yutthana
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 13:58
|
|
:Pทุกตารางฟุตแบบนี้หรือเปล่าน้องเนจ๋าอิอิ(ค้าวขาวน่ากิน)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 15:14
|
|
ไอ้ภาพพระบฎที่พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสงไปถวายพระเจ้ากรุงลังกา มันยังเหลืออยู่รึเปล่าคุณกุ(น่าจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ใดที่นึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 18:28
|
|
พี่ยุทธมีอีกหรือเปล่าครับ 5555  ภาพพระบฏไม่ทราบว่าไปไหนครับ มีแต่ในหนังสือของอาจารย์นันทนา ซึ่งแกสนิทกับโรแลนด์ ซิลวา นักโบราณคดีและไฮโซชาวลังกา เลยได้ภาพมา ได้แวะเข้าไปวัดบุปผาราม ที่ำพระอุบาลีไปจำพรรษามาด้วย ทุกวันนี้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดมัลวัตตะ ไปถามพระดู แกทำท่างงๆ (ได้ข่าวว่าเคยมีการถามมาหลายรอบแล้ว) เชื่อว่าพระบฏนั้นคงจะเก็บไว้วัดอื่นมากกว่า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 18:47
|
|
วัดนี้ยังมีรูปพระเจ้าเข้านิพพานองค์ใหญ่ ลังกาชอบมากมาย เป็นพระนอนพับศอกแบบอินเดีย ดังนั้น พระนอนสุโขทัยหรืออยุธยาตอนต้นก็พับศอกเหมือนกัน
มีตู้ใหญ่อยู่ท้ายพระบาท คลุมผ้าสีๆ เหมือนทิเบต ก็สงสัยว่าเป็นตู้อะไร แล้วสักพักก็มีเจ๊แขกคนนึงอุ้มลูกมา เอาลูกวางไว้บนแท่นแล้วก็ไหว้สรวงบวงพลีอยู่หน้าตู้นั่น เราก็สงสัยว่าในนั้นมีอะไรหว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 18:49
|
|
เจ๊แขกเอาลูกวางหน้าตู้ลึกลับ  แล้วไหว้สรวงบวงพลีอะไรบางอย่างในตู้...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 19:00
|
|
สักพักก็มีตุ๊เจ้าแขกองค์นึงเดินเข้ามา ถามเราว่ามาจากเมืองไทยใช่ไหม (รู้ได้ไงหว่า ปกติมีแต่คนทักเป็นเกาหลี  ) แล้วท่านก็แหวกม่านไขประตูตู้ให้เราเข้าไป ตกตะลึงมั่กๆ ข้างในเป็นเทวรูปเทพรักษาเกาะลังกา คือกัตตุคาม รามเทพ สุมนเทพบุตร ทำจากปูนปั้นทาสีสูงสักสามเมตรได้ บรรยากาศลึกลับมีแสงสลัวๆ แล้วท่านก็หยิบสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้ สวดภาษาบาลีอะไรสักอย่าง จับได้แต่ฑีฆายุโก สุขขัง อะไรทำนองนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 19:58
|
|
ผนังรอบๆพระเจ้าเข้านิพพาน เขียนภาพเทพผู้พิทักษ์พุทธศาสนา มีทั้งท้าวมหาราชทั้งสี่ เทพรักษาเกาะลังกาทั้งสี่ เทพชุมนุมที่มาในการปรินิพพาน พระสงฆ์สาวกถือดอกบัวรายล้อมเป็นแถวๆ รวมทั้งเทพฮินดูที่จับมารักษาพุทธศาสนาด้วย พระศิวะแบบลังกาครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 20:00
|
|
จตุคาม แบบมีหน้าเดียว 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 20:21
|
|
วันถัดมา ผมไปเยี่ยมเมืองอนุราธปุระครับ เมืองหลวงแห่งแรกของศรีลังกา ตั้งแต่ยุคพุทธกาลทีเดียว จนกระทั่งถูกทมิฬตีแตกในพุทธศตวรรษที่ 16 นับว่าเป็นเมืองหลวงที่มีอายุยาวนานแห่งหนึ่งของโลก คือราวๆ 1600 ปีทีเดียว ทั้งเมืองจึงเต็มไปด้วยซากศาสนสถาน โดยเฉพาะสำนักสงฆ์ต่างๆ มีจำนวนมหาศาล ลองนึกภาพเขตอรัญญิกในกำแพงเพชร หรือศรีสัชนาลัยครับ แต่อาณาบริเวณกว้างขวางกว่ามากมายนัก
มีวัดจำนวนไม่มากนัก แต่บริเวณของแต่ละวัดกว้างมาก แต่ละัวัดก็จะมีแนวความคิดของตัวเองแตกต่างกันไป เช่น วัดนี้เป็นมหายาน วัดนี้เป็นเถรวาท คล้ายเป็นสำนักสงฆ์แตกแยกความคิดกันไป โดยมีวัดหลักๆ 2-3 วัด เช่น สำนักมหาวิหาร เป็นสายเถรวาทหลัก สำนักอภัยคีรีเป็นมหายาน เป็นต้น
วัดใหญ่ๆบางวัดอาจจะมีพระสงฆ์ถึง 5000 รูป!!! วัดขนาดรองลงไปก็จะมีพระประมาณ 2000 รูป
ตามบันทึกของหลวงจีนฟาเหียน กล่าวว่า มีพระนักศึกษาจากประเทศต่างๆมาร่ำเรียนกันที่นี่ รวมทั้งตัวท่านเองด้วย แต่ละสำนักก็จะวีนแข่งกันเอง
ในวัดก็จะประกอบด้วยศาสนสถานต่างๆ หลักๆคือ ต้องมีเจดีย์ประธานขนาดมหึมา ที่นี่ไม่สร้างเจดีย์กันพร่ำเำพรื่อ มีเจดีย์น้อยกว่าบ้านเราหลายเท่า แต่เจดีย์ิองค์หนึ่งๆ สูงราวๆพระปฐมเจดีย์ แต่อ้วนกลมกว่ามาก บางองค์อย่างที่เชตวัน ถือเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากปิรามิดที่กีซ่า
นอกจากนี้ก็จะมี หมู่กุฏิเครื่องไม้ ซึ่งพังไปหมด แต่ยังมีฐานจำนวนมากมาย บางหลังมีอ่างอาบน้ำส่วนตัวด้วย มีห้องสมุด หอไตร มีโบสถ์กลางสระ มีที่ทำสมาธิ มีหอฉันเป็นสัดส่่วน มีโรงพยาบาลสงฆ์ มีบ่อกักเก็บน้ำ บ่่อสรงน้ำของพระ กุฏิของพระชั้นสูงบางหลังก็มีถานส่วนตัว เหมือนที่พบกันในสุโขทัย
สถูปเชตวันครับ หลวงจีนฟาเหียนแกเคยไปร่ำเรียนอยู่วัดนี้ เป็นสำนักมหายานที่ใหญ่ที่สุดในลังกา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 20:36
|
|
ส้วมพระไฮโซครับ คงเป็นถานของพระราชาคณะ ถึงทำเป็นรูปปราสาท ร่องกว้างๆคงเป็นถานสำหรับอุจจาระ
ในพระวินัยกำหนดให้แยกอุจจาระออกจากปัสสาวะ ถานพระจึงมี 2 ที่ หรือบางถานก็รวมกัน แต่มีร่องระบายน้ำปัสสาวะไว้ ไม่ให้ปนกับอุจจาระ เนื่องจากจะทำให้อุจจาระเปียกและส่งกลิ่นเหม็น สู้ปล่อยให้แห้งไปดีกว่า
แต่ของลังกาไฮเทคกว่านั้น เนื่องจากลังกามีอ่างเก็บน้ำมาก เขากลัวน้ำโสโครกจะไหลลงอ่างน้ำ จึงจัดการกรองเสียก่อน ด้วยการฝังหม้อดินถึงสามใบลงไปใต้ถานปัสสาวะ หม้อแต่ละใบก็จะใ่ส่ทราย ใส่กรวด ใส่อะไรต่ออะไรลงไปกรอง เหมือนระบบกรองน้ำปัจจุบันเลย
ส่วนถานอุจจาระก็จะมีหม้อใบใหญ่รองรับ รอจนแห้งหรือเต็มค่อยหิ้วไปจำเริญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 20:41
|
|
อันนี้เป็นถานพระสำหรับปัสสาวะครับ ในพระวินัยกำหนดในพระถ่ายปัสสาวะต้องนั่งยองๆ จึงมีที่รองเท้าให้ด้วย และมีรางระบายปัสสาวะออกไป
ในสุโขทัย ล้านนาของเราเองก็มีถานลักษณะนี้อยู่มากมาย เป็นถานก่ออิฐก่อแลงบ้าง เป็นแผ่นหินก็มี ซึ่งแต่เดิมเคยเชื่อกันว่าเป็นฐานโยนิ!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 21:56
|
|
ส้วมของสุโขทัยครับ ทำจากแลง มีรางระบายปัสสาวะ ชิ้นนี้อยู่ในอรัญญิกที่กำแพงเพชร วัดอาวาสใหญ่ ปัจจุบันมีเฟินขึ้นสวยงาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 21:58
|
|
ส้วมล้านนาครับ วัดธาตุเขียว เมืองเชียงแสน คาดว่าเป็นพวกนิกายลังกาใหม่วัดป่าแดง เคร่งครัดมาก วัดเดียวจึงมีส้วมถึง 13 หลัง คาดว่าอาจเป็นส้วมปลอมของพระพุทธรูปมากกว่า แบบที่แพร่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 23:09
|
|
Ho! ... Lord!!!! ภาพด้านบนไม่ไหวครับ .... กรรม โดน paparazzi เข้าให้แล้ว  ภาพซุ้มเทพยาใน คคห.35 ทำให้นึกถึงซุ้มของสุโขทัยนะครับ มีลักษณะนี้หลายที่คงมาจากลังกานี่เอง ภาพประกอบจากวัดมหาธาตุครับ ... 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 16 มี.ค. 10, 23:11
|
|
ภาพนี้มาจาพช.รามคำแหงครับ ถ่ายแต่เป็นจุดๆมาลืมถ่ายภาพรวม ต้องขออภัย
ปล.ปวดใจตรงที่มันอยู่ภาพบนนี่ล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|