เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
อ่าน: 33364 ประวัติพระยาราชมนตรี(ภู่)
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 01 ก.พ. 10, 16:08

อ้างถึง
หญิงชื่อน้อย    เป็นหม่อมห้ามในพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์  พระเจ้าลูกยาเธอที่ ๗ ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มียุตร ๒ คน

๑.   เป็นหญิง  มีพระนามว่า  หม่อมเจ้าสาระพัดเพชร
      (พระนามนี้  ดิฉันสนใจมานานแล้ว   อ่านผ่านมาว่า เมื่อทรงพระเยาว์เสด็จขึ้นอยู่งานพัด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ทรงเครื่องแล้วล้วนด้วยเพชร
        เคยเข้าใจผิดว่า เป็นเพราะขรัวตารำ่รวย    แต่ที่จริง กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ทรงร่ำรวย  และ โปรดหม่อมน้อยยิ่งนัก
        เมื่อพระองค์เจ้าปฤษฎางค์รับราชการมีชื่อเสียงมาก    หม่อมเจ้าสารพัดเพชรเคยประทานเงินให้หลายชั่ง เพราะเป็นน้องต่างพ่อ
        พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ทรงบันทึกไว้ว่า  วันนี้โชคดี/วันดี)

๒.    หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์   ภายหลังได้เป็นพระองค์เจ้า   มีบุตร
       หม่อมราชวงศ์โนรี  ได้เป็นหลวงนายฤทธิ์


ขออภัยที่ถามโดยไม่ได้อ่านดูให้ดีก่อน อายจัง
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 01 ก.พ. 10, 16:25

คุณวิกกี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ เป็นพระโอรสใน สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ประสูติในหม่อมน้อย ธิดาพระยาราชมนตรี (ภู่ ต้นสกุล ภมรมนตรี) และเป็นพระอนุชาในกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ ๕

หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ ศิริวงศ์ ประสูติปีใดไม่ทราบ (ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๒ -๒๓๘๔) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เลื่อนขึ้นเป็น พระสัมพันธวงศ์เธอพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๑๒ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๑๑ ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๒๔

มีบุตรธิดา จากหม่อมต่างคนหลายท่าน เท่าที่ทราบคือ

หม่อมราชวงศ์เล็ก เป็นบุตรคนใหญ่ มารดาคือ หม่อมพริ้ง เป็นราชนิกุลสายบางช้าง ได้เป็นจมื่นศรีสรรักษ์ ในรัชกาลที่ ๕ (เรียกกันว่าคุณพระนายศรีเล็ก) และเป็นหม่อมที่โปรดเกล้าพระราชทานมีปรากฎในหนังสือราชนิกุลสายบางช้าง
หม่อมราชวงศ์โนรี มารดาคือ หม่อมหุ่น โปรดเกล้าฯ ให้มีศักดิ์เป็นหม่อมอนิรุธเทวา ศักดิ์หม่อมราชนิกุลในรัชกาลที่ ๕ ภายหลังได้เป็นหลวงฤทธิ์นายเวร ข้าราชการกรมมหาดเล็ก
หม่อมราชวงศ์หญิงปลื้ม มารดาคือ หม่อมหุ่น โปรดเกล้าฯพระราชทานเป็นชายาของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
หม่อมราชวงศ์สมพูน มารดาคือ หม่อมเจ้าหญิงสนิท สนิทวงศ์ ธิดาในกรมหลวงวงศาธิราชสนิท
หม่อมราชวงศ์หญิงมัจฉา
หม่อมราชวงศ์หญิงสร้อย
หม่อมราชวงศ์ลังกะวาต
หม่อมราชวงศ์หยุด

http://th.wikipedia.org/wiki/พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 01 ก.พ. 10, 20:12

เพลงยาวเฉลิมพระเกียรติ

อ่านมาจาก  นักเขียนไทยในวงวรรณกรรม ของ คุณลุงอาจิณ  จันทรัมพร  พิมพ์ฉบับที่ ๒   ๒๕๔๐

    "แต่พระจอมธรณินปิ่นมงกุฎ                 เป็นที่สุดยังต้องตายทำลายขันธ์
ละพระราชนคเรศขอบเขตรคัน                   ที่ในวันคุรุวาร์นิคาไลย
พระสงฆ์สวดอุโบสถหมดทุกวัด                  เหมือนจะนัดนำจิตรพิศมัย
ให้เหาะเหินเพลินพระหฤทัย                      เสด็จไปดุสิตาเมื่อราตรี"
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 02 ก.พ. 10, 14:59

อยากฟังเรื่องหม่อมน้อย น้องสาวของคุณพุ่มอีกสักครั้ง ค่ะ

อ่านนิราศวังบางยี่ขันตอนที่คุณพุ่มเล่าถึงคุณน้อยให้ฟัง

ห็นวังกรมสีห์ที่นิพพาน                       แสนสงสารพงศ์กษัตริย์วิบัติเป็น
....................................          ..........................
ทิ้งคุณน้อยสร้อยเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจ         ให้ร้องไห้โหยหาทุกราตรี
เคยเปรื่องโปรดโสดทรวงจะง่้วงเหงา         แต่ลูกเต้าเล่ายังอยู่กระจู๋กระจี๋
ค่อยสบายคลายคลั่งเพราะมั่งมี              ไม่เหมือนพี่คุณพุ่มซุ่มซุกซน
พ่อแม่น้ายายตายเหมือนถั่ว                  ยังแต่ตัวเต็มทีออกปี้ป่น
มายอมยากฝากชีวิตด้วยฤทธิจน             อยู่เป็นคนชิดใช้หมั่นไปมา


ทิ้งคุณน้อยสร้อยเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจ         ให้ร้องไห้โหยหาทุกราตรี

ดูทีคุณน้อยเธอไม่ค่อยแกร่งเท่าพี่สาว

 ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 02 ก.พ. 10, 15:27

เรื่องสักวาของคุณพุ่ม บุษบาท่าเรือจ้าง 

สักรวาน่าจะโห่ให้เรือล่ม              นี่ฤากรมภูวเนตรเศษสวรรค์
เอานายทิมเข้ามาทวนพอควรกัน    เหมือนอย่างหั่นใบขี้เหล็กให้เด็กยำ

ได้ไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมมา  จนเริ่มแน่ใจแล้วว่า  ข้อเสนอของอ.ล้อม เพ็งแก้ว  มีบางส่วน (เน้น ครับ ว่าบางส่วน) น่าจะพลาดตามที่คุณเทาชมพูได้วิเคราะห์วิจารณ์ไว้   

ส่วนที่ อ.ล้อมน่าจะพลาด คือ การตีความวรรคกลอนสักวาที่ว่า "เอานายทิมเข้ามาทวนพอควรกัน"  โดยอ.ล้อม ตีความว่า  นายทิม ในสักวาของคุณพุ่ม  คือ  นายทิม สุขยางค์ หรือหลวงพัฒนพงษ์ภักดี ผู้แต่งนิราศหนองคายแล้วถูกสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง  บุนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในขณะนั้น ฟ้องเอาผิดโทษฐานหมิ่นประมาทและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น   

ในช่วงระยะเวลาปี ๒๔๑๘ จนถึงปี ๒๔๑๙ และล่วงมาถึงปี ๒๔๒๑ นายทิม สุขยางค์ ทำหน้าที่ทนายนั่งหน้าแคร่ติดตามเจ้าพระยามหินทรธำรงศักดิ์ ไปทัพปราบฮ่อ และคงรับราชการอยู่กับเจ้าพระยามหินทรฯ จนกระทั่งถูกลงโทษเฆี่ยน ๕๐ ที  ในช่วงนั้น นายทิม สุขยางค์ มียศและราชทินนามเป็นข้าราชการชั้นประทวนในบังคับของเจ้าพระยามหินทรฯ ที่ขุนพิพิธภักดี  ตามที่ประกาศเรื่องเอาตัวนายทิมไปขังคุก ก็ระบุว่า อ้ายทิม ขุนพิพิธภักดี  อันเป็นการเรียกชื่อ ขุนนางที่ต้องโทษสมัยก่อน  (เหมือนกับกรณีอ้ายสำอางค์ พระปรีชากลการ)  แม้เราจะไม่ทราบว่า นายทิม เป็น ขุนพิพิธภักดี ตั้งแต่เมื่อไร  แต่ก็คงก่อนถูกลงพระราชอาญาแน่  ในเมื่อนายทิม สุขยางค์  อยู่ในบังคับเจ้าพระยามหินทรฯ และเจ้าพระยามหินทรฯ ก็ไม่ได้เล่นสักวาในคราวปี ๒๔๑๕ ถึง ๒๔๒๒ (เป็นระยะแรกที่รัชกาลที่ ๕ โปรดการเล่นสักวา  ก่อนจะหยุดไปราว ๒๐ ปี จึงฟื้นขึ้นมาใหม่ราวปี ๒๔๓๘ ในการฉลองสิริราชสมบัติครบหมื่นวัน)  ลำพังตัวนายทิมเอง  น่าจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นสักวาครั้งนั้น  เพราะไม่ได้สังกัดอยู่ในเจ้านายหรือขุนนางผู้ใหญ่คนใดที่มีวงสักวาคราวนั้น  จริงอยู่ว่า นายทิมแต่งกลอนได้  แต่ผลงานของนายทิมก็มีนิราศ ๑ เรื่อง บทละครที่แต่งให้ละครของเจ้าพระยามหินทรฯ เล่น  และกลอนสุภาพกับโคลงอีก ๓-๔ เรื่อง  แต่ก็ไม่ปรากฏว่านายทิมเคยเล่นสักวาหรือผลงานเกี่ยวกับสักวาให้ปรากฏ  อีกทั้งประวัติของนายทิมที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงพระนิพนธ์ก็ไม่ได้ทรงกล่าวถึงว่า นายทิมเคยเล่นสักวาหน้าพระที่นั่งในคราวต้นรัชกาลที่ ๕ แม้แต่แห่งเดียว    ฉะนั้น ข้อที่ว่า นายทิม ในกลอนสักวาของคุณพุ่ม จึงไม่น่าจะใช่นายทิม สุขยางค์

ประการต่อมา  อ.ล้อม  ตีความคำว่า ทวน  หมายถึง เฆี่ยน  แล้วโยงความกับนายทิม  เป็นอ้ายทิม ขุนพิพิธภักดี ที่ต้องโทษทวน คือ หลวงพัฒนพงษ์ภักดี ที่แต่งนิราศหนองคาย  ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ได้ทรงเป็นตุลาการศาลรับสั่งได้ทรงชำระความครั้งนั้นตามที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อันที่จริง เมื่อเทียบคำว่า ทวน กับสักวาบทหนึ่งที่แต่งในสมัยรัชกาลที่ ๕ ว่า

สักวาอรุณหลานพานต่ำต้อย      เพราะบุญน้อยนักขอรับยับเหมือนเขียง
มิใช่จะขันสู้เปนคู่เคียง              ทั้งสุ้มเสียงบทกลอนไม่งอนงาม
เคยเปนข้าฝ่าลอองฉลองบาท     เกรงอำนาจตรองจิตรให้คิดขาม
ซึ่งนายภู่คนทวนไม่ลวนลาม        หลานสู้ตามงอนง้ออย่าภ้อ เอยฯ

นายภู่คนนี้ สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ทรงอธิบายว่า เป็นกวีเชลยสักดิ์ บอกสักวาวงหม่อมเจ้าเจริญ  เมื่อมีหลักเทียบเช่นนี้    ทวน ในบทของคุณพุ่ม ซึ่งอยุ่ในบริบทกลอนสักวาอย่างเดียวกันกับกลอนสักวานี้  ก็ควรจะมีความหมายว่า  บอกสักวาให้คนร้องร้องเวลาเล่นสักวา  ไม่ได้หมายความว่า เฆี่ยน ตามที่อ.ล้อม เข้าใจแต่อย่างใด

เมื่อเป็นเช่นนี้  พิจารณาจากฐานะของนายทิม สุขยางค์ ในเวลานั้น กับการเล่นสักวาในราชสำนักช่วงดังกล่าว นายทิม สุขยางค์ ไม่น่าจะได้มาเล่นสักวาในหน้าที่คนบอกสักวาเป็นแน่   

แต่นายทิม  ในที่นี้เป็นใครหนอ?   ในหนังสือ ประชุมบทสักวาเล่นถวายครั้งรัชกาลที่ ๕   มีพระอธิบายของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงกล่าวถึงนายทิม คนหนึ่ง  ซึ่งน่าจะเคยเล่นสักวาในครั้งนั้น  คือ พระพินิจสารา (ทิม  บุณยรัตพันธุ์) ดูจากราชทินนาม ท่านน่าจะทำราชการเกี่ยวกับหนังสือ หรือไม่ก็เป็นอาลักษณ์  ผมยังไม่ข้อมูลประวัติท่านผู้นี้ แต่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงเล่าว่า  วงสักวาของทหารมหาดเล็กที่เคยเล่นในยุคแรก  เคยเล่นถวายคราวแรกในงานเฉลิมพระชันษากรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร  รั ชกาลที่ ๕ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทสักวาพระราชทานให้วงทหารมหาดเล็กด้วย  ซึ่งพระพินิจสารา (ทิน บุณยรัตพันธุ์ ) จดจำได้ทั้งบท ๑ ว่า

สักวาวงราชวัลลภ      พระจอมภพธิบดินทร์ปิ่นไอสูรย์
ขอโอนเกศอภิวาทบาทมูล   ต้องกราบทูลประทานโทษได้โปรดปราน
แรกฝึกสอนกลอนคิดติดอุธัจ  เคยฝึกหัดแต่ปรีเซนต์เช่นทหาร
พึ่งหัดร้องขึ้นใหม่ไม่ชำนาญ  ขอประทานโทษาข้าบาท  เอยฯ


การที่พระพินิจสารา (ทิม  บุณยรัตพันธุ์ )จำได้ ก็แสดงว่าท่านคงจะอยู่ในการเล่นสักวาครั้งนั้น และคงน่าจะได้เป็นคนบอกสักวาด้วย  จึงยังจดจำบทสักวาดังกล่าวได้ แม้จะล่วงเลยมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม

เป็นว่า ข้อเสนอ อ.ล้อม เรื่อง นายทิม กับ ทวน นั้น  น่าจะตกไป   แต่ข้อเสนอที่ว่า กรมภูวเนตร คือ กรมภูธเรศ  นั้นยังไม่ตก เพราะมีข้อมูลว่า พระนามพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ได้รับการเอ่ยถึงในวงสักวาสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่คุณพุ่มยังเล่นอยู่ด้วย  เหมือนกัน (ในพระนามแฝงว่า ม้าโหว่  และท่านวี) 

 คงต้องให้คุณเพ็ญหรือคุณวันดีช่วยหาข้อมูลพระพินิจสารา  (ทิม บุณยรัตพันธุ์)  ให้แล้วล่ะครับ   ยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 02 ก.พ. 10, 15:54


แต่ก็ไม่ปรากฏว่านายทิมเคยเล่นสักวาหรือผลงานเกี่ยวกับสักวาให้ปรากฏ  อีกทั้งประวัติของนายทิมที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงพระนิพนธ์ก็ไม่ได้ทรงกล่าวถึงว่า นายทิมเคยเล่นสักวาหน้าพระที่นั่งในคราวต้นรัชกาลที่ ๕ แม้แต่แห่งเดียว    ฉะนั้น ข้อที่ว่า นายทิม ในกลอนสักวาของคุณพุ่ม จึงไม่น่าจะใช่นายทิม สุขยางค์

อาจารย์ล้อมคงไม่หมายถึง นายทิม สุขยางค์ มาเล่นสักวาครั้งนี้ดอก แต่หมายว่าคุณพุ่มพูดถึงนายทิม เจ้าของนิราศหนองคาย ซึ่งเป็นคดีดังในขณะนั้น
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 02 ก.พ. 10, 16:14

อ้างถึง
อาจารย์ล้อมคงไม่หมายถึง นายทิม สุขยางค์ มาเล่นสักวาครั้งนี้ดอก แต่หมายว่าคุณพุ่มพูดถึงนายทิม เจ้าของนิราศหนองคาย ซึ่งเป็นคดีดังในขณะนั้น

ตรงนี้ เป็นความคิดของผม ผมพิจารณาจากชื่อ นายทิม (สุขยางค์) สัมพันธ์กับคำว่า ทวน ที่หมายถึง บอกสักวาให้คนร้องสักวาร้องประกอบเพลง  โดยอาศัยกลอนสักวาที่มีคำว่า ทวน ในบริบทเดียวกันดังได้ยกมาเทียบเคียงความหมาย  จึงแลเห็นว่า นายทิม สุขยางค์  คงไม่ใช่คนเดียวกับนายทิมในสักวาของคุณพุ่ม เพราะนั่นเท่ากับว่า นายทิม จะมาบอกสักวาได้ ก็ต้องมาอยู่ในวงสักวาเดียวกับเจ้านายพระองค์นั้น ส่วนที่ อ.ล้อม ว่า ทวน หมายถึง เฆี่ยน นั้น ก็ในเมื่อท่านตีความว่า เฆี่ยนอ้ายทิม ขุนพิพิธภักดีในกรณีคดีนิราศหนองคายแล้ว  ท่านก็ตีความตามความหมายของคำว่าทวนที่ท่านพิจารณาแล้ว   ซึ่งอาจต้องถามเหมือนอย่างที่คุณเพ็ญเคยตั้งคำถามว่า

อ้างถึง
ถ้าสมมุติฐานของอาจารย์ล้อมถูกต้อง ขอถามบ้าง
ใครเป็นคนหั่นใบขี้เหล็ก  ใบขี้เหล็กคือใครหรืออะไร และเด็กที่ยำใบขี้เหล็กเป็นใคร

ตกลงแล้วมันหมายความว่าอย่างไร   แต่ถ้าเป็น "ทวน" ที่แปลว่า บอกสักวาให้คนร้องสักวาร้องประกอบเพลง  ผมพอจะมีคำตอบให้คุณเพ็ญแล้วครับ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 02 ก.พ. 10, 21:33

เป็นคำอธิบายที่น่าสนใจครับ นั่นหมายถึงเรื่องเอานายทิมเข้ามาทวนนี่ อาจจะไม่ได้มีอะไรในกอไผ่อย่างที่อ.ล้อมท่านคิดไปไกล

แต่สมมติฐานของอาจารย์ล้อมก็คงยังไม่ถูกล้มไปเสียทีเดียว

คุณหลวงเล็กน่าจะเขียนประเด็นนี้ไปลงศิลปวัฒนธรรมนะครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 08:23

คุณหลวงเล็กน่าจะเขียนประเด็นนี้ไปลงศิลปวัฒนธรรมนะครับ

ขอบคุณครับที่สนับสนุนและสนใจ   :)กำลังคิดจะทำอยู่เหมือนกันครับ  ขอเวลาเรียบเรียงสักหน่อย  ช่วงนี้มีงานประจำต้องทำหลายอย่าง   อันที่จริงเมื่อไม่นานมานี้เคยมีคนเขียนจดหมายไปท้วงอ.ล้อม ประเด็นนี้เหมือนกัน  แต่อ่านดูแล้ว ประเด็นที่ค้านมา ยังอ่อนนัก จึงไม่กระเทือนหรือหักล้างข้อเสนอของอ.ล้อม ได้   อันที่จริงถ้าไปตรวจดูในสารบาญชีของกรมไปรษณีย์ ที่ระบุชื่อขุนนางเมื่อ ๒๔๒๖  มีข้าราชการอยู่หลายคนที่ชื่อ ทิม 

ตอนนี้ขาดแต่ข้อมูลประวัติของพระพินิจสารา (ทิม  บุณยรัตพันธุ์)  ซึ่งตอนหลังทราบว่า ได้เลื่อนเป็นพระยา  และมีอายุยืนมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๗ เรื่อยมาผ่านช่วง ๒๔๗๕ ด้วย  ท่านเคยมีชื่อเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานผ้าและสิ่งของพระราชทานในงานเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ ๗ ในฐานะข้าราชการสูงอายุ อยู่หลายปี ซึ่งตอนนั้นอายุท่านราว ๆ ๘๐ ปีแล้ว    กำลังหาดูว่ามีหนังสืองานศพของท่านหรือไม่
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 11:29

อ้างถึง
ทิ้งคุณน้อยสร้อยเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจ         ให้ร้องไห้โหยหาทุกราตรี
แสดงว่าหม่อมน้อยกับกรมขุนราชสีห รักกันมาก   ชีวิตคู่คงจะหวานชื่น   พอฝ่ายหนึ่งจากไป อีกฝ่ายก็ฟูมฟายคิดถึงอยู่ทุกคืน
ขัดกับคำล้อของคุณพุ่ม ที่ว่า  ขออย่าเป็นสวาสดิ์ของพระองค์เจ้าชุมสาย  ที่กรมหลวงประจักษ์ฯ ทรงอธิบายว่า หมายถึงมหาดเล็กคนโปรดที่มักจะถูกเฆี่ยนถ้าทำไม่ถูกพระทัย

ถ้าคุณนวรัตนตีความได้ถูก ว่าสวาสดิ์ในที่นี้หมายถึงหญิงผู้เป็นที่รัก     ดิฉันก็จะขอตีความสืบเนื่องไปว่า  คุณพุ่มคงไม่อยากเศร้าโศกสาหัสอย่างหม่อมน้อย  นานเท่าไรก็ทำใจไม่ได้
ถ้าพระองค์เจ้าชุมสาย ท่านโปรดมหาดเล็ก   หม่อมของท่านคงไม่อาลัยสามีถึงขนาดนี้กระมัง
 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 11:49

หม่อมน้อยมีหม่อมเจ้าตั้ง ๑๐ องค์    อย่างนี้ก็ต้อง โปรดแน่นอน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 12:15

อ้างถึง
หม่อมน้อยมีหม่อมเจ้าตั้ง ๑๐ องค์    อย่างนี้ก็ต้อง โปรดแน่นอน


บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 12:55

ในสารบาญชีของกรมไปรษณีย์ พ.ศ. ๒๔๒๖ มีข้อความระบุถึง หม่อมเจ้า ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมขุนราชสีหวิกรม  จำนวน ๓ องค์ ว่าประทับอยู่ที่บ้านของพระยาราชมนตรี (ภู่)
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 14:23

ขออย่าเป็นสวาสดิ์ของพระองค์เจ้าชุมสาย  ที่กรมหลวงประจักษ์ฯ ทรงอธิบายว่า หมายถึงมหาดเล็กคนโปรดที่มักจะถูกเฆี่ยนถ้าทำไม่ถูกพระทัย

ถ้าคุณนวรัตนตีความได้ถูก ว่าสวาสดิ์ในที่นี้หมายถึงหญิงผู้เป็นที่รัก     ดิฉันก็จะขอตีความสืบเนื่องไปว่า  คุณพุ่มคงไม่อยากเศร้าโศกสาหัสอย่างหม่อมน้อย  นานเท่าไรก็ทำใจไม่ได้

ฤๅจะหมายว่า คุณพุ่มเธอไม่ต้องการเป็นสวาดิของชายคนเดียวกับน้องสาว

คงจะจำได้ถึงคุณอิ่ม น้องที่คุณพุ่มไม่เคยกล่าวถึง ซึ่งเป็นเจ้าจอมอยู่งานในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งคุณเทาชมพูสันนิษฐานว่าอาจเป็นต้นเหตุให้คุณพุ่มถวายบังคมลาพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า กลับไปรับราชการในวังหลวงอีกครั้ง

 ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 03 ก.พ. 10, 18:56

อ้างถึง
ฤๅจะหมายว่า คุณพุ่มเธอไม่ต้องการเป็นสวาดิของชายคนเดียวกับน้องสาว

ไม่ใช่หรอกค่ะ  ต่อให้คุณพุ่มเธอต้องการ ก็เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลหลายอย่าง
๑  คุณพุ่มเคยเป็นหม่อมของเจ้าฟ้าน้อย     กรมขุนราชสีหวิกรมไม่น่าจะรับมาเป็นหม่อม ตราบใดที่สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯยังมีพระชนม์อยู่
กรมขุนราชสีหฯ ท่านก็เคยเจอพระอาญาของสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯมาก่อนด้วยพระองค์เอง  แค่เสลี่ยงมาประจัญหน้ากัน    เรื่องใหญ่กว่านี้ ท่านไม่น่าจะเสี่ยง

๒ ถ้าค้านข้อ ๑  ก็มีเหตุผลว่า สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ สวรรคต พ.ศ.  2408 พระชนม์ 58   กรมขุนราชสีห สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2411 พระชันษา 53   มีเวลาแค่ 3 ปีที่จะทำได้
แต่คุณพุ่มเป็นสาว รุ่นเดียวกับเมื่อสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯยังหนุ่ม   กว่าจะเสด็จสวรรคตเมื่อพระชนม์ 58  คุณพุ่มก็ห้าสิบกว่าเข้าไปแล้วแน่ๆ   อาวุโสเกินกว่าจะเป็นหม่อมของเจ้านายองค์ไหน  และน่าจะแก่กว่ากรมขุนราชสีห ฯ ด้วย

เมื่อไม่มีความเป็นไปได้   เธอจะมาเขียนว่าไม่อยากเป็นสวาสดิ์ของท่าน ก็ไม่ค่อยจะมีน้ำหนักนัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 19 คำสั่ง