นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 13 ม.ค. 01, 19:34
|
|
อย่าดูถูกแม่โขงนาคุณ เขาว่า แม่โขงเก่านาน รสดีไม่แพ้สก็อตช์ วิสกี้ แต่ผมก็ไม่เคยลอง
ที่ทราบก็คือ เหล้าแม่โขงไทยเป็นน้ำจัณฑ์ที่เจ้าชายญี่ปุ่น (องค์น้องมกุฏราชกุมารญี่ปุ่น) โปรดมาก เจ้านายพระองค์นี้มีชายาชาวญี่ปุ่นที่เป็นอดีตเด็กเรือเยาวชน ซึ่งเคยมาเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย พระองค์ท่านเองก็เคยเส็จเมืองไทยหลายหน
ผมอยากลองชิมสุราผลสนครับ นึกไม่ออกว่าลูกสนมันจะมีเนื้อมีหนังให้เอามาดองเป็นเหล้าได้ยังไง เหล้านี้อยู่ในเรื่องของโกวเล้ง นักเขียนกำลังภายใน (ขี้เหล้า) รู้สึกว่าเหล้านี่จะเป็นเหล้าวัดเสียด้วย คือผู้หมักต้มกลั่นเป็นนักพรตหรือหลวงจีนนี่แหละ จะเป็นบั๊กเต้าหยินหรือโค้วกวยไต้ซือผมก็ลืมแล้ว ฟังชื่อเหมือนจะเป็นเหล้าเจ แต่ที่จริงขึ้นชื่อว่าเหล้า ก็ไม่ควรจะเกี่ยวกับนักบวชอยู่แล้ว
...ยกเว้นนักบวชฝรั่ง เพราะท่านฉันเหล้าได้ หรือว่าที่จริง เหล้า (องุ่นแดง) เป็นส่วนประกอบในศาสนพิธีสำคัญของทางคริสต์ หมายถึงพระโลหิตพระเยซู พระฝรั่งจึงรับเหล้าได้ไม่ผิดศีลของท่าน เหล้าฝรั่งดังๆ หลายขนาน มีที่มาจากในโบสถ์ด้วยซ้ำ ที่นึกออกตอนนี้เช่น เบเนดิกทีน เป็นต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 13 ม.ค. 01, 19:37
|
|
ตามความเห็นที่ 6 มีอีกคำครับ อะควา วิตี แปลว่าน้ำแห่งชีวาส เอ๊ย ชีวิต เหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แจ้ง ใบตอง
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 13 ม.ค. 01, 19:48
|
|
ใช่เจ้าชายอากิชิโน หรือเปล่าครับคุณ นกข. เพราะมหาวิทยาลัยผมได้ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาประมงแด่ท่านเมื่องปี ๒๕๔๒ นี่เอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จ้อ
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 14 ม.ค. 01, 20:03
|
|
ไวน์ขวดเป็นแสนนี่ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมไม่เคยชิม อยูแถวๆ นี้ผมก็ชิมขวดละไม่กี่ปอนด์
ตอนที่ไปฝรั่งเศษกะจะซื้อไวน์ดีไวน์ดังมาฝากพี่ๆน้องๆ มีไวน์แดงขวดหนึ่ง เจ้าของร้านแนะนำบอกว่าเจ๋งแจงๆ ขวดก็ไม่แพง ( เท่าไหร่ ) นัก
มาแปลกใจตรงที่เจ้าของร้านบอกว่า ก่อนจะดื่มให้เปิดจุกก็อก ทิ้งเอาไว้ก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ผมก็เป็นงงว่าไวน์อะไรต้องเปิดไว้ก่อน ตั้ง 1 ชั่วโมง เคยแต่เปิดปับก็ดื่มปุ๊บ ... เจ้าของร้านก็พยายามอธิบาย เป็นภาษาอัังกฤษ ซึ่งผมก็ฟังสำเนียงไม่ออก พอพูดเป็นฝรั่งเศสผมก็ใบ้กิน ก็เลยสรุปว่าเปิดก็เปิด ทำตามคำแนะนำ ปรากฎว่าใช้ได้ครับใช้ได้
ใครเป็นผู้เชี่ยวชาญ อยากถามว่าทำไมต้องเปิดไว้ก่อน 1 ชั่วโมงด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 15 ม.ค. 01, 11:22
|
|
ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญหรอกนะคะ
เคยได้ยินเค้าว่ามาว่า พวกไวน์แดง แบบใหม่ๆ ที่เค้าเรียกว่า young wine น่ะค่ะ ที่ควรเปิดให้ "กินลม" ก่อนซักชั่วโมง ว่ากันว่าให้มันเกิด oxydation น่ะค่ะ รายละเอียดจำไม่ค่อยได้ มีเพื่อนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์เล่าให้ฟังหลายทีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ฟังก็ล่อเข้าไปหลายแก้วแล้วค่ะ เลยจำไม่ค่อยได้ (เอิ๊กๆๆ) ส่วนมากก็พวกไวน์แบบ คาร์แบเนต์ ซาวิญอง (cabernet savignon) น่ะค่ะ ไวน์พวกนี้ส่วนมากก็อายุแค่ปีสองปีก็เอามาชายแล้ว ไม่บ่มนานเท่าไร ไวน์ถ้าบ่มนานแล้วรสมันจะ "สุขุม" ขึ้นเยอะ ไวน์เอ๊าะๆแบบนี้ ถ้าไม่ให้มันกินลมแล้ว จะมีความ "บาดคอ" อยู่หน่อย พอกินลมไปหน่อยแล้ว มันจะสุขุมกลมกล่อมขึ้นค่ะ ไวน์แดงฝรั่งเศสแบบไม่ค่อยแพง คงจะเป็นคาร์แบเนต์มังคะ
ไม่ได้ไปค้นเหตุผลด้านเคมีหรอกค่ะ เวลากินไวน์แล้วไม่ค่อยคิดเป็นวิทยาศาสตร์เท่าไหร่ (คิกๆๆ)
พวกไวน์ราคาแพงๆที่เก็บเป็นหลายๆสิบปีจนคอร์กเปื่อยหมดแล้วนี่ ก็ไม่ได้ดีเด่เลิศเลอมากกว่าอย่างปานกลางเท่าไรนักหรอกค่ะ ถ้าเก็บนานเกินไปแล้วมันไม่ค่อยจะเหลืออะไรมาก เคยดื่ม vintage vine อายุสามสี่สิบปีแล้วก็ไม่เห็ฯจะประทับใจเท่าไหร่ หาซื้อไวน์ราคาพอสมควรที่รสดีๆก็ยังพอมีหรอกค่ะ ส่วนมากคนจะหลงเชื่อราคาคุยกันมากกว่า
มีเพื่อนเป็น wine consultant ชาวเยอรมัน แต่มาหากินที่อเมริกานานแล้วคนหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า นายสตีฟ ฝอร์บ (Steve Forbes) ที่เคยลงเลือกตั้งประธานาธิวดีอเมริกาน่ะค่ะ เคยไปประมูลไวน์ที่ขึ้นชื่อมาชวดหนึ่ง ในราคา $7,500 คิดเป็นเงินไทยเอาเองละกัน พี่แกก็อยากอวดน่ะค่ะ ว่ามีเทสต์หรูวิไลซื้อไวน์แพงๆมาประดับบารมีได้ ก็สั่งให้คนต่อตู้กระจก ตั้งขวดไว้ข้างใน(ไวน์เค้าต้องเก็บแบบวางขวดนอนค่ะ ถ้าจะเก็บนานๆ) มีไฟส่องด้วยค่ะ นานๆเข้า ความร้อนจากไฟก็ทำให้จุกคอร์แห้งลงๆ จนมันฝ่อไปหมด วันหนึ่ง เจ้าจุกคอร์กก็หล่นปุลงไปแช่ในไวน์ ก็ต้องเททิ้งไปทั้งเจ็ดพันห้านั่นแหละค่ะ กินไม่ได้แล้ว (หุยฮา)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จ้อ
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 15 ม.ค. 01, 18:08
|
|
แทงค์กิ้วครับ พี่พวงร้อย
เรื่องไวน์หมักนานเกิน เคยดูรายการบีบีซีครับ เขาคนพบไวน์ที่หมักเอาไว้ตั้งแต่สมัยสมัยกลาง (หรืออาจจะเรเนซองต์ไม่แน่ใจ) อยู่ในใหอย่างดี เรียกได้ว่าเก็บมาแล้ว หลายร้อยปีว่างั้นเถอะ
นักวิทยาศาสตร์ก็ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีพิษ ดื่มได้ เขาก็เลยเชิญคนมีชื่อเสียง บางคนไปนั่งชิมไวน์พระเจ้าเหากัน
ปรากฎว่าแต่ละคนที่ชิมทำหน้าหยีกันทั้งนั้น แล้วก็พากันบอกว่า หมัก 2ปีก็พอแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักกา
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 16 ม.ค. 01, 11:27
|
|
สุราผลสนจะเหมือนยินที่แต่งกลิ่นด้วยจูนิเปอร์หรือเปล่า สุนทรภู่ก็เป็นคอสุราเหมือนกันทั้งมีอาญาและนิราศเกี่ยวกับการเป็นผู้ดื่มเกินพอ ผมจำได้แต่ว่า ถึงโรงเหล้า....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33414
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 16 ม.ค. 01, 12:48
|
|
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ พระสรรเพชญ์โพธิญาณประมาณหมาย ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ท่านบอกว่ารู้ทั้งรู้ว่าสุราไม่ดี แต่จะให้ถึงกับไม่ยอมใกล้กราย เห็นแล้วก็ต้องแกล้งเมิน...มันก็เกินป๊ายยยย เพราะยังงี้ละมังคะ เลยไม่พบประวัติว่าท่านเลิกเหล้าตั้งแต่เมื่อไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 16 ม.ค. 01, 18:16
|
|
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน เมาเกินแก้ เห็นแต่ แม่เรไร - - quote มาผิดครับ ขออภัย... - - ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืนฯ
ใช่เจ้าชายอกิชิโนจริงๆ ครับ โปรดเสวยแม่โขงนะ เจ้าญี่ปุ่นพระองค์นี้น่ะ
มีภาษิตละตินว่า อิน วิโน เวอริตาส แปลว่า อันความจริงนั้นรู้ได้ในสุรา... เมาเข้าไปแล้วนิสัยแท้จริงออก หรือถูกมอมเมาเข้าไปแล้วก็ปากโป้ง เปิดเผยความลับอะไรๆ ที่เวลาไม่เมาไม่พูดออกไปหมด เพราะฉะนั้นที่ผม (แกล้ง) เผลอหลุดกลอนออกไป 1 บาทนี่ มาจากความจริงส่วนลึกของหัวใจนะครับ ขอวอนให้แม่หญิงเห็นจายพี่ด้วย.. เอิ๊ก -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 16 ม.ค. 01, 23:36
|
|
จำเป็นไหมว่ากวีต้องขี้เมา? ทางจีน มีกวีที่เขียบบทกวีเก่งเป็นเลิศ แต่ก็เมาแอ๋เหมือนกัน คือ หลี่ไป๋หรือหลี่ป๋อ หรือลี้แป๊ะในสำเนียงแต้จิ๋ว แล้วยังมีกวีขี้เมาอีกหลายคน
จำบทกวีจีนได้ลางๆ บทหนึ่ง ของหลี่ไป๋หรือไม่ไม่แน่ใจ พูดถึงการตั้งวงกินเหล้าของกวี แต่ตอนนี้กวีเหลืออยู่ตัวคนเดียวไม่มีเพื่อน เหงาก็เหงาอยู่ แต่ไม่เป็นไรวะ ยังครึกครื้นได้เสมอ - ชูจอกเชิญจันทร์เจ้าร่วมร่ำดื่มก็ได้ มีผู้ร่วมวงสุราตั้งสามแน่ะ คือตัวกวีเอง เงาของกวี แล้วก็พระจันทร์บนฟ้า...
ถ้าจำไม่ผิด หลี่ไป๋ตอนตายก็เมาตกน้ำตาย บรรยายทื่อๆ อย่างนี้ไม่โรแมนติก ตามประวัติหรือตำนานเขาว่า เทพกวีหลี่ไป๋หลังจากดื่มเมรัยจนครึกครื้น เดินร้องเพลงข้ามสะพาน เหลือบเห็นเงาดวงเดือนสะท้อนดวงอยู่ในผืนน้ำ ก็ว่า - อา .. จันทร์เจ้าอุตส่าห์เสด็จลงมาหา เอื้อมแขนโผเข้าไขว่คว้าเงาสกาวเดือนในห้วงนที ... เลยจมน้ำหายไป คืนสู่สวรรค์ตามเดิม (เพราเดิมหลี่ไป๋เป็นเทพกวีลงมาเกิด)
แต่ตามข้อเท็จจริง ก็คือเมาตกน้ำตายนั่นแล...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภูมิ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 17 ม.ค. 01, 18:23
|
|
ต่อให้จบ บทดื่มเหล้าเดียวดายใต้เเสงจันทร์ แต่ทว่า พระจันทร์ เจ้าก็ไม่ดื่มอยู่เเล้ว เงา เจ้าก็เพียงแต่ล้อเลียนเรา อย่างไรก็ดี เราได้แต่ชื่นชมฤดูใบไม้ผลิกับเพื่อนทั้งสอง เราร้องเพลง จันทร์ก็เต้นประกอบ เราเต้นรํา เงาก็รําตาม เราสามร่วมดื่ม พอเมาก็แยกจาก ความสัมพันธ์อันดีตลอดไป หวังว่าจะพบกันใหม่ที่ทางช้างเผือก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|