เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 5107 ใครมีภาพของสวนขวาบ้าง
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



 เมื่อ 11 มี.ค. 10, 15:52

เรียนผู้เข้าชมกระทู้
         จากหัวข้อกระทู้นี้ข้าพเจ้าผู้ตั่งไม่ได้หมายความว่าขอภาพสวนขวาดั้งเดิม เพราะข้าพเจ้าทราบดีว่าถูกรื้อไปครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ข้าพเจ้าหมายถึงแต่เพียงภาพอาคารต่างๆที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นอาคารที่หลงเหลือจากครั้งสวนขวา อาทิ ประตูกลมเกลาตรู ประตูมังกรเล่นลม เป็นต้น หรือสวนหินต่างๆที่สันนิษฐานนำวัสดุมาจากสวนขวา อาทิ สวนในวัดโพธิบางส่วน เรื่อยไปจนถึงรูปภาพเก่าของพระบรมมหาราชวัง ที่มีภาพอาคารบางแห่งเป็นอาคารที่เหลือจากการรื้อสวนขวา ดังเก๋งโรงละครในหมู่พระที่นั่งอภิเนาว์นิเวศน์ เป็นต้น ซึ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวมาทั้งหมดนี้ ข้าพเจ้าไม่มีรูป มีเพียงความทรงจำจากอดีตเมื่อครั้งมีโอกาสอ่านหนังสือเหล่านี้ ยิ้ม
          มูลเหตุที่ข้าพเจ้าร้องขอ เนื่องมาจากข้าพเจ้าพึงกลับจากซูโจว กำลังประทับใจสวนจีนเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเรียนหนักจนใกล้กระอักเลือด แต่ยังหาเวลามานั่งอ่านเรื่องสวนจีน จนได้ความว่าสวนแบบจีนนอกจากจะแบ่งตามฐานของผู้สร้าง อันได้แก่ พระราชอุทยานหลวง อุทยานของเศรษฐีผู้มีทรัพย์ และบางแห่งรวมถึงอุทยานในศาสนสถานไปด้วย ยังแบ่งสวนจีนออกเป็นตระกูลใหญ่ๆตามรูปลักษณ์การตบแต่งสวน ได้แก่ สวนแบบภาคเหนือ (北方园林:Bei fang yuan lin) อันได้แก่สวนบริเวณภาคเหนือของจีน (นึกไม่ออกให้นึกถึงสวนงามๆของขุนนางในปักกิ่ง) สวนแบบเจียงหนาน (江南园林: Jiang nan yuan lin) (สวนแบบนี้เป็นซูโจว หางโจว นานกิง เซี่ยงไฮ้ ที่ถูกยกย่องว่าสวยที่สุดในกระบวนสวนทั้งหมด แล้วทัวร์ชอบพาไปเที่ยวแบบผ่านๆ เหมือนว่าไม่มีค่าอันใด) ซึ่งเป็นสวนแบบทางภาคใต้ของจีน บริเวณใต้แม่น้ำแยงซีเกียง และ สวนแบบหลิงซาน (岭山园林: Ling shan yuan lin) สวนดังกล่าวจะเป็นสวนแถบทางใต้สุดแถบกวางตุ้ง ฟูเจี้ยน ไหหล่ำ เป็นอาทิ (พูดง่ายๆคือสวนของพวกชายแดนจีน ชนิดติดทะเล แบบพวกจีนฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว กวางตุ้ง ไหหล่ำ และแคะ)
         เมื่อข้าพเจ้าอ่านได้ความดังนั้นให้หวนนึกไปว่า หากสวนขวายังอยู่จะเป็นแบบใด ใจข้าพเจ้าเดาว่าน่าจะเป็นสวนแบบหลิงซาน เพราะเป็นสวนที่ชาวจีนทางภาคใต้ โดยเฉพาะพวกหมินหนานนิยมสวนแบบดังกล่าว และชาวจีน ช่างจีนในไทยโดยมาก (หรือแทบทั้งหมด) ล้วนมาจากแถบหมินหนาน แต่ครั้นจะเสนอไปเช่นนี้ดูเป็นการเสนอแบบสุบินนิมิตเกินไป เพราะไม่ได้ดูตัวอย่างหลักฐานที่มีอยู่ หากเขียนลงเรือนไทยไป พรั่นใจจะถูกประณามไปสามโลกว่าเป็นการวิเคราะห์ที่ดูกากเดนเหลือเกิน ร้องไห้
          ด้วยเหตุประการฉะนี้ จึงของความอนุเคราะห์ท่านผู้มีรูปขอแบ่งปันสักนิด หากมีท่านใดสงสัยว่าเหตุไรจึงไม่หาเอง ตอบได้แต่เพียงว่าข้าพเจ้าอยุ่ในจีน หาข้อมูลทางไทยลำบาก และเว็ปไทยหลายแห่งถูกบล็อก (จริงๆ ยูทูปยังบล็อกเลย) มหาวิทยาลัยข้าพเจ้ายิ่งเก่ง มีโปรแกรมแก้โปรแกรมแก้การบล็อก (ครั้งหนึ่งเคยบล็อกกูเกิล...แก่นไหม )
        ขอขอบพระคุณล่วงหน้า ณ ที่นี้ด้วย อายจัง
          สวัสดี
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 11 มี.ค. 10, 23:50

หากเขียนลงเรือนไทยไป พรั่นใจจะถูกประณามไปสามโลกว่าเป็นการวิเคราะห์ที่ดูกากเดนเหลือเกิน ร้องไห้
         

โอ้โหคำนี้โดนใจ เพราะผมทำไปเยอะแล้วอ่ะนะ 55555

แต่ภาพเก่าผมเองจนใจอ่ะครับ แต่เห็นพี่แพรมีหนังสือภาพเก่า พี่แพรสแกนมาให้คุณhan_bing หน่อยสิครับ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 12 มี.ค. 10, 00:10

เอ...ที่เมืองโบราณ บางปู เขาทำจำลองสวนขวาไว้เหมือนกัน   แต่ไม่รู้ว่า เขาอาศัยข้อมูลการสร้างจำลองสวนขวามาจากไหน   แต่เท่าเห็นภาพสวนขวาจำลองก็ออกแนวจีนอยู่เหมือนกัน  มีเกาะมีสระน้ำมีเขามอ  ไม่รู้ว่าเป็นข้อมูลได้บ้างหรือเปล่า  ลังเล
บันทึกการเข้า
ฉันรักบางกอก
พาลี
****
ตอบ: 334



ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 12 มี.ค. 10, 07:42

มีคนยืมหนังสือไป แล้วจะเอาจากไหนกันเล่า

ช่วงนี้ low tech อุปกรณ์ไม่อำนวย

คุณ han_bing หนังสือพระอภิเนาว์ นิเวศน์ น่าจะมีภาพนะคะ ลองหาดู
บันทึกการเข้า

กนก นารี กระบี่ คชะ
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 12 มี.ค. 10, 10:52

เรียนชาวเรือนไทยทุกท่าน
            ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ เรื่องหนังสือพระอภิเนาว์นิเวศน์คุณอมเรนทร์ได้ส่งภาพให้ข้าพเจ้าแล้วส่วนหนึ่ง พร้อมทั้งภาพประตูในพระบรมมหาราชวัง รู้สึกขอบคุณในน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง
            อนึ่งเรื่องสวนขวาในเมืองโบราณ ข้าพเจ้าเคยไปชมมาแล้ว สวยดี ดูเป็นจีน แต่ข้าพเจ้าออกจะเป็นแบบจีนที่ครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสร้าง ด้วยส่วนมากเป็นการปั้นปูน และนำองค์ประกอบต่างๆมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าผู้สร้างนำหลักฐานมาจากที่ใด ครั้นจะกล่าวว่าเขานั่งฝันไปก็ดูใช่ที่ เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วข้าพเจ้าไม่กล้านำมาพิจารณาเพราะไม่แน่ใจ ฮืม
            แต่ที่ข้าพเจ้าสนใจเป็นพิเศษคือสวนในวัดโพธิ์ บริเวณด้านหลังวัด ที่เขาเรียกว่าสวนจรเข้ ข้าพเจ้าจำได้ว่าสร้างแต่ครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (หากจำผิดขออภัย) หากท่านใดพอมีรูปหรือประวัติแล้วนำมาลงจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
            ขอบคุณสำหรับน้ำใจของทุกท่านอีกครั้ง ยิงฟันยิ้ม
            ปล. เมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง นั่งดูข่าวจากเมืองจีนแล้วจะร้องไห้ ดูเหมือนบ้านเมืองเราใกล้แตกเป็นเสี่ยงๆอย่างไรไม่รู้ อ่านข่าวจากเว็ปไซด์ก็มีแต่ความขัดแย้ง เลยฝากถามอย่างคนกันเองว่าบ้านเรามันไม่ได้เลวร้ายลงเท่าไรใช่ไหม  ลังเล
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 12 มี.ค. 10, 11:01

อ้างถึง
ปล. เมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง นั่งดูข่าวจากเมืองจีนแล้วจะร้องไห้ ดูเหมือนบ้านเมืองเราใกล้แตกเป็นเสี่ยงๆอย่างไรไม่รู้ อ่านข่าวจากเว็ปไซด์ก็มีแต่ความขัดแย้ง เลยฝากถามอย่างคนกันเองว่าบ้านเรามันไม่ได้เลวร้ายลงเท่าไรใช่ไหม 

ตอนนี้ยังไม่มีเหตุการร์อะไรรุนแรงเกิดขึ้น   แต่เมื่อเช้าในกรุงแถวราชดำเนิน สนามหลวง ปิ่นเกล้า ตลอดถนนบรมราชชนนี  มาถึงพุทธมณฑล  การจราจรโล่งผิดปกติ   ทำใจดีๆ ไว้ครับ  และขอบคุณที่คุณห่วงใยเมืองไทย  บางทีข่าวที่นำเสนอก็ดูเหมือนจะปั่นกันจนจิตใจคนติดตามข่าวปั่นป่วนตามไปหมด   ทั้งที่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นตามข่าวทั้งหมด

เรื่องสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง    สมมติว่าถ้าลองเปรียบกับสวนในเมืงจีนที่อยู่ในยุดใกล้กันหรือก่อนนั้น   (พิจารณาจากช่วงคณะทูตสยามที่ไปจิ้มก้องในสมัย รัชกาลที่ ๑ - ๒ )  จะพอช่วยเรื่องข้อมูลได้บ้างไหมหนอ
บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 12 มี.ค. 10, 16:35

เรียนคุณหลวงเล็ก
          ประการที่แรกขอขอบคุณเกี่ยวกับข่าวเมืองไทย ฟังดูแล้ว...เอาเถิด อาจจะไม่มีอะไรเกิดก็ได้ เพราะบ้านเมืองเราเป็นเมืองมีเทวดาคุ้มครอง คงไม่ตกเข้าตาจน อะไรเท่าไรหรอก...กระมัง
          ประการที่สอง จากพระราชพงษาวดารฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาก) กล่าวว่าทูตที่เดินทางไปเมืองจีนกล่าวถือสวนในปักกิ่ง และกวางตุ้ง ดังนั้นที่ผมว่าน่าจะนำมาพิจารณาคือสวนแบบทางเหนือซึ่งเป็นสวนที่นิยมจัดในปักกิ่ง และสวนแบบหลิงหนานซึ่งเป็นที่นิยมในกวางตุ้ง แต่ทั้งนี้ด้วยผมไม่มีหลักฐานอาคาร หรือรูปแบบสวนไทยมาเทียบ จึงไม่กล้าตอบไปทันทีว่าคืออะไร แต่ที่พิจารณาจากรูปที่คุณอมเรนทร์ส่งให้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสวนแบบหลิงหนาน แต่ทั้งนี้ประสงค์จะเห็นรูปมากกว่านี้ เพื่อจะได้แน่ใจมากขึ้น
          คิดๆไป ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง เดิมกรุงเทพมหานครจะมีเฉพาะเขตฝั่งพระนคร กล่าวคือไม่รวมทางฝั่งธนบุรี ภายหลังจึงรวมสองฝั่งให้เป็นเมืองเดียวกัน คือ กรุงเทพมหานคร ยังผลให้กรุงเทพจากเมืองข้างแม่น้ำกลายเป็นเมืองอกแตกหรือเปล่า ผมเคยฟังอาจารย์เล่าว่าเมืองอกแตกไม่ดี บ้านเมืองวุ่นวาย
         เมืองนานกิงที่ข้าพเจ้าอยู่เขาบอกว่าเป็นเมืองอกแตกเพราะมีแม่น้ำผ่ากลางเมือง โบราณเล่าเป็นตำนานไว้ว่าพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้เสด็จประพาสผ่านเมืองนานกิง ทรงเห็นว่าชัยภูมิดี จึงทรงกังวลว่าอาจเกิดผู้มีบุญในเมืองมาชิงบัลลังค์ท่านได้ พระองค์จึงทรงสั่งขุดแม่น้ำขึ้นมาชื่อว่า "ฉินหวยเหอ" (秦淮河:Qin huai he) เพื่อล้างพลังของเมือง เขาเล่าว่า ยังผลให้นานกิงไม่อาจตั้งเป็นเมืองหลวงได้นานนัก อีกทั้งยังผลให้เกิดเรื่องร้าย แม้ชัยภูมิส่วนอื่นๆจะเป็นมงคลจนสามารถตั้งเป็นเมืองหลวงได้ แต่เพราะถูกลงอาถรรพ์ไว้จากสายน้ำ จึงทำให้เกิดเหตุต่างๆดังที่กล่าวมา
          พอนึกเข้าไปถึงเมืองไทย จำได้ว่า "พลูหลวง" หรือท่าน น. ณ ปากน้ำ เคยเขียนเล่าไว้ว่า อยุธยา แต่เดิมสร้างเป็นเมืองริมน้ำ เป็นมงคล แต่ภายหลังในรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงมีพระบรมราชโองการให้คุดคูรอบเมือง ผลคือเมืองกลายเป็นเมืองขวางน้ำ เป็นสำเภาหันขวางน้ำ ด้านหน้าหันหน้าเขาคลอง...ถ้าจำไม่ผิดชื่อว่าคลองปลาหมอ คลองเดียวกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์หนี ท่านว่าน้ำแหละ คลองสุดท้ายก็วกกลับเข้าคู ทางตัน สุดท้ายเมืองเลยล่ม และส่งผลให้สุดท้ายล่มอีกครั้ง
          คิดไปเล่นๆ ตอนนี้กรุงเทพกลายเป็นเมืองอกแตกหรือเปล่า ตั้งแต่เรารวมกรุงเทพฝั่งพระนครกับจังหวัดธนบุรีบ้านเมืองเราเกิดเหตุวุ่นวายเรื่อยๆหรือเปล่า
          คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าคิด
          จากสวนขวากลายเป็นอาถรรพ์ได้อย่างไร งงอยู่เหมือนกัน ฮืม
          น่าเอาไปตั้งกระทู้นะ ขยิบตา
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 13 มี.ค. 10, 00:07

เมืองอกแตกเป็นประเพณีการสร้างเมืองแบบไทยมาแต่โบราณอย่างหนึ่งครับ
มีเมืองในประเทศไทยหลายเมืองที่สามารถสืบไปได้ถึงสมัยทวารวดีเป็นอย่างน้อย และเป็นเมืองอกแตก
เช่น เมืองโบราณราชบุรีซึ่งมีลำห้วยชินสีห์ไหลผ่านกลางเมือง เป็นต้น
ถ้ารัตนโกสินทร์จะเป็นเมืองอกแตกอีกซักเมือง ก็คงจะพอทำเนาครับ
(หรือว่าเพราะเหตุนี้เลยทำให้คนไทยกลายเป็นคนวุ่นวายก็ไม่รู้แฮะ)



สวนขวาในเมืองโบราณเขาผาติกรรมมาจากวัดไผ่เงินครับ และสันนิษฐานต่อว่าเป็นสวนขวา
แต่จะสันนิษฐานต่อเพราะอะไรผมก็ไม่ได้สืบค้นต่อครับ (อาจจะเป็น อ. น. ณ ปากน้ำสันนิษฐานก็ได้)
หรืออีกนัยหนึ่ง เห็นว่าสวนแห่งนี้มีชื่อเสียงจึงได้หยิบยืมชื่อเสียงมาใช้อธิบายตุ๊กตาจีนที่ผาติกรรมมา

ถ้าคุณ han_bing สนใจเรื่องสวนขวา และตุ๊กตาจีน ผมอยากขอให้อ่านหนังสือเล่มใหม่ที่วัดโพธิ์พิมพ์ออกมาครับ
เป็นเล่มปกอ่อนสีเขียวแก่ ราคาประมาณ 500 บาท ผมจำชื่อไม่ได้ ทราบแต่ว่าเป็นข้อมูลจารึกที่ไม่ได้จารึก
ด้านหลังมีเพลตภาพประกอบสีเป็นสมุดไทดำต้นฉบับของข้อมูลที่นำมาตีพิมพ์
ในนั้นมีรายละเอียดการสร้างตุ๊กตาจีนและอาคารหลังเล็กหลังน้อยสมัยรัชการที่ 3 อยู่มากครับ
เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ทราบถึงข้อมูลและคำอธิบายทางฝั่งไทยได้มากครับผม
บันทึกการเข้า
asia
มัจฉานุ
**
ตอบ: 78


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 14 มี.ค. 10, 18:57

ผมมีหนังสือที่เป็นของเมืองโบราณครับ สามารถใช้ประกอบการศึกษาได้มัยขอรับ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 09:10

เรื่องสวนขวา ผมสงสัยว่า เมื่อรัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอภิเนาว์นิเวศน์ขึ้น  พื้นที่ที่ให้ก่อสร้างพระอภิเนาว์นิเวศน์คงกินบริเวณส่วนป็นสวนขวาไปพอสมควร  แต่ก็ยังเหลือบริเวณสวนขวาไว้ส่วนหนึ่ง  (อันดูจากแผนผังพระบรมมหาราชวังสมัยต้นรัชกาลที่ ๕)   เมื่อพูดถึงสวนขวาแล้ว ก็นึกไปถึงสวนซ้าย  ซึ่งต่อท้ายกับพระที่พิมานรัตยา  หน้าพระตำหนักของกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร  ซึ่งไม่เห็นมีเอกสารใดกล่าวถึงรายละเอียดไว้เลย  สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยใกล้เคียงกับสวนขวา  เพียงแต่บทบาทของสวนซ้ายในพงศาวดารคงไม่ใคร่มี  เมื่อเทียบกับสวนขวาซึ่งเป็นที่ที่รัชกาลที่ ๒ เสด็จออกเพื่อทรงละครจึงมีพูดถึงกันมาก

ส่วนเรื่องกรุงเทพฯ เป็นเมืองอกแตกหรือไม่นั้น   ควรจะพิจารณาดังนี้ว่า   เมืองธนบุรีศรีมหาสมุทร  มีลักษณะเป็นชุมชนริมน้ำ  ต่อมาฝรั่งมาสร้างป้อมลงตรงฝั่งธนบุรี  ธนบุรีคงกลายเป็นเมืองขึ้นมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย    เมื่อพระเจ้าตากสินทรงสถาปนาธนบุรีให้เป็นเมืองหลวงนั้นก็คงจะทรงหมายเอาที่ตั้งเฉพาะฝั่งน้ำฝั่งเดียวไม่ได้หมายฟากตะวันออกมารวมเป็นเมืองด้วย      ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๑  ทรงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ฝั่งตะวันออก  ซึ่งเดิมมีชุมชนชาวจีนตั้งอยู่เดิม  ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองอกแตกมาแต่เดิม   

ส่วนอยุธยาที่มีลักษณะเป็นเกาะขวางทางน้ำนั้น  เข้าใจว่า เดิมอยุธยามีลักษณะเป็นแผ่นดินคุ้งน้ำ  ต่อมามีการขุดคลองเป็นคูขื่อหน้า  เพื่อความสะดวกในการสัญจรทางน้ำ  และอาจจะเป็นเหตุผลทางหลักพิชัยสงครามด้วย  ในตัวเกาะกรุงเก่า ยังการขุดคลองจากเหนือจรดใต้อีกหลายคลอง  ตรงนี้ทำให้คิดได้ว่า  น่าจะเป็นเหตุผลด้านสัญจรส่วนหนึ่งและด้านการอุปโภคบริโภค   ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า  อยุธยาเป็นเมืองใหย่ในชุมชนมากมาย  เมื่อมีคนอยู่มาก การใช้น้ำก็ต้องมากตามไปด้วย  อยุธยาดำรงอยู่ได้ด้วยน้ำเป็นหลัก  หากเกิดปัญหาเรื่องน้ำ  อยุธยาเองก็ลำบากไปทั้งเมืองเหมือนกัน  เช่นเมื่อเกิดโรคระบาดที่มากับน้ำ เป็นต้น  แต่โปรดสังเกตว่า  เรื่องน้ำท่วมน้ำหลากคงไม่ใช่ปัญหาของคนอยุธยาสมัยโบราณที่ปลูกบ้านใต้ถุนสูง    (ผิดกับสมัยนี้ น้ำท่วมทีหนึ่ง  ขนย้ายของกันที)  ฉะนั้นการสร้างเมืองอยู่ริมน้ำนี้  ผมนึกถึงปัจจัยในการดำรงชีวิตของคนเมืองเป็นหลัก  และเหตุผลตามหลักพิชัยสงครามของไทยครับ
บันทึกการเข้า
Kris
อสุรผัด
*
ตอบ: 14


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 10:17

อยากทราบว่าภาพนี้คือ "สวนขวา" หรือไม่
ภาพนี้ถ่ายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2412 ต้นรัชกาลที่ 5

แต่เคยทราบมาว่าสวนขวาถูกรื้อถอนออกไปในรัชกาลที่ 3
เนื่องจากมีเสียงเล่าลือว่าพระองค์เคืองนางสนมในรัชกาลก่อนๆ ที่แสนสำราญกันนัก
ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน

ว่าแต่ จะจริงจะเท็จแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
แค่ที่ "เขาว่ากันว่า" อาจไม่ใช่สาระอะไรเลยก็ได้ จริงมะ?  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
han_bing
นิลพัท
*******
ตอบ: 1622



ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 21:25

เรียนสมาชิกชาวเรือนไทยทราบ
              ขอขอบคุณสำหรับสมาชิกชาวเรือนไทยทุกท่านที่เสนอข้อมูล ข้าพเจ้าตอนนี้เลิกเรียนสองทุ่มทุกคืน กำลังกระอักเลือกกับตารางเรียน เห็นน้ำใจท่านทั้งหลายรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือ  ยิงฟันยิ้ม
              เรื่องหนังสือของเมืองโบราณข้าพเจ้าจำเนื้อความไม่ค่อยได้ แต่จำได้รางๆว่ามีแผนที่สวนขวาจำลอง หากท่านสมาชิกนำภาพมาลงในกระทู้จะเป็นการดีอย่างยิ่ง เพราะว่าจะทำให้จินตนาการง่ายขึ้นมาก
              ทั้งนี้เนื่องจากข้าพเจ้าอยู่ในประเทศจีน หนังสือเกี่ยวกับวัดโพธิ์จึงไม่อาจหาอ่านได้ หากท่านผู้ใดอ่านแล้วสามารถเล่าเนื้อความเพียงว่า สวนต่างๆ โดยเฉพาะสวนจรเข้ถูกสร้างแต่ครั้งใดจะเป็นพระคุณมาก
              สุดท้าย รูปที่ท่านสมาชิกเสนอมา ข้าพเห็นว่าคงไม่ใช่สวนขวา เพราะสวนขวาถูกรื้อเรียบไปแต่ครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และหากข้าพเจ้าจำไม่ผิด ข้าพเจ้าจำได้ว่าคลับคล้ายว่า ลักษณะเข้ามออันสูงใหญ่ รายล้อมด้วยน้ำ มีอาคารจำลองเล็กๆอยู่บนยอดเข้ามอ รูปร่างคล้ายวัด เป็นเขามอที่ตั้งอยู่ในวัดประยูรวงศ์ทางฝั่งธนบุรี น่าจะไม่ผิดกัน เพราะลักษณะใกล้เคียงกันมาก
              อาคารจำลองนี้หากท่านผู้ใดไปเพชรบุรีแล้ว ยังจำวัดที่เขาวังได้ ข้าพเจ้าว่าหน้าตาคล้ายวัดที่เขาวังเป็นที่สุด จะเป็นการจำลองมาจากเขาวังหรือไม่อันนี้ไม่ทราบ แต่จำได้ว่าตระกูลบุนนากท่านได้ร่วมมือในการก่อสร้างเขาวัง หากท่านจะจำลองมาคงเป็นไปอยู่เหมือนกัน (นี้เป็นการสันนิษฐานแบบเป็ดห่านบินคาบมาให้ ไม่มีหลักฐานอ้างอิงอันใดนอกจากความทรงจำ โปรดอย่างด่วนเชื่อถือ กรุณาตรวจสอบก่อน)  ลังเล
            สวัสดี
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 22:32

ไปดูสวนจรเข้มาแล้วครับ แต่เขากำลังซ่อมอยู่ เพราะสภาพก็โทรมลงมาก
วนดูโน่นดูนี่หลายรอบก็จับจุดไม่ถูกว่าอะไรมาจากสวนขวาได้บ้าง เพราะ
บางอย่างก็ได้ยินว่าซื้อมาจากเมืองจีน ก็เลยได้แต่ถ่ายตุ๊กตาจีนที่แกะอย่าง
ประณีตเหล่านี้มา อยากรู้ว่าประณีตขนาดไหนต้องลองไปดูใกล้ๆครับ


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง