เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3401 เรียนถามอาจารย์เทาชมพูค่ะ
suthima
อสุรผัด
*
ตอบ: 4


 เมื่อ 02 ก.พ. 09, 20:01

สวัสดีค่ะ อาจารย์เทาชมพู

หนูได้อ่านกระทู้หนึ่ง ซึ่งอาจารย์ได้พิมพ์ไว้ว่า ได้เคยทำงานเปรียบเทียบ "ห้องสิน" และ "อภัยนุราช" เอาไว้
 
ตอนนี้หนูกำลังจะทำวิทยานิพนธ์ ป.โท เกี่ยวกับเรื่องห้องสินค่ะ  ไม่ทราบว่าหนูจะติดตามผลงานของอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ไหนบ้างคะ มีตีพิมพ์ไว้ไหมคะ

หนูอยากได้ความรู้และมุมมองจากอาจารย์มาเป็นข้อมูลอ้างอิงในงานค่ะ 

รบกวนอาจารย์ด้วยนะคะ  ขอบพระคุณค่ะ

สุธิมา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 03 ก.พ. 09, 08:42

มาจากเอกสารประกอบการสอนนศ.ปริญญาโท สาขาการแปล  ของสถาบันภาษาฯ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ดิฉันสอนอยู่ค่ะ
ชื่อวิชา "พัฒนาการของการแปลในประเทศไทย  : การศึกษาเชิงภาษาและวัฒนธรรม" 

เรื่องนี้อยู่ในการวิเคราะห์วรรณกรรมแปลยุคต้นรัตนโกสินทร์  มีข้อความดังนี้ค่ะ
****************************************
     ทั้งนี้ขอกล่าวถึงบางเรื่องพอเป็นสังเขปคือ  ห้องสิน   และ เลียดก๊ก
 
     เรื่อง ห้องสิน ต้นฉบับขาดหายไปในหน้าต้น   จึงไม่ทราบชื่อผู้แปล ตลอดจนปีพ.ศ. ที่แปล   แต่มีการอ้างถึงไว้ในพงศาวดารจีนเรื่อง เลียดก๊ก  ว่า  หลวงลิขิตปรีชาเจ้ากรมอาลักษณ์เป็นผู้ชำระ     นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
 
     เนื้อเรื่องของห้องสิน มีอยู่ว่า สมัยปลายราชวงศ์แฮ่  พระเจ้าติวอ๋องเสด็จไปคำนับศาลเจ้าของเทพธิดาหนึงวาสีตามธรรมเนียมที่กษัตริย์ก่อนหน้านี้เคยปฏิบัติมา   พระเจ้าติวอ๋องเห็นรูปเทพธิดาหนึงวาสีงดงามมาก  จึงเขียนโคลงชมเชยว่าถ้าเป็นนางมนุษย์จะรับไปเป็นมเหสีครองเมือง  เทพธิดาหนึงวาสีโกรธว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น  นางจึงเรียกปีศาจเสือปลา ปีศาจไก่  ปีศาจพิณมา  ให้ไปทำอุบายให้พระเจ้าติวอ๋องลุ่มหลงจนเสียบัลลังก์เป็นการลงโทษ   ปีศาจเสือปลาจึงไปฆ่านางงามชื่อนางขันกี ซึ่งถูกส่งตัวจากหัวเมืองเข้ามาเป็นนางสนมในวัง แล้วเข้าสิงในตัวนาง  เมื่อนางเดินทางมาถึงในวัง  พระเจ้าติวอ๋องเห็นนางมีหน้าตางดงามคล้ายเทพธิดาหนึงวาสีก็โปรดปรานมาก   นางขันกีทำมารยาให้พระเจ้าติวอ๋องลุ่มหลง  สั่งประหารขุนนางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะขุนนางที่ล่วงรู้ว่านางเป็นปีศาจเสือปลา  นอกจากนี้  ยังยุยงให้ควักนัยน์ตานางเกียงฮองเฮามเหสีเอกจนถึงตาย  อินหองอินเฮาราชบุตรทั้งสองถูกสั่งประหารชีวิต  แต่เทพยดามาช่วยให้หนีไปได้   หลังจากนั้นแผ่นดินเสื่อมโทรมลงอย่างหนัก  ปีศาจทั้งหลายจับคนในวังกินเป็นอาหาร  บ้านเมืองเดือดร้อน  เกิดศึกสงคราม  มีผู้วิเศษชื่อเกียงจูแหยเป็นแม่ทัพฝ่ายตรงข้าม  สามารถปราบปีศาจทางฝ่ายนางขันกีได้  จนพระเจ้าติวอ๋องต้องสูญเสียบัลลังก์และสิ้นพระชนม์ในที่สุด   นางปีศาจขันกีก็ถูกเทพธิดาหนึงวาสีลงโทษที่กระทำการชั่วร้ายเกินกว่าเหตุ                                                             

     เรื่อง  ห้องสิน คงจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่กวีไทยร่วมสมัย   และกลุ่มคนที่แปลก็คงเป็นกวีช่วยแต่งวรรณคดีเรื่องอื่นๆด้วย  จึงมีการเอ่ยอ้างถึงใน เสภา ขุนช้างขุนแผน ตอน ๔๓ พลายชุมพลปราบจรเข้เถรขวาด    กล่าวถึงประชาชนที่มามุงดูการต่อสู้ระหว่างพลายชุมพลกับจระเข้แปลงด้วยความตื่นเต้นที่เห็นอิทธิปาฏิหาริย์พันลึกพิสดาร ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน   จนคนจีนที่มาดูออกปากเปรียบเทียบว่า
 
          เมื่อครั้งเกียงจูแหยแก้กลศึก                 ก็รบกันครืนครึกกระบวนผี
     แต่เป็นการนานช้ากว่าพันปี         เราได้เห็นครั้งนี้เป็นบุญตา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 03 ก.พ. 09, 08:43

สำนวนภาษาของ ห้องสิน เมื่อเทียบกับวรรณกรรมแปล สามก๊ก และ ไซ่ฮั่น แล้ว นับว่าเรียบง่ายธรรมดามากกว่า   ไม่มีวรรณศิลป์เท่ากับสองเรื่องแรก   เนื้อเรื่องแม้กล่าวถึงการครองแผ่นดินและการทำสงคราม  แต่ก็เป็นทำนองให้ความตื่นเต้นในแง่บันเทิงมากกว่าจะคำนึงถึง   ‘ประโยชน์ของราชการบ้านเมือง’

อิทธิพลทางวัฒนธรรม

     ในเมื่อขาดคุณสมบัติทางด้านวรรณศิลป์ และความยิ่งใหญ่ของเนื้อหา  ห้องสิน จึงไม่แพร่หลายนัก  ล่วงมาถึงปัจจุบันเกือบจะไม่มีคนรู้จักแล้ว  แต่ในสมัยรัชกาลที่ ๒  คงจะได้รับความนิยมอยู่ไม่มากก็น้อย   สุนทรภู่จึงได้เนื้อเรื่องมาแต่งเป็นบทละครเรื่อง อภัยนุราช   ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้จักกันน้อยที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหมดของสุนทรภู่
     เนื้อเรื่องของ อภัยนุราช คล้ายคลึงกับ ห้องสิน ในช่วงต้นเรื่องเกือบจะตลอด   กล่าวถึงท้าวอภัยนุราชออกไปล่าสัตว์ในป่า  แต่ไม่ได้สักตัวเดียว  คิดว่าเทพารักษ์ผู้คุ้มครองป่ากลั่นแกล้งจึงสั่งเผาศาลที่สิงสถิตย์เสีย  เทพารักษ์โกรธ จึงลงโทษให้ท้าวอภัยนุราชเสียทั้งบ้านเมืองและลูกเมีย  เทพารักษ์ก็ไปหักคอหญิงคนทรงผีชื่อนางศรีสาหง  แล้วเข้าสิงในตัวนาง   นางไปหาท้าวอภัยนุราชขณะพักแรมอยู่กลางป่า   ท้าวอภัยนุราชต้องมนตร์นางปีศาจเกิดความลุ่มหลง  พานางกลับเมือง  อำมาตย์ราชครูดูออกว่านางเป็นปีศาจ จะทำน้ำมนตร์ขับไล้  นางศรีสาหงทำมารยายุให้อภัยนุราชสั่งประหารราชครูเสีย  ต่อมานางทะเลาะวิวาทกับนางทิพมาลีมเหสีเอก  ก็ทำอุบายให้ควักนัยน์ตานางทิพมาลี     พระโอรสธิดามาวิงวอนขอโทษ ท้าวอภัยนุราชก็ไม่ยอม
     เรื่องค้างอยู่เพียงแค่นี้   เข้าใจว่าสุนทรภู่ถึงแก่กรรมก่อนแต่งจบ
       เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว  จะเห็นว่าสุนทรภู่นำเค้าโครงเรื่อง ห้องสิน ตอนต้นมาเป็นหลัก  ดังจะเปรียบเทียบได้ดังต่อไปนี้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 03 ก.พ. 09, 08:45

     ๑    พระราชากระทำผิดด้วยการลบหลู่เทวดา
          (ท้าวอภัยนุราชลบหลู่เทพารักษ์  พระเจ้าติวอ๋องลบหลู่เทพธิดาหนึงวาสี )
     ๒    เทวดาโกรธจึงลงโทษด้วยการใช้นางปีศาจมาทำมารยาล่อลวงพระราชาจนเสียเมือง   
          ( เทพารักษ์ฆ่าหญิงคนทรงผีแล้วเข้าสิงนาง   นางก็ไปยั่วยวนท้าวอภัยนุราชจนลุ่มหลง  เทพธิดาหนึงวาสีให้ปีศาจเสือปลาไปฆ่านางขันกีแล้วเข้าสิงนาง  นางเข้าวังแล้วยั่วยวนพระเจ้าติวอ๋อง)
     ๓    ขุนนางผู้ใหญ่รู้เท่าทันว่านางเป็นปีศาจ  แต่เมื่อคิดขับไล่  นางก็ยุพระราชาให้ประหารเสีย
          (ท้าวอภัยนุราชประหารราชครู  พระเจ้าติวอ๋องประหารไต้ไทสือ)
     ๔    นางปีศาจยุให้ควักนัยน์ตามเหสีเอก
          (นางศรีสาหงออกอุบายว่านัยน์ตาเจ็บ  นางขอให้ท้าวอภัยนุราชควักนัยน์ตาทางทิพมาลีมาเปลี่ยนให้   ส่วนนางขันกีออกอุบายว่านางเกียงฮองเฮาใส่ร้าย  ให้พระเจ้าติวอ๋องควักนัยน์ตานางขณะไต่สวนเพื่อให้นางรับสารภาพ)     

ส่วนทางด้านภาษา  เนื่องจาก ห้องสิน ไม่มีจุดเด่นเป็นพิเศษ  เว้นแต่เนื้อเรื่องตอนต้นสนุกสนาน  มีหลายรสทั้งรสรัก ลุ่มหลง โกรธแค้น หึงหวง และโศกเศร้า  เหมาะจะดัดแปลงเป็นละคร  สุนทรภู่จึงนำมาเฉพาะเนื้อเรื่อง  แต่ก็น่าเสียดายที่แต่งไม่จบ ประกอบกับสุนทรภู่ไม่ชำนาญการแต่งบทละคร  อภัยนุราช จึงไม่แพร่หลายเท่ากับผลงานอื่นๆก่อนหน้านี้   แต่ก็มีบางตอนเป็นบทพรรณนาโวหารที่ไพเราะตามแนวของสุนทรภู่  คือ
 
           มานอนในไพรพนมต้องลมว่าว    อนาถหนาวน้ำค้างพร่างพฤกษา
       หอมดอกกลอยสร้อยสนสุมณฑา       มะลิลาลมโชยมาโรยริน
      ดอกไม้สดรสรื่นชื่นแช่ม                  เหมือนกลิ่นแก้มแจ่มนวลชวนถวิล
      หอมบุปผาสารพันลูกจันทน์อิน         ไม่เหมือนกลิ่นนุชเนื้อที่เจือจันทน์
บันทึกการเข้า
suthima
อสุรผัด
*
ตอบ: 4


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 03 ก.พ. 09, 18:16

กราบขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากค่ะ

ได้ความรู้และแนวทางเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ

สุธิมา
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.1 วินาที กับ 19 คำสั่ง