เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 11
  พิมพ์  
อ่าน: 24466 ใต้เงาเจดีย์ที่ศรีลังกา
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



 เมื่อ 15 มี.ค. 10, 20:39

 เจ๋ง สวัสดีครับ ผมกุุรุกุลากลับมาแต่ลังกาทวีปแล้ว ทริป 10 วันนี้ทำให้เข้าใจศิืลปะสุโขทัยขึ้นมานักหนาแก่กม ของบางอย่างที่เคยสงสัยก็หายสงสัย แต่บางอย่างแทนที่จะเป็นอย่างที่คิด ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก


แต่ที่แน่ใจก็คือ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ไม่ได้ลอกเลียนใครมาทั้งดุ้น ที่สมควรเลียนก็เลียนมาปรับให้เข้ากับตัวเราเอง ซึ่งก็คงขึ้นกับปัจจัยบางอย่าง ที่เราไม่อาจจะทราบความคิดของช่างได้แน่นอน

ทั้งพม่า สุโขทัย อยุธยา เขมร ลาว มีลังกาเป็นครูทั้งนั้น ทั้งทางศาสนาและทางงานช่าง แต่น่าพิศวงตรงที่ งานช่างของสุวรรณภูมิเรานั้น หลายอย่างงดงามประณีตกว่าลังกามากมายนัก ทางศาสนาเองก็เจริญรุ่งเรือง ขนาดลังกาต้องกลับมาขอพระสงฆ์พม่า พระสงฆ์ไทย ไปสืบพระศาสนาที่เมืองแคนดี้


กระทู้คราวนี้จะพาไปชมงานศิลป์ที่คิดว่า ช่างสุวรรณภูมิอาจจะได้เคยเห็น เคยสัมผัสมาแล้ว ลองเปรียบเทียบกันดู ถึงจะไม่เหมือนร้อยเปอร์เซนต์ แต่เชื่อว่าคงมีเ้ค้าอยู่บ้างครับ ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 20:55

ยินดีต้อนรับกลับบ้านคุณกุ  หวังว่าคงเห็นภาพศิลปะสวยๆนะครับ  ครูช่างโบราณท่านเก่ง กระแสอารยธรรมและศิลปกรรมที่ถ่ายทอดเข้ามาในสยามนั้น ครูช่างโบราณท่านนำมาผสมผสานกับวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นทำให้เกิดความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเราขึ้น 


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 21:54

สวัสดีครับพี่ยุทธ ดีใจที่กลับบ้านครับ เมืองไทยดีสุดแล้ว คนลังกาเคยพูดกับท่านสุภัทรดิศว่า "เกิดเป็นคนไทยนี้ช่างมีบุญนักหนา" ผมว่าก็จริง น่าจะให้พวกไม่รักแผ่นดินไปดูงานอินเดียลังกาบ้าง เราอยู่เฉยๆก็สบายอยู่แล้ว ไม่พอใจต้องหาเรื่องให้มันวุ่นวายเล่น


วันแรก ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่โคลอมโบครับ อาจจะไม่เกี่ยวกับศิลปะไทยเท่าไรนัก แต่อยากให้ชมมาสเตอร์พีซของเขา เก็บรักษาไว้ที่นี่หลายชิ้น เหมือนพิพิธภัณฑ์พระนครบ้านเรา

ค่าชมพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานของลังกาแพงมากครับ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ มีเหมารวม 50 ดอลล่าร์ แต่ดูได้แค่ที่ละวันเดียว ถ้าอยากดูต่ออีกวัน ต้องเสียอีกวันละ 25 ดอลล่าร์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะดูอยุธยาให้เสร็จในวันเดียว ผมเีสียค่าตั๋วรวมทั้งทริปไปประมาณ 2000 บาท

(แต่จริงๆแล้ว ระบบตรวจตั๋วของลังกาแย่มาก ถึงจะใช้คอมพิวเตอร์ตรวจ ถ้าไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ บางแห่งก็แอบแฝงเข้าฟรีได้ อิอิ ยิงฟันยิ้ม)


พระพุทธรูปสมัยอนุราธปุระครับ ถือเป็นสมัยคลาสสิคของลังกา เป็นเมืองหลวงแห่งแรกมีอายุนับพันปี ส่วนอายุของพระพุทธรูปคงราวๆพุทธศตวรรษที่ 9-11


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 21:57

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรองค์งามของเขาครับ ท่านั่งคล้ายๆกวนอิมราชวงศ์ซ่งอยู่ พระหัตถ์เดิมอาจจะมีดอกไม้เสียบได้ มีอิทธิพลศิลปะอินเดียใ้ต้ แต่ชายผ้าทำได้พลิ้วกว่าของอินเดีย


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:02

ดูฝีมือช่างทองลังกาบ้าง ศิลปะอนุราธปุระ เมืองหลวงแรกครับ ของจริงใหญ่ประมาณเม็ดขนุนได้ ตรงกลางน่าจะเป็นควอทซ์ ห้อยอเมทิสสีม่วง ขนาบด้วยแก้วสีเขียวมรกต ยังสมบูรณ์อยู่แม้จะอายุเป็นพันปีแล้ว ยิ้ม


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:14

ลังกามีของน่าสนใจกว่าประเทศอื่นๆตรงที่สาธารณูปโภคยุคโบราณของเขาทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ไปเที่ยวลังกาจึงไม่ได้มีแต่วัดๆๆๆ เหมือนบางประเทศ

ที่นี่มีอ่างเก็บน้ำขนาดมหึมา และบ่อน้ำเล็กน้อยเป็นหมื่นๆแห่ง เนื่องจากความแห้งแล้งและเป็นเกาะ น้ำฝนจึงไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว

มีสวนน้ำของพระราชาที่น้ำพุโบราณยังใช้งานได้ในหน้าฝน เล่นระดับด้วยท่อน้ำเป็นรางยาว มีพระราชวังบนหน้าผา รวมทั้งโรงพยาบาลไฮเทคที่จัดสัดส่วน OPD ด้วย (เขาว่าอย่างนั้นนะ) การรักษาก็มีทั้งยาสมุนไพร (อายุรเวทแบบลังกาที่ทุกวันนี้เอาไว้ขายนักท่องเที่ยว) การเอาคนป่วยลงแช่ในอ่างยา รวมทั้งการผ่าตัด..

ตกใจกับเครื่องมือทางการแพทย์ของลังกา มันเล็กจิ๋วจนนึกถึงเครื่องมือสมัยนี้ เขาว่าขุดได้ในบริเวณโรงพยาบาล

กรรไกรแบบสองขาไขว้กัน บ้านเราเพิ่งรู้จักกัน แต่ก่อนมีแต่กรรไกรหนีบหมาก


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:17

เครื่องมือทางการแพทย์ครับ บางอย่างก็นึกไม่ออกจริงๆว่าเอาไว้ทำอะไรบ้าง


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:26

ต้อนรับกลับบ้านครับ ไปเที่ยวมาหลายวันคงได้อะไรๆมาฝากผมบ้างนะ  (ของฝาก) ยิงฟันยิ้ม
กำลังรอชมสารคดีชุดศรีลังกาอยู่ครับ

บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:36

หมดพระองค์แล้วน้องเน ต้องนอนสนามบินแล้ว เอิ๊ก...



การที่ลังกามีเทคโนโลยีไฮเทคขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเป็นเมืองท่าที่ติดต่อกับทั้งตะวันตก ตะวันออก ที่นี่พบเหรียญโรมันเป็นเรื่องปกติ (ตั้งแต่ยุคต้นอาณาจักรโรมันจักรพรรดิฮาเดรียน) ขณะที่บ้านเราพบเหรียญจักรพรรดิวิคโตรีนุสที่อู่ืทองเหรียญเดียวก็พูดได้น้ำไหลไฟดับ อิอิ เจ๋ง

นอกจากนี้ยังพบจารึกจำนวนมากมายมหาศาล ทั้งภาษาทมิฬ โปรตุเกส วิลันดา อาหรับ รวมทั้งภาษาจีนที่เมาท์กันว่าเป็นของเจิ้งเหอ? ด้วย

เครื่องถ้วยจีนก็พบมากมาย ส่วนใหญ่ตั้งแต่ราชวงศ์ซ่งลงมา พยายามหาของไทย แต่ไม่เจอ คิดว่าคงไม่ได้จัดไว้


มงกุฏของพระเจ้ากรุงลังกาองค์สุดท้ายครับ พระเจ้ากิตติสิริสีหะ ในช่วงหลังโปรตุเกสเป็นเจ้าเข้าครอง พระเจ้ากรุงลังกาเลยทรงเครื่องแบบโปรตุเกส ท่าทางจะร้อนตับแลบ ถึงขนาดมีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งเข้ารีต ทรงพระนามดอนฮวนธรรมปาละ


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:42

ภาพพระราชาทรงเครื่องโปรตุเกส ของแท้จะมีผ้าจีบระบายรอบพระศอ ให้ร้อนพระวรกายเล่นเป็นที่สำราญพระหทัยยิ่งนัก


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:49

ในที่สุดก็เจอของไทยแล้ว เย่ๆๆ เป็นเงินพดด้วง ? รูปช้างกับจักร แต่ไม่ทราบว่าสมัยไหน อายุเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ เพราะลังกาเขาก็ไม่รู้ อันไอเดนติไฟด์ไว้ ยิ้มกว้างๆ


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:51

พอก่อนครับ เหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาต่อใหม่ ลาด้วยภาพดอกไม้ไหว้พระธาตุ เขาเด็ดโปรยไว้ที่ฐานเลย มีหลายๆอย่างปนกัน ดูแปลกตาดี


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 23:10

ชอบการถวายบูชาแบบนี้เหมือนกันครับ เคยดูในสารคดีรู้สึกเขาจะชอบใช้ดอกไม้สีขาว แสดงออกแบบเรียบง่าย
เมืองไทยเราชอบถวายดอกไม้บูชาในหลายๆลักษณะ เป็นพวงมาลัย พุ่มดอกไม้ ดอกบัวพับกลีบ ฯลฯ แสดงออก
ถึงถวายบูชาด้วยความตั้งใจของตน ไม่เหมือนสมัยนี้ที่พวงมาลัยจะติดริบบิ้นเป็นขยะพลาสติก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
ก็ถือเป็นอามิสบูชา เกิดศรัทธาที่เป็นเหมือนสารส้ม แกว่งในน้ำที่ขุ่นมัวให้ตกตะกอนเป็นน้ำที่ใส ก็คือความเชื่อ
อย่างแรงกล้าให้กระทำในสิ่งที่ดีงามต่อไป จึงสมควรแก่การอนุโมทนา

"บุคคลย่อมข้ามห้วงน้ำได้ด้วยศรัทธา ข้ามมหาสมุทรได้ด้วยความไม่ประมาท ล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร และบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา"





บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 16 มี.ค. 10, 03:05

ชอบภาพสุดท้ายจังครับ แสงสวยมากมาย
บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 16 มี.ค. 10, 04:53

เมื่อไหรเมืองไทยจะเลิกเอาพวงมาลัยริบบิ้นมาถวายสิ่งสักการะ  เอาผ้ามาห่มประติมากรรมหรือพระพุทธรูปและสถาปัยกรรมสวยๆ เวลาไปเก็บข้อมูลหรือเสก็ซงานมันดูแล้วหงุดหงิดหัวใจจริงแกะออกพระท่านก็ว่าแล้วจะให้ดูทำไงเนี่ยดูทำลายความงามของศิลปกรรมไปเลยครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 11
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 19 คำสั่ง