เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9]
  พิมพ์  
อ่าน: 34621 เอล คัมมิโนเดซานติเอโก (El Camino de Santiago) มีคนสนใจอ่านมั้ย
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 05:46

เราร้องเพลงให้เพื่อนนักแสวงบุญอื่นๆ ที่บังเอิญเดินผ่านปวดหัวใจเล่น
แยกแยะได้เป็นกลุ่มตามเชื้อชาติ  ถ้าเป็นคนสเปน ก็เข้ามาร่วมร้องด้วยเรียกว่าร่วมบ้า

คนฝรั่งเศสไม่ร่วมบ้าแต่ก็หัวเราะความบ้าของเรา พอเป็นคนเยอรมันละก้อหยุด
มองเราแบบหัวจดเท้าแล้วบ่นค่อยๆ ว่า “หนกหู”

พอได้ร้องเพลง สี่สหายก็เริ่มคึก ความน่าเบื่อหายวับไปกับตา เดินกันขยันขันแข็ง
ถึง โอร์นีโยส เดล คามิโน่ (Hornillos del Camino) แวะกินแซนวิช

เราร้องเพลงซะหิว แม่สั่งแซนวิชสี่อัน เขามีแค่เนยแข็ง กับแฮมสเปน
อันใหญ่มากตามเคย สั่งสองอันยังไม่รู้เลยว่าจะกินหมดมั้ย

เราสวัสดีลาจากกับอัลบ้าและอัลฟองโซ่ที่เมืองนี้ ทั้งสองจะเดินต่อ 
ดีที่เมืองนี้มีแค่ถนนเดียว  ร้านขายของชำ ร้านกาแฟ

บ้านพักนักแสวงบุญและโรงแรมอยู่ถนนเดียวกัน เราไปเคาะประตูโรงแรมแต่ไม่มีคนเปิด
แม่เลยเดินไปหาร้านขายของชำชื่อแปลกๆว่า กม. ที่ ๔๖๙   ไปถามเจ้าของร้าน

เขาให้เบอร์มือถือของเจ้าของโรงแรม  แม่โทรไป มีเสียงตอบที่แม่ว่าฟังไม่รู้เรื่อง
แต่จับความได้ว่า ให้เรารออยู่หน้าร้าน กม. ที่ ๔๖๙  เดี๋ยวจะมา   

ผมเลยเข้าไปซื้อไอติมแท่ง มานั่งแทะเล่นฆ่าเวลา  เจ้าของร้านออกมาถามว่าเรามาจากไหน
พอบอกว่าเมืองไทย เขาก็ว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นคนไทย เลยขอให้เราเขียนอะไรก็ได้ที่เป็นภาษาไทย
เอาไว้ติดร้าน  เขาพาไป เห็นมีทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี  พอเขียนเสร็จเขาให้ไอติมเราอีกคนละแท่ง ใจดีจัง

พอกินไอติมเสร็จ ก็มีรถเก๋งเก่าและสกปรกมากมาจอดหน้าร้าน
ตามออกมาด้วยหนุ่มสูงวัยที่หนวดเคราเต็มหน้า เดินมาหาเราแล้วบอกว่าจะพาไปโรงแรม 

แม่ว่าเอาโรงแรมนี้แหละ เขาว่าเต็มแล้ว จะพาไปอีกที่ อยู่ห่างจากโอร์นีโยส เดล คามิโน่ไปแค่สิบนาที (ขับรถ)
แล้วพรุ่งนี้จะพามาส่งตอนเช้าที่เมือง โอร์นีโยส เดล คามิโน่ ให้เราเริ่มเดินทางต่อ 

แม่หันมาปรึกษา ไม่แน่ใจว่าสมควรไว้วางใจได้แค่ไหน กลัวเขาเอาไปฆ่าหมกป่า 
แต่ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้  แล้วทั้งเมืองมีโรงแรมนี้โรงแรมเดียว 
ทำดัดจริตอาจหาที่นอนไม่ได้ต้องเดินต่อ เป็นไงเป็นกัน

ตัดสินใจได้ ก็หอบเป้ใส่รถ ที่นอกจากเก่าและสกปรก ก็ยังเหม็นมาก
แถมที่นั่งมีขนของสิงหาราสัตว์เต็มไปหมด พอได้นั่งในรถ

คุณลุงก็ชวนคุย แนะนำตัวเองว่าชื่อ มักซิม (Maxim)  เคยเป็นทหารมาก่อน
พอแก่ตัวเลยมาทำโรงแรม ในเมืองให้ลูกชายทำ ส่วนที่เรากำลังจะไปนั้น ช่วยกันทำกับเมีย   
ลุงยังคุยไม่จบก็มาถึงที่หมาย

โรงแรมของลุง ในสเปนเรียกกันว่า คาซ่า รูราล (Casa Rural)
ส่วนมากเอาบ้านเก่าๆ หรือโรงนา มาปรับปรุงใหม่เป็นโรงแรม   

มีสไตล์คล้ายๆ บูติคโฮเตล ของบ้านเรา ส่วนมากจะอยู่ออกนอกเมือง
มีห้าห้องบ้าง สิบห้องบ้าง ไม่มีเป็นร้อยห้องแบบโรงแรมที่มีสาขาทั่โลก   

มีอาหารเย็นและเช้าให้ แต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป
แล้วส่วนมากจะใช้คนในครอบครัวบริหารงาน 

ที่พักถูกใจเราทั้งสองมาก โดยเฉพาะแม่ เพราะมีลูกหมาวิ่งมาต้อนรับ
หน้าเหมือนเจ้าอ๊อดตอนเล็กๆมาก  พันธ์เดียวกัน ทำเอาแม่น้ำตาซึมเพราะคิดถึงหมา
แม่คงจะเป็นมนุษย์คนเดียวที่ผมรู้จัก ที่เขียนโปสการ์ดหาหมาได้ทุกวัน 

คาซ่า รูราลที่เรามาถึง ชื่อว่า เอลโมลีโน่ เดล คามิโน้
(Casa Rural El Molino del Camino โทร ๐๐๓๔ ๙๔๗ ๕๖ ๐๓ ๐๒ หรือ ๐๐๓๔ ๖๔๙ ๘๗ ๖๐ ๙๑  http://11870.com/pro/el-molino-camino/media)   
อยู่ใน เอสเตปาร์ (Estépar)  เมืองเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากบัวร์โกสมากนัก   ถ้ากลับมาอีกหน แม่ว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะหาเจอ

รูปที่หนึ่ง   ทางเดินขึ้นเขา มีคนเอาหินไปวางเป็นรูปร่างต่างๆ
รูปที่สอง   ทางเดินที่ร้อนและแห้งแล้งมาก
รูปที่สาม   ป้ายเมืองโอร์นีโยส เดล คามิโน่
รูปที่สี่           ร้านขายของชำชื่อแปลกๆ






บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 07:23



แล้ว....แล้ว ใครอ่านโปสคาร์ดให้หมาฟัง

มหาเศรษฐีเมืองไทยเวลาไปต่างประเทศเธอโทรศัพท์พูดกับหมา
หมาดีใจมากร้องอี๊ดอ๊าดวิ่งไปมา (รักหมาเหมือนกันรับฟังได้)

แม่บ้านที่รับโทรศัพท์รายงานคุณผู้หญิงว่า หมาร้องไห้ด้วยแหละ(อันนี้เรานึกชมแม่บ้านในใจว่าเข้าใจยึดตำแหน่ง)
บันทึกการเข้า
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 08:24



แล้ว....แล้ว ใครอ่านโปสคาร์ดให้หมาฟัง

มหาเศรษฐีเมืองไทยเวลาไปต่างประเทศเธอโทรศัพท์พูดกับหมา
หมาดีใจมากร้องอี๊ดอ๊าดวิ่งไปมา (รักหมาเหมือนกันรับฟังได้)

แม่บ้านที่รับโทรศัพท์รายงานคุณผู้หญิงว่า หมาร้องไห้ด้วยแหละ(อันนี้เรานึกชมแม่บ้านในใจว่าเข้าใจยึดตำแหน่ง)

พอรับโปสการ์ด หมาก็ใช้วิธีแบบหมาๆ คือกัดฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แล้วก็ค่อยเลียบ้าง กินบ้างไปทั้งหมด ประหยัดอาหารหมาได้อีกหนึ่งมื้อ ๕๕๕
บันทึกการเข้า
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 13:37

เราเดินผ่านสวน และหมาอีกหลายตัวเพื่อไปห้อง  ลุงชี้ให้ดูถังเบียร์ในสวน
ชวนดื่มได้ มากน้อยตามใจฉัน  ห้องนอนเรากว้างใหญ่
จัดแบบเรียบง่ายดูสะอาดและโล่งตา 

ลุงเห็นเราชอบหมา เลยอนุญาตให้เอามาเล่น มานอนด้วยได้ในห้อง 
แม่รีบวิ่งไปเอาเจ้าตัวน้อยมาเล่น ถามได้เรื่องว่า อายุสี่เดือน ชื่อช้าโต้ (Xato) 

ซึ่งแม่ไม่แน่ใจว่าภาษาอะไร   ถ้าเขียนภาษาสเปนก็น่าจะสะกดด้วย
อักษรซีเอช แทนตัวเอคซ์ ซึ่งคนสเปนเรียกคนอื่นบ่อยๆ

แปลตรงตัวได้ว่าจมูกแบน ช้าโต้สำหรับเรียกผู้ชาย ช้าต้าไว้เรียกผู้หญิง   
ตอนแม่ไปอยู่สเปนใหม่ๆ ออกจะโกรธ เพราะจมูกแม่แบนจริงๆ   

นึกว่าคนเขาแซว ตอนหลังถึงมารู้ว่าคนสเปนเขาใช้คำนี้เรียกคนที่เขาเอ็นดูเท่านั้น   
พอดูหน้าหมาแม่ก็คิดว่าต้องเป็นคำนี้แน่ๆ เพราะหมาตัวนี้สมชื่อ จมูกไม่มีดั้ง

เราไม่เห็นมนุษย์คนอื่น  เมื่อออกมานั่งเล่นในสวน อากาศกำลังดี
โชคดีที่กินแซนวิชไม่หมด แล้วไม่มีทางที่จะออกไปหาอะไรกินได้เลย 

กินเสร็จ ออกไปเดินชมสถานที่  มีน้ำอยู่ใต้ถุนบ้าน มีทั้งเป็ด
ทั้งห่านว่ายน้ำอย่างรื่นเริง เดินไปอีกหน่อย ก็มีทั้งม้า ทั้งลา ให้เราดูเล่น

ส่วนหมาไม่ต้องพูดถึงเพราะ เดินตามเรามาเป็นสิบตัว   ไก่ กระต่ายอีกเป็นฝูง 
เหมือนเดินเล่นในสวนสัตว์  มีสวนผัก มะเขือเทศสุกคาต้น ยั่วน้ำลายมาก แต่ไม่กล้าเด็ด 
สงสารคนปลูก แล้วก็มีผักต่างๆ อีกหลายชนิด ที่รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง

เรากลับไปนอนเล่นในส่วน นอนเปล เผลอหลับไปทั้งสองคน 
นอนไปนานแค่ไหนไม่รู้  เห็นลุงพาคนมาใหม่  แล้วแนะนำให้เรารู้จักกันไว้
เป็นนักแสวงบุญเหมือนกัน  เราก็เออๆ ค่ะๆ ไปตามเรื่องก่อนจะหลับต่อ

ตื่นมาอีกที ก็เห็นแขกคนใหม่ นั่งเขียนอะไรอยู่  เรานั่งเงียบๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาพูดภาษาอะไร 
รู้แน่ๆว่าไม่ใช้คนสเปน  แม่เดาว่าเป็นเยอรมัน เพราะคนชาตินี้คล้ายๆกันหมด ท่าทางไม่มีไมตรีจิตเท่าไหร่นัก   
เลยเฉยๆไว้ดีกว่า  แก่ก็แก่ หล่อก็ไม่หล่อ ยังมานั่งวางกาม ไม่พูดด้วยก็ได้ (โว้ย) เล่นกับหมาสนุกกว่า

ลุงออกมาชวนไปเล่นบิลเลียดในห้องพักแขก  เราไม่รู้กติกาใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ก็เล่นได้ แม่จำได้แค่ ลูกสีดำต้องเอาไว้เป็นลูกยิงลูกอื่นให้หล่น
แต่ลูกดำห้ามหล่นเป็นอันขาด 

ระหว่างเล่น ลุงมักซิม เอาน้ำมาเลี้ยงตลอด ไม่ได้ขาด
มีของขบเขี้ยวแถมมาอีกเป็นจำนวนมาก 

ลุงว่าซักสามทุ่มจะมีข้าวเย็นให้กิน คุณป้าจะมาแสดงฝีมือเอง 
แล้วช่วยวานเราสองคนไปบอกแขกอีกคนด้วย เพราะลุงพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง
มีหรือที่เราจะกล้าปฏิเสธลุง
 
เดินกลับไปที่สวนเพื่อไปแถลงข่าว แม่เริ่มกับเขาด้วยภาษาอังกฤษ
แต่เขาฟังเราไม่รู้เรื่อง แม่เลยบอกเป็นภาษาเยอรมัน เขาแทบจะเข้ามากอดเรา

คงจะอัดอั้นตันใจไว้นาน ที่พูดกับใครไม่รู้เรื่อง บอกว่าให้เรียกเขาว่า เคล้าส์ (Klaus)
แล้วก็เริ่มตั้งคำถามร้อยข้อ เขาประหลาดใจที่เจอคนไทย พูดภาษาเขาได้   

นี่ก็เป็นข้อแตกต่างระหว่างคนสเปนกับคนเยอรมันอีกข้อ   คนสเปนจะชมก่อนว่าเราเก่ง
ถ้าเขารู้ว่าเราพูดภาษาเขาได้   แล้วค่อยๆประเล้าประโลมถาม   
โดยไม่ให้เรารู้ตัวว่าเรารู้ภาษาเขาได้อย่างไร   

ส่วนคนเยอรมัน จะมีประโยคเด่น ถามว่า รู้ได้อย่างไร บางที่แม่อารมณ์ดี
ก็จะบอก แต่วันนี้ออกจะรำคาญเลยตอบประโยคขึ้นใจของแม่ว่า

ไม่รู้เหมือนกัน คืนหนึ่งไปนอน พอตื่นขึ้นมาก็พูดได้เลย 
เวลาแม่เจอคนต่างชาติพูดภาษาไทยได้ แม่ก็นึกเอาเองว่า

เขาต้องมีความพยายามสูงมาก เพราะภาษาไทยออกยาก
ขนาดแม่ซึ่งเป็นไทยแท้ๆ ยังพูดผิด พูดถูกบ่อยไป
แต่จะให้ถามอย่างคนเยอรมันเห็นจะไม่สู้  กลัวเขาให้คำตอบที่ไม่อยากฟัง

พอสามทุ่มตรงเรานั่งรอกินข้าว คุณป้า มหัศจรรย์ มิลาโกร้
(Milagro หรือ Miracle ที่แปลตรงตัวได้ว่ามหัศจรรย์ในภาษาอังกฤษ)
ก็มาแนะนำตัว แล้วค่อยลำเลียงอาหารมาวางให้บนโต๊ะ ซึ่งมีดังนี้

เริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย
-   โมร์ซีย่า เด บัวร์โกส (Morcilla de Burgos) ใส่กรอกที่คุณป้ามหัศจรรย์ทำเอง
อร่อยที่สุดที่เราเคยกินมาในชีวิต เผ็ดจัดจ้านเกือบอร่อยเท่าใส้กรอกไทย

-   โตร์ตีย่า เอสปานยอล่า (Tortilla española) ไข่เจียวสเปนตำราคุณป้า
นอกจากจะใส่มันฝรั่งและหอมแล้ว คุณป้าใส่โชริโซ่ไปเพิ่มรสชาติ 

-   ฮาโมน แซราโน่ (Jamón Serrano) แฮมสเปน รสชาติอร่อยใช้ได้ ลุงเป็นคนหั่นเอง 
อร่อยกว่าที่ใช้เครื่องตัด

-   มะเขือเทศ จากสวนที่เราเห็นวันนี้ หวานมาก ไม่ต้องเติมเครื่องปรุงใดๆทั้งสิ้น
ลูกไม่ใหญ่มาก แต่สีแดง เนื้อแน่น เหมือนกินผลไม้

-   พริกหยวกสีเขียวเผา นี่ก็มาจากสวน คุณป้าเอา พริกหยวกไปย่างไฟ
แล้วลอกหนังส่วนที่ไหม้ออกให้หมด โรยเกลือนิดๆ แล้วราดน้ำมันมะกอกตาม

-   เคสโซ่ มานเชโก้ (Queso manchego) เป็นเนยเเข็งที่ทำมาจากนมแกะ
มาจากที่เดียวกับ โดนกีโฮเต้ (Don Quijote)  มาจากลามานช่า (La Mancha)
จากแคว้นคาสตีย่า ลามานช่า (Castilla-La Mancha) ซึ่งอยู่ตอนกลางๆของประเทศสเปน

เราสองคนกินเหมือนกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว กินกับข้าวของป้าแล้ว
แม่อยากเป็นคนรวย (มากๆ) ขึ้นมาทันที จะจ้างคุณป้ามหัศจรรย์ไปเป็นแม่ครัว 

รายการอาหารธรรมดามากแต่อร่อยอย่างน่ามหัศจรรย์ สมชื่อคนทำ
เรามีไวน์แดงชื่อเดียวกับที่พัก ที่ลุงเอามาวางให้ดื่มตามสบาย สามขวด
พร้อมบอกว่า เบียร์ก็มีถ้าเราไม่ชอบไวน์ 

พอกินเสร็จมี ซุป (La sopa) ซึ่งเราไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร
มีแฮมสเปนชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตามด้วยผักต่างๆ ต้มรวมกันออกมาเป็นซุปข้น อร่อยกลมกล่อม

เรานึกว่ารายการอาหารจบลงที่ซุป แต่คุณป้ายกซี่โครงแกะย่าง ออกมาอีกหลายโครง
เราไม่อยากให้คุณป้าเสียของ เลยช่วยกันกินต่อ
 
ทั้งลุงทั้งป้าหัวเราะชอบใจที่เห็นเรากินกันอย่างเอร็ดอร่อย  คุณเคล้าส์ท่าทางไม่มีความสุขนัก
เขาบอกแม่ว่า เขากินได้แค่ซุปกับเนยเเข็งเท่านั้น คงอยากให้แม่ถามต่อว่าทำไม

แต่แม่ยุ่งกับการกินซะไม่มีเวลาถาม แล้วไม่อยากถาม ไม่อยากรู้  ใครอยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็อด
คุณป้าบอกว่ามีไอติม เรารีบขอบคุณแล้วส่ายหน้า เพราะกินไม่ไหวแล้วจริงๆ

ลุงเลยยกเหล้าหลังอาหารชนิดๆ ต่างๆมาวางให้เราจิบช่วยย่อยอาหาร
พอจิบเสร็จเราช่วยป้าเก็บจานชามไปไว้ในครัว แล้วก็เดินโซเซ เข้านอน
ยังไม่เที่ยงคืนเลยด้วยซ้ำ แม่ไม่ลืมไปตามลูกหมาสุดหล่อ ช้าโต้มานอนด้วย

รูปที่หนึ่ง   ที่พักมีน้ำใต้บ้านให้เป็ดและห่าน
รูปที่สอง   ที่พักอีกมุม
รูปที่สี่           สวนสวรรค์




บันทึกการเข้า
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 13:40

รูปที่หนึ่ง   โตร์ตีย่า เอสปานยอล่า ได้รูปมาจากhttp://es.wikipedia.org/wiki/Archivo:Tortilla-de-patatas.jpg

รูปที่สอง   แฮมสเปน ได้รูปมาจากhttp://es.wikipedia.org/wiki/Archivo:Jamon_serrano.jpg

รูปที่สาม   เนยแข็งมานเชโก้  ได้รูปมาจากhttp://es.wikipedia.org/wiki/Archivo:Manchego.jpg

รูปที่สี่           หมาจมูกแบนตามชื่อ





บันทึกการเข้า
tian
ชมพูพาน
***
ตอบ: 138



ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 13:43

ขอลาไปเที่ยวเพิ่มเติมความรู้ซักห้าหกอาทิตย์ค่ะ เจอกันใหม่กลางเดือนมิถุนานะคะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 28 เม.ย. 10, 15:32

ขอให้เที่ยวสนุกค่า
บันทึกการเข้า
Jassica
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 23 ก.พ. 14, 04:30

สวัสดีค่ะคุณเทียน
เพิ่งจะได้อ่านบันทึกของคุณโดยบังเอิญ เพราะกำลังสนใจเรื่องการเดินแสวงบุญในเส้นทางสายนี้ เคยไปเที่ยวบาร์ซีโลน่าบ่อยๆและเมืองอื่นๆในสเปนด้วยค่ะ ตัวดิฉันเองก็อยู่ยุโรปมาเกือบสามสิบปีแล้ว ชอบเดินทางมาก แต่ไม่เคยจะรวบรวมข้อมูลและเขียนออกมาได้เป็นเรื่องเป็นราวน่าอ่านมากๆแบบคุณเลย ชื่นชมมากค่ะ เขียนมาถามว่าคุณเขียนต่อรึยังคะ หาไม่เจอค่ะ รออ่านอยู่นะคะ
อ้อ เวลาไปเที่ยวก็จะเขียนโปสการ์ดถึงแมวที่บ้านด้วยเหมือนกันค่ะ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 01 ก.ค. 23, 10:17

๑   เอล คัมมิโนเดซานติอาโก เป็นเส้นทางเดินของนักแสวงบุญของศาสนาแคธอลิค เพื่อเดินให้ถึงเมือง ซานติอาโกเดคอมโพสเตลา
(Santiago de Compostela) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ที่เมืองนี้มี ศพของนักบุญเจมส์ให้คนทั่วไปได้กราบใหว้บูชา
(ในภาษาสเปนเรียกว่านักบุญซานติอาโก)  เส้นทางเดินไปเมือง ซานติอาโกเดคอมโพสเตลานี้ มีหลายเส้นทางด้วยกันในยุโรป

          10 กว่าปีผ่านไป, ในที่สุดได้เห็นกระทู้นี้ที่พันทิปนำพาไปพบจุดหมายปลายเส้นทางแสวงบุญ ณ อาสนวิหาร Santiago de Compostela

https://pantip.com/topic/42095369


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 01 ก.ค. 23, 10:54

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 20 คำสั่ง