เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 16
  พิมพ์  
อ่าน: 60547 ชาติพันธุ์วรรณา ในขุนช้างขุนแผน (๒)
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 10:50

คุณ Wandee คิดว่า  อานามสยามยุทธ  ผู้เรียบเรียงคือเจ้าพระยาบดินทรเดชา   อย่างที่ก.ศ.ร. กุหลาบบอกไว้ในการพิมพ์ครั้งแรกหรือเปล่าคะ
หรือว่าเป็นการสันนิษฐานของนายกุหลาบเอง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 10:52

“…..ค่ายระเนิยดกระดานค่ายเมืองนั้น  ท่านพญายมราชมาตั้งค่ายไว้แต่ก่อนนั้น ยาว ๕ เส้น กว้าง ๓ เส้น ๔ วา เหนว่าคับแคบหาภอคนจะอยู่ไม่  แล้วก็ชำรุดผุะพังไปเปนอันมาก

ข้าพเจ้ากรมการพร้อมกัน  จึ่งให้เอากระดานที่เกนตัดไม้มาตั้งค่ายรเนียดกระดานขยายกว้างยาวออกไปอีก ยาว ๓ เส้น กว้างเสน ๑๖ วา เข้ากันเก่าใหม่ยาว ๘ เส้น กว้าง ๕ เส้น กับกระดานค่ายที่ชำรุดทรุดพังเสียไปเปนอันมาก  ได้ผลัดเปลี่ยนกระดานค่ายเสียใหม่มั่นคงแล้วได้ยิงตะปูติดกรอบบนครอบล่างพ้นดินศอกคืบ….”. 

ข้อความที่คุณหลวงเล็กคัดมาตรงกับรูปภาพรามเกียรติ์ของผม ขยายให้ดูอีกที่ตรงครอบล่างพ้นดินศอกคืบ ความหมายตรงนี้คือเคร่าตัวล่างอยู่สูงจากพื้นดิน50เซนติเมตร
แต่ค่ายลักษณะนี้ไม่ใช่ค่ายน็อคดาวน์ตามที่อาจารย์เทาชมพูว่า แต่เป็นค่ายหลวงแบบถาวร(จนกว่าไม้จะผุ) ในการศึกยือเยื้อ ณ ที่นั้น


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 11:10

วันนี้อาจารย์ชมกลางชั้น ทำให้ยืดขึ้นมานิดนึง ส่วนคำถามเรื่องพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นปืนคาบศิลาหรือเปล่านั้น ถ้าตอบสั้นๆตรงๆก็ -ใช่ครับ-

แต่ปืนโบราณที่รวมๆเรียกว่าคาบศิลามีด้วยกัน3ประเภท ในเวปมีพูดถึงพระแสงปืนต้นของสมเด็จพระนเรศวรไว้โดยพิศดารว่าเป็นประเภทไหนเหมือนกัน แต่ผมจะไม่ลากออกไปดีกว่า นางลาวทองแกรอจะออกฉากนานแล้ว เนิ่นช้าไปเดี๋ยวจะเซ็งตีบทไม่แตก

ตัวสลับฉากขอเข้าโรงก่อนดีกว่า

บัดนั้น ..เชิด

อ้าว เสภา..ไม่ใช่โขนหรือครับ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 11:27

ก.ศ.ร. แจ้งว่า  คัดลอกมาจากบันทึกรายงาน ของเจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์  สิงหเสนี)
แม่ทัพใหญ่ในการทำศึกสงคราม

คนที่ชุบคงมีมากกว่าหนึ่งคน   คนที่ทานก็คงจะมีมากกว่าหนึ่งคน
แล้วยังมีคนอ่านให้ท่านเจ้าคุณฟังก่อนส่งใบบอกเข้ากรุงเทพ


ประวัติของเจ้าพระยาบดินทรเดชานั้น ก.ศ.ร. กุหลาบเรียบเรียงจากตำราหลายเล่ม
มีข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่เรื่องตำแหน่งรับราชการ

ก.ศ.ร. รับว่า เหลือที่จะทราบแน่ลงอย่างใดไม่  เป็นการจนใจ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 11:54

ขอถามเรื่องอาวุธอีกหนึ่งอย่างค่ะ

เมื่อพลายแก้วทักทายพระยาฟ้่าลั่น  บอกชื่อแล้วขู่ว่า

ท่านอย่าองอาจประมาทไทย                                ถ้่าไม่ดีที่ไหนเราจะมา

สันบาดาลถือทวนอยู่แท้ ๆ   พลายแก้วฟันขาดตะพายแล่ง   แล้วฟันคอฟ้่าลั่นหัวขาดตกดิน

บรรยากาศตอนนี้

พวกไทยโห่ครื้นเอาปืนยิง                        ฉวยหอกกลอกกลิ้งวิ่งเข้าหา
พวกลาวกลุ้มกลาดดาษดา                       เอาวารับมันบ่ยั่นใคร
ลาวถูกปืนปั้นหันเห                               บ้างซวนเซซอนซุกไม่ลุกได้
บ้างถูกหม้อดินทิ้งกลิ้งเกลื่อนไป                 เปลวไฟลุกวาบขึ้นปลาบตา


หม้อดินบรรจุดินปืนหรือวัตถุไวไฟหรือนำ้มันดิน   จะถือว่าเป็น  home-made bombs    ได้ไหมคะ
สมัยคนแถวนี้บางคนยังเป็นหนุ่มน้อย     น่าจะทำระเบิดขวดซ้อมมือเป็น
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 12:02

"...ข้าพเจ้ากรมการจึ่งคิดอ่านปฤกษาพร้อมกัน  เกบเอาจีนลูกบ้านตัดเสาไม้ค่ายแก่นกลมใหญ่สามกำยาวเก้าศอกคืบเสมอคลห้าต้นเอามาตั้งค่ายที่ปากคลองเปนสองง่าม  ค่ายไม้กลมยาวเส้น ๑ กว้างเส้น ๑ กับเกนกระดานค่ายไม้แก่นคล ๒ แผ่น ยาว ๙ ศอกคืบ น่าใหญ่ ๒๐ นิ้ว น่าน้อย ๖ นิ้ว กับเลกสมส่วยแลเลกสังกัดพัน  เอามาทำป้อมติดกับหน้าค่ายปากน้ำสามเหลี่ยมๆ ละ๙ วา มีช่องปืนใหญ่ ๖ ศอก ต่อช่องริมคลองทังสองค่าง..."

และ

"...ข้าพเจ้ากรมการพร้อมกัน  จึ่งให้เอากระดานที่เกนตัดไม้มาตั้งค่ายรเนียดกระดานขยายกว้างยาวออกไปอีก ยาว ๓ เส้น กว้างเสน ๑๖ วา เข้ากันเก่าใหม่ยาว ๘ เส้น กว้าง ๕ เส้น กับกระดานค่ายที่ชำรุดทรุดพังเสียไปเปนอันมาก  ได้ผลัดเปลี่ยนกระดานค่ายเสียใหม่มั่นคงแล้วได้ยิงตะปูติดกรอบบนครอบล่างพ้นดินศอกคืบ...."

ฝากพิจารณาขนาดกระดานไม้ที่เอาทำค่าย  กระดานยาว ๙ ศอก ๑ คืบ  หน้าใหญ่ หรือ กว้าง ๒๐ นิ้ว และ หน้าน้อย หรือ หนา ๖ นิ้ว นิ้วในที่นี้ คงไม่ใช่ inch ๒.๕ ซม. แต่เป็นนิ้วไทย ๑ นิ้ว เท่ากับ ๔ กระเบียด  ๑๒ นิ้ว เท่ากับ ๑ คืบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 12:16

เรื่องป้อมค่ายไม้กระดาน   ต้องยอมแพ้   ไม่มีความรู้เรื่องนี้   ขอพาลาวทองไปนั่งหลบอยู่ข้างโรงก่อนนะคะ

คุณวันดีคะ  อ่านตอนที่คุณยกมา   ดิฉันนึกว่าหม้อดิน คือหม้อที่ใส่ดินปืนประกอบการยิงเสียอีกค่ะ  
รู้เพียงแค่ว่าปืนยาวโบราณ ต้องใช้ทั้งกระสุนและดินปืนพร้อมๆกันในการยิง        
รอผู้รู้มาขยายความให้ฟังเช่นกันค่ะ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 14:04

ในการเดินทางคิดว่าใส่ในถุงหนังสัตว์  แล้วบรรจุในกระชุ   แขวนไว้ใกล้แม่ทัพเพราะเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ราคาสูง

อ่านจาก นิราศหนองคาย
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 14:10

หม้อดินที่ทิ้งใส่ข้าศึกนี่ คือ หม้อที่ใส่ดินปืนหรือดินประสิว พอจะทิ้งใส่ข้าศึกที่กำลังปีนค่ายกำแพงขึ้นมาก็จุดไฟให้มันระเบิด  ฝุ่นผงดินปืนพร้อมหม้อก็จะแตกกระจายเข้าตาพวกข้าศึก  ถ้าไม่แตกไฟก็จะลวกเอาพวกข้าศึกเหล่านั้น  ลักษณะอย่างนี้ เป็นการต้านข้าศึกที่มาประชิดกำแพงป้อมค่ายอย่างหนึ่ง  ที่จริงมีการคั่วกรวดทรายให้ร้อนเทราดข้าศึกด้วย  เอาน้ำร้อน น้ำมันร้อนเคี่ยวเทราดก็มี  หม้อดินพวกนี้จะเป็นหม้อดินที่แยกใช้ต่างหาก จากดินที่ใช้ยิงปืน  ดินที่ใช้ยิงปืนเข้าใจว่าจะใส่เขนงหรือถุงผ้าถุงหนังซึ่งน่าจะพกสะดวกกว่าพกหม้อดินกระโตงกระเตงเกะกะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 15:59

เอ้า แม่ยกเอานางลาวทองหลบไปเสียแล้ว  ตัวประกอบสลับฉากต่อ

12นิ้ว = 1คืบ, 2คืบ = 1 ศอก, 4ศอก = 1 วา, 20 วา = 1เส้น, 400เส้น  = 1กระจุก(อันหลังนี้ท่านไม่ได้ว่า แต่รุ่นพี่ถาปัดสอนไว้)
และ
1 เส้น = 40 เมตร, 1 วา = 2 เมตร, 1 ศอก= 50 เซนติเมตร, 1คืบ= 25 เซนติเมตร, แต่ทำไม1นิ้ว= 2.50 เซนติเมตร ไม่ใช่ 2.08

เมื่อพิจารณาดังที่กำหนดให้พิจารณา ขนาดกระดานไม้ที่เอาทำค่าย  กระดานยาว ๙ ศอก ๑ คืบ  ควรจะ ยาว4เมตร75เซนติเมตร หน้าใหญ่  ๒๐ นิ้ว คือควรจะกว้าง 41เซนติเมตรกับอีก6มิลลิเมตร  และหน้าน้อย ๖ นิ้ว คือควรจะหนา 12เซนติเมตรกับอีก 48 มิลลิเมตร  

แต่เพราะมีคนไทยฉลาดๆคนหนึ่งผมไม่ทราบนามของท่าน ได้กำหนดให้นิ้วในมาตราของไทยดังกล่าวเป็นสากล ตรงกับคำว่า inch ซึ่งฝรั่งเทียบกันไว้แล้วว่าเท่ากับ 2.5เซนติเมตร
เพื่อให้การซื้อขายไม้ในเมืองไทยยุ่งยากน้อยลงจากที่ยุ่งยากมากกกกก ทราบใช่ไหมครับว่า โรงเลื่อยมาตรฐานตั้งราคาขายไม้เป็นคิว คิวในที่นี่คือคิวบิกฟุต เพราะหน้าไม้วัดเป็นนิ้ว เช่นไม้2นิ้วx8นิ้ว แต่ความยาววัดเป็นเมตร คิดราคากันทีไรคนซื้อปวดเศียรเวียนเกล้า

แต่จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ยังเป็นความจริงอยู่เลยว่า การซื้อขายไม้ในชนบทอีกมากยังมั่วราคา โดยการคิดหน่วยปริมาตรเป็นยกอยู่เลย

1 ยกคือปริมาตรของไม้ "กระดาน" หนา 1 นิ้ว กว้าง 1 ศอก ยาว 16 วา
หรือ ที่เท่ากับใช้ปูพื้นที่ได้ 4 ตารางวา หรือ16 ตารางเมตร
เวลาคุยกัน 1 ศอกเปิ้นก็ว่า 50 เซนต์ 1วาคือ2เมตร ถ้าไม่ถามต่อให้มั่นๆ นิ้วของเปิ้นก็จะเอา24 หาร50 ไม่ใช้2.50เซนต์ตามดำหนด  คำนวณออกมาแล้วสตางค์ผิดกันหลายอยู่  ทั้งๆที่วัดหน้าตัดไม้จริงๆก็จะเห็นว่า1นิ้วคือ2.50เซนต์ ฉะนั้นตอนตกลงราคาถ้าได้ยินว่าเป็นยกละเท่านั้นเท่านี้ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนว่าจะใช้นิ้วไทย หรือนิ้วฟุต

ปวดหัวดีไหมครับ ปวดหัวให้ปิดเครื่องแล้วออกไปสูดอากาศหายใจสักพัก กลับมาแล้วอ่านข้ามกระทู้นี้ไปเลย ท่านจะไม่เสียรดชาดทางวรรณคดีในเรื่องขุนช้างขุนแผนแต่ประการใด อาจารย์ก็แย้มๆแล้วว่าจะไม่นำมาออกข้อสอบด้วย

ฉะนั้นที่เขียนๆมา ผมจึงพยายามใช้ตัวเลขให้มันกลมๆ มันจะอะไรกันนักหนา ทำรั้วค่ายทหารเอาไว้ถล่มกันนะครับ ไม่ใช่ทำเฟอร์นิเจอร์จึงจะได้ต้องเคร่งครัดกับตัวเลขหน่วยวัด

 ไม้แผ่นที่เอามาทำค่ายนี้ถ้าไปหาซื้อที่โรงไม้ในปัจจุบันต้องสั่งว่า ไม้ 6x20 ยาว 5 เมตร น้ำหนัก 1แผ่นก็ประมาณ 250 กิโลกรัม 2คนยกไม่ไหวแน่นอน ใช้ทำจรยุทธไม่ไหวอยู่แล้วครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 17:08

ถ้าเมื่อไรจะซ่อมเรือนไทย  จะวานคุณ Navarat C. ไปเจรจาหาซื้อไม้มาให้นะคะ  ยิงฟันยิ้ม

พาลาวทองไปหาฝ่ายคอสตูมและเมคอัพอาร์ติสต์ ที่หลังโรงก่อน     หมดเรื่องค่ายเมื่อไรจะพากลับออกมา
.........................                 .......................
ผลัดผ้าลูบทากระแจะจันทน์             ผัดหน้าผิวพรรณเป็นนวลใย
เกล้าผมสมทรงกะทัดรัด                  ดอกไม้ทองแซมทัดสะบัดไหว
เกี้ยวกระหวัดปิ่นพลอยลอยวิไล        สอดใส่ดอกมะเขือทองคำพราย
ห้อยสายระย้าเพชรเก็จก่อง             สังวาลทองพลอยพริ้งสะอิ้งสาย
เด่นดวงกุดั่นพรรณราย                    กำไลสวมขวาซ้ายสอดพร้อม
ใส่แหวนเพชรนิลมรกต                   สไบสีสุกสดตลบหอม
พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่จะไปดอม             ข้าไทแวดล้อมกันลงเรือน

กวีที่หาคอสตูมให้แม่นางลาวทอง  น่าจะเป็นกวีที่เคยแต่งบทละครมาก่อน    ลูกสาวกำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงแต่งเครื่องเพชรถนิมพิมพาภรณ์เสียพราวตา
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 29 ต.ค. 09, 18:00

      
อ้างถึง
400เส้น  = 1กระจุก(อันหลังนี้ท่านไม่ได้ว่า แต่รุ่นพี่ถาปัดสอนไว้)

        ตรงนี้คือ มุข(ก) หรือเปล่า ครับคุณ Navarat C เพราะเคยท่องจำมาว่า ๔๐๐ เส้นเป็น ๑ โยชน์

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 30 ต.ค. 09, 08:04

เรื่องไม้กระดานทำค่ายที่ยกมานั้น  ต้องการจะเทียบกับภาพค่ายที่เอามาแสดงว่าตรงกันหรือไม่  คาดว่ากระดานเหล่านี้ เมื่อจะเอามาใช้  ท่านคงเกณฑ์ตัดถากเลื่อยเอาจากป่าใกล้ๆ ค่ายนั่นแหละครับ  อย่างที่พม่าเอาต้นตาลมาทำค่ายปิหลั่นป้องกันสะพานเรือกข้ามเข้าพระนครศรีอยุธยาเมื่อครั้งเสียครั้งที่ ๒ ก็คงเป็นเพราะรอบๆ กรุงศรีอยุธยามีต้นตาลขึ้นอยู่มาก  พม่าเลยเอามาใช้ประโยชน์ในการสงคราม  พม่าคงไม่ขนลากเอาไม้ตาลมาจากหงสาวดีหรือกรุงอังวะหรอกครับ เพราะกว่าจะข้ามเทือกเขาตะนาวศรีมาถึงพระนครศรีได้ คงหมดแรงก่อน 

เช่นเดียวกับในเสภาขุนช้างขุนแผน ก็คงเอาไม้กระดานจากป่าใกล้ๆ นั่นแหละมาทำ  ส่วนเรื่องขนาดไม้กระดานนี่ก็สุดแต่แม่ทัพจะกะเกณฑ์สั่งให้ไพร่พลหรือหัวเมืองทำในแต่ละคราว แต่คงอยู่ราวๆ ประมาณนี้  การเคลื่อนย้ายไม้กระดานเหล่านี้เมื่อจะขยับย้ายป้อมค่ายเข้าหาข้าศึก  คาดว่า คงใช้กำลังมากอยู่พอสมควร แต่อาจจะมีมีล้อเลื่อน หรือช้างม้าชักลากไป  ทั้งนี้คงไม่ขนขยับย้ายไปไกลมาก  และค่อยๆ ขยับไปทีละน้อย  อันคงเป็นเวลาที่สงครามการบยืดเยื้อ  ถ้าเป็นสงครามระยะสั้นอาจจะไม่ต้องขยับย้ายก็ได้  ส่วนไม้กระดานเหล่านี้เมื่อเสร็จกิจสงครามก็คงทิ้งไว้อย่างนั้น  หรือจะไปทำประโยชน์อย่างอื่นก็แล้วแต่จะคิด  แต่คงไม่ขนกลับกรุงหรือขนกลับบ้าน (เว้นแต่โลภมาก) เพราะของอย่างนี้สมัยก่อนคงหาได้ไม่ยาก  ถ้าเป็นสมัยนี้สิ คงได้ขนกลับกันอุตลุด ไกลเท่าไรก็ไม่ว่า

ถ้าถามว่าเป็นค่ายประเภทน็อกดาวน์ไหม?  ก็อาจจะเป็นค่ายน็อกดาวน์เฉพาะกิจ  บางครั้งก็เป็นค่ายถาวร บางครั้งก็เป็นค่ายที่เคลื่อนย้ายได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การรบ เมื่อเสร็จกิจก็หมดหน้าที่ และเป็นค่ายน็อกดาวน์ที่ทำขึ้นจากวัสดุใกล้สนามรบนั่นเอง  ไม่ได้ขนไปจากเมืองหลวงเหมือนอย่างอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลาย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 30 ต.ค. 09, 08:48

ตอบคุณ Sila  (ไม่เห็นแวะเข้ามาเสียนาน)
มุกแบบพวกถาปัดเขาละค่ะ     มุกแบบนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า pun คือการเล่นคำ จากเสียงเดียวกัน

อ่านเรื่องค่ายที่แจกแจงกันเสียละเอียดลออในกระทู้นี้    จบกระทู้เมื่อไร เรือนไทยคงตั้งค่ายน็อคดาวน์ไว้ดูเล่นได้  ยิงฟันยิ้ม
ดิฉันจะรอคุณ Navarat C. เข้ามาต่อ      วันจันทร์นี้ถ้าจบเรื่องค่าย    ก็จะพาแม่นางลาวทองออกมาให้ยลโฉมกันเสียที
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 30 ต.ค. 09, 09:35

         แวะเวียนมาเรือนไทยแบบเงียบๆ อยู่บ่อยๆ ครับ อาจารย์

รอนางลาวทองออกโรงอยู่ แต่ที่จริงแล้ว ชอบรุ่นสร้อยฟ้า ศรีมาลา ที่เข้มข้นแบบละครหลังข่าว

นอกเรื่อง - ปีนี้ อาจารย์ไปดู แม่นาค เพชรบุรีตัดใหม่ หรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 16
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 19 คำสั่ง