ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน มีปฏิกริยาอย่างไรหลังจากฟังคำพิพากษาจบ
เชื่อไหมว่า ท่านหัวเราะ
พอศาลอ่านคำพิพากษาจบ ข้าพเจ้าก็หัวเราะขึ้น ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่หัวเราะบ่อย ๆ นาน ๆ ข้าพเจ้าจึงจะรู้สึกรื่นเริงหรือขบขันพอที่จะหัวเราะ คำพิพากษาของศาลพิเศษนี้เป็นเรื่องน่าขบขัน มันเป็นเรื่องที่ผู้พิพากษาแกล้งเขียนใส่ร้ายจำเลย แม้แต่ในกระทงความผิดที่หลักฐานของโจทก์อ่อนไป ศาลช่วยสอดข้อความเพิ่มเติมให้ โดยข้อความนั้นไม่ปรากฎอยู่ในสำนวน และศาลช่วยแปลเจตนาของจำเลยให้เป็นประโยชน์แก่โจทก์ นอกเหนือไปจากข้อความที่โจทก์นำพยานมาสืบ กล่าวโดยสรุปว่าแทนที่ศาลจะเป็นผู้รักษาความยุติธรรม ศาลกับโจทก์ได้ร่วมมื่อกันเขียนคำพิพากษา เลือกเอาแต่ที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าจำเลยเป็นกบฏจริงตอนหนึ่งจากหนังสือ ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง
ขออนุญาตนำเพลง
"เธอผู้เสียสละ" แต่งโดย ศักดิ์สิทธิ เชื้อกลาง (เศก ศักดิ์สิทธิ์) แห่งวงคุรุชน มาประกอบบรรยากาศของการตัดสินคดีครั้งนี้
รุ่งเช้าวันหนึ่งแจ่มใส
เธอพาดวงใจของเธอก้าวมา
แผ่วเบาเหมือนดังลมพา
เธอเริ่มแสวงหาในสิ่งที่ควร
เธอยังใหม่ในศึกษา
ได้ปรารถนาศึกษาโซ่ตรวน
ผูกมัดรัดตรึงทุกส่วน
จนเธอผันผวนในสังคม
เธอได้พบสิ่งใหม่
ที่ชูใจให้ชื่นชม
สลัดทุกข์อันแสนเศร้าตรม
หลุดหายไปในชีวี
แสงเจิดจ้าผ่องใส
ชูผู้นำชัยเรืองรองทั่วไป
เธอมีความสุขใจ
มวลชนพ้นภัยอยู่สุขชื่นบาน
และเธอก็ถูกกล่าวหา
เป็นกบฏชั่วช้าคิดคดการณ์ไกล
กบฏหรือคือผู้นำชัย
เข่นฆ่าโพยภัยหมดสิ้นดินทองเนื้อหาของเพลงอาจไม่ตรงกับเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน อาจถือได้ว่าเป็นนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยชีวิต ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ในขณะที่ตัวจริงของท่านคือนักอุดมคติผู้ปรารถนาสร้างเข็มทิศชี้ทางเดินไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองแห่งชีวิตของอนุชน
