เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
อ่าน: 30588 ชาติพันธุ์วรรณา ในขุนช้างขุนแผน (๓)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 19:23

น่าสงสารนางสร้อยระย้า    กวีผู้ปูเรื่องให้นางมาเป็นนางเอกของพลายชุมพล เห็นจะแต่งไว้แค่ได้แต่งงานกัน   
จากนั้นเกิดชะงัก    ไม่มีเนื้อเรื่องจะพัฒนาต่อไปได้  เลยจบแค่นั้น
แทนที่จะมีลูกชายไว้สืบยี่ห้อพลายอีกคน  เอาไว้เล่นบทบาทเข้าชุดกับพลายเพชร พลายบัว   ก็ปรากฎว่าพลายชุมพลตายเอาดื้อๆ   ตั้งแต่อายุไม่ทันแก่เฒ่า  นางสร้อยระย้าเลยต้องปิดฉากเข้าโรงไป   น่าเสียดาย   
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 19:55

คุณเทาชมมพูคะ

เนื่องจากท่านผุ้ฟังเรียกร้อง     ท่านผู้แต่งเสภาก็ยืดไปเรื่อยๆค่ะ


ตอนที่ ๔๕  หน้า ๖๐ ว่า พลายชุมพลกับนางสร้อยระย้าไม่มีลูกด้วยกัน  นางกลับไปอยู่เมืองพิมาย




หน้า ๒๒๔

นางสร้อยระย้าเมื่อพลายชุมพลทิ้งไปนางมีท้องอ่อนๆ
นางกลับไปอยู่บ้านพาศ   แล้วคลอดลูกชายชื่อ พลายมณีนาถ 

คลอดบุตรสุดที่รักพักตร์อำไพ                              อายุนั้นก็ได้หลายปีมา
เฉิดฉายชื่อพลายมณีนาถ                                   อยู่บ้านพาดเขตแขวงตำแหน่งป่า
บวชเป็นสงฆ์ทรงศีลอภิญญา                               เรียนวิชาเป็นนักเลงแสนเก่งครัน

ไปเจอศรีมาลากับนางเวสิว     ได้ไต่ถามว่าเป็นใครมาจากไหน


ครานั้นศรีมาลายาใจ                                        ยกมือไหว้พระสงฆ์ผู้ทรงศรี
เล่าความไปตามคดีมี                                        ว่าฉันนี้พลัดบ้านนมนานมา
......................
......................
เป็นเมียพระหมื่นไวยชัยชาญ                                พี่ชายท่านพลายชุมพลเรืองศรี
ครั้งนี้มาญาติกาก็ไม่มี                                       มิรู้ที่จะไปพึ่งผู้ใดใคร ฯ


     ครานั้นพระพลายมณีนาถ                              ใจแทบขาดฟังคำก็จำได้
พลายชุมพลบิดาข้าแน่ใจ                                    ที่โยมเราบอกไว้แต่ก่อนมา
สีกาเล่าสมกับเค้าข้อลิขิต                                    แน่จิตจริงจังเหมือนดั่งว่า
ท่านพระสงฆ์นั้งลงด้วยเร็วรา                                พูดจาตอบความไปตามการ
รูปนี้แลคือบุตรพลายชุมพล                                  ............................
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 20:03

ขอเล่าเรื่องทางนี้รุดไปก่อนนะคะ

นางศรีมาลากับนางเวสิวก็พักอยู่กับนางสร้อยระย้าหลายปี
จนลูกนางเวสิวเกิด ชื่อพลายสุริยัน



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 20:35

แม่ยกนางสร้อยระย้า เข้ามาดีใจ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 21:03

พลายสุริยันพบผ้าพยนต์ในถ้ำลานทอง  ได้วิชา
แล้วไปลักนางบัวทองลูกสาวหมื่นประจญ
พลายสุริยันขอโดยสารเรืออันละมัง
อันละมังคิดฆ่าพลายสุริยัน  โดยผลักตกเหว

ตอนนี้มันมากค่ะ เพราะปีศาขุนไกรและปีศาจขุนแผนมาช่วย พลายสุริยันผู้เป็น อ่า....ลืบ

ขออนุญาตนับก่อนค่ะ
ขุนไกร
ขุนแผน
จมื่นไวยวรนาถ พลายงาม
พลายเพชร
พลายสุริยัน

ถึงขุนไกรใจหาญชาญศักดา                                      ต้องอาญาโทษทัณฑ์ถึงบรรลัย
กับท่านขุนแผนแสนสะท้าน                                       วายปราณตามกรรมส่งนำให้
สองพ่อลูกผูกคิดมีจิตใจ                                           ยังห่วงใยเผ่าพงศ์วงศ์วาน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 21:15

พ่อของพลายสุริยัน  ไม่ใช่พลายยงหรอกหรือคะ ?
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 21:38

พลายยงตายแล้วกลับชาติไปเกิดที่หงสา เป็น นิลมัย  ลูก ศรีเมาะตะเกิง กับนางสร้อยทอง ค่ะ



พลายสุริยันมีพี่ชายอีกคน ชื่อ พลายสังวาลทอง

เจ้าพลายเพชรผู้สำเร็จราชการ                           ได้ผ่านวังเวียงเชียงใหม่
กับเวสิวเมียรักพักตร์นวลใย                              รักใคร่แนบชมภิรมยา
มีบุตรชายชื่อพลายสังวาลทอง                           ผุดผ่องผิวหนังมังสา
บิดารักใคร่ให้วิชา                                         อายุเข้าสิบห้ากำลังดี



อ้ายตัวร้ายพลายยงที่องอาจ                             พยาบาทพลายบัวตัวกลั่นกล้า
ชีพดับกลับไปทนเวทนา                                   สิ้นกรรมมาบังเกิดในเมืองมอญ
เป็นบุตรแม่สร้อยทองผ่องพักตร์                         เมียรักศรีเมาะตะเกิงดวงสมร
ชื่อว่านิลมัยในเมืองมอญ                                 อรชรกำลังงามสิบสามปี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 21:44

ตามเรื่องไม่ทัน

พลายยงลูกชายสร้อยฟ้ากับพระไวย  ไปได้เจ้าหญิงจีนจากอ้ายมุ้ย ชื่อเวสิว   
กงจู๊เวสิวเธอก็มาอยู่ในสยาม กับศรีมาลา   ซึ่งไม่ได้เป็นญาติโยมอะไรของเธอเลย  เพราะเธอเป็นลูกสะใภ้ของสร้อยฟ้าต่างหาก
แล้วพลายยงตายเพราะอะไรคะ  ถึงไปเกิดใหม่เป็นนิลมัย

กวีก็ช่างกระไรเลย  ตั้งชื่อแม่ของนิลมัยว่าสร้อยทอง  ซ้ำกับพระธิดาเจ้าล้านช้าง  ทำเอาสับสน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 22:10

หลวงต่างใจ  พลายเพชร   พลายบัว  เข้าเมืองเชียงใหม่
นางสร้อยฟ้าวอนขอชีวิตรต่อพลายเพชร
ปรึกษาโทษนางสร้อยฟ้าและพลายยง
หลวงต่างใจขึ้นครองเมืองเชียงใหม่




หน้า ๑๖๒   ค่ะ

สร้อยฟ้า
จงโปรดปรานขอประทานซึ่งชีวา                                 แม่ลูกเป็นข้าจนวางวาย



     พลายยงทรงฟังสร้อยฟ้าว่า                                 ยิ่งคิดแค้นมารดาไม่เหือดหาย
เกิดเป็นตัวแล้วไม่กลัวซึ่งวางวาย                                ใครใครมันก็ตายอยู่เหมือนกัน
หรือคนอื่นจะยืนอยู่ค้ำฟ้า                                         ถึงเทวดาพรหมอินทร์ถิ่นสวรรค์
ดินฟ้าป่าเถื่อนเดือนตะวัน                                        ถึงกำหนดแล้วมันคงมรณา
ความตายอยู่กับปลายจมูกดอก                                 อย่าอ้อนวอนย้อนยอกเลยแม่ขา
................................
.................................

จึงกำทรายมาปรายลงตรงหน้า                                  เกิดมาขอให้พบกับมึงใหม่
ล้างผลาญกันทุกเม็ดทรายไป                                    จนถึงซึ่งจะได้พระนิพพาน



หน้า ๑๖๓
นางเวสิวขวัญฟ้ายอดยาใจ                                       เจ้าพลายเพชรก็ได้ไว้เป็นเมีย

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 22:13

เปิดหนังสือตอบยังสะดุ้งเลยค่ะ

เกรงตอบผิด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 22:35

คุณหลวงเล็กบอกไว้ในค.ห. 41 ว่า

อ้างถึง
มีเสภาขุนช้างขุนแผนภาคปลายที่กรมศิลปากรชำระต่อจากที่หอพระสมุดฯ ชำระ อยู่ตอนหนึ่งกล่าวถึงพลายยงลูกสร้อยฟ้าอาสาสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ(พระเจ้าแผ่นดินที่ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระพันวษา)ไปรบที่เมืองอ้ายมุ่ย (เมืองปลายอาณาเขตของจีน) และได้นางเวสิวลูกเจ้าเมืองอ้ายมุ่ยเป็นเมีย  เป็นตอนเดียวที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับจีน  ไม่ทราบว่า  ควรจะนำมาเล่าไว้ในกระทู้นี้ไหม  เพราะอาจมีคนที่ไม่เคยรู้จักหรืออ่านเสภาตอนนี้ จะได้ทราบ

ดิฉันติดตามเรื่องที่คุณวันดีเล่า  ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องเป็นแบบนี้หรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่าพลายเพชรพลายบัวไปรบกับพลายยงตอนไหน
เดาว่าเรื่องเป็นอย่างนี้
พลายเพชรกับพลายบัว สมทบด้วยหลวงต่างใจซึ่งเป็นอา  คงจะไปรบกับพลายยงที่เชียงใหม่ ด้วยเรื่องอะไรไม่รู้  ยังไม่มีใครบอก
ตอนนั้นเจ้าเชียงอินทร์ผู้เป็นตา คงตายไปแล้วละมัง  ถึงไม่มีบทให้กล่าวถึง

ก่อนหน้านี้พลายยงอาสากษัตริย์อยุธยาไปรบถึงเมืองจีน ได้นางเวสิวมาเป็นภรรยา  พากลับมาเชียงใหม่  (หรืออยุธยาก็ไม่รู้)  มีลูกกันหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เดาว่าไม่มี
ทีนี้ก็เกิดศึกในเชียงใหม่   หลวงต่างใจพาหลานชายไปรบ    พลายยงรบแพ้พลายเพชรพลายบัว  แต่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ   ก็เลยตาย(เพราะถูกประหารหรือกลั้นใจตาย หรือตายเพราะอะไร ก็ไม่รู้)
พลายเพชรได้เป็นผู้สำเร็จราชการเชียงใหม่  เลยได้ภรรยาของพลายยงเป็นบำเหน็จตกทอด    มีลูกชื่อพลายสังวาลทอง
ต่อมามีลูกอีกคนชื่อพลายสุริยัน
นางเวสิวมีสามี ๒ คน แต่ลูกชาย ๒ คนไม่ใช่คนละพ่อ  เกิดจากพ่อเดียวกันคือพลายเพชร

แต่จะด้วยอะไรก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน  เปิดมาอีกฉาก คุณวันดีเล่าว่านางเวสิวกับนางศรีมาลา พเนจรกับไปสองคน จนไปเจอพลายมณีนาถลูกกำพร้าของพลายชุมพล  เกิดจากนางสร้อยระย้า
ตอนนั้นพลายเพชรพลายบัวไปไหนก็ไม่รู้  แล้วทำไมผู้หญิงสองคนนี้ไม่อยู่เชียงใหม่ ก็ไม่ทราบ

อ้างถึง
นางศรีมาลากับนางเวสิวก็พักอยู่กับนางสร้อยระย้าหลายปี
จนลูกนางเวสิวเกิด ชื่อพลายสุริยัน

นางเวสิวจะอยู่กับนางสร้อยระย้าหลายปีจนพลายสุริยันเกิดไม่ได้     อยู่ได้อย่างมากแค่ ๘ เดือน ลูกชายถึงเกิด  เพราะต้องท้องก่อนหน้านี้แล้ว
ระหว่างหลายปีนี้ พลายเพชรต้องอยู่ด้วย  ถ้าไม่อยู่ด้วย   ภรรยาจะท้องขึ้นมาได้ยังไงกัน
หรือเป็นอีกอย่างคือไปพักกับนางสร้อยระย้าไม่กี่เดือน ก็คลอดลูกชายออกมา   จากนั้นอยู่ต่ออีกหลายปี  ไม่ยักกลับไปหาสามี   หรือพลายเพชรจะตายไปแล้ว?

เป็นรายการร้อยคำถามค่ะ     โปรดอย่าเพิ่งเหนื่อยนะคะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 16 พ.ย. 09, 22:52

คห ที่ ๔๗  ตอบพลาดค่ะ     

อยู่มาจนลูกเกืด  และอาศัยต่อมาอีกหลายปี


ที่พลัดกันเพราะเณรจิ๋วเผาเมืองเชียงใหม่ค่ะ




บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 17 พ.ย. 09, 09:05

จะขอแจ้งแต่งความตามเรื่องเก่า      มีสำเนาแต่โบราณเป็นนานที่
ว่าปักกิ่งกับไทยผูกไมตรี                 ได้เป็นที่ชอบจิตไม่บิดพลิ้ว.

มาข้าจะขอกล่าวเป็นราวเรื่อง.....

กล่าวถึงเมืองตังจิ๋ว เจ้าเมืองชื่อจอจิหลัง  มีเมียชื่อนางสีจุหลีงิว  และมีลูกสาวสวยชื่อนางเวสิว  เจ้าเมืองตังจิ๋วปกครองเมืองเป็นสุขมาจนกระทั่ง เดือนสี่ปีระกา (ไม่รู้ว่าเลขศักราชอะไร)  เจ้างวนบุนเจ๋ง เจ้าเมืองอ้ายมุ่ยและกุยตั๋ง มีน้องชายชื่อจาหลีบุน  ทั้งสองคุมกำลังพลห้าพัน ขี่ม้า มีอาวุธครบมือ เข้าตีบ้านเมืองมาเรื่อยจนถึงเมืองตังจิ่ว   ก็ให้ทหารตั้งค่ายล้อมเมืองตังจิ๋วไว้   

ฝ่ายเจ้าเมืองตังจิ๋วเห็นทัพเมืองอ้ายมุ่ยกับเมืองกุยตั๋งมาตั้งล้อมเมืองอยู่ก็เป็นทุกข์ใจ  ด้วยเมืองตังจิ๋วเป็น"หัวเมืองบ้านนอกขอกนา" ที่ขึ้นกับกรุงปักกิ่ง  แต่ครั้นจะแต่งบอกไปแจ้งให้กรุงปักกิ่งทราบข่าวและยกทัพมาช่วยเมืองตังจิ๋ว  ก็ติดว่าข้าศึกมาตั้งค่ายล้อมไว้หมด  ไม่มีทางที่จะส่งม้าเร็วม้าใช้ออกไปส่งหนังสือได้  คงเหลือแต่ประตูเมืองที่ติดกับทะเล  ซึ่งเสภาแต่งว่า

ยังคงมีแต่สำเภาเข้าประตู     ปักกิ่งอยู่ไกลเถื่อนสามเดือนปลาย
นับทั้งไปทั้งมากว่าเจ็ดเดือน  ไพร่ก็เกลื่อนตายริบถึงฉิบหาย
เห้นจะไม่พ้นได้ในความตาย   ยังนารายณ์หน่อท้าวเจ้าอยุธยา
กับกรุงปักกิ่งนั้นผูกพันธมิตร   เราแจ้งกิจสารไปเห็นง่ายกว่า
ถ้าสำเภาจะใช้ใบไปมา         กำหนดท่าใกล้หน่อยได้น้อยวัน.

จอจิหลังจึงมอบหมายให้กองเกี๋ยกับกองไหลถือสารและคุมเครื่องบรรณาการลงสำเภาล่องไปกรุงศรีอยุธยา  สำเภาเมืองตังจิ๋วแล่นมาในทะเลได้ ๑๕-๑๖ วันก็ถึงกรุงศรีอยุธยา  กองเกี๋ยกับกองไหลจึงนำเรือสำเภาจอดที่ท้ายคูเมือง แล้วแจ้งกิจที่มาแก่ขุนท่องสื่อ หมื่นท่องสื่อ   ขุนท่องสื่อ หมื่นท่องสื่อ นำไปแจ้งแก่พระยาโชดึก พระยาโชดึกทราบความแล้วรีบเข้าเฝ้านำสารนั้นกราบทูลแด่สมเด็จพระจักรพรรดิทันที  ในสารนั้นเนื้อความหลักคือเมืองตังจิ๋วประสงค์จะขอกำลังเมืองอยุธยาไปช่วยตีข้าศึกเมืองอ้ายมุ่ยกับกุยตั๋งที่มาล้อมไว้

สมเด็จพระจักรพรรดิทรงทราบสารดังนั้นก็รับสั่งว่าจะให้พลายยงลูกชายของสร้อยฟ้า  นำกำลังพลไปช่วยเมืองตังจิ๋ว  ด้วยเหตุผลว่า

ด้วยมันเป็นเชื้อชาติทหารใหญ่   นอกนั้นไม่เห็นใครจะฝ่าฝืน
ถึงปู่มันพ่อมันก็ยั่งยืน               ฆ่าคนกว่าหมื่นภัยไม่มี.

(ตระกูลพลายทั้งสามรุ่นนี่  มีเหตุต้องออกอาสาไปรบเพราะความที่อยู่ในตระกูลทหารแท้ๆ กับไม่มีใครที่ทรงเห็นว่าเหมาะที่จะไปรบ)

ว่าแล้วก็รับสั่งให้ไปตามตัวพลายยงมาเฝ้า  ตำรวจหน้าได้รับรับสั่งก็ไปตามพลายยงที่ละแวกวัดซอง ? ให้รีบเข้าเฝ้า  พลายยงเข้าเฝ้าแล้วกราบทูลว่ายินดีเต็มใจจะอาสานำทัพไปช่วยเมืองตังจิ๋วรบกับข้าศึก  แล้วพลายยงก็ออกกราบบังคมลามาจัดทัพไพร่พลห้าร้อยกับสัมภาระลงสำเภา พลายยงกลับมาลานางสร้อยฟ้าผู้เป็นแม่เพื่อขอพร  นางสร้อยฟ้าอวยพรและสอนว่า  เจ้าไปอย่าเห็นแก่ทรัพย์สีน (เป็นคำสอนสั้นๆ แต่ดีมากทีเดียว)  แล้วพลายยงก็นำไพร่พลลงสำเภาที่ท้ายคูเมือง  แล้วก็ได้เวลาฤกษ์ออกเดินทาง  เอากลอนมาขัดจังหวะสักหน่อย

บรรทุกเสร็จเป็ดไก่ไหว้ย่านาง      ปืนวางผางผึงตึงลั่น
แผ่งฉ่าม้าล่อถอนสมอพลัน         สำเภาตังจิ๋วนั้นรันออกมา
สายสมอช่อชักสำเภาไป            นายใบหัวท้ายผายผันหา
ร้องเพรียกลาโลโฮเฮมา             เอโลอ่ายล่าเซ็งแซ่อึง....

สำเภาเดินทางรอนแรมในทะเลมาประมาณ ๑๕-๑๖ วันก็คงถึงเมืองตังจิ๋ว

เอาเท่านี้ก่อน  พอดีมีงานด่วนเข้า  ขอไปทำงานก่อนแล้วจะเล่าให้อ่านต่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 17 พ.ย. 09, 10:47

อ้างถึง
กล่าวถึงเมืองตังจิ๋ว เจ้าเมืองชื่อจอจิหลัง  มีเมียชื่อนางสีจุหลีงิว  และมีลูกสาวสวยชื่อนางเวสิว  เจ้าเมืองตังจิ๋วปกครองเมืองเป็นสุขมาจนกระทั่ง เดือนสี่ปีระกา (ไม่รู้ว่าเลขศักราชอะไร)  เจ้างวนบุนเจ๋ง เจ้าเมืองอ้ายมุ่ยและกุยตั๋ง มีน้องชายชื่อจาหลีบุน  ทั้งสองคุมกำลังพลห้าพัน ขี่ม้า มีอาวุธครบมือ เข้าตีบ้านเมืองมาเรื่อยจนถึงเมืองตังจิ่ว   ก็ให้ทหารตั้งค่ายล้อมเมืองตังจิ๋วไว้   


ได้กลิ่นอายของพงศาวดารจีนสมัยต้นรัตนโกสินทร์จนถึงรัชกาลที่ ๔ ลอยมากับขุนช้างขุนแผนตอนนี้     พร้อมกับเกิดคำถาม  ให้คุณม้าหรือคุณโฮฯ หรือท่านอื่นก็ได้
ว่าสำเนียงจีนในเรื่องนี้  เป็นสำเนียงอะไรคะ

สอนประวัติการแปลอยู่    ได้ข้อสังเกตว่าพงศาวดารจีนที่มีตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ - ๔  ชื่อตัวละคร สำเนียงแปลกๆ   แต่รัชกาลที่ ๕ ลงมาถึงรัชกาลที่ ๗  หลายเรื่องสำเนียงแต้จิ๋ว
ถามนักศึกษาที่รู้ภาษาจีน เขาตอบว่าบางเรื่องเป็นฮกเกี้ยน    ไม่ใช่จีนกลาง
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 17 พ.ย. 09, 13:29

มาเล่าเรื่องต่อครับ

ในระหว่างที่สำเภาของพลายยงจะไปถึงเมืองตังจิ๋ว  มีกลอนที่ว่าด้วยดวงดาวในการสังเกตตำแหน่งเมือง น่าสนใจดี จึงเอามาลงให้อ่านดู

ดาวข่างสว่างช่วงดวงโดด     รุ่งโรจน์ระยับจับเวหา
ดาวลูกไก่เป็นหมู่ดูจับตา       ดาวกาเก้าหมู่อยู่เคียงกัน
ดูดาวไถไรรีวิถีจร                 ดูดาวอัศดรจะเห็จหัน
ดาวเต่าเข้าทับระดับกัน         ดาวหามผีนั้นประจำเมือง
พอสำเภาเร้าใบใกล้ปากอ่าว   สังเกตดาวหามผีสีแปลกเหลือง
สีดวงช่วงจรัสจำรูญเรือง        แสงประเทืองเหมือนเยื้องบอกต้นทาง.

เมื่อสำเภาเข้ามาถึงอ่าวเมืองตังจิ๋วก็ตีม้าล่อ  ฝ่ายราษฎรเมืองตังจิ๋วได้ยินดังนั้นก็ทราบว่า กองเกี๋ยกับกองไหลกลับมาแล้วพร้อมพาพวกไทยมาด้วย ก็ดีใจกระโดดโลดเต้นกัน  กองเกี๋ยกองไหลเข้าไปแจ้งข่าวให้จอจิหลังเจ้าเมืองทราบความที่ไปกรุงศรีอยุธยามา  จอจิหลังได้ทราบดังนั้นก็ดีใจสั่งให้จัดการต้อนรับพลายยงอย่างดี  และให้เอาเกี้ยวหามไปรับพลายยงด้วย

พลายยงเตรียมแต่งตัวขึ้นบก  มาดูคนแต่งเขาพรรณนาการแต่งตัวของพลายยงหน่อย
"นุ่งยกกระหนกเพราพราย      คาดสายปั้นเหน่งประดับพลอย
ใส่เสื้อกำมะหยี่สีดำ             สังเวียนกรองทองคำดังหิ่งห้อย
ติดอินทรธนูชูลอย               กรองคอช่อช้อยสุวรรณพราย
เจียระบาดคาดเอวโอบกระหวัด   กะทัดรัดอร่ามงามเฉิดฉาย
ห้อยหน้าผ้าทิพย์เชิงชาย       กรวยกรองลองลายโสภา
ใส่แหวนเพชรเม็ดนิลจินดาดวง  มรกตรุ้งร่วงเรืองค่า
ใส่หมวกฝรั่งมาแต่เมืองลังกา     ถักทองกรองระย้าฝังพลอย
เหน็บกริชมีดตรีมีสง่า            กัลปังหาสีดำน้ำเงินห้อย
ประดับเพชรนิลรายพรายพลอย     ทหารคอยแห่ห้อมล้อมวงไป...

บรรดาเจ๊กจีนเมืองตังจิ๋วมายืนดูคนไทยแน่นทีเดียว (จีนมุง) พลายยงไปพบเจ้าเมืองตังจิ๋ว พลายยงคำนับเจ้าเมือง เจ้าเมืองเห็นพลายยงก็พยุงให้ลุกขึ้น และว่าพลายยงนี้รูปงาม  หากว่าพลายยงกู้เมืองตังจิ๋วให้พ้นมือข้าศึกได้จะยกนางเวสิวลูกสาวให้ พร้อมด้วยเรือสำเภา  พลายยงก็ตอบไปว่า ตนเองอาสามาครั้งนี้ก็เพื่อจะช่วยเมืองตังจิ๋ว  ท่านอย่าได้ร้อนใจอันใด  แม้ข้าศึกจะมามากกว่าสิบเท่า ก็จะฆ่าให้ตายสิ้น  ให้พวกเจ๊กตังจิ๋วเล่นงิ้วดูงิ้วให้สนุกเถิด  พรุ่งนี้บ่ายสามโมงจะยกทัพออกไปรบกับข้าศึก เจ้าเมืองตังจิ๋วได้ฟังก็ยินดี สั่งให้จัดโต๊ะข้าวปลามาเลี้ยงดูพลายยงกับไพร่พล เรามาดูคนไทยไปกินโต๊ะเมืองจีนกัน

อ้ายเหล่าไพร่ไม่เคยจะกินโต๊ะ    โอ้โอะหยิบตะเกียบมันพลิกหัน
คีบผักไม่อยู่ชิ้นหมูมัน               ไม่ทันใจเข้าใส่เอาด้วยมือ
ชิ้นโตโย้เข้าใส่ปากเคี้ยว            หมูเหนียวติดคอร้องครางหือ
บ้างฉวยได้ขาไก่ไว้สองมือ         บ้างถือจอกเหล้าเข้าดื่มเจื๊อก
แกงร้อนหย่อนคอเข้าพอแรง       ที่เมาบ้าหน้าแดงลงนอนเสือก
ถือดาบเงื้อง่าทำตาเหลือก         ถีบเสือกไสโต๊ะโอ๊ะหกไป

เจ้าพลายยงคนดีมีกิริยา             กับจีนอ๋องเมาร่าหาพูดไม่
พอสุริยนสนธยาลงไรไร             กับจีนอ๋องเข้าไปที่นอนพลัน.

ไพร่กับนายนี่มารยาทการกินอยู่ต่างกันมากทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พ.ย. 09, 13:49 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง