เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 51070 กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 180  เมื่อ 07 ก.ค. 08, 23:24

กรุเรื่องเก่านี่ แทนที่จะทำให้ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองแก่ชรา กลับทำให้ความทรงจำต่างๆกลับคืนมา
คนเอเจนซี่มีชีวิต และวิญญาณของการแข่งขัน เดดไลน์ ความเป็นเลิศ มิตรภาพ เหมือนอาชีพอื่นๆ
แต่ก็มีรสชาติทางเทคนิคที่ไม่เหมือนใคร
มีอีกหลายฉากในวงการที่เดาจุดจบไม่ออก
ทั้งเหมือน และไม่เหมือนละคร
น้ำดี หรือบางทีก็เน่าตุๆ แย่งชิง ห้ำหั่น แบบลอกสามก๊กมาเลย
ซึ่งในที่สุด ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร ต่างไปเลียแผลเลือดซิบๆกันคนละแบบหากถูกลูกค้าเชือด
แต่วันรุ่งขึ้น ก็จะเดินหน้าชื่นเข้าประตู เหมือนไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อวาน
..ดิฉันยังคิดถึงวันเก่าๆเหล่านั้นเสมอ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 181  เมื่อ 12 ก.ค. 08, 22:30

และเมื่อได้พบกับเพื่อนเก่าๆที่เคยร่วมงานกัน เราก็จะพูดถึงประบการณ์สนุกๆด้วยกันเรื่องการถ่ายทำ
เช่น เพื่อนตากล้องของดิฉันที่ชื่อคุณยนต์
คุณยนต์ เป็นแฮนดี้แมนของดิฉัน เราออกกองถ่ายด้วยกันบ่อยสมัยหนึ่ง เห็นหน้าตาเข้มเป็นหนุ่มปักษ์ใต้ แต่จริงๆเป็นคนเหนือค่ะ
"นึกถึงตอนถ่ายหนัง มีอะไรที่คุณจำได้ไม่ลืมบ้างคะ หมายถึงความสาหัสของงานนะ"
"จำได้เป็นภาคๆครับ"
เขาว่า แล้วก็เริ่มเล่าว่า ในหนังสิงห์เรื่องหนึ่ง ต้องถ่ายฉากเล่นวินเซิฟ เขาต้องขึ้นพาราเซล ไปถ่ายบนอากาศ ในตัวมีทั้งแบต กล้อง วิทยุ หนักอึ้ง แล้วเกิดอุบัติเหตุ ตกลงมากระแทกทรายซึ่งเอียงๆ ขาหัก!!!!
But the show must go on!
เนื่องจากมันเป็นเกาะเสม็ด ห่างไกลโรงพยาบาล ก็ต้องลุกขึ้นมาถ่ายต่อจนไม่ไหว โดยการยกขาขึ้นตรึงไว้บนที่สูง ลูกน้องประคอง
ผู้กำกับขึ้นไปแทนอีกกล้องหนึ่ง ผู้กำกับก็ตกลงมาเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร
เลนส์เป็นแทน ตกน้ำ เสียหายเป็นแสน
เสร็จงาน ถึงจะหอบกันเข้าฝั่งไปโรงพยาบาล ทำแผล ใส่เฝือก แต่ไม่ได้พักนะคะ ไปถ่ายต่อที่หัวหินแทน
เฮ้อ เหลือเชื่อ ปรากฎว่า ใส่เฝือกถ่าย มันก็คันมาก เลยสั่งลูกน้องผ่าเฝือก แบะครึ่ง ยกขาสูงเหมือนเดิม จบแล้วก็ประกบเฝือกเข้ากันใหม่ แล้วไปโรงพยาบาลใหม่ ทำอย่างนี้ สิริรวมสี่ครั้ง
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 182  เมื่อ 16 ก.ค. 08, 07:03

ปกติ การสร้างช็อตที่เรียกว่าเฮลิคอปเตอร์ หรือ เอเรียลช็อตน่ะ ต้องมีเงินติดกระเป๋าพอสมควร และควรจะเหมาะกับคอนเส็ปท์ที่คิดด้วย ไม่ใช่ว่าจู่ๆ หนังเรื่องนี้ ชั้นอยากมีช็อตจากฮ มันเท่ดี
ทุกอย่างรับและสอดคล้องกัน จึงจะทำ
หนังเรื่องหนึ่งที่อาศัยคุณยนต์ขึ้นฮ ไปสองต่อสองกับนักบินและผู้ช่วยก็คือเรื่องเหยี่ยวค่ะ
เป็นหนังของมือถือยี่ห้อที่ทำในเนเธอร์แลนด์
กล้องจะต้องแทนสายตาเหยี่ยว และฮ ก็จะต้องบินโฉบในทะเล และภูเขา เราจะมาใส่เงาเหยี่ยวในน้ำทะเลและหน้าผา เมื่อทำโพสท์
คุณยนต์ต้องขึ้นไปถ่าย และเก็บภาพให้ได้ในเวลาไม่ถึงชัวโมง
เพราะอะไรหรือคะ น้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังจะบินได้เต็มที่แค่นั้นค่ะ
คุณยนต์เครียดมาก
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 183  เมื่อ 16 ก.ค. 08, 07:10

เมื่อน้าพัฒน์ถาม คุณกุ้งแห้งเยอรมันจะขึ้นไปด้วยไหมครับ ดิฉันยิ้ม ปฏิเสธ ปัทโธ่ ลองใจหรือไงน้า ขึ้นฮเล็กๆ ไม่รับประทานหรอกค่ะ ทั้งเสียวทั้งเครียด ดีไม่ดีจะทำให้ตากล้องเครียดหนักเข้าไปใหญ่
เชื่อมือเขา ไม่ไปด้วยหรอก
คุณยนต์เล่าว่า ในความเครียด ก็ต้องตั้งใจเก็บภาพให้ได้ และก็ทำสำเร็จในเวลาที่จำกัด ถ้าต้องซ่อม เที่ยวหนึ่งก็แสนนึง มันหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
พอถึงที่หมาย ฮ ก็ค่อยๆลง สักครู่ นักบินเดินมาตบไหล่คุณยนต์ แล้วพูดเบาๆพอได้ยินกันสองคนว่า
ยนต์ คุณรู้ไหม ว่าตอนเราเอาเครื่องลงน่ะ น้ำมันหมดแล้วนะ
..อะจึ๋ย์
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 184  เมื่อ 16 ก.ค. 08, 22:46

คุณอาร์ตไดคู่ใจดิฉัน รำลึกขึ้นมาได้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ว่าเขาเองหละ ที่ไปเซอร์เวย์โลเคชั่นกับคุณยนต์
"ยนต์เป็นคนขับครับ ผมขึ้นไปด้วย เราใช้เครื่องที่เรียกว่าแมงปอ"
คุณยนต์น่ะ ไปเรียนบินมากับเขาเหมือนกัน จึงหาญกล้าบินเอง โดยมีคุณครูกำกับอยู่เบื้องล่าง
"เราเลือกบินที่เกาะเสม็ด .. ."
อ้อ ดิฉันคลับคล้ายคลับคลาแล้วว่า ตอนนั้น เขากลับมาเล่าถึงความเสียวไม่หาย ทั้งไฟล์ทสำรวจและไฟล์ทถ่ายจริง
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 185  เมื่อ 17 ก.ค. 08, 15:52

การบินด้วยฮ เพื่อถ่ายทำ จริงๆเราต้องการมุมสูงมาก เพื่อแทนสายตาของเหยี่ยวได้อย่างกว้างไกล ไร้ขอบเขต ตั้งแต่เมือง ออกไปชนบท ไล่ไปจนถึงชายหาด ออกไปสู่ทะเล และเกาะแก่ง ข้อควรระวังของตากล้องคือ ภาพจะสั่น เพราะฮ มันก็สั่นด้วย จะควบคุมอย่างไรดี
เป็นคนอื่นก็ต้องใช้เงิน
แต่คนนี้ คุณตากล้องเขามีหัวประดิดประดอย จึงสร้างแกนขึ้นมา เม้าท์ติดกับบางส่วนของเครื่องบิน เพื่อควบคุม
อย่างไรก็ตามบางมุม เวลาใช้จริง ก็ต้องโผล่หน้าออกจากฮ ไปทั้งตัว
คุณอาร์ตไดนี่หละค่ะ ใช้วิธีกอด ยึดตัวคุณตากล้องไว้
โอ้โฮ เสี่ยงตายกันจัง..
ที่จริง ถ้าเป็นหนังราชการ งบน้ำมัน งบนักบิน จะบินสักสองรอบก็ได้ แต่นี่เอกชนค่ะ บินได้เที่ยวเดียวก็กระเป๋าฉีก ต้องทำงานแข่งกับเวลา
ต้องใช้สติปัญญา
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 186  เมื่อ 17 ก.ค. 08, 19:57

ก็คุณยนต์อีกน่ะแหละที่เล่าเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์สำหรับแฟนๆเรือนไทยที่อยากจบไปเป็นนักโฆษณา
(คิดผิดคิดใหม่ได้นะคะ)
เจอฝรั่งดื่มเบียร์ไทยรุ่นเดอะทีไร จะบ่นหาเบียร์ขวดเขียวที่อร่อยสุดๆ ก็คลอสเตอร์ไงคะ
สโลแกน Happiness you can drink อันมาจากความคิดของจอห์น แมคเคนซี่
หรือที่ภาษาไทยฝีมือคุณเฉลิมบอกว่า ความสุขที่คุณดื่มได้
ตอนนั้น คุณยนต์ เป็นตากล้อง เข้าไปถ่ายโฆษณาให้เบียร์ไทยตราสิงห์ โลเคชั่นที่ไหนจะเจ๋งเป้งเท่าไร่บุญรอดล่ะ
ในทุ่งซึ่งสวยงาม ท่ามกลางยอดข้าวบาร์เลย์อันเป็นสีน้ำตาลทองพลิ้ว โรแมนติคกลางแดดใสแสบหัว
กองถ่ายสู้ความร้อนไม่ไหว
"เอ้า เฮ้ย ไปเอาร่มใหญ่มากางซิ "
เสียงสั่งลูกน้องดังลั่น ลูกน้องก็วิ่งไปที่รถ คว้าร่มประจำกองที่ติดไปทุกที่ ทุกเวลา วิ่งมาที่จุดถ่ายทำของทีมงาน
กางพรึบ..
โอ้โฮ ร่มดีแท้ ไม่ร้อน ลงมือถ่ายได้
แต่แล้ว.. คุณพระช่วย
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 187  เมื่อ 17 ก.ค. 08, 20:02

ขอโทษ ร่มนี้ สีเขียวค่ะ ไม่ใช่เขียวไมโล เขียวใกล้ชิด แต่เป็นเขียวค้อสสะเต้อ!!!
หาาาา!
ตากล้อง ประสานเสียงกับผู้กำกับร้องเสียงหลง
"เฮ้ยยยย..ไอ้ใครวะ มันมากางร่มค้อสสะเตอร์ในไร่บุญรอด"
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 188  เมื่อ 17 ก.ค. 08, 22:06

 ตกใจ ตกใจ โกรธ โกรธ
ความผิดครั้งนี้ ถือว่าอุกฤษณ์มากในวงการ
โชคเป็นของทีมงานที่เทวดาช่วยให้รู้ตัวเสียก่อนที่ลูกค้าจะมาเห็น
..
เหมือนกองถ่าย กำลังถ่ายโค้ก แต่แม่บ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่เสิฟเป็ปซี่ ให้เอเจนซี่หรือลูกค้า
ตายลูกเดียวค่ะ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 189  เมื่อ 18 ก.ค. 08, 08:52

เด็กๆ เราโตมากับสโลแกนว่าเป็ปซี่ดีที่สุด และในช่วงทำโฆษณา เป็ปซี่ไทย ก็ยิ่งใหญ่ มีหนังที่โด่งดังชุดศิลปิน ที่คุณอัญชลี สาวหล่อคนแรก ตีคู่ร้องกับป้าทิน่า เทอร์เนอร์ ได้อย่างไม่อาย ทำเอาคนดูซึ่งมาจากครีเอทีฟทั่วโลกในฮอลของเมืองคานส์ ตบมือสนั่น
หนังไม่ได้รางวัลอะไรติดมือ แต่ได้ใจค่ะ
อุตสาหกรรมทำหนังโฆษณาเดี๋ยวนี้ ยังไม่ถึงเวลาที่จะนั่งเขียนวิจารณ์เป็นคุ้งเป็นแควค่ะ แต่เพื่อนๆที่ยังวนเวียนอยู่เล่าให้ฟังพอเป็นไอเดียหลายอย่าง ซึ่งก็จะเก็บไว้เขียนถึงในโอกาสต่อไป ชีวิตชาวเอเจนซี่ก็เปลี่ยนไป
เพื่อนดิฉันลงความเห็นว่า เพราะเงินตัวเดียวแท้ๆ
คนทำงานข้ามช็อต ไร้มารยาท
เรื่องที่เรียกกันว่า professionalism แทบไม่เห็น
ความเคารพในความเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่เหลืออะไร
ลองคิดดูง่ายๆ ดิฉันและเพื่อนๆร่วมสมัย ที่เคยทำโฆษณาร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน กระทบกระทั่งกันเป็นวรรคเป็นเวร
ถึงเวลาที่แต่ละคนแยกย้ายกันไปยิ่งใหญ่ในสาขาที่ตนถนัด หรือโดดไปทำนา ทำสวน ขายเครื่องเพชร ทำโรงพิมพ์ คุมคิวรถ หรือ ทำร้านกาแฟ
เราก็ยังจะมีเรื่องดีๆ มาแลกเปลี่ยนกันเสมอเมื่อพบกัน
หรือเมื่อต้องทำงานร่วมกัน ก็ช่วยกันอย่างเรียกว่า เต็มแรงสุดๆ น่าซาบซึ้ง
ผ่านร้อน ผ่านหนาว โกรธ เกลียดชนิดไม่มองหน้า หรือ รักปานจะอุ้ม
แต่นั่นเป็นงาน หลังการต่อสู้ ยังมีรอยยิ้มเหลืออยู่..
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 190  เมื่อ 18 ก.ค. 08, 14:26

แต่เดิม แผนกที่มีการเข้าออกสูงมักจะจำกัดอยู่แต่พวกครีเอทีฟและฝ่ายบริหารลูกค้า ที่เหลือ อย่างแผนกรีเสิชและมีเดีย เขาจะอยู่กันยาว ไม่มีกดดัน
แต่ชีวิตทุกวันนี้ มันไม่อย่างนั้นน่ะสิคะ
คนทำงาน ทำเพื่องานอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องทำเพื่อนาย ทำเพื่อลูกค้าด้วย
ความกดดันสูง เงินหายาก
รีเสิชเอากับเขาด้วย เคยมีนายเป็นผู้ดี สุภาพ เกรงใจและให้เกียรติ เปลี่ยนฉับพลันเป็นยายเบ๊อะสักคน มันทำใจลำบาก
ถามว่าอ้าว ยายเบ๊อะนั่น ถ้าไม่มีฝีมือ เขาโตมาถึงระดับนั้นได้ไง
คำตอบไม่มีใครเข้าใจ แต่สาวอักษรฯตอบว่า เพราะเขาโตมาผิดๆ ก็เลยขาดความปลอดภัยในตนเอง เที่ยวรุกไล่คนอื่น ปกปิดความปวกเปียก
ทำกร้าวใส่ชาวบ้าน เพราะข้างในกลวงๆ ..
เลยเป็นคนที่ไม่ได้การยอมรับจากผู้อื่นหนักเข้าไปใหญ่
เจอนายแบบนี้
พวกรีเสิช ยังลาออกเฉยเลย
ไม่อยากทน ว่างั้น
... 
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 191  เมื่อ 19 ก.ค. 08, 09:30

รายการทีวี และนิตยสาร เป็นที่ลงของงานโฆษณาที่มีอิทธิพล ไม่นับบิลบอร์ดที่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณอย่างต่ำสามแสนบาท แต่ในเรื่องของแบรนด์ดิ้งนั้น ได้ผลไม่แพ้อย่างอื่น โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ และพวกเครื่องดื่ม รวมถึงเสื้อผ้า แฟชั่น และห้างสรรพสินค้า
รสนิยมของคนก็เปลี่ยนไป บ้านเราสมัยก่อน ถึงจะเป็นเมืองที่มีชีวิตทันสมัย แต่คน ก็ยังรักษาประเพณี ไม่ทำงานโฆษณาที่ขัดต่อวัฒนธรรม
แค่โฆษณาเนสกาแฟเย็น มีคุณแสงระวี อัศวรักษ์ มิสไทยแลนด์เวิร์ลด สาวน้อยแก้มป่องนุ่งกระโปรงสั้นจู๋ อวดขาเพรียว ร่างกายอวบงามเย้ายวน มาเอียงกายดื่มเนสกาแฟอยู่บนบิลบอร์ดตรงทางด่วนแถวคลองเตย ทั้งสื่อ ทั้งผู้คน ก็ฮือฮากันแทบทั้งเมือง
ฉีกแนวบิลบอร์ดสุภาพๆ ที่ทำกันไปทั่ว
โป๊พอหอมปากหอมคอ
ไม่เห็นอะไรสักนิด ยังกระหึ่ม
..
ตรงกันข้าม ปัจจุบัน เปิดแล้วเปิดอีก ไม่โชว์ไม่ดัง เป็นฝรั่งกันเกือบทุกงาน
แต่เป็นฝรั่งแบบไร้รสนิยม นึกจะแหวก ก็แหวก ไม่รู้จักสรีระตนเอง ว่าแต่งแบบไหนงาม
สไตลิสต์ก็โอ้โห.. ทั้งถม ทั้งโบก
ไม่รู้ทำอาชีพนี้ได้ไง
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 192  เมื่อ 19 ก.ค. 08, 20:46

แต่ก่อน งานโฆษณาเรา ไม่ใช้หรอก สไตล้งสไตลิสต์ เรามีอาร์ตไดทั้งคน เป็นผู้ดูทุกอย่าง ฝ่ายโพรดัคชั่นสิต้องหามา ชาร์จค่าตัวกันสูง รับไม่ได้
อาร์ตได จะดูภาพรวมเพื่อให้โทนหนัง ไปทางเดียวกัน ไม่เปะปะ
เมคอัพอาร์ทิสท์เรามีคุณม้าอรนภา คุณมล คุณตี่หญิง ตี่ชาย คุณผู้หญิงแท้อีกคน ดิฉันจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว ก็ทำได้ดี
ส่วนคุณลูกน้ำเป็นน้องใหม่
แฮร์ สไตลิสท์ คุณม้า คุณมล และคุณตี่ ทำได้หมด
ส่วนคุณป๊อก ทำเฉพาะผม
เสื้อผ้า มีทั้งเช่าทั้งตัด พอคุณตุ๋ย วาริน จันทร์เจริญกลับมาจากอเมริกา
เราก็ได้ดีไซเนอร์ประจำกองถ่ายที่ความสามารถสูงลิบมาทำงานให้
ส่วนพร็อบส์ หรือของประกอบฉาก แรกๆก็ทำกันเอง หลังๆ ถึงเกิดเป็นอาชีพสไตลิสท์กัน
คนที่เก่ง ก็คือปัทม์ โดยเฉพาะงานตกแต่งบ้าน
 
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 193  เมื่อ 20 ก.ค. 08, 07:22

ครีเอทีฟทำงานหนักในหนังแต่ละเรื่อง ทราบมาว่ายุคที่ดิฉันเริ่มร้างราจากอาชีพ ด้วยความเหนื่อยหน่ายกับธุรกิจโฆษณาที่กดดันไม่เลิก และสภาพเศรษฐกิจ
โลกมันเปลี่ยนไป เช่น ทำสตอรี่บอร์ดขายลูกค้าเสร็จ อยากให้ใครกำกับ ต้องไปเช็คคิวเขาก่อนว่าว่างทำงานให้ไหม มิหนำซ้ำ ถ้าเขาดูบอร์ดแล้วไม่อยากทำ หรือไม่ว่าง ครีเอทีฟต้องรอ หรือหาคนอื่น
นั่นแค่ตัวอย่างที่หนึ่ง
พี่นุภาพ สวันตรัจฉ์ ครีเอทีฟหนุ่มรุ่นพี่ ซึ่งเป็นทั้งนักแต่งเพลงและอาร์ตได เคยบอกน้องๆว่า
"อาชีพอย่างพวกเรา ก็เหมือนนักวิ่งมาราธอน ต้องอึด และอดทน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ดังเปรี้ยง แล้วก็จบ "
พี่ๆอีกคน ใครไม่รู้จำไม่ได้จริงๆ บอกว่า ครีเอทีฟเหมือนหมาไล่เนื้อ แก่ๆก็หมดสภาพ ถูกหมาตัวอื่นไล่ต่อ
..
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 194  เมื่อ 20 ก.ค. 08, 08:46

ไม่ว่าจะเป็นหมา หรือเป็นนักวิ่ง
ดิฉันคิดว่าครีเอทีฟจะมีความสุขถ้าได้เจอลูกค้าที่พูดกันเข้าใจและชอบงานที่ประณีต
ดิฉันมีลูกค้าฝรั่งท่านหนึ่ง ชื่อคุณรอน ทำงานดีๆออกมาได้หลายชิ้น โดยเฉพาะงานดีไซน์ไวน์ มีไวน์หลายตัวที่ประสบความสำเร็จด้านการขาย เช่นมองโจลี ก็มาจากฝีมือคุณรอน ที่มีความเข้าใจในด้านคุณภาพสินค้า และราคา
คนไทยได้ดื่มไวน์รสชาติดี และราคาถูก
วันหนึ่ง คุณรอนก็ไปสรรหาไวน์รสชาติเลิศ แล้วสร้างแบรนด์เอง ชื่อว่า ออจจี้
แล้วมาให้อาร์ตไดดิฉันออกแบบฉลาก
อาร์ตไดเรามีหลายไอเดียด้วยกัน จนในที่สุดมาจบอยู่ที่ภาพศิลปะของศิลปินแห่งชาติ
ศาตราจารย์ประหยัด พงษ์ดำ
ที่เราเคารพ ด้วยภาพพิมพ์จากwoodcut เป็นม้าสามตัวของท่าน
คุณรอนชอบมากค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14 15 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 19 คำสั่ง