ภาพเทพสตรีสมัยอยุธยาตอนต้น กับ นางดานแห่งเมืองนครฯ

[Kurukula]

สวัสดีครับ คุณ Chaichana-13

เรื่องพระบาทนั้น ต้องขอเวลาค้นสักหน่อยนะครับ เพราะถ้าไม่มีจารึกกำกับแล้ว ก็มีความเห็นแตกออกไปหลายกระแสเหมือนกัน

2.อย่างที่คุณ Chaichana-13 ว่า ยักษ์แบกมีเชือกไขว้ ปรากฏในสมัยอยุธยาตอนกลางเช่นเดียวกันครับ 

3.เรื่องปรางค์เป็นประธาน หรือเจดีย์เป็นประธาน ค่อนข้างซับซ้อนครับ แต่ก็ำพอจะบอกได้ว่า ช่วงไหนเป็นอย่างไร วัดธรรมิกราชเอง เจดีย์แปดเหลี่ยมนั้นสร้างครอบเจดีย์อีกองค์หนึ่งอยู่ข้างใน

[Kurukula]

ส่วนตัวแล้ว เรื่องวัดเกาะยังหาอายุที่แน่นอนไม่ได้ แต่ตัวศักราช พ.ศ.2277 นั้น เมื่อรัชกาลที่ 5 และกรมนริศเสด็จประพาส ก็ได้ทอดพระเนตรทั้งสองพระองค์ ถ้าพระจะเขียนเติม ก็คงเขียนก่อนหน้านั้น

แต่ที่แน่นอนคือ วัดเกาะมีภาพ "พระพุทธบาททั้งสอง" คือพระบาทที่แม่น้ำนรรมทา และพระบาทที่เขาสัจจพันธคีรี แล้ว สำหรับพระบาทองค์หลัง คือพระบาทที่เขาสุวรรณบรรพต ซึ่งพบสมัยพระเจ้าทรงธรรม และสถาปนาให้เป็นพระพุทธบาทที่เขาสัจจพันธคีรี เช่นเดียวกับในพม่า พระเจ้าตลุงมิน ก็สถาปนาพระบาทที่ชเวเสตตอ ให้เป็นพระบาทที่แม่น้ำนรรมทาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คือราวพุทธศตวรรษที่ 22

พระบาททั้งสองเป็นของคู่กันในอรรถกถาของปุโณวาทสูตร แสดงว่า อิทธิพลจากวรรณกรรมลังกาเล่มนี้ แำพร่เข้ามาและได้รับความนิยมในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมๆกัน

อย่างน้อยก็ขีดเ้ส้นอายุได้ว่า จะต้องหลังพบพระบาทที่สระบุรี และกว่าพระบาทที่สระบุรีจะได้รับความนิยมมาก จนเผยแพร่ไปทั่วถึงหัวเมือง ดังที่แต่งเป็นปุณโณวาทคำฉันท์ สมัยพระเจ้าบรมโกศ

[virain]

คุณChaichana-13 เองก็จับจุดตรงกับที่ผมสงสัยเลยครับ แต่ผมเองก็ยังไม่กล้าหาข้อสรุปเลยครับ 

[ฉันรักบางกอก]

ป่ะ ไปถกกันในโบสถ์วัดเกาะกันเลยดีกว่า

เม่ือไหร่ดีนะ

[Chaichana-13]

คุณ  ครับภาพจจาก คห 60 ลายปูนปั้นจากวัดอะไรครับ เหมือนพระพุทธรูปสำริดที่ พ.ช.พระนคร ต่างนิดหน่อยที่พระพุทธรูปสำริดจะมีพระเเม่ ธรณีองค์เล็กอู่ตรงกลาง ผมไม่รู้ว่าเเบบนี้จะมีที่ไหนอีก

[Kurukula]

ตอบ คุณChaichana-13

ปูนปั้นาจากวัดพระัปรางค์ วัดประจำชุมชนอุตสหกรรมเตาแม่น้ำน้อย สิงห์บุรีครับ

[Kurukula]

รูปครับ เป็นปรางค์ขนาดเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆเตาเผาขนาดมหึมาทีเดีัยว

[ติบอ]

เข้ามาอ่านกระทู้ครับ... อ่านไปอ่านมาจากนางดาน
ไหงมาถึงพระแม่ธรณี แล้วต่อด้วยพระบาทได้หว่า...
(เป็นปกติกระทู้เรือนไทยครับ หิหิ)


แอบไม่เห็นด้วยกับคุณกุรุกุลาอยู่หน่อย ว่า "ดอกไม้" ไม่น่าเป็น "สะดือ"
เพราะ ถ้าเอาไปเทียบกับ "ท้องแนบท้องโอ่ท้อง ดอกไม้ บัวบาน" แล้ว...
"สะดือ" จะบานยังไงล่ะครับ ? 

[Kurukula]

สะดือเป็นร่องบานครับ คุณติืบอ ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ความคิดผม เป็นความคิดของท่านอาจารย์สุจิตต์ ฉบับที่ผมใช้กับฉบับที่อยู่ในเรือนไทยนี้ ก็มีเนื้อความไม่ตรงกันด้วย

[ติบอ]

อุ๊!! ลืมไป... สงสัยผมจะสะดือจุ่นอยู่คนเดียวครับ 

[VesinaH]

ภาพนางอัปสร

[VesinaH]

ภาพนางอัปสร

[Kurukula]

สวัสดีครับ คุณ VesinaH  นางอัปสรสวยมากครับ ค่อนข้างแปลกใจว่า ปราสาทหินในเมืองไทยแทบจะไม่ปรากฏนางอัปสรเลย เท่าที่เห็นน่าจะมีที่ศรีขรภูมิ กับปราสาทตาเมือน (ซึ่งอยู่ในพื้นที่คลุมเครือเช่นเดียวกับเขาพระวิหาร) สงสัยว่าปราสาทในบ้านเราจะมีขนาดเล็กเกินไป หรือจะมีเหตุผลอื่่นๆก็ไม่ทราบครับ

[VesinaH]

ผมเอามาประกอบเพราะมันสัมพันธ์กับท่าทางของนางกระดาน

เหมือนเป็นท่านิยมเลยนะครับ ในศิลปะสมัยอยุธยาก็ยังคงมีท่านี้สืบมา

เข้าใจว่านางอัปสรมีความสัมพันธ์กับเทวราชานะครับ อาจจะมีเฉพาะที่

สร้างเป็นมฤตกเทวาลัยก็ได้ครับ ที่อุทิศเป็นเฉพาะศาสนสถานไม่มี

[Kurukula]

คิดว่าเป็นเรื่องความคิดเฉพาะของช่างแต่ละท้องถิ่นมากกว่ากระมังครับ เพราะในเขมรเองก็มีทั้งในปราสาทขนาดเล็ก ที่ไม่ใ่ช่ปราสาทสำคัญ ของทั้งพราหมณ์และพุทธด้วย