มาหมดมุขอะไรกันครับ สงสัยจะมีเรื่องให้คิดกันมากสินะครับ หุหุ
...ใช่เลยครับพี่กุลักษณะแบบนี้ผมเห็นด้วยเลยครับ เพราะฉะนั้นภาพรวมแบบมองง่ายๆก็คล้ายกับพระที่นั่งดุสิตสวรรย์ฯ
มีท่านหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เคยแสดงความคิดเห็นไว้ว่า บางทีการทำช่องหน้าต่างแบบสีหบัญชรในการเสด็จออกนี้
อาจเป็นแบบแผนอย่างพม่า ซึ่งอาจเป็นความคิดที่พ้องหรือเราได้แบบอย่างมา ประเด็นนี้ผมเองก็เชื่อว่ามีความ
เป็นไปได้อยู่เหมือนกันนะครับ เพราะมีเค้าอยู่เหมือนกันว่าพระที่นั่งวิหารสมเด็จอาจสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวร
ซึ่งพระองค์อาจนำรูปแบบมาใช้ด้วยก็ได้ ถึงแม้จะมีการรื้อซ่อมใหม่ในมัยต่อมาก็ตาม แต่อาจคงรูปแบบไว้ ทำให้ส่งต่อ
ไปยังพระที่นั่งที่ลพบุรีด้วยก็ได้
ส่วนการตั้งพระแท่นราชบัลลังก์ (แบบพระที่นังพุดตาน)
ท่าหนึ่งท่านนั้นคิดว่าอาจเริ่มสมัยพระนารายณ์ ?? เพราะรูปแบบเช่นนี้ดูเหมาะที่จะตั้งในปราสาทจตุรมุข แต่สำหรับผมกลับคิดว่า
เราอาจจะใช้พระเท่นแบบพระที่นั่งพุดตานมาก่อนแล้ว แต่รูปแบบอาจเปลี่ยนไปเพราะพระทวาราวดีเองยังมีท่านั่งแบบยุโรป ??
ซึ่งอาจจะดูเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกัน ผมคงต้องศึกษาหลักฐานมากกว่านี้ถึงจะพูดได้เต็มปาก เพราะฉะนั้นประเด็นพวกนี้ไม่อาจจะ
ตัดทิ้งลงไปได้ เพราะถ้าดูภาพการวางตำแหน่งในท้องพระโรงพระที่นั่งสรรเพ็ชญ์ ที่เมืองโบราณทำไว้ ผมว่าองค์ประกอบแบบ
มองหลวมๆก็น่าเชื่ออยู่นะครับ โดยการจัดตำแหน่งของซุ้มพระทวารสำหรับเสด็จออก หรืออาจทำเป็นบุษบกเกริน??สำหรับออก
แบบประทับสีหบัญชร แต่อัฒจรรย์ด้านหน้าเอาไว้ตั้งพระราชบัลลังก์ เพราะเคลื่อนย้ายได้ เพื่อไว้ใช้สำหรับออกว่าราชการ
ในกรณีที่อาจต้องการความสะดวก ?? โดยอาจเปิดช่องทางขึ้นอัฒจรรย์ไว้ด้านหน้าด้ววย ตรงนี้อาจดูแปลกๆไปบ้างแต่ก็อยาก
จะลองฝากไว้แบบคิดเล่นๆดูน่ะครับ ใครมีอะไรดีๆอยากให้ลองแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ปล.ที่นอนไม่หลับเพราะอากาศร้อนครับ(บ้านเมืองด้วย) เป็นนักศึกษาอยู่ห้องเช่าเล็กๆไม่มีแอร์

.. T-T ..
ผนังอิฐคายความร้อน พอตอนกลางคืนก็ร้อน ไม่รู้จะทำยังไงเวลานอนก็ถอดจนไม่มีอะไรให้ถอดอยู่แล้ว 555
ผมยังต้องตัดสั้นเลยครับ ถ้าไม่กลัวว่าจะเมื่อยก็จะลงไปนอนบนพื้นปูนเย็นๆแทนแล้วครับ ดึกๆลงไปข้างล่าง
เห็นหมานอนบนพื้นปูนมีลมพัด ...... ต่างชีวิต ต่างจิตใจจริงๆ เหอะๆ