หญิงผู้มีปัญญาแต่ขี้ริ้ว จงลีฉุน กับนางวาลี
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระราชโองการรับสั่งให้แปลเลียดก๊กเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒
อุยอ๋องนั้นเมื่อว่างศึกมาสามปี มีสามบ้านเมืองมานบนอบยำเกรง น้ำใจกำเริบถือตัวว่าหาผู้เสมอเหมือนมิได้ ตั้งแต่เสพสุราทุกวันทุกเพลาไม่ขาด
ให้เสาะหญิงรูปงามจัดเข้ามาไว้ รื่นเริงไปในการสตรี
ยังมีสตรีคนหนึ่งชื่อ จงลีฉุน บ้านอยู่นอกเมืองใกล้กันกับบ้านใหม่ของอุยอ๋อง
นางคนนี้มีปัญญาหลักแหลมนัก แต่รูปร่างนั้นพิกล
จักษุกลมจมูกยาวหน้าผากใหญ่ คอสั้น มือโตเท้าโต นิ้วมือนิ้วเท้ายาว
ทั้งสูงทั้งใหญ่ สีตัวดำเหมือนทาหมึก
นุ่งกางเกงขาด ใส่เสื้อเก่า
ออกจากบ้านเดินร้องมาแต่ไกลว่า เราจะมาหาอุยอ๋อง
ทหารทั้งปวงเห็นว่าวิปริตนัก จึงไต่ถาม ว่าชื่ออะไร อยู่บ้านไหน มีธุระอะไร
หญิงนั้นบอกว่า อยู่บ้านบูเอียน แขวงเมืองเจ๋
อายุ สี่สิบปี ยังไม่มีผัว
คิดอยู่ใคร่จะได้ผัว แต่ชายผู้ใดเขาไม่ชอบใจ
ข้าพเจ้าจึ่งมายอมตัวอยู่กับอุยอ๋อง จะขอเป็นเมียหลวง
ว่าแล้วก็ทำปริศนาใบ้ต่างๆ คนทั้งปวงก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
อุยอ๋องถามว่าปริศนาแปลว่าอะไร นางขอโทษแล้วอธิบายว่า
ที่ข้าพเจ้าเบี้ยวปากขยิบตา เพราะท่านฟังแต่คนพูดไม่จริง
ข้าพเจ้ายิงฟัน ด้วยเห็นว่าท่านพอใจเสพสุรามัวเมานัก แล้วเพลิดเพลินลุ่มหลงด้วยสตรี
ข้าพเจ้ากอดเข่าและชี้นิ้ว ด้วยเห็นว่าขุนนางเหล่านี้หามีกตัญญูต่อท่านไม่
ท่านชุบเลี้ยงเสียเปล่า มิได้โอบอ้อมอาณาประชาราษฎร์
ท่านทิ้งเมืองมาดังนี้ ไม่ช้านานเท่าใดก็จะเกิดจลาจลในเมือง
ด้วยเหตุวาสนาอุยอ๋องจะยืดยาวไป ก็หายโกรธ พิจารณาเห็นตามคำของนางจงลีฉุน
สรรเสริญนางว่ามีปัญญาหลักแหลมนัก
รับนางขึ้นเกวียนพาเข้าเมือง ตั้งให้นางเป็นใหญ่กว่าภรรยาทั้งปวง ยกบ้านเดิมให้เป็นส่วยด้วย
ตั้งแต่นั้นมาก็จัดแจงบ้านเมือง หาผู้มีสติปัญญามาชุบเลี้ยง
บลัดเลเริ่มพิมพ์เลียดก๊กเล่มแรกเมื่อปี ๒๔๑๓
เล่ม ๕ พิมพ์ในปี ๒๔๑๔ ปีมะเมีย โทศก
นางวาลีอายุ ๓๔ มีเชื้อสายพราหมณ์ ใบหน้าปรุ ผิวพรรณดำ
ได้ศึกษาตำราโบราณทั้งไสยศาสตร์ กลศึก และฤกษ์์
เมื่อมาเข้าเฝ้า พระอภัยมณีถามว่าจะเลี้ยงไว้เป็นที่ปรึกษา อยากจะเป็นพี่เลี้ยงเจ้านาย หรืออยากอยู่กรมท่า
นางวาลียืนยันว่าภักดีอยากเป็นมเหสี
พระอภัยมณีตรัสด้วยเป็นอย่างดีว่าควรพิเคราะห์ตัวเอง
จะควรเป็นมเหสีหรือมิควร จงใคร่ครวญนึกความให้งามใจ
นางวาลีทูลว่า
แล้วหมายว่าฝ่าพระบาทก็มีห้าม ล้วนงามงามเคยประณตบทศรี
แต่หญิงมีปัญญาเช่นข้านี้ ยังไม่มีไม่เคยเลยทั้งนั้น
จึงอุตส่าห์มายอมน้อมประณต ให้พระยศใหญ่ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
บรรดาผู้รู้วิชาสารพัน จะหมายมั่นพึ่งพาบารมี
แม้นทรงศักดิ์รักโฉมประโลมสวาท ไม่เลี้ยงปราชญ์ไว้บำรุงซึ่งกรุงศรี
ก็ผิดอย่างธรรมเนียมประเวณี เห็นคนดีจะไม่มาสามิภักดิ์
ขอพระองค์ทรงตรึกให้ลึกซึ้ง เป็นที่พึ่งแผ่ไปทั้งไตรจักร
อันรูปหญิงพริ้งเพริศล้ำเลิศลักษณ์ ดีแต่รักรอนรานการโลกีย์
นางวาลีนี้ วิชาความรู้ส่งให้งาม
ที่มาห้องสมุด พันทิป เขียนโดย หญิงผู้มีปัญญา
สุนทรภู่ครูของฉันเป็นนักอ่านที่ยิ่งใหญ่
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/06/K5548596/K5548596.html 