เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 8
  พิมพ์  
อ่าน: 33934 Looking for the Royal Family of "Navarat"
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 06 พ.ย. 09, 23:18

คำถามเยอะเหลือเกิน ผมเลือกที่จะถามคุณกองทัพขาวบ้างได้ไหม ข้ออื่นๆเอาไว้เผื่อจะมีท่านอื่นมาช่วยตอบ

รูปนี้เป็นรูปที่เชื่อกันแต่เดิมว่าเป็นพระรูปของพระองค์เจ้าเนาวรัตน์ตอนยังหนุ่มๆ มีบันทึกหลังรูปเช่นกัน ผมเคยเห็นตัวจริงที่หอจดหมายเหตุเลย รูปเก่ามาก แต่ก็พอใช้ได้

1-ถามว่า ท่านที่อยู่ในรูปนี้เป็นบุคคลเดียวกับรูปที่คุณคันพบมาใช่หรือไม่
2-ถามว่า เทียบกับเค้าโครงใบหน้ากับพระรูปของพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ รูปไหนคล้ายกว่ากัน


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 06 พ.ย. 09, 23:30

ลอกมาให้ครับ

ก่อนจะเป็น “บ้านเจ้าพระยา” ในวันนี้ เดิมบริเวณนี้เป็นวังกรมหมื่นสถิตย์ธำรงสวัสดิ์ พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงประทับที่นี่ตลอดพระชนมายุ  หลังจากนั้นได้เคยเป็นที่พักของนายช่างชาวอิตาเลี่ยน ผู้ควบคุมการสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคมอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง  ต่อมารัฐบาลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงซื้อที่สร้างเป็นกรมตำรวจภูธร  ครั้นเมื่อกรมตำรวจภูธรได้ยกไปรวมทำอยู่ในกระทรวงนครบาล จึงว่างเว้นผู้อาศัยอีกคราวหนึ่ง  กระทั่ง สมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินและตึกแห่งนี้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๔๕๙ แก่พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าคำรบ ทายาทราชสกุลปราโมช  ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจภูธรและกรมตำรวจพระนครบาล  เพื่อเป็นสมบัติประจำราชสกุลปราโมช สืบไป   วังแห่งนี้ จึงได้ตกทอดถึงทายาท คือ หม่อมราชวงศ์ถ้วนเถ้านึก  หม่อมราชวงศ์เสนีย์ และหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช  และสืบต่อถึงหม่อมหลวง อัศนี ปราโมช ผู้เป็นเจ้าของในปัจจุบัน

เมื่อไม่มีทายาทท่านใดเข้าใช้ประโยชน์อยู่อาศัย สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่ให้เช่าอาศัยและทำประโยชน์มาเป็นเวลานาน    รวมทั้งเคยเป็นที่เช่าทำการของพรรคประชาธิปัตย์ในปี  ๒๕๑๘-๒๕๑๙ ต่อมา   บริษัท เทลบิช ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวางระบบคอมพิวเตอร์ได้ทำสัญญาเช่าเมื่อปี ๒๕๓๓ ระยะเวลา ๑๕ ปี  และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาเช่าช่วงต่อจากปี ๒๕๓๗  โดยจะสิ้นสุดสัญญาเช่าในปี ๒๕๔๘


บันทึกการเข้า
Whitearmy
อสุรผัด
*
ตอบ: 23



ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 06 พ.ย. 09, 23:59

1. This image can possibly be Prince Navarat.
2. This image is not similar to Prince Navarat.



Top: Prince Chulalongkorn and Princess Chandramonthol
Bottom: Princess Chandramonthol


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 08:29

เอาอย่างนี้นะครับ
ผมดูจำนวนคนเข้ามาเยี่ยมกระทู้นี้ก็ไม่น้อย แต่คงไม่รู้จะเขียนอะไรลง ผมก็กระดากเต็มทีเหมือนเอาแต่เรื่องของตนมาพล่ามอยู่คนเดียว ผมจึงขอเชิญชวนท่านแสดงความเห็นหน่อย แสดงเล่นๆไม่ต้องจริงจังหาผลสรุปอะไร คือบังเอิญท่านเจ้าของกระทู้ไปได้รูปมารูปหนึ่งจากเมืองนอก แล้วกรุณานำเอามาให้เราดูถึงในบ้าน ท่านก็คงอยากจะทราบเหมือนกันว่า พวกเราคิดอย่างไร

รูปแรก เปรียบเทียบบุคคลในรูป A กับ B


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 08:40

คราวนี้มาดูภาพระหว่าง B กับ C

เอาละนะครับ

คำถามที่1--  ในดุลยพินิจของท่าน ระหว่าง A กับ C ใครเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันกับ B


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 08:46

ไม่ง่ายนะครับ

คราวนี้คำถามที่2--ระหว่างAกับC ใครคือบุคคลเดียวกับภาพของท่านที่อยู่ด้านขวามือ

กรุณาแสดงความเห็นหน่อยนะครับ อย่าเข้ามาแล้วผ่านไปเฉยๆ


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 09:55

การดูรูปเด็กที่อยู่ในวัยต่าง ๆ นั้น  ผิดง่าย  เพราะใบหน้ายังไม่เจริญเต็มที่
รูปที่นำมาเปรียบเทียบยังเป็นพี่น้องร่วมบิดา

จะพิจารณาที่พระนาสิก  พระนลาต   พระกรรณ   พระโอษฐ  ก็อาจจะง่ายเกินไป

พิจารณาเส้นพระเกศา  เห็นความแตกต่างเล็กน้อย


สนใจสายพระเนตรว่าตอนนั้นท่านในภาพ   ทรงคิดอะไรอยู่



บอกได้อย่างเดียวว่า เมืองไทยนี้ เก็บรักษาเอกสารและรูปถ่าย แทบไม่ได้เลย
อันที่จริงดิฉันก็แก้ปัญหาของตนเองพอไหว  คือสร้างคลังของตนเองขึ้นมา  และสร้างและพัฒนาสายสัมพันธ์
กับคลังสมบัติของผู้อื่น

ความอายวิ่งเข้ามาชนอยู่เรื่อยๆเมื่อชาวต่างประเทศมาสนใจไต่ถามถึงหนังสือและภาพถ่ายโบราณ
แล้วไม่มีคำตอบให้
ออกจะคุ้นเคยกับความอายอยู่       เกิดอาการหน้าชาแทน
ตอนนี้ก็เริ่มจะหน้าตาย


ขณะนี้มีข่าวว่า ชาวต่างประเทศ สนใจใน วังหน้าของเรามาก
ถามไถ่ไต่สวนไปทั่ว  
กระแสคลื่นในนทีสีทันดรก็กระฉอกกระเซ็น

บางคนก็ทอดสะพานต้นตาลมายังนักอ่านหนังสือโบราณ
ถามถึงนายโหมดและผลงานของท่าน
ตอบไปว่า ท่านโดนริบราชบาตร
ถามอีกว่า  ไม่เหลือรูปเลยหรือ
ตอบว่า  นางน้อยๆของท่านถ้ามีก็ไม่เหลือจ้ะ   คงเข้าวังไปเหมือนนางลาวทองของขุนแผนแสนศักดานั่นแล



อ่านกระทู้นี้ พาลนึกถึงนิทานของแสงทองที่ว่า  ชายนั้นถือสัตย์เยี่ยม    หญิงนั้นภักดียิ่ง(สหายอย่าเพิ่งหลงทาง)
คนสมัยนี้ไม่รู้จักความละอาย

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 10:41

As far as wangna people are concerned, Mom Rabbit was kicked out of a house by Mr. Knox.
How Mom Rabbit was associated with wangna interests me!

ตรงนี้ผมคิดว่าคุณกองทัพขาวคงจะสับสนอะไรสักอย่าง

เรื่องที่หม่อมราโชทัยถูกทำร้ายแบบไม่ไว้เกียรติกันนั้น เป็นข่าวลงในหนังสือพิมพ์ของหมอบลัดเล ซึ่งอ้าง”เขาเล่าว่า” อีกทีหนึ่ง ว่าเหตุเกิดที่บ้านโอบาเร่ย์ กงสุลฝรั่งเศส  ไม่ใช่อังกฤษจึงจะเป็นนายหนอก อดีตร้อยเอกครูทหารปืนใหญ่วังหน้า  เมื่อไม่ใช่ ความสงสัยที่ว่าจะจะเกี่ยวอะไรกับที่หม่อมราโชทัยไปถ่ายรูปวันเดียวกับเจ้านายชั้นสูงของวังหน้า ก็น่าจะตีความว่าเป็นการบังเอิญ แต่คงไปคนละเวลา ไม่ได้เจอกันในวันดังกล่าวเลยก็ได้
 
อนึ่ง ธรรมเนียมข้าราชสำนัก ใครจะไปตีตนเสมอเจ้า เช่นไปด้วยกันแล้วถ่ายรูปในชุดเดียวกันฉากเดียวกัน เป็นไปไม่ได้ครับ

อนึ่ง พอหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวแพร่ออกไป สมเด็จพระจอมเกล้าฯท่านทรงออกมาแก้ข่าวเอง เรื่องนี้คุณวันดีเคยลงในเรือนไทยนานมาแล้วว่า

 “ที่เราเรียกหมอปลัดเลว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์นั้น อาจจะสูงเกินไป ท่านถนัดในทางหาข่าวมาหากินมากกว่าการ หวังดีต่อสยาม หรืออาจจะพอๆ กัน ตอนหม่อมราโชทัย ท่านก็ตีข่าวว่าถูกดีดตกกระไดบ้านกงศุลฝรั่งเศส พระเจ้าอยู่หัวต้องมาทรงแก้ข่าว และคงจำได้ที่มีประกาศห้ามคนเชื่อเรื่องที่ส่งหนังสือตีพิมพ์”

ขอเชิญคุณวันดีวิสัชนาต่อครับ

บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 10:42

จากเวปของสารคดี


“…ถ้าพิจารณาจากเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่หมอบรัดเลย์เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ  หมอบรัดเลย์รู้จักคุ้นเคยกับเจ้านายและขุนนางทางฝั่งธนบุรีที่ใกล้กับบ้านของหมอบรัดเลย์มากกว่าที่อื่น  หมอบรัดเลย์ได้เคยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เริ่มมีความสัมพันธ์ดีขึ้นเมื่อผ่านไปถึง ๖ ปี  และเรื่องที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องอื่นใด  แต่เป็นเรื่องของการพิมพ์หนังสือที่มีปัญหาเรื่องตัวพิมพ์บ้าง เครื่องมือบ้าง และบางครั้งก็ช่างพิมพ์ มีการแลกเปลี่ยนหยิบยืมกันอยู่เสมอ  เพราะในเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวครั้งทรงผนวชได้ประทับอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงตั้งโรงพิมพ์ขึ้นในวัด จนถึง พ.ศ. ๒๓๘๒ หมอบรัดเลย์จึงได้รับเชิญให้ถวายพระอักษรแด่พระองค์ โดยเสด็จมาประทับที่วัดใกล้ ๆ บ้านของหมอบรัดเลย์ (เข้าใจว่าจะเป็นวัดโมลีโลกยาราม) ในตอนเย็น (สัปดาห์ละ ๕ วัน) 
 

นอกจากนั้นยังได้ทรงส่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งให้มาเรียนภาษาอังกฤษที่บ้านของหมอบรัดเลย์อีกด้วย เป็นผู้มีเชื้อสายในพระราชวงศ์เรียกกันว่า เจ้ากระต่าย  คุณชายกระต่ายได้พยายามเรียนภาษาอังกฤษกับมิชชันนารีเป็นครั้งเป็นคราวอยู่หลายปี จนได้รับความรู้ใช้ภาษาอังกฤษรับราชการได้ จึงได้เป็นผู้ช่วยทูต (attache) ของคณะทูตไทย ซึ่งไปเมืองลอนดอนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐  และได้เป็นล่ามสำคัญของอัครราชทูตด้วย  เมื่อกลับจากประเทศอังกฤษไม่ช้านัก ได้แต่งหนังสือ จดหมายเหตุระยะทางเรื่องทูตไทยไปเมืองลอนดอน  ทั้งได้แต่ง นิราษเมืองลอนดอน อีกด้วย  ตั้งแต่นั้นคนจึงได้รู้จักหม่อมราโชทัยมากขึ้น      สรุปว่าหมอบรัดเลย์มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับหลวงนายสิทธิ์และหม่อมราโชทัยมาตั้งแต่ต้น จึงได้มีความสัมพันธ์อันดีตลอดมา …”


นั่นแปลว่า หม่อมราโชทัยเป็นคนของสมเด็จพระจอมเกล้านะครับ ไม่ใช่วังหน้า

บันทึกการเข้า
Whitearmy
อสุรผัด
*
ตอบ: 23



ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 07 พ.ย. 09, 11:09



อนึ่ง ธรรมเนียมข้าราชสำนัก ใครจะไปตีตนเสมอเจ้า เช่นไปด้วยกันแล้วถ่ายรูปในชุดเดียวกันฉากเดียวกัน เป็นไปไม่ได้ครับ


I will make you eat your words. Ready?
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 08 พ.ย. 09, 12:16

องค์สุดท้ายที่ปรากฏมีลูกหลานสืบสกุล คือหม่อมเจ้าธำรงวรวัฒน์

อยากอ่านคุณนวรัตนเขียนเล่าถึงเรื่องของลูกหลานของหม่อมเจ้าธำรงวรวัฒน์

 ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 08 พ.ย. 09, 14:22

คุณเพ็ญชมพูครับ

ขอบพระคุณที่ให้ความสนใจ แต่กระทู้นี้เดินมาไกลพอสมควรแก่เหตุแล้ว
เรื่องของท่านธำรงและลูกหลานเข้มข้นพอสมควร ผมเปิดประเด็นขึ้นมาอีกจะยืดยาว
ขอเป็นโอกาสเหมาะๆข้างหน้าดีกว่านะครับ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 09 พ.ย. 09, 10:59

           วันนี้ นสพ. บางกอกโพสท์ ส่วนเอาท์ลุค มีเรื่องบุตรชายคนที่ 3 ในจำนวน 8 คน ของ ม.จ ธำรงวรวัฒน์
กับหม่อมสุดใจ - ม.ร.ว. นิมิตรมงคล นวรัตน และงานเขียนของท่าน ในบทความชื่อ

Two times a rebel, three times a writer

http://www.bangkokpost.com/leisure/leisurescoop/27127/two-times-a-rebel-three-times-a-writer





บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 09 พ.ย. 09, 11:00

งานของท่าน จากวิกิพีเดีย -

              ผลงานที่ได้ประพันธ์ขึ้นและตีพิมพ์สู่บรรณพิภพ นอกจาก “พรรคการเมืองสยามและต่างประเทศ” ที่หลุดลอดจากการทำลาย
ของสันติบาลหลงเหลืออยู่เล่มหนึ่งในห้องหนังสือหายากของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังมี “ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง” และ
“ความฝันของนักอุดมคติ” หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองนิมิตร” ซึ่งได้รับคัดเลือกเป็น 1 ในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
และ 1 ใน 88 หนังสือดีวิทยาศาสตร์ไทย
            นอกจากนั้น ต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ The Emerald’s Cleavage ได้รับการแปลโดย ศ. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
หลังจากถึงแก่กรรมแล้ว 26 ปี และตีพิมพ์ขึ้นในชื่อ "รอยร้าวของมรกต"

และ จาก 100 นักประพันธ์ไทย -

นวนิยาย ความฝันของนักอุดมคติ บุญทำกรรมแต่ง
สารคดี ชีวิตแห่งการกบฎสองครั้ง
บทละครภาษอังกฤษ The Emerald'sCleavge รอยร้าวของมรกต
ร้อยกรอง ลิลิตเทวราชพิศภาพบนลานอโศก

              รบกวนคุณ Navarat. C เล่าเรื่องราวของท่านตามเห็นสมควรครับ

ภาพจาก http://www.bangkokbookclub.com/product.detail_44994_th_314794


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 09 พ.ย. 09, 11:09

คุณSILAครับ

อย่างที่ผมขอไว้กับคุณเพ็ญชมพู เอาไว้เปิดเป็นกระทู้อื่นเถิดนะครับ

เรื่องมันคนละอารมณ์กัน ปนกันยุ่งในกระทู้เดียวเดี๋ยวคนอ่านบางท่านจะเบลอ

ขอบพระคุณครับ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.214 วินาที กับ 19 คำสั่ง