เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 23073 ภาพพระบฎ
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 07:56

ผมคิดว่าภาพแขวนเป็นเรื่องสากลที่มีอยู่ทั่วไปในทุกศาสนาทั่วโลกเลยนะครับ

น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ เราไม่นิยมทำพระบฏกันแล้ว ไม่อย่างนั้นเวลามีงานวัด เอาพระบฏมาแขวนๆไว้ทั่วศาลา คงอลังการเหมือนพวกธิเบตแขวนทังกา

ดูรูปของคุณยุทธแล้วก็คิดว่า คนโบราณท่านไม่มีสีสดๆใช้ เหมือนที่กรมนริศท่านเรียกว่าีสีสวรรค์ แต่เวลาเขียนออกมาแล้วกลับสวยประหลาด ดูเคร่งขรึมเข้ากับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์ที่มืดๆ สว่างอยู่แค่แสงเทียนวับๆแวมๆ

สมัยนี้โบสถ์ติดไฟนีออนสว่างจ้า ทาสีขาวล้วน เป็นความคิดสมัยใหม่แบบตะวันตกเมื่อไม่นานมานี้เอง ว่าห้องสีขาวและสว่างสื่อถึงความสะอาด แล้วมันก็ลามเข้าไปถึงวัดวาอาราม ทั้งๆที่จริงๆแล้วคนโบราณท่านใช้ประโยชน์จากความลึกลับคลุมเครือของบรรยากาศ จูงใจคนเข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์ เพราะศาสนาเป็นเรื่องลึกลับที่ไม่อาจทำให้โปร่งใสได้ด้วยตา


เคยได้ยินมาว่าบางวัดที่ไม่มีภาพจิตรกรรมเป็นผนังโล่งๆ เวลามีงานเขาก็เอาพระบฏนั่นแหละมาแขวนไว้แทนภาพเขียนเต็มหมดทุกห้องผนัง

บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 09:34

ลองเอาพระบฏเก่าแก่ของพม่ามาให้ดูกันครับ มีอายุช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 16-17 ร่วมสมัยกับทวารวดีตอนปลาย เชื่อว่าน่าจะเป็นพระบฏที่เก่าที่สุดในเอเ้ซียตะวันออกเฉียงใต้ (เพราะแถวนี้มันชื้้น เลยรักษาอะไรไ้้วไม่ได้นาน)

ชิ้นนี้พบพับๆอยู่ในวิหารแห่งหนึ่งในเมืองพุกาม เพราะอากาศมันแห้งเลยรักษาสภาพเอาไว้ได้ ทุกวันนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์พุกาม แน่นอนว่าห้ามถ่ายรูป ก็เลยต้องถ่ายเอาจากหนังสือครับ

ลักษณะก็คล้ายกับอินเดียศิลปะปาละทีเดียว


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 11:00

ของจริงมีขนาดพอสมควร เท่าที่เหลือก็พอๆกับโปสเตอร์ปิดผนัง แต่เขาลงรูปไว้แค่นี้

ไม่แน่ใจว่าเรื่องสุตโสมชาดกหรือเปล่า ตอนพระเจ้าสุตโสมถูกรากษสจับตัวไป แต่ขอกลับมาลาลูกเมียก่อน จากนั้นก็กลับไปให้รากษสกิน (ชาดกกินคนอีกแล้ว)


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 11:01

ภาพขยาย อายุของภาพตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 ลงมา ก็ประมาณ 900 ปีแล้ว ถือเป็น masterpiece ชิ้นหนึ่งของศิลปะพุกามทีเดียว


บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 12:03

คุณยุทธเปิดกระทู้งามๆอีกแล้ว ขอบคุณนะครับ

มีเรื่องขออนุญาตเรียนถามครับ ว่าสีบัวโรยที่คุณยุทธพูดถึงผสมยังไงหรือครับ
ผมแอบถูกใจสีนี้ในจิตรกรรมภาพสีฝุ่นมานานแล้วครับ
แต่ไม่เคยได้ทราบเรื่องที่มาของสีแบบที่คุณยุทธเอามาลงไว้นี่เลยครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ
บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 16:25

เรื่องพระบฎในไทยที่มีหลักฐานแน่ชัดที่สุด ปรากฎครั้งแรกในสมัยสุโขทัยตอนกลาง เพราะมีศิลาจารึกบันทึกข้อความไว้อย่างชัดเจน เท่าที่ค้นหามายืนยันได้ในบัดนี้ คือ ศิลาจารึกหลักที่106 กล่าวถึงชีวประวัติของพนมไสดำ ซึ่งเป็นสามีของแม่นมเทศ เป็นผู้ที่ใกล้ชิดสมเด็จพนะมหาธรรมราชาที่1(พระยาลิไทย )มาก น่าจะเป็นพระพี่เลี้ยงของพระองค์ ได้กระทำบำเพ็ญกุศลต่างๆที่เป็นถาวรวัตถุไว้ในศาสนาเป็นอันมาก จากศิลาจารึกของพนมไสดำนี้บ่งบอกปรศักราชไว้ชัดเจนว่า
"ศักราชแต่พระเจ้าเนียรพานได้ พันเก้าร้อยยี่สิบเจ็ด ในปีชวด เดือน6 บวรรณมี พุทธพาร พนมไสดำ เอาใจตั้ง สบรรธา หรรษาดีเรก อเนกไมตรี ศรีสักยะ เพื่อจักใคร่ข้ามจากสงสาร เมื่อเนียรพานที่มั่น อันพรรณนาเถิงศีล เพียร ประหญา ฯลฯ "
 ศักราชที่กล่าวไว้นั้น คือ ปีพุทธศักราช1927 ศิลาจารึกนี้ว่าในปีมะเส็ง เดือน5 พนมไสดำ"แต่งทั้งกุฎี ชีบวชแล้วจึงมาตั้งกระทำ หอพระปิฎกธรรมสังวรใจ บูชาพระอภิธรรม กับด้วยพระบดจีนมาไว้ ได้ปลูกทั้งพระศรีมหาโพธิ อันเป็นจอมบุญจอมศรียอ..............พระบดอันหนึ่ง ด้วยสูง14ศอก กระทำให้บุญแก่สมเด็จมหาธรรมราชา"
  ข้อความนี้ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่า ในสมัยสุโขทัย ระหว่างปีพุทธศักราช1927ซึ่งเป็นปีชวดมาถึงปีพุทธศักราช1932อันเป็นปีมะเส็งนั้น นิยมทะพระบฎ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เช่น พนมไสดำในฃที่นี้ได้ทำ"พระบดอันหนึ่ง ด้วยสูงได้14ศอก กระทำบุญไปแก่สมเด็จมหาธรรมราชา"ซึ่งตามจารึกนี้ก็น่าจะหมายถึงสมเด็จพระมาหาธรรมราชาลิไทย
  พระบด หรือ พระบฎ ในสมัยสุโขทัย สูงถึง 14 ศอก(ประมาณ7เมตร) นับว่าเป็นพระบฎที่มีขนาดใหญ่มาก และต้องมีที่แขวนไว้ด้วย ส่วนในเรื่องที่จารึกกล่าวถึงพระบฎจีนนั้น น่าจะพิจารณาได้ว่า ใสมัยสุโขทัย คงจะมีพระบฎหลายชนิด อย่างน้อยที่สุดก็มีพระบฎจีนซึ่งน่าจะคนละชิ้นกับที่ระบุว่าสูง14ศอก หรือถ้ามห้คาดคะเนว่าไทนเราอาจจะได้อิทธิพลการเขียนภาพพระบฎจากจีนก็เป็นได้ เพราะมีการค้าขายมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงแล้ว(อันนี้ผมคิดเอาเองนะ)
  เรื่องสีฝุ่นและกาวเม็ดมะขามขอทำความเข้าใจที่ถูกต้องแทนคุณยุทธเพื่อความถูกต้องดังนี้ครับ
   -กาวเม็ดมะขาม เม็ดมะขามที่ใช้จะต้องเป็นมะขามเปรี้ยว(Tamarindur indiea)เท่านั้นนะครับ เพราะมะขามเปรี้ยวมีความฝาดเวลานำไปทำสมุกจะจับติดผนังได้ดี มะขามหวานใช้ไม่ได้เด็ดขาดครับ วิธีทำก็นำเอาเม็ดมะขามมาใส่กระทะตั้งไฟคั่วให้สุก ขณะสุกใหม่ๆกำลังร้อนจัดๆนั้นรีบเอาลงแช่น้ำเย็น ทิ้งไว้1คืนพอรุ่งขึ้นเปลือกมะขามจะยุ่ยพองออก นำมาปลิ้นเอาเม็ดในที่มีสีขาวนวลๆออกใส่วนเปลือกที่ยุ่ยพองนั้น นำไปรองพื้นบนผนังไม้เพื่อเขียนจิตรกรรมบนผนังบานประตูหรือหน้าต่างและผนังอาคารที่เป็นฝากระดานได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะทาสมุกรองพื้นกาวเม็ดมะขามและดินสอพอง เรื่องการเคี่ยวกาวยังมีขั้นตอนยุ่งยากอีก ขี้เกียจอธิบาย เอาเป็นว่ารู้พอหอมปากหอมคอเท่านี้นะครับ
  -สีเขียวใบแค เป็นสีเขียวเข้มออกค่อนข้างคล้ำดำ เกิดจากการผสมสีรงกับเข่ม่าหรือหมึกจีน หรือไม่ก็นำสีรงผสมกับสีครามก็จะได้สีเขียวเข้มมากยิ่งขึ้น(Sap Green) ที่ได้ชื่อว่าสีเขียวใบแคนั้นก็เพราะลักษณะของสีที่มีลักษณะเขียวอย่างใบต้นแค แต่มิใช่เอาใบแตมาทำเป็นสีอย่างที่เข้าใจกัน ตัวผมเองกับอาจารย์ วีรธรรม ตระกูลเงินไทย สมัยเรียน เคยลองเอาใบแคมาหมักแล้วคั้นเอาน้ำแต่มันไม่ได้ให้สีอย่างใบมันจริงได้วยครับ ถ้าเอามาตำอาจจะได้มากกว่า แต่ก็เหม็นเขียวเหมือนใบไม้ทั่วๆไปครับ แถมใบมันเล็กถ้าเอามาใช้จริงคงต้องล่อทั้งต้นกว่าจะได้สีสักกระปุกนะครับ
   -สีบัวโรย  โบราณเรียกสีว่า"รงค์" คำว่าบัวโรย คงเป็นศัพท์ที่ไม่แพร่หลายในเชิงช่าง เพียงแต่เป็นคำเปรียบเปรยอย่างสีเขียวใบแค ไม่เหมือนชือเรียกสีทางช่างอย่างเป็นทางการเช่น สีหงสบาท(แดงแท้+ขาว) สีหงส์ดิน(สีดินแดง+สีขาว) สีแดงเสน(แดงเสน+ขาว) ถ้าผสมตามทฤษฎีสีในปัจจุบัน น่าจะเป็นสีหงสบาท(แดงแท้+ขาว)-เขม่าเล็กน้อย
    สำหรับทริป4ที่ว่าจะไปเพชรบุรีกันแบบหลายวัน ขอให้ลงขันกันนั่งรถตู้ครับ ขอคำยืนยันวันเวลาที่แน่นอน เพื่อตระเตรียมความพร้อมก่อนเนิ่นๆก็จะดี มวลหมู่สมาชิกลงชื่อลงความเห็นกันเลยครับ (ภาพประกอบ ภาพพระบฎแบบล้านนาที่พพิพิธภัณฑ์เชียงใหม่ ถ้าจำไม่ผิดอายุกว่า700ปี)


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 05 ก.พ. 10, 19:31

ขอบคุณท่านหัวหน้าชมรมที่ให้ความกระจ่างเพิ่มในส่วนรายละเอียดครับ   ส่วนเรื่องสีเขียวใบแคนี่ผมเคยเห็นอาจารย์ วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ไปจัดงานที่เมืองทองเรื่องผ้าและสีโบราณ   มีสีอยู่ในโกร่งเป็นสีๆ   เห็นสีเขียวใบแคอยู่ในโกร่งเลยถามลูกศิษย์แกดูยังเห็นเป็นเยื่อของใบไม้อยู่ครับสอบถามแล้วก็บอกว่าหมักจากใบแคลองเขียนดูก็น่าจะจริงแต่วันหลังเจออาจารย์ วีรธรรม ตระกูลเงินไทย จะสอบถามอีกทีแล้วกันครับ   ส่วนเรื่องสีนั้นเป็นชื่อเรียกในแผ่นสีสมัยก่อนอ.สมปองเคยให้ทำชาร์ตสีโบราณของไทยไว้แล้วเขียนชื่อกำกับไว้  ส่วนจะเป็นที่นิยมเรียกหรือไม่อันนี้ไม่ทราบครับ  เรื่องทริป  คงต้องรวบรวมว่าใครไปกี่คนจะได้เฉลี่ยกันได้ครับถ้าพี่ยีนส์ไปด้วยคงได้อะไรดีๆอีกเยอะนะครับ  ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ
บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 09 ก.พ. 10, 08:48

บอร์ดร้างมากมายเลยครับช่วงนี้ ไม่มีใครเข้ามาชมเลย  ร้องไห้

เรื่องเพชรบุรีนั้นก็อยากไปครับ ขอลงชื่อไว้ก่อนละกันครับ

มาอัพบอร์ดหน่อยครับ ผมชอบพระบฏผืนนี้จริงๆ อยู่ในมิวเซียมวังหน้า เสียดายว่าม้วนปลายเก็บไว้หน่อยเพราะผนังสูงไม่พอ รูปรอยลายเส้นยังดูติดวี่แววรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยู่


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 09 ก.พ. 10, 08:49

พระมหาชนกครับ แต่ผมดูแล้วกลับนึกไปถึงตอนศุภลักษณ์อุ้มสมมากกว่า


บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 09 ก.พ. 10, 09:14

ภาพพระบฎที่โครงสีสวยมากครับอยู่ที่วังหน้าหรือครับมีเวลาต้องแวะไปดูบ้างแล้ว  อยากเห็นรูปเต็มๆครับไม่ทราบว่าคุณกุถ่ายเเบบเต็มมาหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 09 ก.พ. 10, 09:24

ผมก็รออยู่ว่าจะมีใครมาลงชื่อไปทริปนี้หรือไม่ เห็นวางโครงการกันไว้ ว่าอยากไปเพชรบุรี แต่สงสัยงานนี้จะแห้วซะแล้วมั๊ง สำหรับคุณKurukura ก็ยินดีครับที่จะได้ไปร่วมกัน เดี๋ยวผมจะเปิดกระทู้ทริป4แล้วกัน สำหรับพระบฎพื้นนี้ผมก็ชอบครับ ว่าแต่คุณKarukaraมีถ่ายมาเยอะมั๊ยครับ ลงให้ชมหน่อย ฝีมือของช่างน่าจะถึงสมัยร.1ไม่เกิน ร.3แน่นอนครับ


บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 09 ก.พ. 10, 09:30

อ่่าา ถ่ายไม่ได้เลยครับ ติดกระจกเสียขนาดนั้น เท่าที่เอามาลงก็ชัดสุดแล้วครับ อยู่ในห้องรัตนโกสินทร์ชั้นล่าง เห็นฝีมือแล้วก็ตกใจ สวยและสมบูรณ์มาก งานก่อนรัชกาลที่ 3 เขียนคนตัวใหญ่ๆทั้งนั้น

ทริปไม่ล่มหรอกครับ คุณ jean1966 เพราะยังไงผมก็ต้องไปเมืองเพชรอยู่แล้ว ไปก่อนหน้าันั้นหน่อยก็ได้ ผมไปวันที่ 2-4 ครับ
บันทึกการเข้า
Buratoey
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 15 มี.ค. 10, 23:08

สวัสดีค่ะท่านผู้รู้ทุกท่าน

      ตอนนี้สนในเรื่องพระบฏในภาคเหนืออยู่อะค่ะ (พระบฏสมัยโบราณ) เลยอยากจะถามว่า ใครพอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระบฏล้านนาบ้างอะคะ หรือว่าพอจะหาหนังสือเรื่องไหนอ่านได้บ้าง

      รบกวนท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยนะคะ
บันทึกการเข้า
thai
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 29 ธ.ค. 10, 15:13

เรียนถามyutthana ต้องการทราบภาพพระบฎที่เขียนพระพุทธเจ้าทรงเครื่องผืนนั้น เป็นของที่ไหนคะ ขอทราบรายละเอียดด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 30 ธ.ค. 10, 00:37

สวัสดีครับ เนื่องจากทางชมรมเรามีนโยบาย ในการเผยแพร่งานศิลปกรรมไทย โดยบางครั้งไม่สามารถบอกที่มาได้เนื่องจากจะเป็นชี้ช่องให้โบราณวัตถุเหล่านี้สูญหายได้ เพราะพื้นที่นี้เป็นสาธารณะครับ
 อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นการถามเพื่อเป็นความรู้  ยินดีตอบเป็นส่วนตัวทางเมล์ครับ  vatsuwan00@yahoo.com   ต้องขอโทษที่ทำให้ยุ่งยากนิดนึง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.339 วินาที กับ 19 คำสั่ง