รออ่านชีวิตที่น่าเศร้าของพระนัดดา ตู ตู

พูดยังงี้แปลว่ารู้เรื่องชีวิตของตูตูแล้ว

ภาพในค.ห. 36 น่าจะเป็นลูกสาวของตูตู ชื่อ Jayu (Jayashree) Kule ซึ่งอาศัยอยู่ในอินเดีย ดำเนินชีวิตอย่างคนอินเดียเต็มตัว
บั้นปลายชีวิตพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัตที่วังในรัตนคีรี มีสีสันดราม่าไม่น้อยไปกว่าชีวิตเบื้องต้น แม้ไม่โหดร้ายเท่าแต่ก็ระทมขมขื่นด้วยความเครียดจัด จนไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดพระองค์จึงสิ้นพระชนม์ไปเมื่ออายุแค่ 58 เท่านั้นเอง ทั้งๆน่าจะอยู่มาได้จนวัยชรา
อินทรเนตรมองทะลุเข้าไปเห็นภายในตำหนัก ว่าพระเจ้าสีป่ออยู่ที่นั่นในแต่ละวันด้วยความโดดเดี่ยวหงอยเหงาและเบื่อหน่ายอย่างที่สุด จริงอยู่ พระองค์ก็ไม่ได้ลำบากตรากตรำ ไม่ต้องตักน้ำฝ่าฟืนหรือไถนาปลูกข้าวกินเองแต่อย่างใด ยังดำรงพระยศอย่างกษัตริย์มีข้าราชบริพารรับใช้ คล้ายๆกับเมื่ออยู่ในพม่า ถ้าหากว่าเป็นคนแก่อื่นๆ อยู่ได้ขนาดนี้ก็อาจจะถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ แต่พระเจ้าสีป่อทรงเครียดจัดกับชีวิตแบบนี้ เห็นได้จากจดหมายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ทรงระดมส่งถึงไวซรอยหรือผู้สำเร็จราชการแห่งอินเดียซึ่งเป็นชาวอังกฤษ และเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการเนรเทศพระองค์มาที่นี่
ในจดหมายเหล่านั้นทรงเรียกร้องให้ผู้สำเร็จราชการเชิญเสด็จพระองค์กลับบ้านเกิดเมืองนอนตามเดิม เรียกร้องแล้วเรียกร้องอีก แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ อันที่จริงพวกเราก็คงจะรู้ว่าไม่มีทาง เรื่องอะไรอังกฤษจะเอากษัตริย์พม่ากลับไปเป็นชนวนก่อความยุ่งยากทางการเมืองขึ้นในพม่า ให้ต้องเหนื่อยปราบปรามกันอีก ยิ่งเป็นกษัตริย์ที่เรียกร้องโน่นนี่ไม่รู้จบแบบนี้ ยิ่งไม่น่าเสี่ยง
ปัญหาที่สองของพระเจ้าสีป่อคือค่าใช้จ่าย พระองค์ไม่ใช่ชาวบ้านกระจอกๆที่ขอแค่มีหลังคาคุ้มหัวกับข้าววันละสามมื้อก็พอ แต่ทรงอยู่อย่างกษัตริย์ มีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย เบี้ยเลี้ยงที่รัฐบาลอังกฤษในพม่าจ่ายให้ก็น้อยนิดเมื่อเทียบกับพระเกียรติยศ จึงต้องทรงนำพระราชทรัพย์อันได้แก่เครื่องเพชรนิลจินดาที่พระนางศุภยาลัตนำติดตัวมา ออกขายในราคาถูกกดมหาโหดจากพ่อค้าอินเดีย