เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 6419 ขนบประเพณีสักวา : ไหว้ครู โดยประยอม ซองทอง
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 08 มี.ค. 10, 09:36

                      สาธุสะจะขอไหว้               พระศรีไตรสรณา
                      พ่อแม่แลครูบา      เทวดาในราศี
                    ข้าเจ้าเอากอขอ      เข้ามาต่อกอกามี
                ใส่ไว้ในเท่านี้      ขออย่ามีที่โทษา
   
        นี่เป็นบทไหว้ครูที่เราคุ้นกันมาก จากกาพย์พระไชยสุริยาของพระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือที่เราเรียกท่านตามฉายาที่ชาวบ้านเรียก ๆ กันว่า “สุนทรภู่” กวีสี่แผ่นดินต้นรัตนโกสินทรสมัย
     หนังสือซึ่งถือเป็นหนังสือเรียนได้ เพราะสอนวิธีการเรียนหนังสือไทยอย่างสนุก โดยเอาคำประพันธ์มาล่อ ซึ่งก็จะทำให้จำได้ง่าย ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕-๖ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้นำมาเป็นตัวอย่างการประสมอักษรในตำราเรียนของท่านที่เรียกว่า “มูลบทบรรพกิจ”
   การกระทำอะไรต่าง ๆ ของคนไทยนั้น โดยเฉพาะในกิจกรรม พิธีกรรมต่าง ๆ มักจะเริ่มด้วยการ “ไหว้ครู” ก่อน เพราะถือว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีครู ถ้าได้คารวะครูบาอาจารย์แล้ว จะเป็นมงคลทำอะไรก็ไม่ติดขัด
   ตรงกันข้ามกับการทำอะไรอย่างไม่คารวะ คนไทยจะรู้สึกไม่ค่อยปลอดโปร่ง โดยเฉพาะในวงการศิลปะแล้ว จะมีการเคารพครูเป็นอย่างสูง และถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงจังมาก จะทำอย่างสุกเอาเผากินหรือล้อเลียนไม่ได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 09:37

เยาวชนจึงได้รับการสอนให้รู้จัก “ไหว้ครู” มาตั้งแต่เยาว์วัย และนับว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งที่กวีเก่า ๆ ท่านได้กรุณาแต่งบทไหว้ครูไหว้ให้อนุชนได้ท่องจำได้ใช้เป็นเครื่องพลีบูชา
   บทไหว้ครูที่ใคร ๆ ก็ต้องผ่านและมักจะจำกันได้นั้นคือ
          “ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตรานุสาสกา
      ข้อขอประณตน้อมสักการ         บูรพคณาจารย์
   ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา
      ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา            อบรมจริยา
   แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
      ข้าขอเคารพอภิวันท์            ระลึกคุณอนันต์
   ด้วยใจนิยมบูชา
      ขอเดชกตเวทิตา            อีกวิริยะพา
   ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
      ศึกษาสำเร็จทุกประการ         อายุยืนนาน
   อยู่ในศีลธรรมอันดี
      ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี            ประโยชน์ทวี
   แก่ชาติและประเทศไทยเทอญ
         ปัญญาวุฒิ กเรเตเต ทินโนวาเท นมามิหัง”
   (เพื่อสะดวกแก่การอ่าน ขออนุญาตเขียนเป็นการสะกดการันต์แบบไทย โดยเฉพาะภาษาบาลีที่กำกับตอนต้นและตอนท้าย)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 09:38

กาพย์ฉบัง ๑๖ ที่เราสวดในวันไหว้ครูทุก ๆ ปีนี้มีคุณค่าทางจิตใจแก่เราเป็นอันมาก จะทำการใดต่อ ๆ ไปรู้สึกอบอุ่นใจว่าเป็น “ศิษย์มีครู” มีผู้คอยสอดส่องดูแลให้เราทำได้ดีถูกต้อง
   ในวงการศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี นาฏศิลป์ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม จิตรกรรม วิศวกรรม ฯลฯ ล้วนมีการไหว้ครูก่อนแสดงทั้งสิ้น
   พวกดนตรี นาฏศิลป์จึงมักจะมีพิธีไหว้ครู ครอบศีรษะก่อนจะแสดงหรือออกไปประกอบกิจกรรมเสมอ มักมีพิธีใหญ่โตเป็นประจำทุกปี
   ครูของช่างทั้งหลายทั้งปวงนั้น มักจะเป็นพระพิฆเณศร หรือพระวิษณุกรรม พระประโคนธรรพ ครูของวรรณศิลป์จะเป็นพระสุรัสวดี เป็นต้น
   ในวงการศิลปะทั้งมวล ผู้ประกอบการศิลปะมักจะแสดงความเคารพทุกครูบางอาจารย์อย่างจริงใจ
   แม้แต่ “ครูพักลักจำ” คือ จำเอาจากที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังมาก็ถือเป็นครู ผู้ใดลบหลู่ดูหมิ่น ไม่เคารพครูบาอาจารย์มักไม่ค่อยเจริญ
   ในการแสดงทางศิลปะ การไหว้ครูจึงเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 09:40

พิธีกรรมในการจัดไหว้ครูนั้น เป็นสิ่งที่ควรรู้และระลึกไว้เสมอว่า ผู้หวังเจริญในการประกอบศิลปะทั้งหลายทั้งปวง การไหว้ครูเป็นสิ่งที่ขาดมิได้
   การไหว้ครูของการแสดงต่าง ๆ มักจะมีลักษณาการใกล้เคียงกัน
   ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง การไหว้ครูในการแสดงสักวามาเป็นเครื่องรำลึกพอควรแก่กรณี
   ในหนังสือ “ประชุมบทสักวาที่เล่นถวายในรัชกาลที่ ๕” ซึ่งสมาคมนิสิตเก่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จัดพิมพ์เป็นครั้งที่สาม ใน พ.ศ. ๒๕๓๔ มีบทไหว้ครูที่ขอยกมาเป็นตัวอย่าง
   บทไหว้ครูของอาลักษณ์ (เล่นถวายที่พระที่นั่งสนามจันทร์ เมื่อวันพุธแรม 1 ค่ำเดือน ๑๐ ปีวอก จัตวาศก ๑๒๓๔) มีว่า
   
สักรวาขอบังคมประนมน้อม      พระจุลจอมเกษกระษัตริย์ฉัตรเฉลิม
วงอาลักษณ์จักสนองร้องประเดิม      เป็นบทเริ่มเพิ่มพระบารมี
แม้กล่าวคำลำพองคนองจิต         มิได้คิดสอบสวนดูถ้วนถี่
ขอพระคุณมุลิกาฝ่าธุลี         อย่าได้มีโทษาแก่ข้าเอย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 11:05

บทนี้ถือว่า องค์ประธานคือ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเป็นประมุขสูงสุดในที่นั้น จึงมิต้องไหว้ครูอื่น ๆ เหมือนที่ผู้ใหญ่สั่งสอนว่า ถ้าไปในงานใดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับ ณ ที่นั้น เราจะต้องไม่ไปยกมือไหว้คนอื่นใดในงานในบริเวณนั้นอีก นี่คือวัตรที่ถูกต้อง แต่คนเราออกจะรู้สึกว่าตนจะไม่เป็นที่น่าดู ถ้าไม่แสดงความเคารพคนที่รู้จักกัน กลัวจะถูกตำหนิได้
   ส่วนวง “พระองค์เจ้า” (ประเสริฐศักดิ) ทรงบทไหว้ครูว่า
   สักรวามาบังคมประนมบาท      บรมไทธิราชนรังสรรค์
มิ่งมงกุฎอยุธยาทั่วสามัญ         ดังฉัตรแก้วกางกั้นสยามภพ
ทรงปัญญาดังมหากระแสสินธุ์      มิรู้สิ้นไหลหลั่งพลั่งตระหลบ
บำรุงเมืองเรืองรองอร่ามครบ         ขจรจบเกียรติยศปรากฏเอย

   ในยุคปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเคยทรงบทไหว้ครูไว้ อย่างครั้งที่ทรงสักวาครั้งแรกของพระองค์ ณ ศูนย์วิจัยวัฒนธรรมเอเซียอาคเนย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม เมื่อ 23 ตุลาคม 2530 ดังนี้
   สักวาไหว้ครูผู้สอนสั่ง               ไหว้ทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่
ล้วนแต่เป็นนักปราชญ์จอมกวี         อาวุโสศักดิ์ศรีเป็นอาจารย์
ไม่เคยเล่นสักวาข้าอ่อนหัด         กลอนติดขัดจงช่วยด้วยสงสาร
มาวันนี้หวังใจให้เบิกบาน         คุณครูท่านโปรดสงเคราะห์ให้เหมาะเอย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 11:06

ครั้งที่สองเมื่อทรงสักวาที่วังบ้านปลายเนิน ๒๖ กันยายน ๒๕๓๑ พระองค์ทรงไหว้ครูว่า

   สักวาน้อมเบญจางคประดิษฐ์      ไหว้ไตรรัตน์ประสิทธิ์ประเสริฐผล
ดุจแสงสูรย์ส่องสว่างกระจ่างมน      เชิดชูชนพ้นวิสัยแห่งภัยพาล
ไหว้คุณครูอาจารย์ชาญวิชา         ศิลปะทุกสาขารู้แตกฉาน
เพียรสอนสั่งด้วยเมตตามาก็นาน      ขอให้ท่านช่วยวันนี้กลอนดีเอย
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 11:26

โอ๊ะโอ ตกใจ...เช่นนั้นที่เราเล่นสักวากันเรื่องสามก๊กตอนโจโฉแตกทัพเรือตอนนี้ก็ล่วงไป ๑๐๐ บท เศษ แล้ว  เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า  ไม่ได้ไหว้ครูกันเลยสักคนเดียว   พอเริ่มเรื่องก็ว่าสักวาโต้กันเลย  ครั้นจะมาแต่งสักวาไหว้ครูต่อภายหลังก็เห็นไม่เป็นการ  ดูจะประดักประเดิดนัก  และนี่ก็ใกล้จบแล้วด้วย   ไม่มีบทไหว้ครูคงไม่เป็นไรกระมังครับ คุณเทาชมพู

หมายเหตุ    คุณเทาชมพูครับ  การเล่นสักวาทางอินเทอร์เน็ตของเว็บเรือนไทยนี่  ถือว่าเป็นการเล่นสักวาในอินเทอร์เน็ตครั้งแรกหรือไม่ครับ??? ฮืม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:03

ตอนต้น  สักวาเริ่มกันแบบไม่ได้ตั้งใจ   ดิฉันก็ไม่นึกว่าจะเล่นกันมาได้จนร้อยกว่าบท
นึกว่าเล่นๆกันไปสักพัก  ไม่รู้จะต่ออะไรอีกแล้ว ก็คงจบกันไปเฉยๆ
ก็เลยไม่ได้ทันคิดเรื่องไหว้ครู ให้เป็นกิจจะลักษณะ
เอาอย่างนี้  ดิฉันจะไปแก้ไขค.ห.ต้นๆ ก่อนเข้าเรื่อง  แทรกบทไหว้ครูลงไปให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม

ถ้าจะเล่นสักวากันอีกก็อย่าลืมไหว้ครูนะคะ ช่วยเตือนกันด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:18

หมายเหตุ    คุณเทาชมพูครับ  การเล่นสักวาทางอินเทอร์เน็ตของเว็บเรือนไทยนี่  ถือว่าเป็นการเล่นสักวาในอินเทอร์เน็ตครั้งแรกหรือไม่ครับ??? 
 
 

ไม่รู้ว่าในเว็บไซต์อื่น เขาเคยเล่นกันมาหรือเปล่า
ต้องถามนักท่องเน็ตเก่งๆอย่างคุณเพ็ญชมพู ว่าเคยเจอบ้างไหม   ถ้าไม่มี ก็ถือว่าเรือนไทยประเดิมสักวา
ว่างๆน่าจะเล่นกันอีก  กลอนเป็นเรื่องที่ต้องแต่งกันบ่อยๆ แล้วจะคล่อง   ถ้าห่างไปจะฝืดค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:29

         นักกลอนชั้นครูในยุคปัจจุบันหลายท่านที่เคยแต่งบทสักวาไหว้ครูได้น่าฟัง
     ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยแสดง ณ สังคีตศาลา เมื่อ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๐๒ (ในการเล่นสักวาเรื่องสังข์ทอง) ไว้ว่า
   สักวาประนมนิ้วขึ้นเหนือเศียร            ต่างธูปเทียนดอกไม้ทองของถวาย
ไหว้พระแก้วทั้งสามอร่ามราย          ที่ส่องสายทางเลิศเกิดปัญญา
ไม่ไหว้ครูอื่นใดในพิภพ                ผู้แจ้งจบเกินพระพุทธสุดจักหา
ไม่มีศาสตร์ใดล้ำพระธรรมา             พระสงฆ์สาวกวิมุติสุดเปรียบเอย
   นับเป็นบทไหว้ครูชั้นครูทีเดียว (บทนี้ร้องด้วยเพลงพระทอง)

   อาจารย์มนตรี ตราโมท ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์-ดนตรี กรมศิลปากร เคยบอกบทไหว้ครูในการแสดงสักวาเรื่องขุนช้างขุนแผนที่หอประชุมจุฬาวงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวาระถวายพระพรปีใหม่ 12 มกราคม 2503 ว่า
   สักวาถวายบังคมบรมบาท      ภูวนาถนฤบดินทร์ปิ่นเกศี
ทั้งสมเด็จพระบรมราชินี         พระบารมีปกเกล้าฯ เหล่าสักวา
ขอถวายพระพรทวีในปีใหม่      ให้สองไท้ทรงเกษมสุขหรรษา
พระชนม์ยงธำรงรัฐวัฒนา         ปกประชาไทยระรื่นฉ่ำชื่นเอย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:32

       เมื่อ ๒๒ เมษายน ๒๕๐๒ ผู้เขียนและเพื่อน (โกวิท สีตลายัน, วินัย ภู่ระหงษ์และมะเนาะ ยูเด็น) ไปเล่น “ลับแลกลอนสด” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหม เราช่วยกันแต่งบทไหว้ครูที่จดจำมาได้จนวันนี้ว่า
       โกวิท      บังคมคัลอัญชลีกวีเอก               ซึ่งสรรค์เสกสวนสวรรค์วรรณศิลป์
       ประยอม      หยาดน้ำแก้วแจ้วจำเรียงเพียงเพลงพิณ           ราวฝนรินจากสวรรค์จรรโลงใจ
       วินัย      โปรดช่วยดลกลกานท์ที่ขานขับ           ใครสดับให้พะวงเฝ้าหลงใหล
        มะเนาะ       แม้โลกลาญกานท์กลอนขจรไกล            จำหลักในห้วงจิตเป็นนิจเอย

   ส่วนนักกลอนปัจจุบันอย่างชาวสโมสรสยามวรรณศิลป์ จะมีลีลาไหว้ครูกันไปต่าง ๆ ซึ่งเราจะสังเกตว่า นอกจากไหว้พระคุณครูบาอาจารย์ บิดามารดา ครูกลอน ครูดนตรี ครูศิลปะต่าง ๆ แล้ว ก็จะรำลึกพระมหากรุณาธิคุณในพระมหากษัตราธิราชทั้งอดีต-ปัจจุบัน รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำแห่งที่เราไปเล่นสักวานั้น ๆ ด้วย
   อย่างของรองศาสตราจารย์วันเนาว์ ยูเด็น ไหว้ครูที่เวทีสักวาคราวสมาคมนักเขียนจัดวรรณกรรมสัญจรนครศรีธรรมราช (14 กรกฎาคม 2533) ดังนี้
      สักวาบังคมบรมธาตุ         ไหว้ศรีปราชญ์ครูกวีศรีอักษร
ครูโนราครูหนังฝากฝังกลอน      เอื้ออวยพรเพียงมนต์เมื่อยลยิน
ให้กลอนกานท์หวานคำดั่งน้ำอ้อย       ซาบซึ้งสร้อยสักวาภาษาศิลป์
โปรยคำหอมกล่อมแดนกลบแผ่นดิน   ไหลหลั่งรินมธุรสบทกลอนเอย
   
       ซึ่งเมื่อนักร้องร้องเพลงช้าปี่ในและปีนตลิ่งก็ให้ความรู้สึกขรึมขลังอย่างบอกไม่ถูก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:33

เมื่อไปเล่นกลอนสดในรายการ “เวที-วาที” ที่คุณกรรณิกา ธรรมเกษรเป็นผู้จัด ณ วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๒๙ ผู้เขียนรับหน้าที่ไหว้ครูไว้ดังนี้ (มีลีลากลอน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และทวีสุข ทองถาวรปนด้วย)
   กราบดวงแก้วทั้งสามงามคุ้มเกล้า   กราบผงเถ้าบาทบงสุ์พระทรงศักดิ์
กราบพ่อแม่ครูอาจารย์ภิบาลรัก      กราบทุกวรรคบทกลอนสุนทรครู
ประเพณีดีงามความเป็นไทย         จรรโลงไว้ให้บรรเจิดงามเลิศหรู
เป็นคนไทยชูชาติไทยให้ตราตรู      ดำรงอยู่ชั่วกัปกัลป์นิรันดร์เทอญ

   อาจารย์สมประสงค์ ปิ่นจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของวิทยาลัยครูสวนดุสิต เรียงร้อยบทไหว้ครูวันถวายสักวาแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในเรือ “ประพาสอุทยาน” ณ อุทยาน ร.๒ เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ ไว้น่าฟังอย่างยิ่งว่า
   สักวาพระบารมีปกกระหม่อม      ข้าพระบาทนมัสน้อมจำนงถวิล
บุหลันเลื่อนลอยฟ้ามาโลมดิน         ชุบชีวินซาบซ่านหวานกานท์กวี
เป็นบุญเกล้าที่ได้เฝ้ายุคลบาท         วโรกาสประพาสท่องนทีศรี
ประมวลใจถวายใจโดยภักดี         กรองวจีกล่อมพระทัยให้ชื่นเอย
   บทนี้เมื่อขับร้องเพลงเวสสุกรรมจึงน่าฟังนัก

   อาจารย์วินัย ภู่ระหงษ์ แห่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรเคยว่าบทไหว้ครูในวันนักเขียน ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ไว้น่าฟังไม่น้อยเหมือนกัน

   สักวาถวายบังคมบรมกษัตริย์      นับแต่วันเถลิงฉัตรสโมสร
เป็นร่มโพธิ์คุ้มเกล้าเหล่านาคร         ได้ครองสุขสถาวรสวัสดี
วโรกาสบรรจบวันเฉลิมฉัตร         ฉัตรมงคลมงคลรัตน์เฉลิมศรี
ขอฉัตรเมืองคู่รัฐป้องปัฐพี         จบวจีถวายชัยไหว้ครูเอย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 08 มี.ค. 10, 12:36

           ทวีสุข ทองถาวร นักกลอนมือทองของธรรมศาสตร์เป็นคนหนึ่งที่ไหว้ครูได้อารมณ์และตรงตามสถานการณ์ เคยไหว้ครู “งานนักเขียน-หนังสือ” ซึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้จัดเมื่อ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๑ ไว้ดังนี้
   สักวาไหว้แม่โดมโคมศักดิ์ศรี      น้อมใจกราบท่านปรีดีที่สร้างสรรค์
ธรรมศาสตร์งามสง่าสถาบัน         ช่วยยืนยันเราเทิดค่าภาษาไทย
วันนักเขียน-หนังสือสื่อความคิด      สร้างชีวิตสร้างความหวังสร้างนิสัย
โลกทัศน์พัฒนาก้าวหน้าไกล         เพราะเราได้หนังสือดีมีค่าเอย
   
           เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ปี ๒๕๓๓ ศิลปินแห่งชาติปี ๒๕๓๖ นับเป็นคนที่เราอยากฟังกลอนไหว้ครูบทเล่นหรือบทลาทุกประเภทของเขามาก เพราะเขาจะให้อะไรใหม่ ๆ ไม่ซ้ำซาก อย่างเช่นครั้งเราไปเล่นกลอนที่ช่อง ๕ ในรายการ “เวที-วาที” อีกครั้งหนึ่งเขาไหว้ครูได้งดงามเหลือเกินว่า
   สักวาครูวาทีเป็นศรีสง่า      ครูช่องห้าสถานีเป็นศรีช่อง
ครูพระจันทร์วันเพ็ญเป็นสีทอง      ครูจำลองคนดีเป็นศรีเมือง
กระทงถ้อยร้อยคำเรียงความคิด      แม่น้ำใจใสสนิทบูชิตเบื้อง
กระทงน้อยลอยน้ำรำไรเรือง         มาเป็นเครื่องบูชาครูทุกผู้เอย
   เมื่อร้องด้วยเพลงนกกระจอกทองจึงไม่ต้องสงสัยว่าจะไพเราะเพียงไร     ทั้งให้ภาพและความรู้แก่ผู้อ่านว่า วันนั้นเราเล่นกลอนคืนวันลอยกระทง   ตอนที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองได้รับเลือกเป็นผู้ว่ากทม.ด้วย
   นี่เป็นเพียงบทไหว้ครูบางบทซึ่งยังมีที่งดงามน่านำให้อ่านกันอีกมาก หากมีโอกาส

“ไทยปริทรรศน์”
มาตุภูมิ  รายสัปดาห์ ๒๕๓๕
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 19 คำสั่ง