เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 24
  พิมพ์  
อ่าน: 47602 ชมศิลปะเก่าแก่ ในหัวเมืองเหนือกรุงศรีอยุธยา
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:45

...


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:46

...


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:47

...


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:47

คันทวยที่นี่ส่วนใหญ่จะแกะเป็นรูปเหรา คือเหมือนพญานาคแต่มีขาซะเป็นส่วนใหญ่
แต่ก็มีบางชิ้นที่เป็นรูปอื่นครับ เช่นอันนี้เป็นรูปกินรี


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:50

บานประตูด้านหลังก็ปรากฏลวดลายแกะสลักเช่นกัน
แม้จะงามไม่เท่ากับด้านหน้าแต่ก็มีรูปแบบที่น่าสนใจ
บานประตูที่ช่องประตูด้านขวาหายไปแล้วหนึ่งบาน
ซึ่งมีลักษณะลายคล้ายกับบานที่ช่องประตูด้านซ้าย
แต่ต่างกันไปบ้างในรายละเอียด


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:51

ลายตรงช่วงกลาง


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:52

ช่วงบนครับ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:53

บานนี้เป็นประตูทางซ้ายครับ ยังอยู่ครบ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:54

...


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:56

เหล่านี้เป็นงานแกะสลักไม้โดยรอบพระวิหาร ซึ่งก็ยังเก็บรายละเอียดมาไม่หมด
เพราะระหว่างที่ถ่ายภาพนั้นมีควันไฟลอยมาจากด้านข้างวัด(สงสัยชาวบ้านเผาเศษใบไม้)
ด้วยแสงก็น้อยอีกทำให้ถ่ายภาพไม่ถนัด ถ้าไปเวลาสักสิบเอ็ดโมงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 15:59

ตั้งใจแอคไปหนึ่งภาพครับ  ยิงฟันยิ้ม

พระวิหารวัดดอนสักยังมีความสมบูรณ์แบบ ทางด้านสถาปัตยกรรมดีมากอย่างน่ายกย่อง
สร้างความประทับใจให้กับผมมากมาย เสียดายที่ผมมีเวลาน้อยเพราะพี่เจ้าของ
รถมอเตอร์ไซค์รออยู่ แต่ขอแนะนำว่าใครที่จะไปอุตรดิตถ์ไม่ควรพลาดที่จะไปชมให้ได้
เพราะนี่คืองานศิลปะชิ้นเอกชิ้นแรกของเมืองอุตรดิตถ์ที่ไม่ชมไม่ได้ เหมือนกับไปเชียงใหม่
ก็ต้องไปชมวัดต้นเก๋วน อะไรทำนองนั้น


บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 17:30

เมืองไทยนี้ยังมีของดีอีกมากหลาย ขอเพียงแต่ได้ไปพบเห็นไปชื่นชมและยิ่งได้ทราบถึงที่มาก่อนที่จะปรากฎเป็นผลงานศิลปะอันลือลั่นเหล่านี้แล้ว พวกคุณก็จะได้รู้ว่าชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เชญร่วมสมัครสมาชิกกับทางชมรมได้ที่paparyu15@gmail.com แจ้ง ชื่อ -สกุลจริง(เล่น)เบอร์โทรมือถือถ้ามี เพื่อการติดต่อในการนัดจัดทริปของชมรมฯสำหรับคนที่สนใจครับ รูปประกอบบานประตูวัดพระฝาง(ปัจจุบันเก็บอยู่ที่วัดธรรมาธิปไตย)น้องเนได้ไปถ่ายมารึเปล่า


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 17:44

ได้ไปถ่ายครับ แต่ภาพไม่ได้ชัดเท่าของพี่น่ะครับ (บัญเอิญไฟในอาคารเสีย (T-T) ...)

ทานข้าวเสร็จแล้วก็ต้องขึ้นมาลงต่อให้จบ แต่รู้สึกว่าทำไมยังเหลืออีกเยอะจัง สงสัยกระทู้นี้คงจะเต็ม
ว่าแต่เข้ามาทักทายติชมกันบ้างนะครับ


วัดเจดีย์คีรีตั้งอยู่ห่างจากวัดดอนสักไม่ไกลนัก เนื่องจากไม่มีเวลาเดินสำรวจจึงได้แต่เก็บภาพพระอุโบสถหรือวิหาร??
หลังเก่าซึ่งถูกทิ้งร้างไว้มาฝากครับ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 17:46

ภาพด้านหลังครับ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 11 ต.ค. 09, 17:56

หลังจากกลับจากฝายหลวงมาที่ทุ่งยั้ง พี่เจ้าของรถก็พาผมแวะไปดูคูเมืองเวียงเจ้าเงาะ จากข้อมูลจังหวัดบอกไว้ว่า
เคยพบรูปสลักเป็นรูปเจ้าเงาะกับนางรจนา จึงเป็นที่มาของเวียงแห่งนี้ พี่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์เล่าให้ฟังว่า
ลึกลงไปในบ่อน้ำเวลาที่น้ำแห้งจะสามารถลงไปในถ้ำ ที่อยู่ในบ่ออีกทีภายในจะเป็นห้องและมีสระนำ้กับรูปสลัก
ผู้หญิงเปลือยกาย น้ำในสระชาวบ้านนำมาใช้รักษาโรคแต่เดี๋ยวนี้รูปสลักสูญหายไปแล้ว

หลังจากนั้นพี่เจ้าของรถก็พาผมมาส่ง ที่วัดพระท่าศิลาอาสน์ตอนเวลาประมาณสิบโมงเช้า
วัดพระท่าศิลาอาสน์ เป็นสถานที่ที่ใครๆก็ต้องรู้จักหากมาที่อุตรดิตถ์ สร้างเมื่อไหร่ไม่ปรากฏหลักฐาน
แต่บูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครั้งนั้นทรงโปรดฯให้นำบานประตูไม้แกะสลักจากวัดพระพุทธชินราชมาไว้ที่วัดนี้ด้วย
แต่ภายหลังเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ทำให้วัดถูกไฟเผาทำลายจนหมด รวมไปถึงมณฑปไม้แกะสลักศิลปะอยุธยาที่สร้างครอบพระแท่นไว้
ในพระวิหารด้วย ผมเดาเองอีกว่าแต่เดิมสมัยที่ยังไม่ได้สร้างเมืองทุ่งยั้ง บริเวณนี้อาจเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเวียงเจ้าเงาะ
(ชื่อเมืองเดิมไปปรากฏ)ในสมัยทวาราวดี?? เพราะเป็นที่ตั้งของเนินเขาสามลูก คือเนินแรกเป็นวัดพระนอน ถัดมาเป็นวัดพระยืน
พระพุทธบาทยุคล และวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ตามลำดับ หากสังเกตจากชื่อก็อาจตั้งใจจะสร้างให้เป็นสังเวชนียสถานไว้เพื่อ
สักการะของคนโบราณก็เป็นได้


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 24
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 19 คำสั่ง