เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 8642 แบ่งปันของเก็บของเก่าสะสมกัน
Agonath
อสุรผัด
*
ตอบ: 32


 เมื่อ 21 ส.ค. 09, 17:46

สวัสดีครับ  ถ้าผมตั้งกระทู้เพื่อที่จะให้เพื่อนๆพี่ๆ โพสของเก่าสะสม
ผมว่าพี่ยีน 1966 กะคุณ เน virain  ต้องมีเยอะแน่ครับ
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 23 ส.ค. 09, 20:53

พระพุทธรูปประดับอยู่บริเวณซุ้มด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ วัดโบสถ์ สามเสนครับ
เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง องค์ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกหินทรายร่อนหักพัง
เป็นอนัตตาจริงๆ ส่วนทิศอื่นไม่ได้ดูครับเพราะมีการกั้นกำแพงต้องเดินย้อนไปไกล
ถึงองค์พระสัดส่วนจะไม่ดีมากแต่ก็งดงามครับ ยิ่งเอามาลงก็ยิ่งกลัวครับ
เพราะใจคนสมัยนี้คำว่าบาปกรรมใช้ไปก็ไม่มีความหมายให้กลัวเลย


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 23 ส.ค. 09, 20:57

การเอาภาพมาลงแบบนี้ผมชักไม่วางใจ ทำยังไงถึงเราจะเผยแพร่ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์
ในการศึกษาศิลปะไทยได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อโบราณวัตถุสถานต่างๆ
น่ากังวลจริงๆเล้ย ลังเล
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 06:49

งามเหลือเกิน
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 15:37

ช่วยดูให้หน่อยว่าของเก่าหรือเปล่าคับ  ผมไม่แน่ใจไม่เคยเห็นสิงห์สมัยอยุธยาทำท่านี้
หรือถ้ามีก็แนะนำหน่อยครับ

สวัสดีคุณWandee ครับ


บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 20:04

เป็นนรสิงห์ทำขึ้นใหม่แน่นอน ไม่ใช่อยุธยาทั้งลวดลายและรูปทรงครับ
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 20:58

ขอบคุณครับพี่ยีนส์พอดีเห็นอยู่ที่วัดใหม่เทพนิมิตร แปลกใจเลยถ่ายมาถามโดยเฉพาะเลย

หลังจากได้ศึกษางานศิลปะไทยตามที่ต่างๆอย่างจริงจังมาสักพัก  ทำให้พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมงานศิลปะถึงตายลงไปทุกวันๆ 
เนื่องจากได้เห็นสภาพความจริงที่พัวพันกับองค์ประกอบมากมาย ตามวัดวาอารามที่จริงเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะชั้นเลิศเอาไว้ 
เพราะเป็นงานที่ศิลปินสร้างด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา  และสร้างด้วยวิญญาณให้เป็นงานที่จรรโลงใจ  แต่ในปัจจุบันงานศิลปะ
ในเชิงพานชย์มีมาก คนไทยเองคงเห็นโน่นเห็นนี่จนเจนตา  เมื่อแยกไม่ออกก็ไม่รู้ถึงคุณค่าเสียอย่างนั้น และยิ่งมีสื่ออะไรต่อมิอะไร
เข้ามามากๆคนก็พาลไม่ใส่ใจกันไปเลย  จะไปโทษใครเขาก็ไม่ได้





บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 21:20

แต่สำหรับชาวต่างชาติที่มีอันจะกินแล้วชื่นชมในงานศิลปะ  เมื่อเขาอยากจะได้งานดีๆไว้ชื่นชมสะสม
ก็ต้องเล็งเป้ามายังบ้านเมืองอย่างเรา การโจรกรรมศิลปะวัตถุตามวัดวาอารามจึงเกิดขึ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
เอาไปขายให้ต่างชาติ ประเทศไทยสูญเสียงสมบัติขิงชาติไปมากต่อมากเหลือเกินแล้ว  คนในชาติที่จะศึกษางานศิลปะไทย
ก็จะมีมุมมองแคบลงๆเพราะหางานดีๆดูได้ไม่ถนัด  การโจรกรรมจากพวกคนเหล่านี้ก็เป็นวิบากกรรมของศิลปะไทยที่สาหัสเหลือเกิน

เมื่อมีการโจรกรรมเกิดขึ้น การไม่ไว้วางใจกันก็เกิดขึ้นตามมาติดๆ ทางวัดก็หาทางป้องกันเพราะไม่ใว้ใจใครให้เข้าไปดูหรือไปถ่ายภาพ
กลัวว่าจะเป็นการเข้าไปถ่ายรูปเพื่อนำไปเสนอขาย หรือมาดูเพื่อจะมาขโมย  บางอย่างก็ถูกรักษาไว้อย่างดีมากและไม่บอกให้ใครรู้
ก็กลายเป็นสมบัติเก็บอนุชนรุ่นหลังก็ไม่มีโอกาสจะได้ดูได้ศึกษา นานวันเข้าก็ลืมไปหรือไม่ก็เสื่อมสลายไปอย่างนั้นเอง




บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 05 ก.ย. 09, 21:29

ตอนนี้กรมศาสนาก็มีหนังสือเวียนไปตามวัดต่างๆ ไม่ให้วัดเปิดโบราณสถานให้บุคคลแปลกหน้าเข้าไปถ่ายภาพ
นอกจากจะมีหนังสือรับรองมา ดีที่ผมยังเป็นนักศึกษายังพอมีโอกาสได้ดูได้เห็นบ้าง  เว้นแต่บางอย่างที่รักษาไว้
โดยเฉพาะและไม่ให้ใครดู  เพราะกลัวจะหายสาบสูญ  จะไปโทษกล่าวหาวัดก็ไม่ได้เพราะท่านก็ต้องระวังไว้ เพราะไม่รู้เจตนาจริงๆของคน
แต่สำหรับคนที่เจตนาดีทั่วไปๆจะขอเข้าไปชมหรือศึกษางานไทยแบบศิลปินอิสระบ้าง  ก็หมดทางดิ้นรนเพราะไม่มีสังกัดรับรองให้

กรมศิลปากร กองโบราณคดีหรืออื่นๆผมก็เชื่อว่าบางครั้งก็ทำดีที่สุดแล้ว  ตามแต่การเอื้ออำนวยและสถาณการณ์ ผมก็เห็นใจเหมือนกัน
ถึงบางครั้งจะมีข้อโต้แย้งกันบ้างสำหรับผู้ที่มีความรู้อื่นๆ  แต่ก็เป็นคนที่ดูแลศิลปะไทยเหมือนกัน

ที่จริงสมบัติของชาติเหล่านี้น่าจะได้รับการจัดการ ให้มีการเปิดให้คนในชาติได้ชื่นชมสมบัติที่ได้ชื่อว่าเป็นของชาติ
ได้กว้างๆมากขึ้น หากพูดตรงๆก็คือทำอย่างอารยะประเทศเขา  แต่ต้องมีการให้ความรู้ความเข้าใจในการชม การจัดสถานที่ให้ดี
การตรวจตรารักษาที่เข้มงวดจริงจัง ก็อาจจะมีทางที่ศิลปะไทยจะได้กลับมาเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้อีกครั้ง
อย่างที่เคยเป็นมาแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:32

เอาภาพธรรมาสน์สมัยอยุธยาจากวัดใหม่เทพนิมิตรมาให้ชมครับ อาจารย์ น ณ ปากน้ำกล่วถึงธรรมาสน์หลังนี้ไว้ว่า
เป็นธรรมาสน์สมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งดัดแปลงเป็นลายฟรั่ง หลังคาโค้งแบบฟรั่ง
แต่มีย่อมุม มีนาคเบือนทุกย่อมุม ลายบนผนังเป็นลายไทยผสมฟรั่ง เป็นแบบปฏิรูปอย่างหนึ่งของอยุธยาตอนปลาย



บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:38

ที่จริงหลังคาทรงคล้าๆยแบบนี้ ผมเห็นในภาพเขียนของวัดช่องนนทรีเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องเป็นที่นิยมในสมัยนั้นหรือเปล่า


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:40

หลังคามีการย่อมุมปักนาคปักแบบไทย เป็นการผสมผสานที่ลงตัวหรือไม่ก็แล้วแต่มุมมองครับ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:44

ทวยค้ำเป็นแบบไทย ธรรมาสน์หลังนี้ปรากฏร่อรอยการโจรกรรมเสียจนบอบช้ำเหลือเกินแล้ว
แม้แต่ภาพถ่ายจากเมื่อครั้งอาจารย์ น ไปพบก็ไม่ต่างจากนี้เท่าไร ตัวกระจังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
หรือเครื่องประดับที่ชั้นฐานอื่นๆก็ไม่สมามารถจินตนาการได้เลย เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:48

ลายที่ผนังธรรมาสน์เป็นลายไทยผสมฟรั่ง ดูคล้ายๆกับที่บานประตูหอไตรวัดระฆังครับ
ธรรมาสน์หลังนี้นับเป็นหลักฐานที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่บอกเล่าการปฏิวัติของศิลปะสมัยอยุธยา


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 08 ก.ย. 09, 10:53

กาบประดับโคนเสาก็ไม่เหลือเช่นกัน


บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 19 คำสั่ง