ม.ร.ว.นิมิตรมงคล ได้ผสมผสานประสบการณ์และทัศนะของท่านลงในชีวิตของรุ้ง อยู่มาก จนคนอ่านทั่วไปที่ไม่รู้จักม.ร.ว. นิมิตรมงคล อาจแยกไม่ออกว่าส่วนไหนคือท่านและส่วนไหนคือรุ้ง จะวิจารณ์พฤติกรรมของรุ้ง ก็จะกลายเป็นวิจารณ์พฤติกรรมของผู้แต่ง ไปโดยปริยาย
ผมมีโอกาสศึกษาชีวิตของคนสองคนนี้ แม้จะไม่ได้พบตัวตนเป็นๆทั้งคู่เพราะคนหนึ่งเป็นตัวละครในนิยาย แต่อีกคนหนึ่งนั้นผมเกิดช้าไปหน่อย แต่เรียกว่าได้ข้อมูลเพียบ จากคนที่รู้จักท่านดีหลายคนด้วยกัน สามารถยืนยันได้ว่าความรู้สึกนึกคิดของคนทั้งสองคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน รุ้งเป็นนักอุดมคติ จะเป็นจริงได้ก็ในโลกแห่งอุดมคติเท่านั้น ส่วนคนที่สร้างรุ้งขึ้นมา เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
และพยายามที่จะมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขท่ามกลางความเป็นจริงที่เป็นไปในขณะนั้นน่าแปลกว่า บัณฑิตทางชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเอาวิชานั้นมาใช้ทำมาหากินอย่างไร
ถ้าสยามไม่มีเอกชนที่รับนักชีววิทยามาทำงานโดยตรง วิชาอื่นๆที่รุ้งเองรู้อย่างดี เช่นภาษาอังกฤษ หรือวิทยาศาสตร์เบื้องต้น หรือแม้แต่คำนวณชั้นสูง จะช่วยให้เขาหางานทำไม่ได้เลยหรือ อย่างน้อยรับเป็น tutor คือครูสอนตามบ้าน ก็คงจะมีรายได้ประจำ มากน้อยก็พอเลี้ยงตัวได้
ในความเป็นจริงที่บุคคลทั้งสองมีชีวิตร่วมสมัยกัน ไม่มีค่อยจะมีเอกชนทั้งบริษัทและบุคคลที่ไหนกล้ารับพวกกบฏที่เพิ่งจะพ้นโทษออกมาใหม่ๆให้ทำงาน นายทหารที่ปฏิเสธความเอื้อเฟื้อของรัฐมนตรีกลาโหมที่จะช่วยเหลือให้กลับเข้ารับราชการ หลายคนได้ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดและทำการค้าขายเลี้ยงชีพ จำนวนหนึ่งในนั้นสันติบาลตามไปยัดข้อหาให้กลับมาติดคุกในคดีกบฏพระยาทรงอีก สามคนตายขณะถูกจับกุมอย่างมีเงื่อนงำ ม.ร.ว.นิมิตรมงคลนั้นหลังจากที่หนังสือตำรารัฐศาสตร์"พรรคการเมืองสยามและต่างประเทศ"ที่ตนเขียนถูกยึดจากโรงพิมพ์ไปเผา ก็ต้องยอมงอไม่ยอมหัก หันกลับไปสมัครงานแบบไม่มีเส้นที่กรมชลประทานประกาศรับสมัครทั่วไป กระนั้น เรื่องก็ยังถูกส่งขึ้นไปให้พันเอกพระยาฤทธิ์อาคเนย์รัฐมนตรีเกษตรขณะนั้นอนุมัติพร้อมกับของอดีตนักการเมืองอีกคนที่สมัครเข้ากรมสหกรณ์
ต่อมาพระยาฤทธิ์อาคเนย์ถูกกล่าวหาโดยตรงด้วยวาจาจากหลวงพิบูลว่าเอาใจช่วยอดีตกบฏซึ่งท่านตกใจมาก ท่านตอบว่าทำไปเพราะเห็นแก่มนุษยธรรมและเห็นว่าหลวงพิบูลก็ยังทำเป็นตัวอย่าง เรื่องเดียวกันนี้มีพยานเท็จไปปรักปรำในศาลพิเศษว่าม.ร.ว.นิมิตรมงคลไปบ้านพระยาฤทธิ์อาคเนย์เพื่อของานทำที่กรมชลประทาน ครั้นถูกซักว่าเคยเห็นหรือรู้จักกันที่ไหนเมื่อไหร่ พยานกลับลังเลแล้วบอกว่าความจริงแล้วไม่ได้เห็นแต่ได้ยินมา ม.ร.ว.นิมิตรมงคลรับว่าไปสมัครทำงานที่กรมชลประทานจริงแต่ไม่รู้จักหรือเคยพบพระยาฤทธิ์อาคเนย์เลย ความจริงก็ทำงานนี้ได้สักเดือนหนึ่งกระมังก่อนที่สันติบาลจะตามไปจับตัวมาจากอยุธยา แสดงว่าการให้งานแก่อดีตกบฏ เป็นเรื่องที่อาจคอขาดบาดตายได้
จากสิ่งแวดล้อมดังกล่าวคงทำให้รุ้งไม่มีทางเลือกมากนัก แต่หลังจากเลิกคิดเป็นพ่อค้า ได้ฝากความหวังไว้กับการเขีบนหนังสือขายแต่สันติบาลก็ยึดจากโรงพิมพ์ไปอีก รุ้งก็มิได้ทำตัวไม่ให้ถูกผู้มีอำนาจเพ่งเล็งเพราะไม่อยากติดคุกอีกด้วยการยอมไปเป็นลูกจ้างทางราชการเช่นม.ร.ว.นิมิตรมงคล แต่ได้ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าเพราะอุดมคติในเรื่องของความรักเป็นเหตุ เผอิญสันติบาลมาตัดบทเสียอีก