|
jean1966
|
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 17 ก.ย. 09, 19:13
|
|
ชื่อวัดราชประดิษฐานครับ ปัจจุบันเป็นวัดราษฎร์ วัดนี้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เป็นราชธานีเป็นพระอารามหลวงมีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารวัดหนึ่ง
และเป็นวัดโบราณตั้งอยู่ริมปากคลองประตูข้าวเปลือกฝั่งตะวันตก ภายใน
กำแพงพระนคร แต่จะสร้างในรัชสมัยใด ใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐาน
และมีชื่อว่า “วัดราชประดิษฐาน” แต่เดิมมาจนถึงทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงมี
พระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับการสถาปนาวัดนี้ไว้เป็นความว่า
นั้นคงจะต้องสร้างก่อนแผ่นดินพระไชยราชาเป็นแน่เพราะเป็นที่ซึ่งพระมหาจักรพรรดิ
เมื่อยังเป็นพระเฑียรราชาออกไปทรงผนวชในวัดนั้น และน่าจะเป็นวัดของพระเจ้าแผ่นดิน
ในบรมราชวงศ์เชียงราย ซึ่งสืบเนื่องมาแต่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ ทรงสร้าง
อนึ่งคำว่า “วัดราชประดิษฐาน” หมายความว่า “วัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง”
เพราะฉะนั้นจึงสันนิษฐานว่า ผู้สร้างวัดนี้จะต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดินอย่างแน่นอน
อีกข้อมูลหนึ่งคือ
วัดราชประดิษฐาน อยู่ริมคลองประตูข้าวเปลือก ฝั่งตะวันตก ถนนอู่ทอง ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา วัดนี้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นวัดที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเฑียรราชทรงผนวชอยู่ และเมื่อก่อนเสียกรุงฯ ใน พ.ศ.2310 พระเจ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต (ขุนหลวงหาวัด) ซึ่งทรงผนวชอยู่ ณ วัดประดู่โรงธรรม นอกพระนครก็ได้เสด็จมาประทับอยู่ ณ วัดนี้ จวบจนกระทั้งเสียกรุงฯ แล้ว จึงถูกพม่าเชิญไปยังประเทศพม่าด้วย ที่วัดนี้มีสิ่งที่ควรทราบอยู่อย่างหนึ่งคือ ที่ผนังพระอุโบสถเก่าของวัดนี้มีภาพเขียนสมัยอยุธยา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงทอดพระเนตร และโปรดเกล้าฯ ให้กรมขุนราชสีหวิกรมถ่ายอย่างภาพนั้นไว้ ในรัชกาลที่ 5 แรกเสวยราชย์ก็เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภาพเขียนดังกล่าวนี้ถึง 2 ครั้ง ปัจจุบันปรากฏว่ารูปภาพลบเลือนไปหมด เพราะพระอุโบสถไม่มีหลังคา และพระอุโบสถหลังนี้ทางวัดได้รื้อถอนเมื่อ พ.ศ. 2507 เพื่อสร้างพระอุโบสถใหม่ ในปัจจุบันได้รวม "วัดท่าทราย" (ร้าง) ซึ่งในรัชสมัยสมเด็จพระบรมโกศเป็นที่อยู่ของพระมหานาค ผู้รจนา "ปุณโณวาทคำฉันท์" อันมีชื่อเสียงอยู่ในวงวรรณคดีทุกวันนี้ เข้าเป็นวัดเดียวกันด้วย เรียกว่า "คณะท่าทราย
|
