เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 11
  พิมพ์  
อ่าน: 45549 การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 15 มิ.ย. 09, 17:42

ไปไหนกันหมดแล้ว บ้าอยู่คนเดียว วันนี้ได้มีโอกาสไปที่วัดไชยทิศมา ให้รู้สึกผิดหวังอย่างแรง เพราะเกิดมีปากเสียงเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่กรมศิลป ทั้งๆที่เราเข้าไปเพื่อหวังจะถ่ายภาพ เหตุคงเพราะหน่วยอนุรักษ์จิตรกรรมโดนร้องเรียนบ่อยเกี่ยวกับการอนุรักษ์ที่ไม่ถูกวิธีโดยเฉพาะการเขียนทับของเดิม อย่างกรณีที่วัดป่าเกด และที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์และอีกหลายๆที่ ในที่นี้ทำให้คนที่เข้าไปด้วยจุดประสงค์ดีอย่างเราการเป็นโจร หรือพูดให้ดูดีหน่อยผมเปรียบเหมือนปาปาราซซี่ที่ไปถ่ายดาราที่แอบทำอะไรมิดีแล้วเอามาแฉ ผมไม่เข้าใจจริงว่า การอนุรักษ์ถ้าทำอย่างถูกต้อง ทำไมจะต้องกลัวคนต่อว่า คนทำดีไม่มีอะไรต้องกลัวนอกจากทำไม่ดี ทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิด ไม่ใช่ยกข้ออ้างร้อยแปดมาบิดเบือน คงคิดว่าตัวเองปิดทองหลังพระ ซึ่งเปล่าเลย เป็นการยกตัวเองว่าแน่ ข้ารู้ ข้าคือผู้ปฏิบัติจริงย่อมรู้ดีที่สุด อันนี้น่ากลัว เพราะคนโง่ถ้าประเมินตนเองว่าฉลาดหรือเก่ง คนที่เข้ารู้กว่าตน หรือเก่งกว่า เข้าจะว่าเอาได้ว่าโง่อวดฉลาด สภาพที่ผมเข้าไปถึงเมื่อเปิดโบสถ์เข้าไป เห็นเจ้าหน้าที่สุภาพสตรีนอนเล่นอยู่3คน เปิดเพลงเสียงดัง หาได้มีใครทำงานอยู่ไม่  พอไปถึงรีบถามว่าเราเป็นคนไปที่วัดบางยี่ขันมาก่อนใช่หรือไม่ เราก็บอกว่าใช่ งั้นต้องคุยกับหัวหน้าก่อน ซึงเข้าใจว่าเป็นคุณจารุวรรณ เพราะคุมงานเขตนี้อยู่ เค้าก็ยืนกรานว่าไม่อนุญาต ด้วยเหตุผลคือไม่ไว้ใจเรากลัวเราเอาไปโจมตี สิทธิ์ของเค้า ดูยิ่งใหญ่จริงๆ ทั้งที่เราขอเจ้าอาวาสแล้วนะนั่น เรายังบอกว่าจะต้องใช้เส้นถึงรัฐมนตรีวัฒนธรรมและอธิบดีกรมศิลปเลยใช่มั๊ย ก็บอกเราว่าก็ดี จะได้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทะเลาะกัน (ท้าผิดคนซะแล้ว) วางสายไปแล้วยังโทรมาสั่งลูกน้องอีกว่าไม่อนุญาตให้ถ่าย เรายังไม่อยากมีเรื่องเลยกลับก็ได้ว่ะออกมาพ้นประตูโบถส์ มันรีบลงดานประตูทันที ดูมันทำ กลัวจนขี้ขึ้นหัว แค้นนี้เลยต้องชำระครับ โทรเข้ากรมศิลปในบัดดล ได้เบอร์อธิบดีเรียบร้อย แต่ยังไม่พอ ต้องไปหารฐํฐมนตรีวัฒนธรรมก่อน คุณ ธีระ สลักเพชรก่อน วันสองวันนี้คอยดูผลคืบหน้า วัดไชยทิศเคยผ่านการอนุรักษ์มาแล้วตังแต่สมัยที่ผมถ่ายเมื่อ25ปีที่แล้ว สภาพปัจจุบันก็มีบ้างที่หลุดร่อนไป เพราะเดิมก็หลุดร่อนเยอะอยู่แล้ว ซึ่งจากที่ผมเดินดูโดยรอบแม้ไม่ได้ถ่ายภาพ ก็ไม่เห็นจะกลัวอะไรที่จะไม่ให้ถ่าย คงต้องดูละเอียดอีกที มันคงกลัวเจอ ต่อให้ทำเสร็จ กูก็รู้อยู่ดีว่าอะไรที่มึงทำไว้ ขอหยาบหน่อยเถอะ เหลืออดกะมันจริงๆ(ภาพถ่ายประกอบผนังนึงที่วัดไชยทิศที่ถ่ายเมื่อ25ปีที่แล้วครับ)


บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 15 มิ.ย. 09, 18:06

ลักษณะที่คุณvirainเห็นนั้นมิใช่น้ำยาเคลือบภาพสมัยอยุธยาแต่อย่างใดครับ มันคือน้ำย้าพาราลอย์72ซึ่งทเคลือบไว้จากการอนุรักษ์ พูดง่ายๆเหมือนทาแลคเกอร์ที่ผนังน่ะครับ สังเกตได้ว่าถ้าถ่ายรูปใช้แฟลช มันก็จะสะท้อนเป็นฝ้าๆ บางครั้งทาไม่ทั่วผนัง ก็จะเห็นเป็นรอยแปรงทาเป็นแนวเลย สำหรับโบราณจริงไม่มีน้ำยาเคลือบหรอกครับ แต่ จะอยู่ที่ขั้นตอนการเตรียบผนังตั้งแต่เขียน ตั้งแต่การฉาบปูนผนัง ส่วนที่ทำให้สียึดเกาะได้ดีก็คงจะเป็นในส่วนของสีฝุ่นที่ผสมด้วยกาวกระถิน และกาวเม็ดมะขามครับกาวเม็ดมะขามจะนำไปทำสมุกผนังก่อนเขียนภาพ(รองพื้น ซึ่งช่างโบราณก็จะมีเทคนิคแตกต่างกันไปนะครับ มะขามที่ใช้ต้องเป็นมะขามเปรี้ยวเท่านั้น)
รูปประกอบเป็นฝีมือผมเอง เขียนบนกระดาษสาสมุดข่อยด้วยสีฝุ่นโบราณผสมกาวกระถิน 25ปีมาแล้วยังสดใสงดงามอยู่เลยครับใส่กรอบกระจกตัดแสงไปแล้วตอนถ่ายสีเลยดรอปลงมาบ้างพอสมควรครับ


บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 10:17

ก็คงต้องทำใจละครับสิ่งเหล่านี้ มันคงถูกทำลายลงเรื่อยๆจนกว่าจะหมดแหละครับ   ผมเลิกหวังแล้วกับการอนุรักษ์ครับหันมาตั้งหน้าตั้งตาเก็บข้อมูลที่ยังหลงเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะเก็บรักษาไว้ได้ครับ   เสียดายที่ผมไม่ค่อยได้ไปไหนมากเนื่องจากมีงานประจำ  แต่ก็จะหาเวลาไท่ที่โอกาสจะอำนวยครับ  ก็ใจเย็นๆละกันครับพี่  ค่อยทำกันไปช่วยๆกันเองครับ
บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 10:46

มันทำใจไม่ได้นะซิครับ เหมือนคนถูกทำร้าย ยังไม่ตาย แต่ไม่มีใครช่วย เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง งานนี้ผมคงต้องพยายามให้เรื่องถึงผู้ใหญ่ให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางนึง (รูปประกอบมารผจญวัดไชยทิศ)


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 14:19

ผมเคยเข้าไปวัดไชยทิศมาแล้วเมื่อสักสองเดือนก่อน  ตอนนั้นผมมีหนังสือที่มหาวิทยาลัยออกให้ไปด้วย
แต่ไปถึงก็มีการวางนั่งร้านแล้วแต่ไม่มีใครอยู่  แต่ก็ไม่ได้ถ่ายภาพมาเพราะนั่งร้านวางเกะกะเลยขออณุญาติ
ท่านเจ้าอาวาสไว้แล้วประมาณเดือนกันยาตามกำหนดที่จะซ่มอเสร็จแล้วจะไปถ่ายใหม่ 

ผมว่าเรื่องนี้มีปัญหาหลายฝ่ายมาก  ผมก็ฟังมาหลายๆคนพูดมาแล้วก็รู้สึกว่าที่จริงแล้วปัญหามันใหญโ่ตจังเลย
ฝ่ายพระสงฆ์ในอาวาสวัดก็ชอบบอกว่าวัดจะทำอะไรก็ไม่ไ้ด้ต้องขออณุญาติกรมศิลป์ตลอด  จะพัฒนาจะซ่อมแซมก็ทำไม่ได้(โบราณสถาณ)ไม่ใช่ของวัด
ฝ่ายช่างที่ซ่อมแซมก็บอกว่าทำไปแล้วก็ไม่มีคนชมมีแต่คนว่า  ว่าทำไปแล้วก็เห็นพังๆขาดๆเหมือนเดิม (อันนี้คนทั่วไปมามอง)  วัดก็อิดออดไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ฝ่ายบุคคลที่ชื่นชมในงานศิลปะทั้งหลายก็มักจะพูดว่า  ทำไปแล้วก็ไม่ถูกต้องตามวิธีการ ซึ่งฝ่ายหลังเป็นผู้ที่มีความรักและหวงแหนความงามในงานศิลปะมาก

อันนี้ผมเข้าใจเพราะรอยพู่กันเพียงตวัดเดียวของช่างแต่ละคนก็ให้น้ำหนักความงามไม่เท่ากัน  ภาพแต่ละภาพมีสุนทรียแฝงอยู่ในความละเอียดอ่อน
ผมยังไม่เจนเท่าไรในเรื่องนี้ก็ได้แต่รับฟังและคิดดู  มีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยผมเองก็จนใจ
 
บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 14:34

ถ้ามีหนทางช่วยเหลือก็เอาเลยครับผมสนับสนุนเพียงแต่การอนุรักษ์ของกรมศิลปปัจจุบันส่วนมากจะเป็นหน่วยงานของกองโบราณคดี ซึ่งผมก็เคยเห็นฝีมือมาแล้วว่าไม่ดี แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกับบานประตูวัดประยูรตรงทางเข้ามหาเจดีย์ละครับ  เป็นรูปยักษ์แต่แปลกตรงว่าบานนี้ไม่พอดีกับกรอบประตูเหมือนเอามาตัดต่อจากที่อื่น แต่ก็เป็นงานรัชกาลที่๓ แน่   วันที่ผมไปนั้น ยังเห็นเก็บอยู่เพียงแต่ลอกกุญแจไม่ให้เข้าไปเท่านั้น  เราเองก็นึกว่าจะคัดลอกทันกลับมาอีกวันมันเอากบไสซะเรียบ  โดยข้ออ้างควายๆว่าทองหลุดหมดแล้ว  จะเอาไม้ใหม่มาทำไม   เศร้า   ผมคงสู้กับไอ้พวกนี้ไม่ได้คระบกฏหมายเขาให้โอกาสมันทำลายศิลปะของชาติทั้งๆที่หลักฐาน ก็เห็นอยู่ชัดๆว่ามันทำลายอย่างที่คุณรู้ผมก็รู้   ทำไงได้ผมไม่มีเส้น  แต่ถ้ามีโอกาสช่วยกันได้ก็อย่าลืมบวกผมเข้าไปด้วยอีกคนละ    พูดแล้วก็เสียดาย    ตั้งแต่  วัดโพธิ์   วัดนางชี    วัดนางนอง   วัดเทพธิดา   วัดราชนัดดา   วัดบวร    วัดประยูร   ล่าสุดก็วัดไชยทิศนี่แหละครับ ไม่รูว่ามันจะทำลายศิลปกรรมของชาติเราไปถึงไหน   แล้วได้เรื่องอย่างไรก็ส่งข่าวบอกกันบ้างนะครับ
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 14:35

ผมว่าถ้าอยากอณุรักษ์กันจริงคงต้องใช้วิธีการแบบต่างประเทศ  ที่ใช้ดูแลรักษาภาพเขียนบนฝาผนัง
-ที่ทำการขุดรากฐานของผนังกำแพงพระอุโบสถมาทำการซ่อมแซมความแข็งแรง และใช้กรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ดูแลความซื้นที่จะขึ้นสู่ผนัง
-ปรับพื้นที่รอบโบราณสถานให้เป็นพื้นดิน  ทุบคอนกรีตที่เทโดยรอบออกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้  เพื่อให้ความชื้นระบายออกได้ไม่ซึมเข้าผนัง
-โครงสร้างหลังคาต้องทำให้ดีไม่ให้มีน้ำฝนรั่วลงมาเด็ดขาด
-ทำไงก็ได้ไม่ให้มีการแตะต้องสัมผัสภาพเขียน  (ผมเห็นภาพมโหสถชาดกกับเนมิราชชาดกในวัดสุวรรณฯ พังช่วงล่างเพราะมีการจัดที่นั่งพระริมกำผนังโบสถ์มีการวางหมอนอิงติดภาพเขียนเลย)
-หาทางลอกคอนกรีตใหม่ที่ฉาบทับผนังด้านนอกพระอุโบสถ  เพื่อให้ความชื้นระบายออกได้ไม่ไประบายในด้านที่เป็นภาพเขียนอย่างเดียว (อันนี้ต้องระวังต้องไม่ให้เกิดการกะเทือน)
-พยายามเปิดพระอุโบสถให้เป็นพิพิทธภัณฑ์  ประโยชน์ทางอ้อมคือการที่ความชื้นจะได้ถ่ายเทออกนอกอาคารได้

ที่จริงหลายครั้งที่ผมไปชมภาพเขียนในที่ต่างๆ  มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะเวียนมาชม  ตอนแรกผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ไง
ผมเลยลองถามดูเขาบอกว่าในหนังสือมีลงไว้  ที่จริงไม่ได้มีแต่ฟรั่งตะวันตกนะชาวญี่ปุ่นก็ยังเคยเจอ  แต่เขาก็ชมค่อนข้างลำบากเพราะไม่มีใครมาเปิดใ้เข้าไปดู

อันนี้เป็นวิธีเท่าที่ผมรู้  แต่มันค่อนข้างใหญ่โตแลน่าจะทุนสูง 
แต่ก็น่าทำเพราะประเทศไทยเองภาพเขียนมีอยู่เหลือไม่มากนัก  น่าจะรักษากันให้ดีทีุ่สุด
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 14:49

วัดไชยทิศเป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่นเท่าที่ผมดูเองนะครับ ผมเห็นภาพมารผจญของวัดนี้มาอยู่ที่ผนังริมหน้าต่าง(เรียกว่าผนังสกัดหรือผนังหุุ้มกลองผมเรียกไม่ถูก)
ที่อื่นต้องอยู่ที่ผนังด้านหน้าเป็นภาพใหญ่ที่เขียนอย่างตระการตาอย่างกับภาพการตัดสินครั้งสุดท้ายในวิหารซิสติน
ภาพมารผจญที่นี่เป็นที่แรกที่เคยเห็นแบบนี้ 

แต่ภาพเขียนตามวัดเหล่านี้ผมสังเกตเห็นจะพังตรงส่วนล่างๆก่อน  เรื่องความชื้นคงเป็นข้อหาแรก
ข้อหาต่อมาก็คงเป็นเวลาที่ต้องจัดงานพิธีที่พระสงฆ์ต้องมานั่งเรียงแถวด้านข้างทำให้มีการมาสัมผััสภาพเขียนกัน
อย่างภาพภาพมโหสถชาดกกับเนมิราชชาดกในวัดสุวรรณฯ
ส่วนด้านบนก็มีน้ำฝนรั่วมาทำหน้าที่ต่อ  ภาพเขียนในเมืองไทยนี้มีกรรมนัก


ขอถามนะครับ ไม่ทราบว่าภาพเขียนที่วัดไชยทิศนี่เป็นภาพในสมัยไหนครับ  จะเก่าไปกว่ารัชกาลที่สามรึเปล่า
บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 14:53

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องสารเคลือบนะครับ  และภาพของคุณjean1966สวยงามมากครับ
บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 18:39

คุณyutthana นี่ใช่คุณปุราณที่เว็ปพันธ์ทิพย์รึเปล่า เห็นอ้างอิงข้อมูลคล้ายกันครับ จริงๆแล้วความตั้งใจของกรมศิลปนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ ทั้งวิธีและขั้นตอนในการดำเนินการ แต่ผู้ปฏิบัติต่างหากที่ขาดความรับผิดชอบ อาจจะด้วยเงินน้อยภาระเยอะ ทำให้ไม่มีใจ แต่ผมว่าปัญหาหลักๆคือคนทำงานไม่มีฝีมือ ดังนั้นต่อให้ขั้นตอนและวิธีการดีเพียงไรมันก็ไม่เกิดประโยชน์ ที่สำคัญคืออวดดี สำคัญตนผิดนี่แหละ  การทำงานเมื่อไม่มีใจ ไม่ตั้งใจ ไม่มีหัวหน้างานควบคุม คอยแต่จะเอาดีเอาชอบไม่เอาผิด เป็นวัวสันหลังหวะ พูดแล้วมีอารมณ์ พอก่อนดีกว่า สำหรับภาพเขียนที่วัดไชยทิศนั้น ณ น ปากน้ำ บอกว่าเป็นสมัยอยุธยา แต่ก็เหมือนกับหลายๆที่ละครับ กาลเวลาเนิ่นนานมีซ่อมแซมกันมาโดยตลอด ถึงรัชกาลที่1และ3 จึงไม่สามารถฟันธงไปได้หรอกครับว่าที่เหลืออยู่เป็นสมัยใด แต่โดยส่วนตัว ผมวิเคราะห็จากตัวภาพในการเขียนแล้วส่นที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นร.1แล้วมีร.3มาซ่อม ส่วนเรื่องตอนมารผจญนั้นนอกจากที่นี่ ก็ยังมีที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์อีกที่ครับ ฝีมือก็ร่วมสมัยกันเลยครับเขียนไว้ผนังด้านซ้ายมือพระประธานเช่นเดียวกัน (ผนังด้านสกัดหรือเรียกอีกอย่างว่าหุ้มกลองนั้นคือผนังด้านหน้าและหลังพระประธานเรียกสกัดหน้าหรือหุ้มกลองหน้า ถ้าหลังก็หลังต่อท้าย ส่วนด้านข้างเรียกผนังแปครับคุณvirain)รูปประกอบวัดไชยทิศตอนอภิเษกพระเจ้าสุทโทธนะกับพระนางสิริมหามายา ผนังหุ้มกลองหน้าพระประธาน


บันทึกการเข้า
pakun2k1d
พาลี
****
ตอบ: 285


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 20:06

เห็นปรับทุกข์กันอยู่แค่ 2 ท่าน  จึงมาเป็นกำลังใจด้วยค่ะว่า โกรธ เศร้า หดหู่ กับการอนุรักษ์โบราณสถานของเรานั้นเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  และดิฉันว่าคงมีต่อไปในอนาคต  ได้รับรู้ครั้งใดก็ขุ่นเคือง อึดอัด ขัดข้องใจที่เราก็ทำอะไรให้ได้ดังใจเราไม่ได้  รอบ ๆ ตัวเรามีคล้าย ๆ กันอย่างนี่อีกหลาย ๆ เรื่อง  ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้ เช่น อยู่ดี ๆ ก็ลุกขึ้นมาปิดสนามบิน ปิดถนน ซะงั้น  สุดท้ายก็ใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้านี่แหละค่ะ  เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา สรรพสิ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัย  ก็พิจารณาดูว่าเราทำอะไรได้แค่ไหนก็ทำให้ดีที่สุดที่ทำได้  เราอาจจะรักษาต้นไม้ไม่ได้ทั้งป่า  แต่ถ้าได้สักต้นก็ยังดีนะคะ  ดิฉันเป็นกำลังใจให้ 

ที่บอกไปก็ไม่ได้ทำได้อย่างที่บอกหรอกค่ะ  กำลังฝึกฝนอยู่
บันทึกการเข้า
jean1966
สุครีพ
******
ตอบ: 1256


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 21:56

แค่เพียงกำลังใจที่มีให้ ผมก็สู้ใจขาดดิ้นแล้วครับ เอารูปเนมีราชวัดสุวรรณารามไปดูครับ ท่านสงบจริงๆ


บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 22:26

คุณjean1966นำภาพนี้มาหให้ดูแล้วนึกได้  จะถามว่าทำไมภาพเนิราชชาดกทำไมการลงสีพื้นถึงได้เป็นรอยแปรงเส้นๆในแนวขึ้นลง
ไม่เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนการลงสีพื้นทั่วไปครับ


ผมจำได้ว่าคราวที่ไปวัดใหญ่เทพนิมิตรเห็นภาพตอนเส็ดจออกมหาภิเนกษกรมณสวยมากๆ แต่ค่อนข้างเสียหายอยู่ดูแล้วถ้าสมบูรณ์ๆคงเกินบรรยาย
คุณjean1966เคยชมภาพก่อนชำรุดรึเปล่าคับ




บันทึกการเข้า
virain
นิลพัท
*******
ตอบ: 1655


AmonRain


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 22:28

ขอขยายให้ดูพักตร์องค์อินทร์


บันทึกการเข้า
yutthana
สุครีพ
******
ตอบ: 1599


สุนทรียภาพแห่งศิลปไทย


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 16 มิ.ย. 09, 22:47

ผมว่ามันก็ผิดทั้งกระบวนการอนุรักษย์นะครับคุณพี่Jaen  แม้ว่าเจตนาจะดีก็เถอะครับ แต่ผลที่ออกมามันค่อนข้างแย่เคยสอบถามเพื่อนๆที่กองหัตศิลป์เหมือนกันว่าทำไมไม่ทำตามวิธีที่ถูกต้องหรือทำไมไม่ให้คนที่มีฝีมือมาซ่อมแซม ซึ่งเพื่อนผมคนหนึ่งก็เป็นคนมีฝีมือคนหนึ่ง   แต่เพื่อนผมก็บอกว่าไปยุ่งเขาไม่ได้เนื่องจากหน้าที่อนุรักษ์ เป็นของกองโบราณคดี  กรมศิลปากร  ไม่ใช่กองหัตศิลป์  ซึ่งที่ผมเจอมากกับตัวผมเองคือพวกนี้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานน้อยมากๆ  และคัดลอกออกมาก็ไม่เหมือนของเดิม คือเพี้ยนไปอย่างมากครับ   และที่เลวร้ายกว่านั้นคือเมื่อกรมศิลปส่งนักวิชาการมาตรวจกลับให้ผ่านได้ไงก็ไม่รู้ ผมยังเก็บแบบที่เขาเขียนเพี้ยนและรูปเดิมไว้เปรียบเทียบ อยู่เลยครับ    เอาไว้วันหลังจะนำมาให้ดูครับ   ที่บลอคพันทิพย์ผมใช้ชื่อปุราณครับ   ผมว่าในกลุ่มที่คุยกันเรื่องจิตรกรรมไทย  หรืองานศิลปะไทยมีน้อยมากครับ  ผมเลยไปหลายเว็บ  เพื่อหากลุ่มที่รักศิลปะไทยเหมือนกันครับ  อย่างน้อยก็ได้แรกเปลี่ยนความรู้หรือระบายความคับข้องใจบ้างครับ   ส่วนถ้าส่วนใดกรมศิลป์มีการอนุรักษ์ที่ดี ผมก็ต้องขอชมครับ ส่วนคนที่ทำลายก็ขอให้ปรับปรุงหน่อยเถอะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 11
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 19 คำสั่ง