ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ภาษาวรรณคดี
>
เรียนถามว่า นายมีผู้เล่นเสภากับครูแจ้ง คือใคร
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 4634
เรียนถามว่า นายมีผู้เล่นเสภากับครูแจ้ง คือใคร
Wandee
หนุมาน
ตอบ: 4006
เมื่อ 08 ส.ค. 08, 08:49
พยายามอ่านหนังสืออยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ตกลงกันไม่ได้ จึง บ่ายหน้ามาขอพึ่ง เรือนไทย
รู้จักหมื่นพรหมสมพัตสร
รู้จักนายมีมหาดเล็กบุตรพระโหราธิบดี
รู้จักครูแจ้ง และงานของท่าน
ไม่มีความรู้พอว่า นายมีที่เล่นเสภากับครูแจ้ง เป็นหมื่นพรหมสมพัตรสร หรือ นายมีมหาดเล็ก หรือนายมี ๓
จะคิดเองก็ใช่ที่
จึงมาขอความรู้จาก เรือนไทยค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ 08 ส.ค. 08, 10:10
มีความรู้น้อยมากในเรื่องครูเสภา ค่ะคุณ Wandee
ไปเปิดพระนิพนธ์สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ที่ทรงเล่าไว้เรื่องครูเสภา ได้ความว่า
เสภาขุนช้างขุนแผนตอนกำเนิดพลายงาม ผู้แต่งเอ่ยถึงครูเสภาเอาไว้ในฉากนางทองประศรีจัดงานทำขวัญพลายงาม
สมภารรับกลับมายังอาวาส เสียงพิณพาทย์พวกพ้องทองประศรี
หาเสภามาทั่วที่ตัวดี
ท่านตามีช่างประทัด
ถนัดรบ
และในบทไหว้ครูเสภา ก็เอ่ยอีกครั้งว่า
ทีนี้จะไหว้ตาครูสน เป็นนายประตูครูคนทุกแหล่งหล้า
ไหว้
ครูมีช่างประทัด
ถัดลงมา ครูเพ็งเก่งว่า ข้างสุพรรณ
ครูมีคนนี้ชอบขับเสภาตอนรบทัพจับศึก เช่นตอนพลายแก้วไปตีเมืองเชียงใหม่ หรือตอนขุนแผนตีเมืองเชียงใหม่
คำว่า ช่างประทัด หมายถึงอาชีพของครูมี เป็นช่างทำประทัด
แต่ครูมีคนนี้ เป็นคนละคนกับ ครูมีแขก ที่มีชื่อระบุไว้ในบทไหว้ครูอีกตอนหนึ่งว่า
ครูมีแขกคนนี้คนนี้เขาดีครัน เป่าทยอยลอยลั่นบรรเลงลือ
พวกนี้เป็นครูเสภารุ่นเก่าสมัยรัชกาลที่ ๑ และ ๒ ไม่ใช่นายมีหมื่นพรหมสมพัตสรซึ่งเป็นหนุ่มในรัชกาลที่ ๓ คนละคนค่ะ ชื่อซ้ำกัน
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
ตอบ: 1898
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อ 08 ส.ค. 08, 10:46
ในเพลงยาวเรื่องหม่อมเป็ดสวรรค์ของคุณสุวรรณ มีวรรคหนึ่งที่น่าสนใจครับ
เบื่อเดือนสิบสองตาแจ้งขับรับกับนายมี
ไม่รู้ว่าเดือนสิบสองที่ว่านี้ เกี่ยวข้องอะไรกับนิราศเดือนของนายมีหรือเปล่านะครับ
บันทึกการเข้า
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อ 08 ส.ค. 08, 11:03
ไม่ได้เห็นข้อความเต็มๆ ตอบคำถามคุณม้าไม่ได้ค่ะ
อ่านได้แค่วรรคที่คุณม้ายกมา ตีความได้แค่ว่า
๑ มีครูเสภา ๒ คนชื่อนายแจ้งและนายมี
๒ ประชันเสภากันเป็นประจำในเดือน ๑๒
๓ คุณสุวรรณคงฟังซ้ำซากมาหลายปีเต็มที จนเบื่อ
๔ เหตุการณ์ตอนนี้อยู่ในรัชกาลที่ ๓ ปีไหนไม่ทราบ แต่ต้องก่อนปี ๒๓๘๘ ซึ่งเป็นปีที่เจ้านายคุณสุวรรณ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพสิ้นพระชนม์
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
ตอบ: 4006
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อ 08 ส.ค. 08, 11:32
ขอบคุณค่ะ คุณ Crazy HOrse and คุณเทาชมพู
คุณสุวรรณเธอเคืองจน เอ่อ..กระทืบชานเรือนพังเลยค่ะ
ข้อมูลเรื่องครูแจ้งก็มีน้อยเต็มที เท่าที่มีก็ซ้ำกัน
ได้เสภาตอนแต่งงานพระไวยมา
แล้วไปได้ตำราที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์จำไว้ได้ีตอนครูแจ้งสอน หม่อมพี่สีมาลา(สะกดแบบนี้ค่ะ) ทำต้มยำ่
ครูแจ้งว่าได้แรงค่ะ
ตามอ่านความคิดต่าง ๆในเรือนไทย ตั้งไว้เป็นหัวข้อ แล้วพยายามตอบด้วยตนเอง ก็พอเข้าใจคล่องขึ้น
ไม่มีความรู้โดยตรง อาศัยอ่านอย่างเดียวไม่พอค่ะ เรื่องหนังสือหรือเอกสารนั้นพอยื่นมือไปค้นได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 5
เมื่อ 25 ส.ค. 08, 17:40
คนไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ชื่อง่ายๆคำเดียว ซ้ำกันมาก จนต้องมีคำต่อท้ายชื่อ ให้รู้กันว่าคนไหนเป็นคนไหน
ในแวดวงเดียวกันก็ซ้ำกันได้ เป็นของธรรมดา
ถ้าเอ่ยชื่อ นายมี ครูเสภา มีอย่างน้อยก็ ๒ คนในยุคเดียวกัน ค่ะ อย่างครูมีแขก และครูมีช่างประทัด
คุณ Wandee คงอ่านมาแล้วว่า ครูเสภามีใครบ้าง ก็จะไม่ลอกมาลงให้ละค่ะ
แต่ถ้าอยากอ่านก็บอกด้วยนะคะ จะเอามาลงให้อีกที
ส่วนครูแจ้ง เมื่ออ่านจากขุนช้างขุนแผน ฉบับอื่นที่ไม่ใช่ฉบับหอพระสมุด รู้สึกว่าฝีมือครูแจ้งไม่เบาเลย ลีลากลอน สไตล์ลูกผู้ชายชาวบ้าน เจนจัดฝีมือ รู้เรื่องข้าวปลาอาหารประเภทบำรุงกำลังเสียด้วย
แต่น่าเสียดายว่า ลีลากลอนของครูแจ้ง ออกจะแรงและอีโรติคไปหน่อย สมเด็จกรมพระยาดำรงฯคงไม่โปรดเท่าไร เลยถูกตัดไป เหลือมารวมไว้ในฉบับหอพระสมุด น้อยมาก
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
ตอบ: 1906
Smile though your heart is aching.
ความคิดเห็นที่ 6
เมื่อ 26 ส.ค. 08, 00:51
ผมค้นเจอเรื่องนายมี กลัวว่าจะซ้ำกับข้อมูลที่คุณ Wandee ค้นมาบ้างแล้ว
หรือข้อมูลที่ผมได้มาอาจจะพลาดบางส่วนเพราะคนเล่าไม่ได้อ้างอิงว่าข้อมูลมาจากไหน
บอกแค่ว่าสมเด็จนริศฯ ทรงบันทึกไว้ผมเลยขออนุญาตส่งมาลงไว้ในกระทู้นะครับ
"สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงบันทึกเกี่ยวกับเรื่องของ
นายมี
ไว้ตอนหนึ่งว่า
ตามี
ได้ยินเรียกกันว่า
ตามีบ้านบุ
เป็นช่างเขียนจิตรกรรมฝีมือดีในรัชกาลที่ 3 เหมือนกันแต่ไม่เอก
นายมี
จะเกิดปีใดไม่ปรากฏ กล่าวกันว่านายมีเป็นบุตรพระโหราธิบดี (ชุม) เคยเป็นศิษย์ทางกวีของสุนทรภู่
เมื่อตอนบวชได้ฝึกหัดวิชาวาดเขียนกับ
ขรัวนาค
สำนักวัดเพลงอยู่ในคลองบางระมาด
ต่อมาในราวปี พ.ศ. 2370 คงจะลาสิขาบทมาอยู่กับกรมหมื่นวงศาสนิท
และพระองค์ได้นำนายมีเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กช่างเขียน สังกัดกรมช่างทหารใน
ในคราวซ่อมวัดพระแก้วนายมีได้เขียนภาพจิตรกรรมตอนสร้างกรุงลงกาใหม่
และเขียนภาพตึกฝรั่งเอาไว้จนเป็นที่ตื่นตาของผู้พบเห็น จึงได้สมญาว่า
นายมีลงกาใหม่
ภายหลังนายมีเกิดความเบื่อหน่ายในงานจิตรกรรมจึงแต่เพลงยาวเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 3 ขึ้น
เพื่อทูลเกล้าถวาย และขอเปลี่ยนหน้าที่จากตำแหน่งช่างเขียนไปอยู่กรมอาลักษณ์แทน
ต่อมาในราวพ.ศ. 2376 จึงได้เลื่อนเป็น
หมื่นพรหมสมพัตสร
"
ผมขออนุญาตลอกมาย่อๆเท่านี้ก่อนนะครับพ๊ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 7
เมื่อ 26 ส.ค. 08, 08:36
นายมี คนที่คุณติบอเล่า ก็คือนายมี ผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง
เรียกกันว่า เสมียนมี คงจะเป็นเพราะเป็นอาลักษณ์
ก่อนหน้านี้เคยเป็นช่างเขียน
ที่เขียนเพลงยาวเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๓ ก็เพราะอยากจะเข้ารับราชการ ในตำแหน่งอาลักษณ์
ราชทินนามสุดท้าย คือได้เป็นหลวงศุภมาตรา ค่ะ
แต่เห็นจะคนละคนกับครูมี แต่งเสภา ในประวัติ สมเด็จกรมพระยานริศฯ ไม่เห็นทรงบอกเรื่องนี้ไว้
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
ตอบ: 4006
ความคิดเห็นที่ 8
เมื่อ 26 ส.ค. 08, 21:17
ขอบคุณ คุณติบอในไมตรีค่ะ คิดว่าคงหาแหล่งที่มาได้ค่ะ
ขอบพระคุณ คุณเทาชมพู ที่กรุณาแนะนำมาตลอด
ทุกครั้งที่อ่านหนังสือแปลกๆของ นายกุหลาบ ก็นึกถึงความเห็นที่คุณเทาชมพูได้ให้ไว้
คงจะมีโอกาสนำผลงานของนายกุหลาบที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง มาเรียนคุณเทาชมพู
ได้อ่าน เสมียนมี ของ คุณ คมทวน คันธนู เพิ่มเติม พรายแพรวเหลือเกิน
เสียดายที่ไม่เคยเห็นตัวเลย
"เสมียนมีเป็นนักเลงเพลงยาวเคยบอกสักวา
ต้องการเป็นกวีราชสำนักมากกว่ากวีของวังเจ้านาย
มิได้ต้องการเป็นนายอากร มีความรู้ทางโหราศาตร์
ตำแหน่งสุดท้ายเป็น หลวงศุภมาตรา ประจำเมืองชัยนาท"
(อ่านมาจาก พิเคราะห์วรรณคดีโดยวิถีประวัติศาสตร์ ยุครัตนโกสินทร์ถึงแผ่นดินพระจอมเกล้า สำนักพิมพ์มิ่งขวัญ เชียงใหม่ ๒๕๔๑ หน้า ๑๘๔ - ๑๙๔)
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.033 วินาที กับ 19 คำสั่ง
Loading...