ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ประวัติศาสตร์โลก
>
เลิศเลอวงศา...โรมานอฟ ตอนหก
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 5410
เลิศเลอวงศา...โรมานอฟ ตอนหก
WIWANDA
บุคคลทั่วไป
เมื่อ 14 ธ.ค. 08, 08:46
ท้ายกระทู้ที่แล้วได้รับความกรุณาจากคุณ honeytina ที่กรุณาหา โรมานอฟ family tree (พงศ์สาลี?) มาแปะให้ ขอบคุณค่ะ
ถ้าใครยังไม่แน่ใจในสายญาติ ลองไปทำความเข้าใจดูนะคะ จะได้อ่านสนุกขึ้น..ชื่นใจจริง ที่เห็นว่าท่านผู้อ่านช่วยกันคนละไม้ละมือในเรื่องภาพและข้อมูล อย่างนี้..ถึงไหนถึงกัน..สู้ขาดใจเลยค่ะ
ท้ายกระทู้ ที่แล้วอีกเช่นกัน..ที่ได้เรียนให้ทราบแล้วว่า จากนี้ไปจะนับสายญาติโดยใช้ความสัมพันธ์กับซาร์องค์ใหม่..นิโคลาสที่สอง หรือ นิคกี้..เป็นหลัก เพราะ..คนเก่งของเรา ท่านแกรนด์ ดุ๊ก อเล็กซานเดอร์ มิเกลโลวิช
ได้กลายสภาพจาก ท่านอา มาเป็น น้องเขยของซาร์ไปแล้ว..
ถ้าจะโทษใครสักคนที่ทำให้นิคกี้มาครองมงกุฎซาร์แห่งรัสเซีย..ก็สมควรที่จะเป็นความไม่เอาใส่ของพวกนางพยาบาล และ ความชุ่ยของแพทย์หลวงที่ทำให้พระโอรสองค์โต อเล็กซานเดอร์ (พี่ชายคนก่อนนิคกี้) สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังเล็กๆ ตำแหน่งก็เลยเลื่อนลงมา..
นิคกี้..เป็นที่รู้กันว่า..เงียบหงิม ขี้อาย ไม่ขี้แย ไม่ชอบเล่น และ ไม่ค่อยหัวเราะเช่นกัน โตขึ้นมากับในสภาพที่วังที่อึมครึม ห้องที่อับลม เพดานต่ำจนหายใจไม่ออกอย่าง Gatchino สิ่งที่นิคกี้เป็น..และรับมาเต็มๆ คือ บุคลิกรวมทั้งหมดของนานาพระอาจารย์
ไม่ว่าจะเป็น พวกนายพลรัสเชี่ยนที่สอนแต่เรื่องทหาร หรือ พวกพระอาจารย์ชาวสวิสหัวศิลป..หรือ พวกพระอาจารย์ชาวอังกฤษที่ขยันแต่ออกไปปิคนิค ทั้งหมดที่เอ่ยมา..ไม่มีความสามารถพอที่จะปั้น"ใคร"สักคนหนึ่งให้ขึ้นมาเป็นซาร์ได้เลย..
สิ่งที่ถ่ายทอดให้กับนิคกี้นั้น ก็แค่สิ่งที่พวกเขารู้..และสิ่งที่พวกเขารู้นั้น..มันช่างน้อยนิดเสียจริง..
หลัง จากเรียนจบ..นอกจากคุณสมบัติที่ได้รับบรรจุเป็นนายทหารในหน่วยฮัสซาร์แล้ว.. ความสามารถพิเศษที่มีก็คือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันที่ใช้คล่อง นอกเหนือไปกว่านั้น..นิคกี้ช่างมีประสบการณ์น้อยไปเสียทุกด้าน
ปี 1890 สี่ปีก่อนที่นิคกี้จะได้ครองบัลลังก์ เขาได้ออกท่องเที่ยวเดินทางไปรอบโลกเพื่อออกไปเรียนรู้หาประสบการณ์ชีวิต เรานัดเจอกันที่ Colombo (ซีลอน) ฉันได้รับข่าวการมาของเขาขณะที่ล่องไพรอยู่กลางป่าลึก ออกมาเจอกันในสภาพของคนป่าจริงๆ เพราะสามอาทิตย์หนวดเคราไม่ได้โกน
เรานั่งคุยกันบนดาดฟ้าของเรือ Tamara ที่ฉันเอาของที่"ล่า"ได้มาเรียงอวด
อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศของดงดิบ ที่มีเสียงโหยหวนของฝูงลิงที่แทรกมาเป็นระยะๆนั้น ทำให้นิคกี้อยู่ในอารมณ์คุยเก่งมากกว่าปรกคิ
เขาบ่นว่าอิจฉาชีวิตฉันเสียจริง..ที่ออกไปทำอะไรที่เสี่ยงๆได้ ในขณะที่เขาต้องเล่นบทซาเรวิช นั่งๆนอนๆอยู่แต่บนเรือพระที่นั่ง..และบ่นว่า
" การเดินทางของฉันมันน่าเบื่อชะมัด..ซ้ำๆซากๆ..ขึ้นฝั่งก็เจอแต่วัง กับ เสนาบดี ไม่ว่าจะเป็นวังที่ไหนไหน ก็เหมือนกันไปหมดแหละ..รู้งี้..นั่งอยู่กับบ้านดีกว่า.."
วันรุ่งขึ้น..ฉันกลับเข้าป่าเช่นเดิม นิคกี้เดินทางต่อไปญี่ปุ่น..และเท่าที่ทราบว่าไปโดน"ฟันหัว" จนเลือดโชก ดีที่เจ้าชายยอร์จ (แห่งกรีซ) มาช่วยไว้ทัน ไม่งั้นอาจถึงแก่ชีวิต แต่ก็เหลือรอยแผลเป็นไว้รอยใหญ่พอสมควร..
นี่คือ สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นมาเป็นครั้งที่สองในชีวิตของนิคกี้ นอกเหนือไปจากเหตุลอบปลงพระชนม์ของสมเด็จพระอัยกา
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.025 วินาที กับ 17 คำสั่ง
Loading...