สวัสดีครับ คุณ CrazyHOrse หายไปซุ่มเขียนงานครับ ตอนนี้ เขียนไปได้กว่าครึ่ง เลยมีเวลามาแวะเวียน
ถ้าข้อมูลเป็นดังที่คุณ CrazyHOrse ว่ามา ก็แปลกมากครับ ที่จีนกั๊กให้ข้อมูลเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า ตอนจีนกั๊กพูดถึง "เมืองใต้" ไว้ดังนี้ครับ
"
แต่เมืองฟากเขาข้างใต้ ๘ เมืองนั้น ข้าพเจ้าจำชื่อได้แต่เมืองมองหลี บาตอง ตัวปันหลัน ยังอีก ๕ เมืองข้าพเจ้าจำชื่อไม่ได้ เมือง ๘ เมืองนี้หาอยู่ในบังคับเจ้าเมืองกาล่งกงไม่ ถ้าคนแดนข้างเมืองกาล่งกงจะลงไปฟากเขาข้างใต้ถ้าพบพวกเมืองมองหลีมากกว่า พวกเมืองมองหลีก็จับเอาไว้ขายเสีย ถ้าพวกเมืองมองหลีข้ามฟากเข้ามาข้างเหนือพบพวกเมืองกาล่งกงมากกว่าก็จับเอาไว้ขายกินเหมือนกัน"
ซึ่งความเป็นจริง เมืองมองหลี ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ (แผนที่ในบทความ วางตำแหน่งเมืองผิดครับ ผมเทียบกับ Google maps แล้ว ปรากฎว่า เมือง Bangli อยู่เหนือขึ้นไปอีก ใกล้กับ Danau Batur อย่างไรก็ตาม ผมไม่ทราบว่า แผนที่ในบทความ วางตำแหน่ง "เมืองเก่า" ในขณะที่ Google maps ว่างตำแหน่งเมืองใหม่ หรือเปล่า) ดังนั้น ถึงจะลงไปถึง Mengwi ก็ต้องผ่านเขตอิทธิพลของ Bangli ก่อน แต่จีนกั๊กไม่ได้กล่าวถึง แต่เล่าว่า
"แล้วหญิงล่ามพาข้าพเจ้าออกจากบ้านกำนัน (บ้านงัวตุด = Batur) เพลาเที่ยงเดินมาประมาณสัก ๒๐ เส้นเศษเปนป่าไม้ต่าง ๆ บ้าง ต้นกาแฟโต กำ ๑ สองกำ สูง ๕ ศอก ๖ ศอกบ้างรายกันไป แล้วมืดเปนน้ำค้างตกเหมือนฤดูเดือน ๑ เดือน ๒ ข้าพเจ้าถามหญิงล่าม ๆ ว่าเพลาเที่ยงแล้วเปนน้ำค้างลงอย่างนี้ทุกวัน เดินต่ำลงไปจนเพลาเย็นถึงเมืองมองงุย อาไศรยนอนอยู่บ้านกำนันคืน ๑"
แสดงว่า แค่วันเดียว จาก Danau Batur ก็ถึงเมือง "มองงุย (ของจีนกั๊ก)" ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเมืองมองงุย (Mengwi) จริงๆ อยู่ใต้ลงไปอีก ใกล้ๆ กับ Gianyar
==============================
"
ล่ามพาข้าพเจ้าเดินมาหากลับมาทางเดิมไม่ มาทางใหม่ผินหน้าม้ามาทางตวันตก เดินมาอิกวัน ๑ (จาก มองงุย) ถึงเมืองกีอ้นเจียกหาได้แวะเข้าในเมืองไม่ ล่ามบอกว่าเมืองนี้เปนเมืองใหญ่ ผู้คนมากขึ้นกับเมืองบาหลี ข้าพเจ้าพักนอนอยู่กลางทุ่งคืน ๑ รุ่งขึ้น เพลาเช้าชาวบ้านเอาเข้าสุกกับเนื้อสุกรย่างจิ้มเกลือมาขาย ข้าพเจ้าซื้อเข้ารับประทานแล้ว ออกเดินมาแต่เพลาเช้า มีแต่พงแขม ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ที่ไร่ที่นาก็ไม่มี มาจนเพลาเย็นถึงบ้านอาพอนหาได้เข้าในบ้านไม่ พักนอนอยู่กลางทุ่งคืน ๑
รุ่งขึ้นเพลาเช้าเดินมาจนเพลาเที่ยงถึงเมืองมองหลี เปนเมืองใหญ่ผู้คนมีมาก เมืองมองหลีนี้ผู้คนวิวาทกันหาได้ขึ้นกับเมืองบาหลีไม่ ถ้าแลคนข้างเมืองบาหลีมาข้างแดนเมืองมองหลี ชาวเมืองมองหลีจับริบเอาสิ่งของ ตัวคนก็เอาไปขายเสีย ถ้าชาวเมืองมองหลีไปข้างแดนเมืองบาหลี ชาวบาหลีมากกว่าก็จับริบเอาสิ่งของตัวคนไปขายเสียเหมือนกัน เมืองมองหลีมีเจ้าเมืองผู้คนมาก
และไม่น่าเป็นไปได้ ที่ จะเดินทาง"
ถ้า พิจารณาตามที่จีนกั๊กเล่า จะเห็นว่า ทิศทางนั้นตรงกันข้ามเลย คือ ความจริงแล้ว จาก เมืองมองงุย (Mengwi) จีนกั๊กต้องเดินทางมาทาง "
ทิศตะวันออก" ถึงจะมาถึงเมือง "กีอันเจียก (Gianyar)" และจาก "กีอันเจียก" ต้องเดินขึ้นเหนือไป จึงจะถึง Bangli ซึ่งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของเกาะ
ถ้า พิจารณาว่า จีนกั๊กออกเดินทางจาก เมืองมองหลี ไป กีอันเจียก ก็จะได้ว่า จีนกั๊กออกเดินทางลงใต้ ซึ่ง ทิศทางที่ผิดจากตะวันตก เป็น ใต้ ยังพอเป็นไปได้ ในกรณีที่ไม่แน่ใจ เพราะตัวเองเริ่มออกเดินทางในทิศตะวันตกเฉียงใต้ (แต่ผิดจาก ออก เป็น ตก อันนี้น่าสงสัยอยู่)
แต่จาก กีอันเจียก ไป มองงุย ก็ต้องเดินทางไปทาง "ทิศตะวันตก" เหมือนกันกับที่จีนกั๊กบรรยาย เพียงแต่บรรยายไว้ผิดเมือง
====================================
"
ชาวเมืองมองหลีถือปืนบ้างหอกบ้าง ประมาณสัก ๑๐๐ คนเศษออกตีชิงแทงถูกชาวเมืองบาหลี ๓ คน ชิงเอาม้าบรรทุกกาแฟไปได้ ๕ ม้า พวกข้าพเจ้าหามีปืนหอกไม่ มีแต่กฤชสู้ไม่ได้ ก็ถอยมาบ้านอาพอน หญิงล่ามจึงให้คนบาหลีไปตีเกราะที่บ้านอาพอน ชาวบ้านอาพอนถือปืนถือหอกถือหลาวบ้างประมาณสัก ๒๐๐ คน"
ถ้าพิจารณาตามจีนกั๊กเล่า ถ้าเดินทางไปถึงมองหลีจริง ก็แปลกมากที่หนีกลับลงมาทางใต้อีก เพราะบ้านอาพอนอยู่ทางใต้
ในขณะที่ถ้าพิจารณาว่า จากเมือง Mengwi ก็ต้องหนีขึ้นเหนือ เพื่อหาทางกลับไป Buleleng ระหว่างทางก็แวะขอความช่วยเหลือ จาก Apuan
ทั้งหมดนี้ ผมพิจารณาตามเส้นทางที่บรรยายไว้ กับ ภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเมืองครับ
ส่วนในแง่ประวัติศาสตร์ว่าอย่างไร ผมรอฟังอยู่ครับ
