เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 11
  พิมพ์  
อ่าน: 33319 รุ้ง จิตเกษม
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 09 ธ.ค. 09, 13:58

คุณและดิฉันถูกกล่อมเกลามาในยุคพัฒนาทางวัตถุ  จนเคยชิน  ย้อนกลับไปอยู่อย่างปู่ย่าตายายเราไม่ได้แล้ว    แต่วงจรชีวิตมันไม่ได้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว    มันย้อนกลับมาได้ด้วย
ในรุ่นลูกและหลานของเรา  เขาอาจจะต้องหวนกลับไปสู่ความพอเพียงแบบทวดของเขาก็ได้  ก็ต้องเตือนความพร้อมในข้อนี้

อ้างถึง
ผมเคยเห็นที่เขาจับได้เหนือเขื่อนทางเหนือ เห็นแล้วตกใจตัวใหญ่อย่างกับล็อบสเตอร์มีสีเขียวตะไคร่ติดเปลือกอยู่เต็ม ไม่กล้าซื้อมากิน นี่คือส่วนดีของมัน
ข้อนี้ถามด้วยความซื่อจริงๆ ไม่ได้แกล้ง   สงสัยว่า ถ้าเป็นส่วนดี ทำไมคุณไม่กล้าซื้อมากินล่ะคะ?
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 09 ธ.ค. 09, 18:24

อนาคตก็ยังมาไม่ถึงป่วยการที่จะไปวิตก ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อดีตคือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

อ้างถึง
ทำไมคุณไม่กล้าซื้อมากินล่ะคะ?

ผมสมาทานศีลห้าเป็นนิจศีล มันยังเป็นๆอยู่ ผมไม่ฆ่าหรือสั่งให้เขาฆ่า

ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นหรอกครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 09 ธ.ค. 09, 19:15

Learn from yesterday, live for today, hope for tomorrow. The important thing is not to stop questioning.”
 Albert Einstein

ย้อนกลับไปที่ชีวิตรักของรุ้ง   ในตอนแรกอุไรวรรณปรากฏตัวออกมา  เธอก็ดูเฉลียวฉลาด และมองเห็นว่ารุ้งมี  "รูปสุวรรณอยู่ชั้นใน"   มากกว่าที่สมส่วนมองเห็น
แต่อุไรวรรณก็มาพลิกล็อคเป็นนักอุดมคติ คนละเส้นทางกับรุ้ง  เล่นเอาคนอ่านอย่างดิฉันอกหักไม่แพ้รุ้ง

เมื่อรุ้งตัดขาดเธอไปแล้ว    เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตของทั้งสองจะเป็นอย่างไรต่อไป     จะย้อนกลับมาคืนดีกันได้หรือไม่    เพราะดูท่าทีรุ้งก็ยังอาลัยอาวรณ์เธออยู่
แต่สันติบาลก็ยื่นมือเข้ามาตัดสินให้เด็ดขาด   รวบตัวรุ้งกลับไปสู่สภาพจำเลยการเมือง และคงตามมาด้วยโทษการเมืองอีกครั้ง    น่าจะแรงกว่าครั้งแรก   
 
อวสานของนักอุดมคติก็จบลง  เหลือไว้แต่ความคิดของเขาที่ยังต่อยอดให้เราขบคิดและถกเถียงกันจนทุกวันนี้

ดิฉันก็ยังมองว่ารุ้งเกิดผิดยุคสมัยอยู่นั่นเอง     
แต่จะเกิดยุคไหนก็ตาม รุ้งไม่ใช่คนที่ตามกระแสได้ง่ายๆ   ถ้าเขาเปลี่ยนมาเกิดในยุค ๑๔ ตุลา ๑๖     เชื่อว่าหลัง ๖ ตุลา ๑๙  รุ้งก็คงไม่เข้าป่า  แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับขบวนการขวาพิฆาตซ้าย
เขาก็คงจะเขียนหนังสืออีกสักเล่ม  แสดงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เข้ากับซ้ายและขวา

ถ้ารุ้งเกิดมาเป็นคนหนุ่มในยุคนี้   เขาก็คงไม่เห็นด้วยกับระบบ(นาย)ทุนนิยม   แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับคมช.  และเขาก็คงสวมเสื้อสีใดๆ  ไม่ร่วมขบวนทำกิจกรรมทางการเมืองกับเสื้อสีใดสีหนึ่ง
ดิฉันยังมองไม่เห็นว่าอุดมคติของรุ้ง สอดคล้องกับแนวคิดทางการเมืองไทย ตั้งแต่ ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๕๒
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 09 ธ.ค. 09, 21:05

อ้างถึง
ดิฉันยังมองไม่เห็นว่าอุดมคติของรุ้ง สอดคล้องกับแนวคิดทางการเมืองไทย ตั้งแต่ ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๕๒

ผมเห็นด้วยเลยครับ  รุ้งเองก็รู้ จึงมองข้ามไปถึงระดับโลกเสียทีเดียว “เรื่อง The Sight of Future Siam ก็มิใช่เรื่องที่เขียนขึ้นเพื่อวิพากษ์วิจารณ์กิจการของรัฐบาลสยามชุดนี้ ถ้าหากมันแสดงความบกพร่องของเครื่องจักรแห่งการเมืองเศรษฐกิจ เขาก็แสดงสาเหตุแห่งความบกพร่องไว้ว่าเป็นกรณีย์ที่เกิดขึ้นทั่วไปทั้งโลก ซึ่งการแก็ไขจะต้องอาศัยความร่วมมือจากมหาประเทศ และไม่จำเป็นต้องกระทำในรูปปฏิวัติ”

แต่อุดมคติของรุ้งในเรื่องนี้ เฉียดความจริงเข้าไปหน่อยนึง เมื่อสงครามโลกยุติใหม่ๆ ประชาชาติหน่ายสงครามจึงได้เลือกนักการเมืองที่ใฝ่สันติขึ้นปกครองประเทศ ทำให้มหาอำนาจรวมตัวกันจัดตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้นมาเพื่อมุ่งหมายจะระงับเหตุแห่งสงครามให้ได้ และมีหน่วยงานเช่นยูเนสโก้ที่วางเป้าจะจัดระบบการศึกษาของทุกชาติให้สอดคล้องกัน จะได้เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น  คล้ายๆกับแนวที่รุ้งใฝ่ฝัน แต่รุ้งก็มีชีวิตอยู่ในโลกต่อไปไม่นานพอที่จะเห็นเหตุการณ์พลิกผัน เมื่อการเมืองเปลี่ยนชุด นโยบายก็เปลี่ยน องค์การสหประชาชาติต่อมาก็กลับกลายเป็นเครื่องมือของเจ้ามือรายใหญ่ที่จะเขมือบประเทศเล็กประเทศน้อยด้วยกลวิธีใหม่  โชคดีของรุ้งที่ไม่ได้อยู่ร่วมผิดหวัง

อุดมคติของรุ้ง แม้ไม่ได้สอดคล้องกับแนวคิดทางการเมืองไทย แต่อาจเฉียดเข้าไปในระดับสากล จึงมีอาจารย์ทางด้านไทยคดีศึกษาชาวอังกฤษ และญี่ปุ่นที่อ่านความฝันของนักอุดมคติแล้วเข้าใจ นำไปแปลเป็นภาษาของตน ตีพิมพ์เพื่อจัดจำหน่ายไปทั่วโลก ก็คงไม่ได้หวังจะให้ใครเอาแนวคิดของรุ้งไปใช้ดอกครับ แต่เขาทึ่งว่าคนไทยอย่างรุ้งคิดและเขียนอย่างนี้ออกมาได้อย่างไร

ส่วนการเมืองไทย…………?ฮืม

"อยากทราบเหตุในอดีต จงดูจากผลในปัจจุบัน..อยากทราบผลในอนาคต จงดูจากเหตุในปัจจุบัน"
 
     พุทธวจนะ
บันทึกการเข้า
sugar
มัจฉานุ
**
ตอบ: 53


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 10 ธ.ค. 09, 11:44

เป็นโชคดีของรุ้งที่ยังมีช่วงเวลาเป็นตัวของตัวเอง

ไม่มีเชือกชักโยงใยตั้งแต่เกิดจนตายเหมือนคนในโลกความจริง.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 15 ธ.ค. 09, 11:37

รุ้งเป็นคนมีความคิดทางการเมืองและอาชีพ ล้ำยุคกว่าชาวสยามทั่วไป       แม้แต่เพื่อนๆของรุ้ง ก็ไม่มีใครมีความคิดไกล เท่าเทียมเขาได้
การเมืองของสยามในยุคนั้น เป็นยุคอำนาจเบ็ดเสร็จ       ผู้มีอำนาจเล่นเกมการเมืองอย่างเหี้ยมโหดทุกรูปแบบ    ส่วนรุ้งมองการเมือง  อย่างสุภาพบุรุษ ผู้เชื่อถือใน  fair play
การเมืองก็ทำนองเดียวกับการทำงานที่รุ้งเจอ   เหมือนเงาสะท้อนของกันและกัน
คือรุ้งใช้ความยุติธรรม กับบุคคลผู้ไม่ยุติธรรม     ความยุติธรรมจึงกลายเป็นเสียเปรียบ 
ความคิดอ่านและความรู้ของรุ้งเป็นภัยต่อความมั่นคงของผู้ถืออำนาจ       ถ้าเป็นอาชีพการงาน รุ้งก็ต้องพ้นหน้าที่ ออกไปจากตรงนั้น
แต่ถ้าเป็นการเมือง  รุ้งก็ต้องจ่ายแพงกว่านั้น คือชีวิตของเขา    ถึงอย่างไรคนมีอุดมคติและซื่อตรงต่อความเป็นจริงอย่างรุ้ง ก็จะไม่เอาตัวรอดด้วยการสารภาพว่าเป็นกบฎ เพื่อรับโทษแค่สิบปี    แทนที่จะยืนยันปฏิเสธ  แล้วรับโทษประหารชีวิต
อุดมคติ กับสัจจะ ย่อมเดินทางเดียวกัน

รุ้งอำลาผู้อ่านไปสู่ความตาย   ภาวนาอยู่อย่างเดียวว่าขอให้ชาติไทยพ้นจากยุคทมิฬเสียโดยเร็ว

ไม่รู้ว่าถ้ารุ้งอยู่มาจนทุกวันนี้ เขาจะเห็นว่าไทยพ้นจากยุคนั้นหรือยัง
บันทึกการเข้า
sugar
มัจฉานุ
**
ตอบ: 53


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 16 ธ.ค. 09, 16:31

ขอคิดด้วยหน่อยนึงนะคะ...

ถ้ารุ้งมีชีวิตอยู่ในช่วงปัจจุบัน... เขาคงจะเก็บเกี่ยวและสะสมประสบการณ์ของชีวิตได้มากมายจากสารพัดงานที่ได้ทำ(อาจทนงานแต่ไม่อาจทนคนแน่) เขาคงจะพบคนดีๆบ้างในช่วงชีวิตที่จะเพิ่มทัศนคติดีๆให้แก่เขา เขาคงปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงของชีวิตได้โดยยังคงยึดอุดมการณ์เดิมเป็นหลัก เขาคงมีส่วนในการแสดงออกในทางการเมืองได้มากกว่าอดีต และเขาอาจวิ่งเข้าสู่ถนนการเมืองเมื่อโอกาสเป็นของเขา เขาอาจเป็นดาวดวงเด่นในวงการเมืองในยุคที่คนเริ่มเบื่อหน่ายการเมืองน้ำหนอง เขาอาจได้รับการสนับสนุนอย่างมากมายจากคนที่วิ่งทันกระแสการเมืองในยุคดิจิตอล เขาอาจจะพบว่ามีคนอีกจำนวนมากที่สามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับเขาได้ เขาอาจจะได้รับเลือกเป็นผู้นำต่อต้านอำนาจมืดมิดเม้น และเขาอาจสร้างฝันการเมืองให้เป็นจริงได้ด้วยตัวเขาเอง...และเขาอาจเป็นผู้ที่นำอำนาจที่แท้จริงกลับสู่มือประชาชนก็เป็นได้


เพียงแต่...ถ้ารุ้งเป็นนักอุดมคติมีความฝันและไม่ใช่แค่ฝันลมๆแล้งๆ  เชื่อว่าคงนิ่งเฉยมือไม่พายอยู่ไม่ได้แน่ๆ.


 "อนาคตของเรา อยู่ในมือของเราเองแล้ว"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 30 ธ.ค. 09, 21:12

ตัวละครอย่างรุ้ง จิตเกษม เป็นตัวละครที่แปลกไปจากตัวเอกในนวนิยายร่วมสมัย เรื่องอื่นๆ   ตรงที่ว่า เขาเป็นตัวละครสัญลักษณ์ของอุดมคติ เสียมากกว่าจะเป็นตัวละครจำลองแบบคนจริงๆอย่างตัวละครโดยมาก
แม้ว่ารุ้ง มีที่มาจากบุคคลจริง คือตัวผู้ประพันธ์เอง   ในหลายแง่มุมเขาก็เป็นสัญลักษณ์อยู่ดี

รุ้งเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาดทางการเมือง      เป็นสัญลักษณ์ของความรู้ทางรัฐศาสตร์ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการปกครอง เพื่อจะบรรลุถึงผลดีต่อประชาชนโดยแท้จริง   
ความคิดอ่านหลักๆของรุ้งในนิยาย  จึงเป็นไปในทางใคร่ครวญการบริหารรัฐ เพื่อประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่กับประชาชน
การเมืองไม่ได้หมายความแค่ประชาชนจะได้หย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง  แต่เป็นวิถีชีวิตทุกสิ่งทุกอย่าง   รวมทั้งหน้าที่ของรัฐต่อประชาชน   ประชาชนต่อประชาชน   และประชาชนต่อรัฐ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 31 ธ.ค. 09, 14:24

ถือเป็นการคุยกันนะครับ กรุณาอย่าคิดว่าความเห็นของผมจะถูกต้องกับความคิดของผู้ที่สร้างรุ้ง จิตเกษมขึ้นมาในโลกวรรณกรรม
รุ้ง มีเค้าของหลายบุคคลที่ม.ร.ว. นิมิตรมงคลรู้จักคุ้นเคยรวมกัน ถ้าจะไม่อ้อมค้อม ในเรื่องวิถีชีวิตเบื้องต้น ท่านสิทธิพรน่าจะเป็นต้นแบบของนักเรียนนอกที่กลับมามีหน้าที่ราชการอันคนทั่วไปเห็นว่ารุ่งโรจน์ดี ทว่าการศึกษาที่ได้รับแบบคนอังกฤษทำให้ท่านทรงมีความคิดอ่านที่ต่างกับคนไทยทั้งปวง รุ้งก็เป็นคนเช่นนั้น แต่รุ้งไม่ใช่ลูกเจ้านายที่จะไปเรียนเมืองนอกด้วยทุนทรัพย์อย่างอื่นนอกจากจะได้ทุน รุ้งก็เลือกที่จะเป็นนักเรียนทุนคิงส์เหมือนคุณสอ เสถบุตร และก็ลาออกจากงานราชการเพราะไม่สามารถทำงานกับพวกคณะราษฎร์ได้เหมือนกัน แต่รุ้งมิได้ไปเป็นนักหนังสือพิมพ์อย่างคุณสอ รุ้งตั้งใจออกไปบุกเบิกงานเกษตรบนที่ดินของครอบครัวเช่นเดียวกับท่านสิทธิพร

ส่วนแนวคิดของรุ้ง ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นแนวคิดของม.ร.ว. นิมิตรมงคลเองที่ได้มาจากประสพการณ์ในยามเป็นอิสระชน และยามอยู่ในคุกอันเสมือนเป็นบัณฑิตวิทยาลัยที่ ม.ร.ว. นิมิตรมงคลที่ใช้เวลากว่า5ปีเป็นนักเรียนประจำ อยู่กับตำรับตำราและครูบาอาจารย์นักเรียนนอก การได้อ่านหนังสือที่ท่านเหล่านั้นขนเข้ามา ได้ฟัง ได้ร่วมถกร่วมคุย ล้วนประเทืองปัญญาที่ทำให้เกิดความคิดอ่านของตนเอง หลังการตกผลึกแล้ว จึงได้นำเสนอออกมาในนวนิยายเล่มนี้

รุ้ง จึงถูกวางตัวให้เป็นนักอุดมคติ นักอุดมคติเป็นเอกพจน์ ในสังคมทุกวันนี้ก็มีไม่น้อย จะเป็นอุดมคติทางใดก็ได้ที่มุ่งกระทำตนโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนเป็นกล่องหรือเป็นเงินก็แล้วกัน อุดมคติเป็นของใครของมัน คนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร ฉันก็จะเป็นของฉันอย่างนี้     ส่วนอุดมคติที่เป็นพหูพจน์จะเรียกว่าอุดมการณ์ นักปฏิบัติจะเอาทฤษฎีที่นักอุดมคติสร้างขึ้นไปวางเป้าหมาย โน้มน้าวให้คนหมู่มากเห็นด้วยและเข้ามาร่วมทำงานให้บรรลุถึงจุดนั้น อุดมการณ์จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองมันอาจกลายเป็นพรรค หรือลัทธิไปได้เหมือนกัน

นักอุดมคติทางการเมือง ถ้ามีคนเห็นด้วยมากๆจนตั้งเป็นอุดมการณ์ขึ้น ถ้าต้องการให้บรรลุผลแล้วส่วนใหญ่ต้องมีเลือดตกยางออก ถ้าเป็นเลือดของฝ่ายตรงข้ามก็จะมีเยอะแยะ ไม่ต้องยกตัวอย่าง แต่เลือดของนักอุดมคติเอง ที่ดังๆก็มหาตมะคานธี  หรือเนลสัน แมนเดลาที่ติดคุกหัวโต

อ้างถึง
ถ้ารุ้งเป็นนักอุดมคติมีความฝันและไม่ใช่แค่ฝันลมๆแล้งๆ  เชื่อว่าคงนิ่งเฉยมือไม่พายอยู่ไม่ได้แน่ๆ

ผมไม่อยากเดา  แต่ที่รุ้งลาผู้อ่านไปสู่ความตายก็เป็นตอนจบที่เหมาะสมแล้วสำหรับนักอุดมคติที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย หรือมิฉนั้น หากมีชีวิตรอดพ้นมาได้ รุ้งก็คงเป็นได้ดีที่สุดเท่ากับที่ท่านสิทธิพรได้ทรงเป็นไปแล้วแต่ผู้เขียนไม่มีโอกาสได้เห็น (ได้อ่านเรื่องของม.จ. สิทธิพร กฤดากร ในชีวิตและผลงานของม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน หรือยังครับ) นั่นน่ะทรงเป็นพระเอกตัวจริง ในโลกแบบไทยๆที่สิ่งแวดล้อมทางสังคมเป็นอุปสรรคตรงคนส่วนใหญ่ด้อยการศึกษา มีความเข้าใจประชาธิปไตยแค่สิทธิที่จะไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง แลกกับสินน้ำใจจากผู้สมัครเป็นธนบัตร และสัญญาลมๆแล้งๆว่าจะทำให้ร่ำรวยกันได้ทั้งแผ่นดิน นักการเมืองที่มีอุดมคติ เป็นสุภาพบุรุษและมีธรรมชาติของสันติชนที่ไม่นิยมใช้วิธีการรุนแรงให้ได้มาซึ่งอุดมการณ์ของตน ทำงานเพื่อชาติและประชาชนได้เท่าท่านสิทธิพรก็ประเสริฐที่สุดแล้ว

หรือมิฉนั้นมีอีกแนวหนึ่งหากเลือกเป็นนักเขียน รุ้งคงได้เขียนวิพากษ์รัฐบาลได้อย่างสะดวกมือ เพราะทุกวันนี้สื่อมีเสรีภาพแทบจะไร้ขอบเขต แต่จะบานปลายไปถึงจัดตั้งกลุ่มผู้ร่วมอุดมการณ์ขึ้นมาสักสีหนึ่งหรือไม่ อย่าไปสนใจเลยครับ พระท่านว่าเป็นเรื่องอจินไตย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 31 ธ.ค. 09, 15:48

เมื่ออ่านชีวิตของรุ้งจบลง  เป็นครั้งที่ ๓   ดิฉันเกิด "อิน "จนไม่ยอมให้รุ้งตาย    มีอย่างหรือ  จะมาบอกกันสั้นๆว่าอำลาไปสู่ความตาย อย่างนี้ไม่ได้ 
เสียความรู้สึกคนอ่าน อย่างน้อยหนึ่งคน

ต้องสร้างรุ้งขึ้นมาในจินตนาการของตัวเอง เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ

รุ้งถูกจับกุมคุมขังอีกครั้ง ในข้อหาเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล ด้วยหนังสือที่เขาเขียน   แต่จะผิดตรงไหนศาลพิเศษก็ระบุไม่ได้เต็มปากเต็มคำ      เอาเป็นว่าผิดก็ต้องผิด
รุ้งก็ได้เดินกลับไปสู่ "บัณฑิตวิทยาลัย" อีกครั้ง      แต่คราวนี้ไม่นานเท่าคราวแรก    เมื่อรัฐบาลจอมพลป. พ้นอำนาจไป  รัฐบาลใหม่ก็ปลดปล่อยนักโทษการเมือง
รุ้งมีสิทธิ์กลับเข้ารับราชการได้    ในกระทรวงธรรมการ  ตำแหน่งหน้าที่เดิมคอยอยู่     แต่รุ้งสิ้นอาลัยกับระบบราชการเสียแล้ว
เขายังไม่พร้อมจะออกไปทำการเกษตร    อย่างหนึ่งคือยังไม่มีที่ดินของตัวเอง    สองคือห่วงน้าสะอาดผู้มีพระคุณ และสาม  มีอุไรวรรณซึ่งได้สติขึ้นมาแล้ว  สามัญสำนึกกลับคืนมา รอคอยจะร่วมชีวิตกับรุ้งอยู่

อำนวย  กลับมามีบทบาทอีกครั้งในฐานะสื่อมวลชนใจเพชร   พ้นจากโทษมาได้ก็รวบรวมบรรดานกน้อยในไร่ส้มมาได้กลุ่มหนึ่ง  ร่วมอุดมการณ์เดียวกันคือ เป็นหมาเฝ้าบ้านให้ประชาชน   คอยส่งเสียงเตือนเมื่อเห็นรัฐบาลกำลังจะทำไม่ชอบมาพากลกับประชาชน
แน่นอนว่า อำนวยชวนรุ้งไปเป็นคอลัมนิสต์   สานต่อเรื่อง The Sight of Future Siam  มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้ชาวต่างประเทศในไทยได้อ่านรู้เรื่องด้วย

รุ้งแต่งงานกับอุไรวรรณ มีลูกชาย ๑ คน  มีชีวิตครอบครัวที่ราบรื่น เป็นสุขตามอัตภาพ   ชีวิตครอบครัวของรุ้งน่ารักมาก เป็นกำลังใจให้รุ้งประคองตัวอยู่ได้ไม่ว่าพายุภายนอกจะหนักหนาปานใด

วาดฝันมาได้ถึงตอนนี้    ก็หยุดกึก เพราะยังคิดต่อไม่ออกว่า ในเหตุการณ์ "กบฏสันติภาพ" พ.ศ. ๒๔๙๕    รุ้งควรจะโดนด้วยไหม   
ถ้าโดนจะหนักหนาไปหรือเปล่าสำหรับพระเอกของเรา

ขอไปฉลองปีใหม่ก่อนแล้วจะกลับมาเล่าต่อ  ว่าตัดสินใจให้รุ้งในภาคจินตนาการของผู้อ่าน  จะไปต่อยังไงกันแน่
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 31 ธ.ค. 09, 19:06

โอ้โห...... นี่ผมต้องรอไปปีหน้าแล้วสิ

กว่าจะได้อ่านตอนต่อไป แหม..กำลังสนุก



สวัสดีปีเก่าครับ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 01 ม.ค. 10, 00:02

สวัสดีปีใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 05 ม.ค. 10, 15:57

สวัสดีปีใหม่ค่ะ 
กว่าจะกลับมาเล่าต่อได้ ก็เลยปีใหม่ไป ๕ วัน     คุณรุ้งคงเมื่อยเอาการ

หนังสือThe Sight of Future Siam  กลายเป็นตำราการเมืองไทย ที่ชาวต่างประเทศให้ความสนใจเป็นพิเศษ 
หลังจากอำนวยส่งไปพิมพ์ที่เซี่ยงไฮ้  หนังสือเล่มนี้ก็วางขายในสิงคโปร์  อินเดีย  ไต้หวัน และข้ามทวีปไปถึงอังกฤษ
แต่ในประเทศไทย  คนไทยอ่านกันน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม  คนจำนวนน้อยที่ได้อ่านเรื่องนี้ ก็กลายมาเป็นผู้อ่านประจำของคอลัมน์ที่รุ้งเขียนลงในหนังสือพิมพ์รายวัน "ผดุงวิทยา ใหม่" หนังสือพิมพ์ที่อำนวยเป็นเจ้าของและบรรณาธิการ 
ผดุงวิทยา ใหม่ ถึงกับต้องเปิดคอลัมน์พิเศษ ๑ หน้า ให้รุ้งได้โต้ตอบกับชาวต่างประเทศ และปัญญาชนไทยที่เขียนมาแลกเปลี่ยนความเห็นกับเขา
บ้านน้อยของรุ้ง ปลูกอยู่ตรงมุมหนึ่งของบ้านเจ้าคุณมหาเทวา  ที่ศาลาแดง    ก็สร้างจากเงินที่รุ้งได้รับจากหนังสือเล่มนี้  บวกกับรายได้ประจำจากการเขียนหนังสือ  ทำให้เขาพอจะเลี้ยงภรรยาและลูกชายได้ 

คำถามจากคนอ่าน ที่ทำให้รุ้งเพลิดเพลิน   ไม่ใช่ถ้อยคำเชิงสรรเสริญยกย่อง ที่ทำให้รุ้งรู้สึกว่า เป็นของหวานที่ทำให้อิ่มในอารมณ์    แต่ไม่ใช่อาหารจานหลักที่จะทำให้สมองเจริญเติบโต
เขาชอบคำถามที่คนเขียนมา ในเชิงแย้ง  มากกว่า
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 06 ม.ค. 10, 07:56

And they all lived happily ever after ?[/size]

รุ้ง น่าจะโดนอะไรหนักๆอีกสักที จะได้รู้ว่าชีวิตคนเรานั้น สุขก็ชั่วคราว ทุกข์ก็ชั่วคราว ไม่มีอะไรถาวร บังคับไม่ได้ อยากให้เกิดมันก็ไม่เกิด ไม่อยากให้เกิดมันก็เกิด เกิดมาแล้วอยากให้อยู่นานๆมันก็ไม่อยู่ อยากให้ผ่านพ้นไปเร็วๆมันก็ไม่ผ่าน ถ้ารุ้งไม่เห็นทุกข์ ก็จะไม่เห็นธรรม

คนมีปัญญา ครั้นเห็นธรรมะแล้ว ก็ต้องเห็นว่า งานการในโลกนี้ล้วนเป็นภาระที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น คนที่ยึดอยู่ถืออยู่ก็เสมือนคนที่แบกของหนักเอาไว้ เมื่อใดเห็นว่า มันหาสาระที่แท้จริงไม่ได้แล้ววางลง เมื่อนั้นก็สิ้นทุกข์

เมื่ออ่านมาได้2ตอนนี้ ผมมองข้ามช๊อตไปแล้วอยากให้รุ้งปล่อยวาง ชีวิตในโลกหาอะไรเป็นสรณะไม่ได้แม้จะต้องดิ้นรนตลอดชีวิต แต่ถ้ารุ้งปิดฉากทางโลกในขณะที่ยังสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ เอากำลังวังชามุ่งแสวงไปในทางธรรม คนอ่านที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็อาจสาธุแล้วหายไปหมด

แต่คนอย่างรุ้งก็คงไม่ว่าอะไร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 06 ม.ค. 10, 09:27

ไม่ได้ค่ะ คุณ N.C.  ขอค้าน
๑    เท่าที่เจอมา ยังไม่หนักพออีกหรือ?   จะถล่มรุ้งไปถึงไหนกัน   การทำให้ตัวละครต้องทกุข์ยากซ้ำซ้อนจนเกินการณ์ จะทำให้เรื่องกลายเป็นเมโลดราม่าไปได้ง่ายๆ
การเขียนแนวนี้เคยทำกันมาแล้ว  เรียกว่า Naturalism    ตัวละครล้วนแต่เคราะห์ร้ายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด      แต่แนวนี้ก็หมดความนิยมไปนานแล้ว
๒    มนุษย์เรานั้นมี mission ติดตัวมาตั้งแต่เกิด     ภารกิจของใครก็ของคนนั้น  ไม่ซ้ำกัน    บางคนอาจมีภารกิจง่ายๆแค่เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ดูแลลูกบ้านไม่กี่ครัวเรือน      แต่บางคนก็กว้างใหญ่กว่านั้น เช่นเสนออุดมการณ์หรืออุดมคติให้โลกรู้จัก      ถ้าหากว่ายังทำหน้าที่ได้ไม่ครบ  แล้วถอนตัวไป    เกิดใหม่ก็ต้องมา รีเอ๊กแซมกันอีก  วนเวียนไม่รู้จบ
ถ้าจะออกบวชไปง่ายๆ     ชีวิตรุ้งนอกจากไม่มีใครอยากอ่านแล้ว คนเขียนก็ไม่อยากเขียน

ขอวิสัชนาต่อ

มีคนเขียนมาถามรุ้งว่า  อุดมคติของเขาว่ารัฐมีหน้าที่จัดหางานที่เหมาะสมให้ประชาชน โดยอาศัยคำแนะนำของนักจิตวิทยา   ประชาชนคนไหนถนัดทางไหนก็ทำงานอย่างนั้น  เขานึกบ้างไหมถึงสัดส่วนที่เหมาะสมของคนในรัฐ   
ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐ  ถูกนักจิตวิทยาตัดสินว่า ถนัดในทางใช้แรงงานแบกหาม     ส่วนน้อยที่ถนัดค้าขาย คิดเลขบัญชี    ถ้าอย่างนั้นรัฐก็จะหนักไปทางผลิตงานโยธา   มีแรงงานมากมาย  แต่ไม่มีเงินที่จะหมุนเวียน  แล้วประเทศจะพัฒนาไปทางไหน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 11
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 19 คำสั่ง