virain
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:19
|
|
นางมโนราห์ถูกจับโดยพรานบุญ ไปถวายพระสุธน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:20
|
|
ผนังนี้เรียงเรื่องงๆครับ ผมดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:24
|
|
ผนังผั่งนี้เขียนเรื่องทศชาติครับ ไม่แน่ใจว่าครบสิบหรือเปล่านะ ใช้เส้นแบ่งช่องเขียนแต่ละเรื่อง ภาพนี้เป็นเรื่องมโหสถชาดกครับ ตอนบุกมิถิลา เห็นทหารยืนประจำการบนเชิงเทินด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ilili_tuka_ilil
อสุรผัด

ตอบ: 28
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:28
|
|
ติดตามตลอดนะคะทุกกระทู้ของสมาชิกเลย แม้ว่าจะไม่เข้ามาแสดงตัว ... ทริปที่จะไปเมืองเพชร .. ขอให้ผ่านช่วงเดือนตุลาคมก่อนได้มั้ยคะ ...ตูก้าในฐานะเจ้าของพื้นที่((ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมมากเท่ากับเรื่องอาหารอร่อย..แฮ่ม  )) อยากร่วมเดินทางไปด้วย ..แต่ช่วงนี้เป็นช่วงปลายงบประมาณมีงานก่อสร้างที่ต้องควบคุมงานหลายโครงการ จนถึงต้นเดือนตุลาคมโน่นเลยค่ะ ต่อจากนั้นมีทริปที่ต้องเดินทางไปปักกิ่ง ประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคมถึงจะมีเวลาว่าง ... แต่ถ้าทุกคนว่างพร้อมกันก่อนก็สามารถจัดทริปไปกันก่อนได้นะคะไม่ต้องรอ ..แค่อยากพาไปทานของอร่อยๆกับพาไปนมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดป้อม ซึ่งเป็นเกจิที่คนเมืองเพชรเคารพ วัดป้อมนี้อยู่ใกล้กับวัดเกาะค่ะ ..เพราะไปเมืองเพชรคงต้องแวะเยือนวัดเกาะแน่แท้เชียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:30
|
|
ภาพที่เล้วเขียนมีรายละเอียดด้วยนะครับจะเห็น สัปทนโผล่อยู่รอบนอกกำแพงเมือง เป็นสัญลักษณ์ว่ามีกษัตริย์มาร้อยเอ็ดเมือง ภานี้เป็นภาพพระมโหสถครับ ฉากนี้เห็นบ่อยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:34
|
|
สวัสดีคุณตูก้าครับ
ผนังด้านฝั่งตรงข้ามพระประธานครับ เขียนภาพป่าหิมพานต์ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องไหม ดูภาพคชสีห์นี้เทีบกับวัดปราสาทครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:36
|
|
ภาพสุดท้ายของวัดเขียน ขอลงภาพนี้ ชอบมากๆช้างสิบตระกูลของป่าหิมพานต์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ilili_tuka_ilil
อสุรผัด

ตอบ: 28
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:40
|
|
สวัสดีคุณเนค่ะ .. สวยจังค่ะ ทุกภาพเลย โพสเร็วด้วย ..มิน่าพี่ตูก้าโพสข้อความไม่ติดสักที คงเป็นเพราะคุณเนกำลังเร่งส่งรูปนี่เอง อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:41
|
|
วัดสุดท้ายคือวัดหลวงสุนทรารามครับ ตั้งใจจะไปดูภาพเขียนในพระอุโบสถอย่างมากเพราะ มีข้อมูลว่าเป็นภาพเขียนสมัยอยุธยา แต่พอไปถึงพระท่านว่าไม่มีกุญแจ พระรูปที่มีท่านติดกิจธุระ เสียดายมากๆเลย แต่ก็เข้าไปเดินดูรอบๆครับ พระอุโบสถหลังเล็กทรงคล้ายๆโบสถ์วัดชมภูเวกครับ แต่ที่นี่ทรุดโทรมมากหลังคารั่วเกรงว่าภาพอาจอยู่ในอันตราย หน้าบันเป็นลายปูนปั้นไม่กลาเดาว่าสมัยไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:48
|
|
จับโพสอย่างเดียวเลยครับคุณตูก้า ด้านหน้าทำเป็นพาไลยื่นมาซึ่งชำรุดมากมาย อยากดูภาพด้านในมากๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:50
|
|
ด้วยความเสียดายเลยไปวนๆที่หน้าประตู เห็นลายรดน้ำที่เลือนๆไปมากเอามาฝากให้พิจารณาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 20:54
|
|
วัดหลวงสุนทรรามเป็นวัดสมัยพระนารายณ์มหาราช ลักษณะพระอุโบสถเป็นดังนี้ ขนาดกว้าง 7 เมตรเศษ ยาว 17 เมตร ฐานเป็นรูปโค้งสำเภา ด้านหน้าหันไปทางทิศตะวันตก หลังคาไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แต่ทำเป็นรูปตุ๊กตาบุคคลครึ่งตัวอยู่บนสุดเหนือออกไก่และล่างสุดซ้ายขวาของจั่ว หน้าบันอุดทึบไม่มีไขรา ลายหน้าบันด้านหลังเป็นรูปเทพนมองค์ใหญ่กว่าคนจริงอยู่กลางหน้าบัน รองรับด้วยบัว ล่างลงไปเป็นรูปหน้ากาลประกอบลายพรรณพฤกษา ลายหน้าบันด้านหน้าเป็นรูปต้นไม้บนโขดหินประกอบด้วยดอกไม้ใบไม้ กลางดอกไม้ประดับถ้วยชามโบราณสีต่าง ๆ ส่วนใต้หน้าบันด้านหน้าพระอุโบสถมีพาไลยื่นออกมาคลุม รับด้วยเสากลมทรงสอบ 4 ต้น ประดับบัวปลายเสา ผนังพระอุโบสถด้านหน้ามีประตูทางเข้า 2 ช่อง ซุ้มเป็นรูปตุ๊กตาบุคคลเช่นเดียวกับจั่วบานประตูทั้ง 2 ช่อง เขียนลายรดน้ำ ด้านนอกเขียนลายเทพนมก้านแย่งด้านในขวามือของประธานเขียนสีรูปต้นมักกะลีผล ด้านซ้ายมือของพระประธานเขียนสีรูปหญิงชาวบ้านคู่หนึ่งผนังด้านข้างภายนอกมีหน้าต่างข้างละ 5 ช่อง ด้านนอกเขียนลายรดน้ำลายเดียวกับประตู ด้านในเขียนสีปิดทองรูปทวารบาล ผนังด้านหลังพระอุโบสถทำทึบตันไม่มีประตู ภายในพระอุโบสถตีฝ้าไม้จากผนังหลังพระประธานมาจบตรงกลางพระอุโบสถที่เหลือปล่อยว่างจนเห็นระแนงและกระเบื้อง ช้างบนผนังหลังพระประธานเขียนภาพจิตรกรรมเรื่องเวสสันดรชาดก ใช้สีเพียงน้อยสี ได้แก่ แดง ขาว เขียว ทอง ผนังซ้ายขวาของพระประธานล้วนชำรุดจนมองไม่เห็นภาพ แต่เหนือช่องหน้าต่างเหลือเค้าลายเทพชุมนุมเพียงเล็กน้อยนอกนั้นฉาบปูนขาวทับไว้ ส่วนด้านหน้าพระประธาน เนื่องจากไม่มีฝ้าจึงมีบริเวณกว้างใหญ่ลึกสูง เขียนเป็นรูปมารผจญ จรด อกไก่ข้างบน รูปพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่ตรงกลางนั้นภาพจิตรกรรมโดยทั่ว ๆ ไปจะเขียนรูปปางมารวิชัย แต่ที่พระอุโบสถนี้เขียนปางสมาธิแทน ภาพจิตรกรรมทั้งหมดนี้กรมศิลปากรได้ดำเนินการซ่อมแซม และฉีดน้ำยาเพื่ออนุรักษ์ภาพไว้เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะชำรุดกร่อนและลบเลือนไปเป็นอันมากแต่ยังคงเหลือเค้าความงดงามวิจิตรบรรจงในรูปแบบจิตรกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 21:00
|
|
สุดท้ายของวัดนี้เป็นใบเสมาหินทรายแดง รูปแบบคล้ายๆวัดอ้อยครับแต่สลักลายหยาบๆ วัดนี้แปลกอยู่ครับ คือหน้าพระอุโบสถหันไปทางทิศตะวันตกทั้งๆที่ไม่มีคลองอยู่ทางด้านนี้ เลยทำให้ข้องใจว่า บริเวณด้านหลังพระอุโบสถอาจมีพระวิหารหรือเปล่า แต่ก็ไม่อาจเดา เพราะมีโบสถ์หลังใหญ่เป็นโบสถ์ใหม่ตั้งอยู่ด้านหลัง ถ้าเคยมีวิหารอยู่ก็คงรื้อแล้วสร้างทับไป หรือมีเหตุผลอื่นๆที่ทำให้โบสถ์หันไปทางทิศตะวันตกซึึ่งเป็นหลังวัดอีกผมก็ไม่รู้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
virain
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 15 ส.ค. 09, 21:11
|
|
พี่ยีนส์เอาข้อมูลมาฝากซะผมเสียดายเพิ่มเลยครับ แต่สภาพปัจจุปันโทรมมากๆเลย หลังคารั่วด้วย กลัวว่านับวันจะยิ่งชำรุดไปเรื่อยๆ
พระที่วัดปราสาทบอกกับผมว่า เคยมีชาวต่างชาติเข้ามาที่วัดพร้อมกับไกด์เพื่อมาขอถ่ายภาพ ภาพเขียนในโบสถ์อยู่บ่อยๆ ผมเริ่มสงสัยว่าเขารู้กันได้ยังไง ขนาดผมเองก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้เอง ถ้าเป็นวัดในกรุงเทพฯก็ว่าไปอย่าง แต่นี่อยู่ไกลซะขนาดนี้ยังมาดูได้ เอาเป็นว่าผมก็คงต้องหาข้อมูลไปดูตามที่นั้นที่นี้เเรื่อยๆ และจะเอามาฝากเป็นครั้งคราวครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 16 ส.ค. 09, 11:51
|
|
การที่ฝรั่งต่างชาติรู้ถึงสิ่งต่างในเมืองไทยเนื่องด้วยประเทศของเขาเหล่านั้นมุ่งแสวงหาของดีของงาม แล้วถ่ายทำเป็นสารคดีจัดทำเป็นหนังสือเพิ่อเผยแพร่แก่คนของประเทศเค้าทราบ เพื่อเปิดโลกทรรศน์ให้ประชาชนของเค้าได้ซึมซับว่าในบรรณพิภพนี้ยังมีของดีของงามที่ปรากฎอยู่สมควรที่จะหาโอกาสมาทัศนาเยี่ยมชมให้จำเริญหูจำเริญตา ต่างจากประเทศผู้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นนั้นที่วันๆเฝ้าแต่จะทำลายผลงานของบรรพชนให้ย่อยยับอัปราลงไป ทั้งชนในประเทศก็หาได้ใส่ใจไม่ รังแต่จะทำเพื่อเอาหน้าไปวันๆอย่างเสียไม่ได้ อีกหน่อยเถิดบ้านเมืองนี้จะไม่เหลือสิ่งดีๆให้ลูกหลานดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|