เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 7
  พิมพ์  
อ่าน: 40949 ชาติพันธุ์วรรณา ใน พระอภัยมณี (๒)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 13 ม.ค. 10, 16:26

กำลังเล่าเรื่องพราหมณ์กันอยู่ใน กระทู้ชาติพันธุ์วรรณา ใน พระอภัยมณี   
คุณหลวงมาขอให้ตั้งกระทู้ เล่าถึงฝรั่ง
ก็ได้ค่ะ
เปิดเวทีให้แล้ว   ใครจะเริ่มรำเบิกโรง  ก็เชิญตามสบาย
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 13 ม.ค. 10, 23:12

ความคิดแรกที่เข้ามาก็คือ  อุศเรน   ฝรั่งผู้คนไทยยืมชื่อมาใช้เรียกชื่อหมวกทหารเรือฝรั่งโบราณ

เครื่องแบบทหารเรือฝรั่งใครใส่แล้วก็หล่อไปหมด

พระบิดาของอุศเรนได้ขอหมั้น นางสุวรรณมาลีไว้ให้ลูกชาย  ในการนี้ก็หวังได้เมืองผลึกมากองทุนเพราะท้าวสิลราชกลัวนางมณฑามากจึงมีลูกคนเดียว

เมื่อท้าวสิลราชกับธิดาหายไป  นางมณฑาก็ทำสิ่งที่แปลกประหลาดมาก  คือไปขอคู่หมั้นของลูกสาวมาครองเมือง

อุศเรนรำพันว่า

เสียสวาทมาดหมายเหมือนวายวาง                             จะตามนางกว่าจะพบประสบกัน


แสดงว่าอุศเรนเป็นสุภาพบุรุษ   ไม่ได้หวังสมบัติคู่หมั้น
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 13 ม.ค. 10, 23:46

อุศเรนได้รับพระอภัยติดเรือมาด้วยจากเกาะแห่งหนึ่ง
เมื่อเจอกับสินสมุทรก็พยายามขอนางสุวรรณมาลีคืน
สินสมุทรไม่ยอม  เพราะรักนางสุวรรณมาลีจริง อยากได้เป็นแม่
สินสมุทรจับอุศเรนได้  พระอภัยมณีขอโทษแทน

อุศเรนตามตีสินสมุทรอีก  ถูกปืนเข้าที่ขา ขาหัก

อุศเรนเสียดายนางสุวรรณมาลีมาก  รู้ว่าถ้าปล่อยมือก็เสร็จพระอภัยแน่นอน

ทหารฝรั่งอยากกลับบ้านเต็มทนแล้ว  อาหารการกินก็คงไม่สมบูรณ์ คงเป็นโรคเลือดออกตามไรฟันไปโดยถ้วนหน้า
จึงพูดจาให้อางขนาง

อันรูปทรงองค์พระอภัยมณี                             ดูท่วงทีเธอทายาดชาติเจ้าชู้
อนึ่งนางอ้างเอาเขาเป็นผัว                             เหมือนหญิงชั่วช่างกระไรไม่อดสู
ทั้งลูกเขาเข้าสนิทข้าคิดดู                              คงเป็นชู้กันเสียแล้วไม่แคล้วเลย
พระเป็นคู่สู่ขอนางก็รับ                                 มากลายกลับแกล้งอยู่กับชู้เฉย
พระอภัยใช่เช่นเป็นกระเทย                            จะละเลยไว้หรือนานจนป่านนี้



     เสนาฝรั่งคนนี้ใช้มาตราฐานหญิงในลังกาเข้าวัดความประพฤติราชธิดาเมืองผลึกได้ง่ายไปหน่อย
อุศเรนเลยยอมกลับบ้าน

เสนาร่ายต่อว่า

แม้นนงลักษณ์รักพระองค์เหมือนทรงรัก                ควรสมัครแลกชีวิตรไม่คิดหนี
จะมาม้วยด้วยนางเหมือนอย่างนี้                       จะเป็นที่ครหาในสามัญ ฯ


คุณเพ็ญคะ   สามัญ ในที่นี้ แปลว่าอะไรคะ  ไม่แน่ใจว่า สามนต์ ที่แปลว่า รอบ ๆ หรือรอบข้างหรือไม่
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 07:28

เมื่ออุศเรนกลับไปบ้านเมือง  รักษาตัว  แล้วกลับป่วยเป็นไข้ 
เวลาผ่านไป ๕ ปี  จึงรวบรวมทัพมหึมา  เรียกว่าศึกกษัตริย์
ทหารเกณฑ์ ๕ แสน
กองหลังรั้งท้าย  หลายแสน
โอ้โฮ...ใครรับหน้าที่ส่งเสบียงคงแบกภาระหนัก

ในการรบฝ่ายฝรั่งและแขกพ่ายแพ้    นางวาลียิงเกาทัณฑ์(ไม่ทราบไปหัดมาจากไหน)ถูกพระเจ้าลังกา สามดอก
ที่สำคัญคือแขนขวา

อุศเรนนั้นเรือโดนปืนใหญ่  ล่ม  อุศเรนก็ลงไปว่ายน้ำ
กองเรือพระอภัยที่เป็นทัพหนุนช่วยไว้ได้ เพราะพระอภัยจำเสียงอุศเรนได้
แสดงว่าอุศเรนคงร้องเสียงดังอยู่ในทะเล  ต้องร้องดังมากทีเดียว

เมื่อหนังสือ พระอภัยมณี พิมพ์แพร่หลายโดยครูสมิท
ภาพมหาอำนาจทางทะเลของฝรั่งอังกฤษที่แผ่อิทธิพลก็โดนลบไปไม่น้อยด้วยฝีมืออาลักษณ์ผู้ก้าวหน้า



บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 08:00

พยายามคิดว่าทำไมอุศเรนถึงตายได้

อุศเรนเป็นเจ้าชายรัชทายาท  องอาจ มาด้วยความแค้น
หมายเอาเลือดเนื้อ
อยากตัดหัวพระอภัยและนางสุวรรณมาลีเปลี่ยนหัวกัน
อาการไข้คงยังมีอยู่เรื่อย ๆ  เมื่อลงไปแช่น้ำ อาการคงแย่
อายด้วย  อัปยศเพราะโดนจับมา
เสียยศเสียศักดิ์เป็นหนักหนา

คนโบราณนั้นความละอายเป็นเรื่องใหญ่

เมื่อโดนเยาะเย้ยจากนางวาลี จึงรากเลือดตาย
สงสัยว่าเส้นโลหิตในสมองแตก


กลอนพระอภัยมณีนั้นเป็นกลอนง่าย  สอนใจ
เรื่องยาวขนาดนั้นก็สอนไว้หลายสิบหลายร้อยแห่ง
คนอ่านก็ถูกอกถูกใจกันคนละหลาย ๆ บท

กลอนตอนนี้ืี่ชอบคือ  "แสนระกำช้ำอกเหมือนตกเหว"
ได้ข่าวว่ามีหนังสือหายากหลุดออกมา  แล้วพลาดโอกาสได้อ่าน
ช้ำค่ะ
คุณหลวงเล็กคงเข้าใจ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 09:10

กลอนตอนนี้ืี่ชอบคือ  "แสนระกำช้ำอกเหมือนตกเหว"
ได้ข่าวว่ามีหนังสือหายากหลุดออกมา  แล้วพลาดโอกาสได้อ่านช้ำค่ะ คุณหลวงเล็กคงเข้าใจ

เข้าใจครับ   เข้าใจดีทีเดียว  เพราะแต่ก่อนเป็นบ่อย  แต่กลอนของสุนทรภู่ยังไม่ซึมทราบเท่ากลอนในบทละครอิเหนา  ร. ๒ ที่ว่า  " ฉุกใจได้คิดสิการแล้ว    ดังดวงแก้วตกต้องแผ่นผา   ร้าวระยำช้ำจิตเจ็บอุรา   ประหนึ่งว่าจะวายชีวี "  เด๊ยวไม่ใคร่เป็นอย่างนี้แล้วครับ   เพราะถือว่า หนังสือเล่มนั้นวาสนาไม่ต้องกันกับเรา  คิดอย่างนี้แล้วสบายใจขึ้นครับ

เอ...ในพงศาวดารจีน  เคยมีเรื่องเยาะเย้ยจนรากเลือดตายบ้างไหมนี่   นึกออกแต่สามก๊กตอนจิวยี่เสียกลขงเบ้ง จนรากเลือดตาย ยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 09:14

คุณเพ็ญคะ   สามัญ ในที่นี้ แปลว่าอะไรคะ  ไม่แน่ใจว่า สามนต์ ที่แปลว่า รอบ ๆ หรือรอบข้างหรือไม่

คำว่า สามัญ ในความหมายปัจจุบันแปลว่า ปรกติ, ธรรมดา คำ ๆ นี้มาจากภาษาสันสกฤตว่า สามานฺย คำว่าสามานย์นี้มีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือเลวทรามต่ำช้า บางทีสุนทรภู่อาจนึกถึงความหมายที่สองนี้

ศัตรูตัวจริงของอุศเรนไม่ใช่พระอภัยมณีแต่นางวาลี เพราะท่านเป็นสุภาพบุรุษจับได้แต่ไม่ฆ่าเพราะนึกถึงคติที่ว่า บุญคุณต้องทดแทน

นางวาลีเตือนสติพระอภัยมณี เริ่มต้นด้วยสุภาษิตที่เรารู้จักกันดี 

ประเวณีตีงูให้หลังหัก            มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
จระเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง      เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย
อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า      ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย
ต้องตำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย   จะทำภายหลังยากลำบากครัน
จะพลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ      ประหารบุตรเจ้าลังกาให้อาสัญ
ต้องตัดศึกลึกล้ำที่สำคัญ        นางหมายมั่นมุ่งเห็นจะเป็นการ


ขอเชิญคุณวันดีไปแนะนำตัวคุณวาลีต่อที่กระทู้พระอภัยหมายเลข ๑

 ยิงฟันยิ้ม
 
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 13:46

เห็นใจอุศเรน  ไม่ได้ทำผิดตั้งแต่ต้นจนจบ  เป็นผู้ชายดี ซื่อสัตย์ต่อคู่หมั้น   เป็นชายชาติทหารด้วย
ถูกจับเป็นฝ่ายศัตรู  และพ่ายแพ้ไปง่ายๆ
ทั้งๆพระอภัยมณี นั่นแหละ ฝ่ายผู้ร้ายตัวจริง   แย่งทั้งคู่หมั้น แย่งทั้งเมือง
 
สงสัยขึ้นมาว่าอุศเรนแต่งตัวแบบไหน เลยไปค้นยูนิฟอร์มนายพลสมัยศตวรรษที่ ๑๘ มาได้สองรูป
ขอส่งให้ดูกันว่าใช่หรือไม่  ขอผู้รู้ช่วยอธิบายด้วยค่ะ



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 14:34

บันทึกหัวใจ...เจ้าชายอุศเรน
http://arshura09.exteen.com/20060430/entry

....โดยไม่คาดคิดว่าความวิปโยคครั้งที่ ๒ ...จะเกิดขึ้นกับผมในเวลาต่อมา เมื่อ สุวรรณมาลี ปฏิเสธการแต่งงานกับผมอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยเหตุผลที่ผมแทบหัวใจสลายว่าเธอไปรักผู้ชายอื่นแล้ว และชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือคนที่เธอคนนั้นจงรักที่สุด พระอภัยมณี

ชายคนนั้น...หักหลังเพื่อนอย่างผมได้ลง ผมทั้งเจ็บทั้งแค้นจนต้องยกทัพมาเพื่อแย่งชิงของผมคืน เหนือสิ่งอื่นใดผมอยากถามเขาว่าทำไมถึงทำกับผม...แบบนั้นได้ แต่แล้วแทนที่ผมจะได้คำตอบผมกลับสูญเสียกองทัพทั้งหมดไปพร้อมกับบิดาที่เคารพรักยิ่งและอิสรภาพของตัวเอง ระหว่างถูกคุมขังผมเฝ้าคิดถึงวันคืนเก่า ๆ อยู่เสมอ วันคืนที่เคยมีความสุขจนถึงวันนี้ที่ความคั่งแค้นสุมหัวใจผมจนทำลายร่างกายผมทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ผมรู้ชีวิตผมใกล้ถึงจุดจบแล้ว ก่อนที่สติผมจะขาดลง ในใจผมแค้นผู้หญิงคนหนึ่งที่ทิ้งผมไปอย่างที่สุด....

อ่านแล้วสงสารเจ้าชายอุศเรนจับจิตจับใจ

 เศร้า






บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 14:49

 ร้องไห้


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 16:53

ขอคั่นความเศร้าด้วยเรื่อง   ฝรั่งอังกฤษคุกคามเอเชีย ครับ

         คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ ได้เสนอความคิดว่า พระอภัยมณีเป็นนิทานคำกลอนต่อต้านการล่าอาณานิคมของอังกฤษ
ในรัชสมัยควีนวิคตอเรีย (ที่คุณสุจิตต์ว่าคือ นางละเวง) ด้วยการเสนอแนวคิด make love, not war
ความโดยตัดต่อมีว่า
          
         เชื่อกันว่าสุนทรภู่แต่งพระอภัยมณีตอนบวชเป็นพระอยู่วัดเทพธิดาราม ราว พ.ศ.2376
(ในแผ่นดินรัชกาลที่ 3) ขณะนั้นสุนทรภู่มีอายุราว 47 ปี (บวชเมื่ออายุ 38 ปี)

         ส่วนอังกฤษนั้นยึดครองอินเดียตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาแล้วยึดครองลังกาเป็นอาณานิคม ตั้งแต่ พ.ศ.2338
ในแผ่นดินรัชกาลที่ 1 ขณะที่สุนทรภู่อายุ 9 ขวบ (เกิด พ.ศ.2329)
        อังกฤษยังได้ขยายอิทธิพลเข้ามาในแหลมมลายูสมัยรัชกาลที่ 1 เริ่มด้วยการเช่าเกาะหมาก (ปีนัง)
แล้วพยายามขยายไปที่อื่นๆ อีกล้วนเป็นอันตรายต่อกรุงสยามทั้งนั้น
          อังกฤษสั่งกองทัพยึดเมืองหงสาวดี เมื่อ พ.ศ.2368
      
        พฤติกรรมล่าเมืองขึ้นของอังกฤษด้วยการสงครามเป็นที่รับรู้ในหมู่คนชั้นนำของกรุงสยามตั้งแต่แรก
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
        จนถึงแผ่นดินรัชกาลที่ 3 สุนทรภู่ซึ่งเป็นปราชญ์ราชสำนักในรัชกาลที่ 2 มาก่อนก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ เลยจินตนาการสร้าง
เป็นนิทานกลอนขึ้นมาชื่อพระอภัยมณี ใช้ปี่เป็นสัญลักษณ์ของวิชาความรู้ให้แก้ปัญหาด้วยปัญญา ด้วยสันติภาพ
ในลักษณะเดียวกับคำขวัญของคนรุ่นต่อต้านสงครามเวียดนามว่า make love, not war

          ผู้ร้ายในพระอภัยมณีคือโจรสุหรั่ง สุนทรภู่ระบุให้เป็นอังกฤษ
เมืองลังกาในเรื่องพระอภัยมณีคือเกาะลังกาซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ทำให้สุนทรภู่วางตัวละครในลังกาเป็น "ฝรั่ง" ชาวยุโรป
มีกษัตริย์เป็นผู้หญิงเหมือนพระราชินีวิคตอเรียของอังกฤษ

           พอมีเวลา ได้ค้นวิกิ ดูการขยายอำนาจล่าอาณานิคมของอังกฤษในยุคนั้นมาแสดง ครับ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 16:55

        เริ่มจากควีนวิคตอเรีย (1819 – 1901 ตรงกับ พ.ศ. 2362 - 2444) ขึ้นครองราชย์ในปี 1837 -พ.ศ. 2380
        ทรงเป็นมหาราชินีแห่งยุคที่อังกฤษ British Empire ได้แผ่ขยายอิทธิพลไปกว้างไกลสุดไพศาล
กลายเป็นจักรวรรดิที่ตะวันไม่ตกดิน
          รัชสมัยของพระนางตรงกับช่วงเวลาที่นักประวัติศาสตร์บางคนเรียกว่า Britain's imperial century
(1815–1914 คือ พ.ศ. 2358 -2457)
        ช่วงศตวรรษนี้ จักรวรรดิอังกฤษได้ครอบครองพื้นที่เพิ่มเติมอีก 10,000,000 ตร.ไมล์ (25,899,881 ตร.กม.)
และประชากรในดินแดนนั้นซึ่งมีจำนวนประมาณ 400 ล้านคน

        ก่อนหน้านั้น เมื่อปลายศตวรรษที่ 16 อังกฤษร่วมกับเนเธอร์แลนด์ก่อการท้าทายการผูกขาดการค้าของโปร์ตุเกสในเอเชีย
โดยการก่อตั้งบริษัท  English, ต่อมาเป็น British, และ Dutch East India Companies
ในปี 1600 - พ.ศ.2143 และ 1602 - พ.ศ. 2145 ตามลำดับ

         ( Indies - ดินแดนแถบ South and Southeast Asia
          คำ "Indies" มาจากชื่อแม่น้ำ  Indus ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน Pakistan.)
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 16:57

          บริษัทจัดดำเนินการค้าเครื่องเทศแถบ Indonesia โดยมี hub ของเครือข่ายการค้าอยู่ที่ India  
ต่อมาเกิดการขัดผลประโยชน์ระหว่างงสองชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
           เนเธอร์แลนด์คุมการค้าเครื่องเทศที่ Indonesia เป็นหลัก ส่วนอังกฤษเพลิดเพลินกับการกอบโกย
 ในอินเดียหลังการสร้างโรงงานขึ้นที่ Surat ในปี 1613 - พ.ศ. 2156  
           อินเดีย ที่ซึ่งราชวงศ์ Mughal ได้ทรงมอบสิทธิการค้าให้อังกฤษในปี 1617 - พ.ศ. 2160
จึงเป็นฐานที่มั่นในการแผ่ขยายอิทธิพลของอังกฤษ
        ความขัดแย้งของสองชาติยุติลงเมื่ออังกฤษตกลงแบ่งผลประโยชน์กับเนเธอร์แลนด์ ฝ่ายหลังได้แหล่งเครื่องเทศ
ที่ Indonesia ไป ส่วนอังกฤษครอบครองอุตสาหกรรมสิ่งทอในอินเดียที่ทำกำไรให้อย่างมากมายเหนือการค้าเครื่องเทศ

         เมื่อราชวงศ์เสื่อมอำนาจลง อังกฤษได้ทำสงครามกับคู่แข่ง-ฝรั่งเศส โดยฝ่ายอังกฤษมีชัยเหนือฝรั่งเศสและ
พันธมิตรอินเดียในปี 1757 - พ.ศ. 2300 ส่งผลให้อังกฤษได้ครอง Bengal และมีอำนาจทั้งทางการทหารและการเมือง
ในอินเดีย
           ช่วงเวลาทศวรรษต่อมา อังกฤษค่อยๆ ขยายอาณาเขตปกครองโดยการสนับสนุนกำลังจากกองทหาร British Indian Army
ที่มีไพร่พลส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมือง Indian sepoys

       ถึงปี 1856 - พ.ศ. 2399 ชมพูทวีปเกือบทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การควบคุมของ British East India Company
       บริษัทพิชิตอินเดียสำเร็จสมบูรณ์ในปี 1857 - พ.ศ. 2400 แต่ต่อมาในปีเดียวกันเกิด Indian Rebellion
ที่นำไปสู่การสิ้นสุด East India Company และ  India ถูกปกครองโดย British Raj (ปกครองอินเดียต่ออีกร่วมร้อยปี
ระหว่าง ค.ศ. 1858 - 1947 - พ.ศ. 2401 - 2490)
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 17:01

          นอกจากนี้ East India Company ซึ่งเป็นตัวการแผ่ขยายอาณานิคมของอังกฤษในเอเชีย
โดยการร่วมมือระหว่างกองทัพของบริษัทกับกองเรืออันเกรียงไกร ยังได้เผด็จศึกและขับ Napoleon
ออกจาก Egypt (1799 พ.ศ. 2342)  ยึดชวามาจาก Netherlands (1811 - พ.ศ. 2354)
ครอบครอง  Singapore (1819 - พ.ศ. 2362) และ  Malacca (1824 - พ.ศ.2367) แล้ว
พิชิต Burma (1826 - พ.ศ. 2369)
          จากฐานที่มั่นอินเดีย บริษัททำการค้าฝิ่นในจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ทศวรรษ 1730 - พ.ศ. 2273
ซึ่งนำไปสู่สงครามฝิ่นในปี 1839 - พ.ศ. 2382 และจบลงที่อังกฤษได้เกาะฮ่องกง

          ส่วนลังกานั้นเป็นเมืองท่าการค้าสำคัญมาแต่โบราณ เรือสินค้าล่องมาสู่ทั้งจากตะวันออกกลาง เปอร์เซีย
และจากแถบอุษาคเนย์ มีพ่อค้าจากอาหรับและมาเลย์เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ส่วนชาติตะวันตกนั้นมีโปร์ตุเกสเข้ามาก่อน
ในปี 1505 - พ.ศ. 2048 แล้วตามมาด้วยเนเธอร์แลนด์ในศตวรราที่ 17
           British East India Company เข้ายึดครองลังกาในปี 1796 - พ.ศ. 2339 และประกาศเป็น
Crown Colony (อาณานิคมซึ่งปกครองโดย governor แต่งตั้งโดย  Crown) ในปี 1802 - พ.ศ. 2345
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 14 ม.ค. 10, 22:18

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
สยาม ตระหนักถึงภัยจากมหาอำนาจล่าอาณานิคมมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๓    เห็นได้จากพระปัจฉิมดำรัส ก่อนเสด็จสวรรคต

 "การศึกสงคราม ข้างญวณกับพม่าก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่แต่ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดีอย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิด  ควรจะเรียนเอาไว้ ก็ให้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว "

ฝรั่งร้ายสุดในเรื่อง เห็นจะเป็นสังฆราชบาทหลวง    ส่วนนางละเวง  น่าจะเป็นนางเอกตัวจริงของพระอภัยมณี  บทเธอมากกว่าเพื่อน และมีรสชาติที่สุดด้วย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 19 คำสั่ง