เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 18586 "คล้ายวันเกิด" คนไทยคิดและทำอย่างไรกัน ?
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


 เมื่อ 06 ม.ค. 09, 04:10

๖ มกราคม วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด จึงคิดถึงว่าทุกคนต้องมีวันคล้ายวันเกิดของตัวเองกันทุกคน
แล้วแต่ละคนเขาคิดเขาทำอะไรกันสำหรับวันเกิด คนไทยมีแนวคิดอย่างไร ต่างชาติเขาคิดอย่างไร
มีประวัติที่มาที่ไปกันอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้แก่คนรุ่นหลังต่อไป.
สำหรับข้าพเจ้าเองแล้ว ก็คิดจะทำบุญถวายภัตาหารพระ ทอดผ้าบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้มีพระคุณ
แล้วสร้างถาวรวัตถุ  อันเป็นประโยชน์แก่การศึกษาเล็กๆน้อยๆเท่าที่กำลังจะทำไหว ตามแนวทาง
พระพุทธศาสนาที่เคยเห็นมา.
แล้วถ้าเป็นวันเกิดของท่าน ท่านคิดและทำอย่างไรกัน? อยากเห็นความหลากหลายของเรื่องนี้
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 06 ม.ค. 09, 06:28

ในวันคล้ายวันเกิดของคุณ Maldum1  ในวันนี้   
ด้วยจิตกุศลของคุณ  ขอให้ประสบความสุข  พบผู้คนที่ดีงาม ภยันตรายทั้งหลายจงปลาศไป
มีสุขภาพดี   มีโอกาสได้ทำนุบำรุงพระศาสนา ทำบุญทำทานทำกุศลทางการศึกษาสมความหวังตั้งใจ





บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 07 ม.ค. 09, 11:03

ขอบคุณ คุณWandee อย่างน้อยก็มีท่านคนหนึ่งแหละ ที่ให้ข้อคิด ใน"วันเกิด"
การอนุโมทนาในการทำบุญของคนอื่น เป็นบุญอีกประการหนึ่ง ขอมอบบุญนั้นให้ท่านด้วย
คิดแบบสนุกๆ แบบคนทั่วๆไปนะ การเกิดในช่วงจังหวะปีใหม่ ก็ดีไปอย่างคือ ได้จัดงานทีเดียว
วันเกิดด้วย ปีใหม่ด้วย แจกของขวัญหนเดียว และรับของขวัญกันหนเดียว ไม่สิ้นเปลืองดี
มีของขวัญอยู่ชิ้นหนึ่ง ที่ประทับใจมากที่สุดในชีวิต เท่าที่เคยรับบัตรอวยพรมา
นั่นก็คือ บัตรอวยพรที่ ศิริราชมูลนิธิ ส่งคำอวยพรเป็นบทกลอนวันเกิดมาให้ ดีใจที่สุด
เพราะเราทำบุญเพียงครั้งละแค่ ๑๐๐บาท เขายังติดตามสนใจเรา ส่งบัตรอวยพรวันเกิดมาให้
ทำให้เกิดข้อคิดมุมมองในชีวิตอีกมากมาย.....โอกาสหน้าจะเข้ามาสนทนาใหม่ ในแง่มุมต่างๆที่
พบเห็นในงานวันเกิด
บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 ม.ค. 09, 04:38

"สัญญานะว่าจะดูแลกันตลอดไป"

คิดถึงเรือนไทยห้องนี้ ตั้งใจว่าจะหมั่นเข้ามาเยี่ยม ก็แวะเข้ามาบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้นั่งสนทนากับใคร
อย่างดีก๊เมียงๆมองๆ แง้มหน้าต่างดูแล้วก็ปืดไป วันนี้อดรนทนไม่ได้จึงขอนั่งพักหาน้ำใจเย็นๆดื่มให้ชื่นใจ
ในห้องนี้สักพัก.....
อย่างไรก็ไม่ลืมประเด็นเดิมที่ตั้งไว้ คือเรื่องราวหลากหลายในแง่มุม "วันเกิด"
ไปอ่านโฆษณาหนังเรื่องหนึ่ง เอ้อ ก็ดีเหมือนกัน .........
เรื่องย่อมีอยู่ว่า.............

“ของขวัญที่สำคัญที่สุดของคุณคืออะไร? สำหรับเขา คือ...เธอ”
เรื่องราวความรักของชายหนุ่ม “เต็น” และหญิงสาว “เภา” ที่บุพเพฯ นำพาให้ทั้งสองได้พบรักกัน โดยมีหนังสือท่องเที่ยวเป็นสื่อกลาง หนังสือเล่มที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน โดยที่ทั้งสองยังไม่เคยพบหน้ากัน...จนเมื่อได้พบกันโดยบังเอิญแล้ว ความคุ้นเคยและความสนิทสนมที่เคยผ่านตัวหนังสือมาแล้ว ก่อเกิดขึ้นกลายเป็นความรัก พร้อมถ้อยคำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะไม่ทอดทิ้งกัน
ตราบนิรันดร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

เรื่อง ราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวที่บุพเพสันนิวาส ชักนำให้พวกเขาได้มารู้จักกันผ่านตัวหนังสือ ในหนังสือท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน โดยที่พวกเขาไม่เคยพบหน้ากัน …แต่มันได้กลายเป็นสื่อกลางที่ทำให้ความรู้สึกผูกพันเกิดขึ้นในใจของทั้ง 2 คน …และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คนมือบอน 2 คนมารู้จักกัน

เต็น ช่างภาพหนุ่มภาคสนามของนิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่ง เป็นผู้เต็มไปด้วยอุดมการณ์ ได้มารู้จักกับ เภา ไกด์สาวผู้เดินทางท่องเที่ยวมาแล้วทั่วประเทศ ผ่านทางตัวหนังสือที่เภา มักจะแอบเขียนข้อความฝากไว้ใต้ภาพในนิตยสารท่องเที่ยวในร้านขายหนังสือแห่ง หนึ่งทุกครั้ง หลังจากกลับจากเดินทางครั้งแล้วครั้งเล่า

เต็น ไม่พอใจที่เห็นคนมือบอนเขียนลงในหนังสือท่องเที่ยวเล่มนั้น เขาจึงเขียนข้อความฝากไปถึงคนมือบอนคนนั้น จนกระทั่งได้พบกับ เภา ที่ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน ….จุดเริ่มต้นของการสานสัมพันธ์คนทั้งสอง

พวกเขานัดเจอกันครั้งแล้วครั้งเล่า เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยกัน ทั้งคู่ตกลงสัญญาว่าจะดูแลกันและกันตลอดไป

เรื่อง ราวระหว่างพวกเขาดูเหมือนจะไปได้ดี กระทั่งมาถึงวันครบรอบวันเกิดของเต็น เภาซึ่งเตรียมหาของขวัญมาให้ แต่มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ของขวัญชิ้นนั้นไม่ถึงมือเขา แต่คำสัญญาที่ทั้งคู่เคยให้ไว้ต่อกัน เป็นดั่งคำมั่นที่ เต็น ยังคงเก็บไว้และรอคอยว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป


ชื่อภาพยนตร์ ::: แฮปปี้เบิร์ธเดย์ (Happy Birthday) 
ประเทศ ::: ประเทศไทย
ประเภทหนัง ::: Drama/Romance
ผู้กำกับ ::: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง 
เขียนบทโดย ::: คงเดช จาตุรันต์รัศมี 
นักแสดงนำ ::: อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม... รับบท เต็น
ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ... ให้เสียง เภา

 
ที่มาข้อมูล : www.siamzone.com


บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 25 ม.ค. 09, 18:10

วันก่อน ได้นำตัวอย่างหนังเรื่อง แฮปปี้เบิร์ธเดย์ (Happy Birthday) มาฝากไว้ในเรือน ให้เห็นมุมมองของคนแต่ง
ว่าของขวัญวันเกิด นั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม หากผู้ให้และผู้รับมีความผูกพัน สิ่งนั้นย่อมมีค่า และเป็นของมีค่าที่สำคัญ
กว่าทรัพย์สินเงินทอง ..........
เคยถามเพื่อนๆว่า วันเกิดอยากได้อะไร บางคนอยากเข้าป่า บางคนอยากไปในเมือง บางคนอยากมีแฟน บางคนอยากเลิกกับแฟน
บางคนอยากได้ของขวัญแพงๆ บางคนอยากได้...ร้อยแปดความต้องการ
ไม่ว่าฝรั่งหรือคนไทย ต่างก็อยากได้พร อยากสมหวัง วันนี้อาจเป็นวันคล้ายวันเกิดของท่าน ฉนั้นขอท่านจงสมหวังในพรทั้งปวง
...สุขสันต์วันเกิดครับ.... วันนี้จึงมีภาพอวยพรวันเกิดมาฝาก


บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 27 ม.ค. 09, 22:25

ในหัวข้อ "คล้ายวันเกิด" คนไทยคิดและทำอย่างไรกัน ?
........ระหว่างรอความคิดเห็น ของท่านเจ้าของเรือน และท่านผู้สนใจเรื่องงานวันเกิดเข้ามาสนทนา
และปันความรู้ในแง่มุมต่างๆ  พอดีไปพบเห็น บทความและของที่ระลึกวันเกิด หลายชิ้นอยากจะนำมาเผยแพร่
หากไม่เหมาะสมประการใด ขอท่านเจ้าของเรือนและท่านผู้รู้ทั้งหลายได้ท้วงติงด้วย
วันนี้ขอนำบทบันทึกนี้ ใส่ชะลอมใบน้อยมาฝากท่านอีกเรื่อง........


บันทึกที่ระลึกวันเกิด
 
 
ไหนๆก็ผ่านวันเกิดมาแล้ว ก็อยากบันทึกว่าปีนี้มีอะไรประทับใจบ้าง เผื่อปีหน้าจะย้อนกลับมาดูอีกที
 
มาเริ่มที่คนใจร้อนก่อน คนที่มาอวยพรเราตั้งแต่ก่อนวันเกิด ฮิฮิ
- เอ๋ เพื่อนสาวคนสวย รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนฝึกงานที่ ........... ขอบใจมากๆ ถึงแม้ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่วันเกิดกี่ปีๆก็ไม่เคยลืมกันเลย
- คิม ใจร้อนอวยพรวันเกิดก่อนอีกคน ได้ข่าวว่าไม่มางานวันเกิด เพราะไปติดสาวที่ขอนแก่น จำไว้เลยนะ 555+
 
คนที่มาตรงเวลาดูซิมีใครบ้าง
- มะเหมียว สุดสวยนั่นเอง อุตส่าห์ SMS มาตั้งแต่เที่ยงคืน ส่งมาเป็นคนแรกเลย ปลื้มมากๆ จำได้ว่ารู้จักตอนแรกเมื่อหลายปีก่อนเริ่มจากเราเข้าไปจีบ ตอนนี้คุยไปคุยมา เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันซะแล้ว เป็นอีกคนที่ คุยกันไม่ค่อยบ่อย แต่วันเกิดก็มาอวยพรให้กันตลอด ขอบคุณจริงๆ
- เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่..... ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพร ดีใจที่มาทำงานที่นี่ เป็นสังคมที่อบอุ่นจริงๆ ว่าแต่ว่าทำไมแต่ละคนมาอวยพรให้เรามีแต่สาวๆรุมล้อมหว่า? แต่ไม่เป็นไร ชอบๆ สมพรปากกันทุกคนนะ ^^
- เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว ....... ทุกท่าน เป็นเพื่อนอีกกลุ่ม ที่ทำให้รู้ว่า สังคมในเนต ก็มีความจริงใจให้แก่กัน คอยช่วยเหลือกันมาตลอด ขอให้ในปีนี้เราก็ยังเฮฮาปาร์ตี้กันเหมือนเดิมน๊า
- เพื่อนมหาลัยฯ ชมรมชาว......... หญิง อัส วัน ก้อง อั๋น เต ที่มาร่วมงานวันเกิดกัน ทำให้วันเกิดปีนี้ไม่เป็นวันที่เงียบเหงา ขอบคุณที่ซื้อเค้กวันเกิดมาให้ด้วย อร่อยมากๆ
- เพื่อนๆทั้งเก่าและใหม่ทุกท่าน ที่อาจไม่ได้เอ่ยไว้ ณ ที่นี้ ขอบคุณทุกคนมากๆ
- ขอบคุณครอบครัว สำหรับสิ่งดีๆที่มีให้ตลอดปี คุณพ่อ คุณแม่ที่คอยเอาใจใส่ คุณตา คุณยาย ที่คอยดูแลเรื่องปากท้องในแต่ละวัน กับทุกคนในครอบครัวที่มีสิ่งที่ดีให้กันทุกวัน
 
วันเกิดปีนี้มีอะไรใหม่ๆให้ตัวเองบ้าง
- ซื้อ PSP ให้ตัวเอง สงสัยเดือนนี้เราจะจนซะแล้ว
- ผมทรงใหม่ แอบปลื้ม หลายคนชมว่าหน้าเด็กลง
- แม่ให้แหวนทองเกลี้ยงเป็นของขวัญวันเกิด
- ยายให้เสื้อเชิ้ต กับ รองเท้าหนัง ขอบคุณมากครับ
- พี่เคท & คิตตี้ สำหรับเสื้อ Lacoste ถ้ามีรูปเสืจะดีใจกว่านี้ (ช่วงนี้กะลังบ้าเสือ 555+) ขอบคุณมากๆครับ
- พี่หน่อง & เมเม่สำหรับคุกกี้ S&P นะจ๊ะ มีถุงผ้าลดโลกร้อนด้วย แต่โดนแม่อุ๊บอิ๊บไปแล้วแหละ
- พี่เมล สรุปว่าเสื้อเหลืองนี่ของผมช่ายป่ะ? ขอบคุณพี่ชายคนนี้มากๆครับ
- คิดว่าเดือนหน้าจะซื้อกีตาร์โปร่งไฟฟ้าให้ตัวเองซักตัว
 
เค้าบอกว่าชีวิตคนเรามักจะจำเรื่องร้ายได้มากกว่าเรื่องดี ถ้าอย่างนั้นปีที่ผ่านมาคงเป็นอีกปีที่ดีมากๆ เพราะนึกเรื่องที่ไม่ดีไม่ค่อยออกเลย
และปีนี้เป็นปีที่รู้สึกว่ามีเพื่อนและคนรู้จักเยอะขึ้นมากๆ ขอบคุณทุกคนตรงนี้อีกครั้งนะครับ ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นปีที่พิเศษมากๆ
 
หากถามว่าของขวัญในปีนี้อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คงต้องบอกว่าคือเพื่อนทุกๆคนที่วันนี้เราได้รู้จักกัน อยากบอกทุกคนเหลือเกินว่า..
~ มีเธอข้างกายชีวิตได้มีเธอเป็นของขวัญ..แค่รู้ว่ามีเธออยู่ข้างกันโลกนี้ชั้นไม่ต้องการสิ่งใด.. ~




บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 02 ก.พ. 09, 15:28

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม  "คล้ายวันเกิด"อีกมุมหนึ่ง

การทำบุญวันเกิด

ความเป็นมา

อันประเพณีที่จะ ทำบุญวันเกิด ขึ้นนี้เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่าการมีอายุยืนมาบรรจบรอบปีครั้งหนึ่งๆ ไม่ตายไปเสียก่อนเป็นลาภอันประเสริฐ ควรยินดี เมื่อรู้สึกยินดีก็ควรจะบำเพ็ญกุศล ที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท เพราะไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่งชั้นหนึ่ง เมื่อรู้สึกเช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิตเสียได้ นี้เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการทำบุญวันเกิดขึ้นเรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา
การที่ทรงทำในครั้งนั้นปรากฏว่ามีการสวดมนต์เลี้ยงพระ ๑๐ รูป เป็นการน้อยๆ เงียบๆ ครั้นต่อมาก็มีเจ้านายขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น แต่การทำบุญเกี่ยวกับพระลดลง เป็นแค่ประชุมคนแสดงเกียรติยศให้ปรากฏว่ามีผู้นับถึอมาก ตั้งโรงครัวเลี้ยงกันไปวันยังค่ำการมหรสพก็มีละครเป็นพื้น และนำของขวัญไปให้กันมีการเลี้ยงดูกันอย่างสนุกสนานให้ศีลให้พรกัน ถ้าเป็นวันเกิดเจ้านายขุนนางชั้นผู้ใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานพระราชหัตถเลขาให้พรด้วย พระราชทานของขวัญด้วย สมัยนั้นการทำบุญถือเป็นเกียรติใหญ่ เมื่อถึงวันเกิดของใครก็อึงคนึงเป็นการใหญ่ตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้ว และถือว่าถ้าไม่ไปช่วยงานวันเกิดกันแล้วเป็นไม่ดูผีกันทีเดียว
สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรก็ทรงทำบุญวันพระราชสมภพ ตามอย่างพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิธีทำก็มี สวดมนต์ เลี้ยงพระและแจกสลากสิ่งของต่างๆ แก่พระสงฆ์ ทรงทำตลอดมาจนกระทั่งเสวยราชย์และทำเป็นการใหญ่เช่น หล่อพระพุทธรูปอายุ เรียกว่า “หล่อพระชนมพรรษา” ทั้งมีการตกแต่งตามชาลาพระบรมมหาราชวัง ให้เป็นการครึกครื้นสนุกสนาน ตามริมน้ำและตามถนนก็สว่างไสวไปด้วยแสงประทีปโคมชวาลา จึงได้เกิดมีการแต่งซุ้มไฟประกวดประขันกันขึ้นและมีเหรียญพระราชทานแก่ผู้แต่งซุ้มไฟเป็นรางวัล อนึ่งในวันนั้นได้มีผู้ไปลงนามถวายพระพร พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการอ่านคำถวายพระพรอันเป็นเครื่องหมายแสดงความจงรักภักดี จึงถือเป็นประเพณีเนื่องด้วยทำบุญวันเกิดมาจนปัจจุบันนี้


วิธีปฏิบัติในการทำบุญวันเกิด
วิธีปฏิบัติ ในการทำบุญวันเกิดอาจเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ ดังนี้
๑. ตักบาตรพระสงฆ์เท่าอายุหรือเกินอายุหรือกี่รูปก็ได้ตามสะดวก
๒. บำเพ็ญกุศลอุทิศแก่บรรพบุรุษ ที่เรียกว่า ทักษิณานุประทานก่อนแล้วจึงบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเกิด
๓. ทำบุญ สวดมนต์ เลี้ยงพระ หรือมีพระธรรมเทศนาด้วย
๔. ถวายสังฆทาน
๕. ทำทานช่วยชีวิตสัตว์ เช่นปล่อยนก ปล่อยปลา ฯลฯ หรือส่งเงินไปบำรุงโรงพยาบาลหรือกิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์อื่นๆ
๖. รักษาศีลหรือบำเพ็ญภาวนา
๗. กราบขอรับพรจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือผู้ที่ตนเคารพนับถือ
๘. บำเพ็ญคุณประโยชน์อื่นๆ โดยมุ่งที่การให้ มากกว่า เป็นการรั


อานิสงส์หรือผลดีของการทำบุญวันเกิด
การทำบุญวันเกิด คือการปรารภวันเกิดและทำความดีในวันนั้นเป็นเหตุให้ได้รับผลดีหรืออานิสงส์ตอบแทน ดังมีพุทธภาษิตความว่า “ผู้ให้อาหาร ชื่อว่า ให้กำลัง ผู้ให้ผ้า ชื่อว่า ให้ผิวพรรณ ผู้ให้ยาน ชื่อว่า ให้ความสุข ผู้ให้ประทีป ชื่อว่า ให้ดวงตา” (พระไตรปิฏก เล่มที่ ๑๕ ข้อ ๑๓๘ หน้า ๔๔ ) และพระพุทธภาษิต ความว่า “ผู้ให้สิ่งที่น่าพอใจ ย่อมได้สิ่งที่น่าพอใจ ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศ ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐ ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐสุด ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐสุด “ (พระไตรปิฏก เล่มที่ ๒๒ ข้อ ๔๔ หน้า ๖๖)



ข้อเสนอแนะในการทำบุญวันเกิด
๑. กิจกรรมในการทำบุญวันเกิดควรเน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่าวัตถุ เช่นทำจิตใจให้สงบแจ่มใสและทำบุญตามศรัทธา
๒. ควรเป็นกิจกรรมที่มุ่งบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือส่วนรวม เช่นการบริจาคทาน สมทบทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ ใช้แรงงานของตนเองเพื่อส่วนรวม
๓. ควรมุ่งเน้นให้เป็นการประหยัด จัดงานวันเกิดในวงครอบครัวไม่ควรจัดหรูหราฟุ่มเฟือย
๔. ควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ไม่จำเป็นต้องจัดแบบต่างประเทศ เช่นตัดเค้กวันเกิดจุดเทียน หรือเป่าเทียน ร้องเพลงภาษาต่างประเทศอวยพรวันเกิด ฯลฯ
๕. ในกรณีที่ผู้น้อยไปรดน้ำอวยพรวันเกิดผู้ใหญ่ นิยมอ้างคุณพระศรีรัตนตรัยก่อนแล้วจึงมีคำอวยพร ส่วนของขวัญที่จะให้นั้น ควรทำด้วยน้ำพักน้ำแรงหรือของที่ประดิษฐ์ด้วยฝีมือตนเอง ถ้าเป็นดอกไม้ควรเป็นดอกไม้ที่ปลูกในประเทศไทย กรณีที่ผู้ใหญ่อวยพรวันเกิดผู้น้อย ผุ้ใหญ่ควรกล่าวถ้อยคำอันเป็นมงคลแก่ผู้รับพร
 



ทำบุญอายุ
การทำบุญอายุ มักนิยมทำกัน เมื่ออายุ ๒๕ ปี ซึ่งเรียกว่าเบญจเพสแผลงมาจาก ปัญจวีสะ คำว่าเบญจเพส ก็แปลว่า ๒๕ นั่นเอง ถือกันว่าตอนนี้เป็นตอนสำคัญ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะย่างขึ้นสู่สภาวะผู้ใหญ่ ตั้งตนให้เป็นหลักเป็นฐาน ถ้าดีก็ดีกันในตอนนี้ ถ้าเอาดีไม่ได้ก็อาจจะเสียคน ด้วยเหตุนี้จึงมีการทำบุญเมื่ออายุ ๒๕ ปีเพื่อส่งให้เจริญงอกงามต่อไป ต่อจากนั้นก็ทำเมื่ออายุ ๕๐ หรือ ๖๐ ปีอีกครั้งหนึ่ง เพราะถือกันว่าตอนนิอายุย่างเข้ากึ่งหนึ่งของศตวรรษแล้ว และเจริญมากถึงที่สุดแล้ว ต่อไปร่างกายก็มีแต่จะทรุดโทรมลงทุกวัน การทำบุญที่อายุปูนนี้จึงเป็นการทำโดยไม่ประมาท ร่างกายเสื่อมลงไปๆ จึงควรทำบุญไว้ เพื่อเป็นประกันในเมื่อจวนจะหมดลมจะได้นึกว่าทำดีไว้มากแล้ว ถึงตายก็ตายอย่างสงบ อนึ่งการทำบุญอายุนี้ บางทีทำกันเมื่อมีอายุครบ ๒ รอบ ๓ รอบ ๔ รอบ ไปจนถึง ๕ -๖ รอบฯลฯ รอบหนึ่งมี ๑๒ ปีถ้าบรรจบปีเกิดในรอบไหนก็ทำในรอบนั้น วิธีปฏิบัติ อานิสงส์ผลดีหรือข้อเสนอแนะ เช่นเดียวกับการทำบุญวันเกิด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม



บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 06 ก.พ. 09, 04:41

ทำ บุ ญ วั น เ กิ ด 
ในสมัยพุทธกาล มีพราหมณ์ ๒ คนผัวเมีย
พาลูกน้อยของตนไปหาพราหมณ์ที่เป็นสหายซึ่งถือพรตบำเพ็ญตบะ

เมื่อพราหมณ์ ๒ ผัวเมียทำความเคารพ
พราหมณ์ที่บำเพ็ญตบะได้กล่าวอำนวยพรว่า

“ขอจงจำเริญอายุยืนนาน”

แต่เมื่อให้บุตรของตนทำความเคารพ
พราหมณ์ผู้บำเพ็ญตบะหาได้กล่าวอวยพรให้ตามธรรมเนียมไม่
โดยบอกเหตุผลบอกว่า
ลูกน้อยของพราหมณ์ ๒ ผัวเมียจะต้องตายภายใน ๗ วัน

พราหมณ์ผู้บำเพ็ญตบะ ได้แนะนำให้พราหมณ์ ๒ ผัวเมีย
พาลูกไปหาพระพุทธเจ้า

พระพุทธองค์ได้ตรัสแถลงเช่นเดียวกัน และแนะนำอุบายป้องกัน
โดยการนิมนต์พระสงฆ์สวดพระปริตรตลอด ๗ วัน
ซึ่งพราหมณ์ทั้งสองก็กระทำตามครั้นถึงวันที่ ๗

พระพุทธองค์เสด็จไปด้วยพระองค์เอง
ทำให้ยักษ์ผู้ได้รับพรมาเพื่อฆ่ากุมาร
ไม่อาจทำอันตรายพระกุมารนั้นนอนฟังพระปริตรอยู่

ด้วยพุทธานุภาพประกอบกับอายุไม่ถึงการดับแห่งสังขาร
ทำให้ทารกนั้นรอดพ้นอันตราย และมีอายุยืนยาวถึง ๑๒๐ ปี

• ประเพณีทำบุญวันเกิด

เกิดขึ้นเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง

ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่า

การมีอายุยืนมาบรรจบรอบปีครั้งหนึ่งๆ
ไม่ตายไปเสียก่อนเป็นลาภอันประเสริฐ ควรยินดี
เมื่อรู้สึกยินดีก็ควรจะบำเพ็ญกุศล
ที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท

เพราะไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่
ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง
ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่งชั้นหนึ่ง
เมื่อรู้สึกเช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิต
นี้เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการทำบุญวันเกิดขึ้นเรียกว่าเฉลิมพระชนมพรรษา

การที่ทรงทำในครั้งนั้น
ปรากฏว่ามีการสวดมนต์เลี้ยงพระ ๑๐ รูป เป็นการน้อยๆ เงียบๆ

ครั้นต่อมาก็มีเจ้านายขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น
แต่การทำบุญเกี่ยวกับพระลดลง
เป็นแค่ประชุมคนแสดงเกียรติยศให้ปรากฏว่ามีผู้นับถึอมาก
ตั้งโรงครัวเลี้ยงกันไปวันยังค่ำการมหรสพก็มีละครเป็นพื้น
และนำของขวัญไปให้กันมีการเลี้ยงดูกันอย่างสนุกสนานให้ศีลให้พรกัน

ถ้าเป็นวันเกิดเจ้านายขุนนางชั้นผู้ใหญ่

พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานพระราชหัตถเลขาให้พรด้วย
พระราชทานของขวัญด้วย สมัยนั้นการทำบุญถือเป็นเกียรติใหญ่

เมื่อถึงวันเกิดของใครก็อึงคนึงเป็นการใหญ่ตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้ว
และถือว่าถ้าไม่ไปช่วยงานวันเกิดกันแล้วเป็นไม่ดูผีกันทีเดียว

สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรก็ทรงทำบุญวันพระราชสมภพ
ตามอย่างพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วิธีทำก็มี สวดมนต์ เลี้ยงพระและแจกสลากสิ่งของต่างๆ แก่พระสงฆ์
ทรงทำตลอดมาจนกระทั่งเสวยราชย์และทำเป็นการใหญ่เช่น

หล่อพระพุทธรูปอายุ เรียกว่า “หล่อพระชนมพรรษา”
ทั้งมีการตกแต่งตามชาลาพระบรมมหาราชวัง
ให้เป็นการครึกครื้นสนุกสนาน

ตามริมน้ำและตามถนนก็สว่างไสวไปด้วยแสงประทีปโคมชวาลา
จึงได้เกิดมีการแต่งซุ้มไฟประกวดประขันกันขึ้น
และมีเหรียญพระราชทานแก่ผู้แต่งซุ้มไฟเป็นรางวัล

อนึ่งในวันนั้นได้มีผู้ไปลงนามถวายพระพร พระบรมวงศานุวงศ์
และข้าราชการอ่านคำถวายพระพรอันเป็นเครื่องหมายแสดงความจงรักภักดี
จึงถือเป็นประเพณีเนื่องด้วยทำบุญวันเกิดมาจนปัจจุบันนี้

• วิธีปฏิบัติในการทำบุญวันเกิด

อาจเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ ดังนี้

๑. ตักบาตรพระสงฆ์เท่าอายุหรือเกินอายุหรือกี่รูปก็ได้ตามสะดวก
๒. บำเพ็ญกุศลอุทิศแก่บรรพบุรุษ ที่เรียกว่า
ทักษิณานุประทานก่อนแล้วจึงบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเกิด
๓. ทำบุญ สวดมนต์ เลี้ยงพระ หรือมีพระธรรมเทศนาด้วย
๔. ถวายสังฆทาน
๕. ทำทานช่วยชีวิตสัตว์ เช่นปล่อยนก ปล่อยปลา ฯลฯ
หรือส่งเงินไปบำรุงโรงพยาบาลหรือกิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์อื่นๆ
๖. รักษาศีลหรือบำเพ็ญภาวนา
๗. กราบขอรับพรจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือผู้ที่ตนเคารพนับถือ
๘. บำเพ็ญคุณประโยชน์อื่นๆ โดยมุ่งที่การให้ มากกว่า เป็นการรับ
อานิสงส์หรือผลดีของการทำบุญวันเกิด

• การทำบุญวันเกิด

คือการปรารภวันเกิดและทำความดีในวันนั้นเป็นเหตุให้ได้รับผลดี
หรืออานิสงส์ตอบแทน

ดังมีพุทธภาษิตความว่า

“ผู้ให้อาหาร ชื่อว่า ให้กำลัง ผู้ให้ผ้า ชื่อว่า ให้ผิวพรรณ
ผู้ให้ยาน ชื่อว่า ให้ความสุข ผู้ให้ประทีป ชื่อว่า ให้ดวงตา”
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ ข้อ ๑๓๘ หน้า ๔๔)

และพระพุทธภาษิต ความว่า

“ผู้ให้สิ่งที่น่าพอใจ ย่อมได้สิ่งที่น่าพอใจ ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศ
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐ ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐสุด ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐสุด”
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ ข้อ ๔๔ หน้า
 
• ข้อเสนอแนะ

๑. กิจกรรมในการทำบุญวันเกิดควรเน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่าวัตถุ
เช่นทำจิตใจให้สงบแจ่มใสและ ทำบุญตามศรัทธา

๒. ควรเป็นกิจกรรมที่มุ่งบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือส่วนรวม เช่น
การบริจาคทานสมทบทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ ใช้แรงงานของตนเองเพื่อส่วนรวม

๓. ควรมุ่งเน้นให้เป็นการประหยัด
จัดงานวันเกิดในวงครอบครัวไม่ควรจัดหรูหราฟุ่มเฟือย

๔. ควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ไม่จำเป็นต้องจัดแบบต่างประเทศ
เช่นตัดเค้กวันเกิดจุดเทียน หรือเป่าเทียน
ร้องเพลงภาษาต่างประเทศอวยพรวันเกิด ฯลฯ

๕. ในกรณีที่ผู้น้อยไปรดน้ำอวยพรวันเกิดผู้ใหญ่
นิยมอ้างคุณพระศรีรัตนตรัยก่อนแล้วจึงมีคำอวยพร
ส่วนของขวัญที่จะให้นั้นควรทำด้วยน้ำพักน้ำแรง
หรือของที่ประดิษฐ์ด้วยฝีมือตนเอง

ถ้าเป็นดอกไม้ควรเป็นดอกไม้ที่ปลูกในประเทศไทย
กรณีที่ผู้ใหญ่อวยพรวันเกิดผู้น้อย ผู้ใหญ่ควรกล่าวถ้อยคำอันเป็นมงคลแก่ผู้รับพร

   

ที่มา : http://www.panyathai.or.th/
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15684



บันทึกการเข้า
Maidum1
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 11 ก.พ. 09, 04:19

ความเชื่อเกี่ยวกับการเกิด

เชื่อกันว่าหากเห็นดาวตกแสดงว่ามีวิญญาณจากสวรรค์จะมาเข้าท้องเพื่อเกิดใหม่ ถ้าเห็นดาวตกบ้านใครบ้านนั้นจะได้ลูก และถ้าขณะเห็นดาวตกห้ามไม่ให้ทักเพราะวิญญาณจะไปเข้าท้องสุนัขแทน

      ซึ่งทำให้เชื่อว่าวิญญาณของทุกคนมาจากสวรรค์แล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ เชื่อว่านรกมีไว้สำหรับผู้ทำชั่ว สวรรค์มีไว้สำหรับผู้ทำดี ใครทำชั่วตายไปจะตกนรก ใครทำดีตายไปจะเกิดบนสวรรค์

       การเตรียมตัวของมารดาขณะตั้งครรภ์ ก่อนที่จะได้ลูกมารดาบางคนได้ฝันว่าได้ แก้วแหวนเงินทองหรือได้พระ เมื่อมีการทำนายฝันเชื่อว่าจะได้ลูกหญิงหรือลูกชาย

       เมื่อรู้ว่า ตั้งครรภ์ก็เกิดความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว หรือวิธีที่จะทำให้ลูกสมบูรณ์ แข็งแรง แม้แต่ การรับประทานอาหารของมารดาที่ตั้งครรภ์ ถ้ามารดารับประทานอาหารที่แปลกพิสดาร ก็เชื่อว่าลูกมาจากภพภูมิที่ไม่ดี


พิธีทำบุญอายุ นั้น จัดขึ้นเพื่อความต้องการความสุขสวัสดี
มีอายุยืนยาวเจริญวัฒนาต่อไปในภายภาคหน้า ส่วนใหญ่หากเป็นการทำบุญวันครบรอบวันเกิด โดยทั่วไปมักไม่ค่อย จัดใหญ่โตนัก เพียงทำบุญตักบาตรพระในตอนเช้า หรือถวายภัตตาหารพระที่วัด เสร็จแล้วจึงถวายจตุปัจจัยไทยธรรมตามศรัทธา เมื่อพระสวดเจริญพระพุทธมนต์ให้พร อนุโมทนา และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นอันเสร็จพิธี

      สำหรับการทำบุญอายุนั้น นิยมจัดเป็นงานใหญ่กว่าการทำบุญวันเกิด โดยทั่วไป เมื่ออยู่ในช่วงที่มีอายุเบญจเพส คือ 25 ปี หรือช่วงที่มี อายุกลางคน คือ 50 ปี หรือทำเมื่อครบ รอบ ทุก 12 ปี ซึ่งมักนิยมทำกันเมื่อครบ 5 รอบ คือ 60 ปี และ 6 รอบ คือ 72 ปี

      สาเหตุที่นิยมทำเมื่ออายุครบ 25 ปี เพราะวัยเบญจเพสเป็นช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต จากวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ส่วนทำเมื่อครบ 50 ปีนั้น เพราะถือว่าอายุยืนยาว มาได้ครึ่ง หนึ่งของชีวิตแล้ว จึงควรทำบุญและเลี้ยงฉลอง แสดงความยินดี


บันทึกการเข้า
ศศิศ
พาลี
****
ตอบ: 326


อหังการ์ ล้านนาประเทศ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 13 ก.พ. 09, 02:31

ลองอ่านในหนังสือเล่มนี้เพิ่มเติมได้นะครับผม

TITLE: ประเพณีทำบุญวันเกิด
AUTHOR: จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ
YEAR: ๒๔๗๘, ๕, ๗๐ หน้า


http://fulltext.car.chula.ac.th/toc.asp?dirid=I0007&dirname=ประเพณีทำบุญวันเกิด

บันทึกการเข้า

- ศศิศ -
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 19 คำสั่ง