั้น

ถ้าไปต่อความกับที่ว่าจะไว้จัดต่อทีหลัง   แลจะเอาเป็นโปรเตกชันอังกฤษ  ก็เห็นผิดกับความในข้ออื่น ๆ
ซึ่งว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการของไทยทั้งปวงหมด              แลพระยาภาษก็รู้ได้รู้เสียอยู่

ถ้าเขาจะเอาพระปรีชาเป็นโปรเตกชัน        พระยาภาษคงไม่ว่าแสติสแฟกตอรีเป็นการดีอยู่เปนแน่


มิสเตอร์อาลบาสเตอ  เห็นว่า  คำว่าลอฟนี้เป็นคำผิด
แต่ที่ยังไม่ว่ากล่าวในเวลามีครรภ์นั้น  อังกฤษเคยถืออยู่

แต่คำที่ว่าจะเอาไว้เป็นโปรเตกชันอังกฤษนั้นจะจริง        ด้วยคำที่ในหนังสือว่าไปว่าอยากจะรู้ว่าแฟนนี เป็นสับเยกต์ไหน
เขาจึงคิดอ่านเรื่องนี้ว่า      จะเอาเปนสับเยกต์อังกฤษ     แต่ยังไม่ว่าออกมาก่อน



ความข้อนี้  เป็นแต่พระยาภาษประมาณเห็นเอาเอง           ก็ยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่หน่อยหนึ่ง









ตอนติดคุก  พระปรีชากลการก็เขียนจดหมายถึง       แฟนนีรักษ์   เห็นเธอแต่คนเดียว  ขอให้ช่วยเหลือให้เต็มมือหน่อย



                ที่ว่ารักรักนั้นฉันใด
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 14:20

ลูกสาวสองคนของแหม่มปรางนั้น  ถ้าคิดว่าชีวิต เกียรติยศ และความสุข สามารถแลกกับความรัก

สองสาวก็ขาดทุนย่อยยับ
บันทึกการเข้า
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 14:53

ขอบคุณคุณเพ็ญมากเลยค่ะ

     คิดถึงคุณนวรัตน์ ซี.      ท่านเป็นผู้ที่มีจุดยืนเข็มแข็ง   ให้เหตุผลคล่องแคล่ว

จุดธูป   จุดธูป    จุดธูป      ไหว้ด้วยแฮมเสปนหมูขาดำของคุณน้องเทียนทองผ่องใส

ไวน์ไม่มี (แพง ต้องเก็บสตางค์ไว้ซื้อหนังสือ)

อย่าพูดถึงซิคะ หิว
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 15:02

แหม่มปราง ?

 ยิงฟันยิ้ม

สำหรับแฟนนี่อาจเป็นดั่งที่คุณเทาชมพูว่า

แต่สำหรับดวงแขแล้ว ดูเธอมีความสุขกับหลุยส์มาก

จดหมายของเอวิสพี่สาวของหลุยส์ถึงเพื่อนคนหนึ่ง

...วานนี้ แม่ (แหม่มแอนนา) ได้รับจดหมายจากลูกสะใภ้ทางกรุงสยาม เล่ามาว่าลูกน้อยของเขาเกือบจะเสียชีวิตเพราะปอดบวม เด็กป่วยมาหกอาทิตย์แล้ว แต่ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้น หลุยส์เห่อลูกมาก เขาชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้และเอาแกเข้านอน ว่างเมื่อไรเป็นต้องมาขลุกอยู่กับลูกซึ่งได้ชื่อแล้วว่า โทมัส จอร์จ ตามชื่อของคุณตา คือกงสุลน็อกซ์

เรามีภาพประทับใจจากจดหมายของแคโรลีนว่า เธอคงเป็นสตรีที่อ่อนโยนน่าคบหา ภาษาอังกฤษของเธอก็ไม่มีที่ติ ทั้ง ๆ ที่เกิดและโตในสยาม....


จดหมายฉบับนี้มีอีกข่าวสำคัญอีกข่าวหนึ่งบันทึกไว้ด้วย คือ ข่าวการถึงแก่กรรมของแม่ปราง

งานศพของแม่ปรางเป็นไปอย่างสมเกียรติ แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่คาดฝัน ทำให้แคโรลีนทั้งโกรธและเสียใจ คือพวกนักเลงจีนยกพวกมาตีกันในงาน

ภายหลังงานศพของแม่ปราง หลุยส์ได้พาดวงแข-แคโรลีนมาเชียงใหม่ ผู้คนได้พบเห็นความ "สวีท" ระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้จนเจนตา

แล้วความตายได้พรากดวงแขจากหลุยส์ เธอเสียชีวิตด้วยโรคไต ร่างของเธอถูกฝังไว้ ณ สุสานโปรเตสแตนต์ ภายใต้แท่งหินอ่อนมีคำจารึก ดังนี้

Caroline Isabella Leonowens
Born 26 May 1857. Died 17 May 1893.
Blessed are they that mourn for they shall be comforted.
Bleesed are the poor in spirit for they shall see God.

 เศร้า

จาก ลูกผู้ชายชื่อนายหลุยส์ - จิระนันท์ พิตรปรีชา เรียบเรียงจาก Louis and The King of Siam - W.S.Bristowe

 

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 15:25

ยังสะดุดใจกับเรื่องชายหนุ่มของแฟนนี่    นอกจากนายดี ที่ปรากฏอยู่ในนิยายอิงชีวประวัติแล้ว  ก็มีพระนามพระองค์เจ้ากมลาศ  แทรกเข้ามาด้วย
เคยพูดถึงเจ้านายพระองค์นี้บ้างในเรือนไทย แต่จำรายละเอียดไม่ได้  ไปค้นก็ได้คำตอบว่าเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   พูดอีกทีคือเป็นพระราชอนุชาในรัชกาลที่ ๕ ทรงพระนามเต็มว่าพระองค์เจ้ากมลาศเลอสรรค์ กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร   ทรงกำกับกรมช่างหล่อ
ประสูติ จ.ศ. ๑๒๑๘    พระราชหัตถเลขาที่กล่าวถึงการแต่งงานกับแฟนนี่ลงว่าปี จ.ศ. ๑๒๔๑   พระชนม์ก็ ๒๓ กำลังเป็นหนุ่มพอดี

อ้างถึง
แล้วแกทูลเรื่องให้ทราบว่า  มิศนอกซ์จะคิดแก้การเรื่องนี้
ด้วยจะให้พระองค์กมลาศแต่งงานกับลูกสาวคนเล็ก     
จะให้ขออนุญาตก่อน
สมเด็จเจ้าพระยาท่านให้ทูลว่า    ควรจะยอมให้แต่ง

ข้อความนี้ ชวนให้คิดว่าคนเจ้ากี้เจ้าการจับคู่ให้ลูกสาว คือกงสุลน็อกซ์ มากกว่าจะเป็นพระประสงค์ของพระองค์เจ้ากมลาสเอง   
มิฉะนั้นท่านก็คงกราบถวายบังคมทูลเองเสียมากกว่า     เพราะท่านก็ไม่ใช่ใคร เป็นพระราชอนุชา   มีโอกาสจะทูลเป็นส่วนพระองค์ได้ง่าย
ตัวพระองค์เจ้ากมลาสอาจจะเอออวยไม่ขัดข้อง  หรือถูกจับแต่งก็ไม่รู้ละ   แต่ถ้อยคำนี้เหมือนกงสุลน็อกซ์จะเจ้ากี้เจ้าการออกหน้า   ส่วนสมเด็จเจ้าพระยาก็เหมือนจะสนับสนุนให้ท้ายด้วย
ถ้างั้นเรื่องนายดี อาจจะคลาดเคลื่อน   เป็นพระองค์เจ้ากมลาสก็เป็นได้นะคะ

คำถามที่เกิดขึ้นคือ  มันก็ดูแย้งๆกับพระราชหัตถเลขาชอบกล

พระราชหัตถ์เลขา ถึง เสด็จกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ (หน้า ๘๓๕ - ๘๔๑ ใน หนังสือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์)  มีว่า

     "ลูกสาวสองคนนี้  คนต่างประเทศไม่มีใครนับถือเลย  ไม่มีใครเอาเป็นภรรยาเป็นแน่
ไปมานอนค้างอยู่ในวังจนคนพูดว่า กงสุลถวายวังหน้าก็มีมาแต่ก่อน    แต่พูดกันแต่ไทย ๆ  คนฝรั่งไม่พูด
มาในครั้งนี้เขาว่าเมื่อไปกาญจนบุรีนี้ออกหน้ามาก   ไปตามเสด็จวังหน้านั่งที่ไหนก็นั่งเคียงกัน
แลในบางกอกก็มีเถ้าแก่รับส่งเป็นเวลาขึ้นไปนอนวัง   ประทานเข้าของแต่งตัวมากนัก
แต่คำที่คนฝรั่งพูดกันนั้นเป็นการเยาะเย้ยกันมาก      ด้วยเขาไม่นับถือในตัวผู้หญิง
และก็ผิดธรรมเนียมในศาสนาเขามาก"

พี่น้องสองสาวโดนติฉินนินทา รวมกันไปทั้งสองคน  ไม่ได้แยกระหว่างคาโรลีนกับแฟนนี่     ไม่รู้ว่าคนไหนที่กงสุลถูกข้อหาว่านำขึ้นถวายวังหน้า   ตามเสด็จวังหน้าที่ไหนก็นั่งเคียงกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสองสาวยังเป็นโสดอยู่

ก็ยังสงสัยว่า ในเมื่ออื้อฉาวขนาดนี้แล้ว พระองค์เจ้ากมลาสท่านจะรับเป็นหม่อมออกหน้าทีเดียวหรือ
แล้วน็อกซ์เอง  ถ้าคิดถวายลูกสาวให้วังหน้า เพราะตัวเองจะได้เป็นใหญ่เป็นโตแน่ๆ  จะเลี้ยวออกนอกแผนไปจัดการแต่งกับพระองค์เจ้ากมลาสทำไม      เจ้านายองค์นี้ก็ทรงกำกับกรมช่างหล่อ  ไม่ใช่กำกับกรมอะไรที่มีอำนาจทางการปกครอง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 15:27

พระรูปพระองค์เจ้ากมลาส  กรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร จากวิกิ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 21 เม.ย. 10, 17:19


ได้กลิ่นเครื่องเซ่นมีคนมาจุดธูปเรียก เลยจำต้องเข้ามาเยี่ยมสักหน่อย ได้รูปติดมือมาฝากด้วยหนึ่งรูปครับ

แถวนั่งขวาสุด กงสุลอังกฤษ โธมัส ยอร์ช น๊อกซ์  หรือที่คนวังหน้าเรียกมิศหนอก พ่อของแฟนนี่และแคโรไลน์ ถ่ายภาพร่วมกับ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ที่นั่งกลาง ท่านถัดมาคือพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวรวงศาธิราชสนิท ส่วนแถวยืนคนกลางคือเจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณยรัตพันธ์) สมุหนายก


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 29 เม.ย. 10, 15:33

คุณนวรัตนมาแล้วไปไม่ย้อนกลับ

อธิบายภาพเพิ่มเติม

คนยืนทางซ้าย คือเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ( ขำ บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการในกิจการต่างประเทศ นักเขียนพระราชพงศาวดาร

ส่วนคนยืนทางขวาใครทราบบ้างว่าคือใคร

 ฮืม
บันทึกการเข้า
Bhanumet
ชมพูพาน
***
ตอบ: 199


Sleeping Red Lion


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 29 เม.ย. 10, 21:07

มิทราบว่าใช่ พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค)  หรือไม่
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 19 คำสั่ง