เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 18
  พิมพ์  
อ่าน: 51068 กรุเรื่องเก่า สาวครีเอทีฟ
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 19 พ.ค. 08, 06:41

ช่วงที่ศูนย์การค้าใหม่ๆของเรายังไม่เกิด แบรนด์เนมดังๆ มาแต่ในห้าง จะหาซื้อทีลำบาก ต้องบินไปเมืองนอก เงินจากกระเป๋าของเราสะพัดไปทั่วเกาะฮ่องกง อาหารดีๆ หรู เริ่ด หรืออาหารอร่อยระดับเยี่ยม บริการเหวี่ยงจานเกือบใส่หน้า ห้องน้ำตั้งแต่หรูไปจนสกปรก รองเท้า บรั่นดี วิสกี้ตระกูลมอลท์ เครื่องสำอาง ของเล่น เสื้อผ้าที่ทันแฟชั่น พวกโพรดัคชั่นเฮาส์ที่คุณอาจดูว่าปอนๆ เขามีใส่กันหมด
ยกตัวอย่างชุดชั้นในของเซนต์ไมเคิล จะมีร้านหนึ่งที่ตึกโอเชียนทาวเวอร์ ไปซื้อทีไรเจอแต่คนไทย
ร้านของเล่นทอยอาร์อัส ในตึกเดียวกัน
เครื่องประดับแบรนด์ดังในห้างเลน ครอว์เฟิร์ด
เครื่องเดินป่าวิคตอริน็อกส์
นาฬิกาสว็อทช์และฮอยเออร์
รองเท้าฮัช พัพพี่
รวมถึงแบรนด์อิตาลี ฝรั่งเศส ทุกอย่างมีที่ฮ่องกง
...
หลังการทำงาน เช่นการเกรดสีหนังให้อยู่ในโทนเดียวกันทั้งเรื่อง หรือระหว่างที่คอมพิวเตอร์กำลังเรนเดอร์ภาพ เราบรีฟงานเสร็จก็ออกมาเดินเล่น แล้วจึงกลับเข้าไปทำใหม่ ตามศูนย์การค้า เราอาจจะได้พบตัวจริงๆของคนที่ไม่มีวันได้เห็นในเมืองไทย เดินดูของอย่างสบายๆในศูนย์การค้าของฮ่องกง เช่น คุณชาตรี โสภณพนิช และครอบครัว
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 19 พ.ค. 08, 06:56

ตำรวจฝรั่งหุ่นแข็งแรงตัวเบ้อเร่อ ที่พูดจีนได้เฉยเลย
ช่วงที่ดิฉันพูดถึงมันเป็นปี1981-10ค่ะ ที่ฮ่องกงบูมมาก เป็นศูนย์กลางการเงินและเทคโนโลยี
แฟชั่น และการท่องเที่ยว
บ้านเราก็ไม่มีอาหารจีนที่อร่อยระดับเทพ สินค้านำเข้าราคาที่ต่างกันมากให้เราได้เลือกกระเป๋าฉีก(แต่ช่วงนี้เราเมิน เพราะเบื่อแล้ว)
แต่ครั้งหลังสุด ที่ไป ไม่สนุกเลย สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่บ้านเมือง แต่เป็นความเงียบเหงาของธุรกิจpost production
ครีเอทีฟเพื่อนๆกันจากเอเจนซี่อื่น หรือโพรดิวเซอร์คนดังจากเอเจนซี่เรา เพื่อนๆในวงการต่างก็แยกย้ายไปกันตามวิถีของแต่ละคน
เดี๋ยวนี้ ไม่มีความจำเป็นใดๆสำหรับดิฉันที่จะไปฮ่องกงอีกแล้ว
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 19 พ.ค. 08, 14:00

ถามว่า ครีเอทีฟแอบตบทรัพย์เฮาส์ไหนบ้างไหม เพื่อหาล้อแม็กใหม่ หรือเครื่องเสียงดีๆสักชุด ในยุคของดิฉัน ยากส์ค่ะ ไม่กล้าตอบว่าไม่มีเพราะดิฉันไม่ใช่มาตรฐานใครต่อใคร แต่ตลอดชีวิตการทำงานตั้งแต่เป็นก็อปปี้ไรท์เตอร์ ซีเนียร์ไรท์เตอร์ ครีเอทีฟ จนถึงตำแหน่งผู้บริหาร เราจะไม่ทำแบบนั้น
เพราะอะไรน่ะหรือคะ เพราะเวลาจะแก้งาน หรือคอมเมนท์งาน ซึ่งเฮาส์จะต้องรีชู้ต หรือเสียค่าใช้จ่าย เราจะไม่ต้องอ้อมแอ้มแบบเกรงอกเกรงใจกัน เขาจะต้องทำงานให้เราแบบไม่ปริปาก อย่างเต็มความสามารถ ไม่ใช่หมดบัดเจ็ทเพราะเอาส่วนนี้มาเป็นเงินปิดปากไปหมดแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อเราออกจากวงการไป หรือเกิดจับพลัดจับผลูตกต่ำในอาชีพ หรือถูกเด้ง มันไม่คุ้มกับศักดิ์ศรีหรือชื่อเสียงที่สะสมมา
ประวัติใครเป็นอย่างไร คิดหรือว่าจะปิดได้มิด
ดิฉันทราบจากเพื่อนๆเฮาส์รุ่นใหม่ๆว่า น่าเสียดายที่คนแบบดิฉันเหลือไม่มากนักแล้วค่ะ รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 20 พ.ค. 08, 12:40

บางท่านอาจจะสงสัยว่าหนังโฆษณาเรื่องหนึ่งควรจะราคาสักประมาณเท่าไหร่ ใครตอบตรงนี้ได้ ดิฉันขอลา
มันตอบโดยเฉลี่ยกำปั้นทุบดินไม่ได้ค่ะ
การคิดราคา มันมาจากสคริปท์ แล้วแต่ละสคริปท์มันเหมือนกันเสียที่ไหนล่ะคะ
ลูกค้าที่งบประมาณน้อย จะห่วงตรงนี้มาก สามารถบอกมาก่อนเลย ตอนที่จะคิดงานว่า
"ผมมีงบให้คุณทั้งสิ้นยี่สิบล้าน รวมแว็ต ทั้งมีเดีย และโพรดัคชั่น"
ก็เป็นหน้าที่เรามาบริหารเอง
สิ่งที่ทำงานยาก คือคิดฟุ้งไปเรื่อย โดยไม่รู้งบ เพราะลูกค้าอาจจะมีงบในใจไว้แล้ว เผื่อเหลือ เผื่อขาด แต่ไม่บอกเรา เพราะอยากจะดูไอเดีย
เอเจนซี่บางแห่ง ไม่ศึกษาลูกค้า เขาให้เสนอแคมเปญ ไม่บอกงบ แต่ดันเสนอแอดไปชิ้นสองชิ้น เป็นแม็กแอด
อีกเอเจนซี่ไม่ได้ดูถูกลูกค้า ซัดไปเต็มๆ ยี่สิบล้าน
เลยได้ลูกค้ามาครองด้วยการวิเคราะห์บรีฟ และปัญหาเป็นแท้ๆ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 20 พ.ค. 08, 13:04

เกิดเป็นครีเอทีฟทั้งที ความมันอยู่ที่การเขียนสคริปท์หนังดีๆ ขายลูกค้าได้ ทำหนังออกมาแล้วใช่ โดนใจผู้ชม หรือสินค้าขายได้ ได้ภาพพจน์ ได้กล่องจะเป็นเรื่องหลังสุด
สิ่งที่ยากที่สุดคือ ถ้าลูกค้าบรีฟมาว่า
"ผมอยากได้หนังรางวัลสักเรื่อง"
เฮ้อ โจทย์นี้ เด็กใหม่ๆ เพิ่งจบอาจจะชอบ เพราะถ้าทำได้ มันหมายถึงชื่อเสียงค่ะ
ค่าตัวที่เพิ่มขึ้น
ราคาของคน
แต่จริงๆแล้ว ไม่ลูกค้ารายไหนหรอกค่ะ ที่จะไม่อยากขายของ เพราะการทำหนังขายของแล้วได้รางวัล มันจะจำกัดอยู่ที่สินค้าบางประเภทเท่านั้น
เช่น สี ธนาคาร เครื่องดื่ม โลชั่น สถาบันการเงิน
มันยากมากที่เราจะทำหนังนม ผงซักฟอก ผ้าอนามัย ยาสีฟันให้ได้รางวัล
ส่วนใหญ่ ลูกค้าสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่สนด้วยซ้ำ
เฮาส์ก็เช่นกัน บางเฮาส์ ทำรางวัลเก่ง บางเฮาส์ทำหนังสวย ขายของ รับทรัพย์ทั้งปี กำไรกว่าเป็นไหนๆ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 20 พ.ค. 08, 16:37

หนังโฆษณาที่ถือว่ามีคุณค่าทางโพรดัคชั่น เขาไม่ได้วัดกันที่การโพสท์หรือฟินิชงานค่ะ เขาดูกันที่การถ่ายทำ โดยไม่ใช้special effectsใดๆมาช่วย เพราะฉะนั้น นอกจากความคิดสร้างสรรค์จะต้องดีแล้ว.. การถ่ายทำจะต้องดี ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การแสดง โลเคชั่น ฉาก ของประกอบฉาก เสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผม จะต้องกลืนกันทั้งเรื่อง
พอถ่ายเสร็จ ก็ตัดต่อ ลูกค้าซื้อแล้วเจ๋งเป้งเลย
ว่ากันที่ศัพท์เทคนิคซะนิดหนึ่งนะคะ ไม่งั้น ท่านผู้อ่านทั่วไปไม่เข้าใจ
หนังที่เราถ่ายทำเสร็จ เขาเรียกฟุตเทจค่ะ ไปเลือกฟุตเทจ ก็คือไปดูที่ถ่ายไว้ หรือเรียกว่า rushes
ขั้นนี้ ครีเอทีฟ กับโพรดิวเซอร์จะทำร่วมกับเฮาส์ หลังๆนี่ เฮาส์มักจะกันไม่ให้ครีเอทีฟซึ่งไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหนังเข้ามายุ่งมาก เขาจะเลือกฟุตเทจเอง แล้วตัดตัวอย่างไว้ให้ดูเลยสักแบบสองแบบ ตัดต่อภาพเข้าด้วยกัน ให้ลงสิบห้า วิ สามสิบวิ เส้นหนึ่ง
แล้วทำเสียง อีกเส้นหนึ่ง คือมิกซ์เสียงผู้ประกาศ เพลงหรือดนตรีประกอบ เสียงประกอบอีกเส้นหนึ่ง
แล้วเอาสองเส้นมาเรียงร้อยกันเฉยๆ เรียกว่า Double Head
หัวเสียง กับหัวภาพไงคะ
ขั้นนี้ เราถึงเรียกลูกค้ามาดู
ถามว่าแล้วถ้าลูกค้าไม่ชอบ ให้แก้ได้ไหม ..
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 21 พ.ค. 08, 12:53

ได้ค่ะ เพราะยังไม่ข้ามไปถึงขั้นสุดท้ายที่เรียกว่า checkprint
...
เดี๋ยวนี้ Doublehead ใกล้ความเป็นเช็คปริ้นท์ไปแล้ว 90 %
ลูกค้าที่ขึ้นชื่อมาก ครีเอทีฟกลัวชมัดเรื่องแก้งานนี่มีอยู่ไม่กี่รายหรอกค่ะ สามารถรื้อได้ทั้งเรื่องก็มี แต่โดยมาก ถ้าก่อนการถ่ายทำ เรามีลูกค้ามาเข้าพรีโพรดัคชั่นด้วย จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเมื่อถึงวันดูดับเบิ้ลเฮด
..ดิฉันเคยมีประสบการณ์ที่มึนตึ้บ กับลูกค้าตอนขายดับเบิ้ลเฮดน้อยมาก
เอาเรื่องของเพื่อนๆมาเล่า น่าจะสนุกกว่า โปรดรอสักครู่นะคะ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 23 พ.ค. 08, 09:00

มัวแต่ยุ่งกับชีวิตและสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ จนไม่เจอเรื่องดีๆมันๆของคนโฆษณามาเล่าให้ฟัง.. หายไปวันหนึ่งค่ะ
...
ต่อเรื่องขายดับเบิลเฮดนะคะ
วันหนึ่งที่เครือซิเมนต์ไทยกำไรมหาศาล กระแสนักข่าวกระพือเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็ก ธุรกิจใหญ่ฮุบธุรกิจเล็ก มันไม่ธรรมดาเหมือนสมัยนี้ มันเหมือนมีพวกเอสเอ็มอีถูกรังแกทำนองนั้น
เครือซิเมนต์ไทยยุคคุณพารณ อิศรเสนา คุณอมเรศ ศิลาอ่อน ปกติจะมีหนังโฆษณาอยู่สามประเภท
ประเภทแรก Product โฆษณาสินค้า ซึ่งมีปูนตราเสือ ปูนตราช้าง กระเบื้องมุงหลังคาตราช้าง กระเบื้องและสุขภัณฑ์คอตโต้ ลูกค้านอกจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ก็จะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรงในปูนเอง
คนพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวดีๆ การศึกษาสูง และสุภาพ
ประเภทที่สอง Product Corporateโฆษณาเอเย่นต์ คนอ่านที่ไม่คุ้นอาจจะงง ดิฉันแรกๆก็งงเช่นกัน เอเย่นต์ของเครือมีอยู่ทั่วประเทศ มีการจัดเกรดเป็นหลายระดับตามวงเงิน ยอดขาย และเครดิต เราต้องมีโฆษณาสนับสนุน ว่าในบรรดาร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศน่ะ เอเย่นต์ของปูน ทั้งของและบริการได้มาตรฐาน สังเกตโลโกตราช้างข้างบนเป็นสำคัญ
การถ่ายทำ ต้องไปถ่ายที่เอเย่นต์จริงที่เราเลือก ปลอมเอาตัวแสดงมาเล่นแทนไม่ได้
ประเภทที่สามสิคะ ที่จะเล่าให้ฟัง
คุณวินิจ สุรพงษ์ชัย เอ็มดีของลินตาสเรียกให้ชัด(แต่บางคนฟังแล้วปวดหัวมากขึ้น)ว่า Corporate Corporate
มันเป็นอย่างไรกันหรือ
..
 
บันทึกการเข้า
Oam
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 168



ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 25 พ.ค. 08, 09:16

มาคั่นโฆษณาให้ครับ
 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
elvisbhu
แขกเรือน
พาลี
****
ตอบ: 215

เป็นคนเขียนรูป


ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 26 พ.ค. 08, 09:03

ระหว่างที่ผมทำโฆษณา มีหนังเรื่องหนึ่ง ที่เป็นนมยี่ห้อดังของไทยนี่หละครับ ที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง ลูกค้าเป็นชายหนุ่มอายุราวฟิฟตี้อัพ เหลือเชื่อครับ เวลาฉายดับเบิ้ลเฮดให้ดูกันที ขอรีโมทไปฟรีซเฟรมดู
นมที่ย้อยลงมา ข้น ขาวพอไหม
เทคไหนดีกว่านี้มีไหม
ถ้ายังไม่ได้ให้ถ่ายใหม่
เขาดูหนังกันที่ภาพเคลื่อนไหวครับ ไม่ได้ดูที่ภาพนิ่ง
แล้วพวกผมน่ะ ไม่ใช่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกันนะครับ
ก็อาวุโสพอควรในเอเจนซี่
..
นี่แค่ตัวอย่าง นึกอะไรได้จะมาเขียนคั่นโฆษณาบ้างครับ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 28 พ.ค. 08, 09:25

เร้นกายไปหลายวันค่ะจากกระทู้ กำลังอินกับวาทะของรมต.สำนักนายกฯ ที่พูดกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ไม่ทราบว่าเรียนประวัติศาสตร์สำนักไหนมา หรือได้รับอิทธิพลจากคุณผู้ชายผูกหูกระต่าย ถึงได้ปล่อยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่นนั้นออกไป เพราะไม่ว่าจะพิจารณาทางด้านภาษาศาสตร์ รัฐศาสตร์ สื่อสารมวลชน ล้วนแต่ทำให้ดิฉันอ้าปากค้าง
..
ถ้าคุณรมต.ท่านนี้เป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ไปพรีเซ้นท์คัมพานีโพรไฟล์แบบนี้ให้ลูกค้า(ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศ)แทนเอเจนซี่ที่ชื่อไทยแลนด์ละก้อ กลับมา ถูกเจ้านายลงโทษเก็บของลงกล่องแน่
ฝ่ายบัญชีคงจะขอให้คืนกุญแจรถบริษัทที่นั่งเชิดอยู่เบาะหลังทุกวัน
เอเจนซี่คู่แข่งคงต้องมาคล้องพวงมาลัยเป็นการใหญ่ที่ทำลายตัวเองได้อย่างฉกาจฉกรรจ์
ไม่ต้องออกแรงเล้ย.. ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 28 พ.ค. 08, 10:48

วิธีการพูดหรือคอมเมนท์ในสิ่งที่ตนไม่รู้จริงอย่างเป็นตุเป็นตะนี่ อัยตรายมากในแง่ของคนทำหนังโฆษณา เพราะคอมเมนท์ผิดๆ มันอาจหมายถึงการแก้หนัง ถ่ายใหม่ทั้งเรื่องก็ได้
ดิฉันกำลังจะยกตัวอย่าง หนังส่งเสริมภาพพจน์ของเครือปูนใหญ่เรื่องหนึ่งค่ะ
อย่างที่เขียนแต่แรกว่า สถาบันนี้ ใหญ่มาก มีบริษัทในเครือมากมาย กระทรวงการคลังและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นมาก การสร้างภาพพจน์โดยพูดถึงตัวเองว่าใหญ่ ยอดขายสูง กำไรมาก พนักงานเยอะ โบนัสดี ฮุบกิจการของบริษัทเล็กๆมาทำเอง ย่อมเป็นสิ่งที่นักโฆษณาไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด
เราได้ทำหนังจากคอนเส็ปท์ว่า SIMPLE MAN มาเรื่องหนึ่ง
เป็นชีวิตของช่างคนหนึ่ง ในโรงปูน เขาเป็นคนปูนจริงๆ จบการศึกษาระดับปวช. หน้าตาน่าไว้ใจ ไม่หล่อ แต่ดูดี เป็นหนุ่มชนบท จบการึกษาแล้วได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ นั่งรถไฟมาจากหัวลำโพงเลยละ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 132  เมื่อ 28 พ.ค. 08, 15:13

ทีมถ่ายทำเป็นของสยามสตูดิโอ ผู้กำกับคือคุณคทา สุทัศน์ฯ ปิดชานชลาไปหนึ่งชาน ที่หัวลำโพง ในปีนั้น หัวลำโพงยังเก่า คลาสสิค ไม่ได้เดิ้นอย่างที่เห็นหรอกค่ะ
เรื่องต้องการบอกว่า
คนปูนเขาก็เป็นคนเดินดินธรรมดา มาจากรากแก้วของประเทศ จากบ้านมาทำงาน แล้วเมื่อเติบโตในสายงานช่าง วันหนึ่งก็ไปรับแม่จากต่างจังหวัดที่ชานชลาเดียวกันกับที่เขามา
ชีวิตเริ่มที่เดินลงจากรถไฟ เมื่อก้าวหน้าในการงาน ก็มารับแม่มาอยู่ด้วยที่ๆเดียวกัน
SCG guy, just like your neighbor, he's a simple man, comes from rural, not a giant, big shot or any hero, and when he has little success, he never forgets his root.
หนังเสร็จ ยังไม่นำออกฉาย ผ่านคุณอมเรศ ศิลาอ่อนแล้ว คุณพารณ อิศรเสนาท่านบอกว่าสูงไปสำหรับคนดู ดูยาก
เราเลยทำรีเสิช
เชิญนักวิจารณ์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้นำความคิด มาดูที่เอเจนซี่
ผลออกมาบวก กับภาพลักษณ์ของเครือปูนซิเมนต์ไทย แต่ .. ทบทวนไป ทบทวนมา
เราจำเป็นที่จะเสนอหนังใหม่ค่ะ ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนปูน หรือเครือปูนโดยตรงเลย
ตกลงหนังไม่ได้ฉาย..
นี่ละ ท้าทายมากๆ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 133  เมื่อ 29 พ.ค. 08, 10:09

หนังเรื่องหนึ่งที่เราทำให้ปูน ชื่อว่าเมืองไทยนี้ดี เปิดให้เห็นถึงว่าไทยเรามีดีอย่างไร ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว  เป็นเสียงเด็กอ่านอาขยาน ทำให้เอเจนซี่ คิดว่า กลยุทธที่จะไม่พูดถึงตัวเราเอง คือปูน น่าจะใช้ได้
ดิฉันขนหนังสือประวัติปูนใหญ่ มาอ่าน ตั้งแต่สมัยซีเพีย จนปัจจุบัน ศึกษาแนวทาง วัฒนธรรม กว่าจะได้หนังผู้ชายธรรมดาออกมาเรื่อง
คราวนี้ ถ้าไม่อิงเรื่องของปูน จะไปอิงอะไรดี
อ่านไปอ่านมา ก็ถูกใจกับปรัชญาหนึ่งของปูนค่ะ
"เชื่อมั่นในคุณค่าของคน"
เอาละ แนวคิดนี้น่าจะดี แต่ว่า จะเสนอรูปแบบออกมาอย่างไรล่ะ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 29 พ.ค. 08, 10:13

เจ้านายบอก "ยูก็เอาบทอาขยานมาสักบทสิวะ"
หัวหน้าหัวเราะ บอก "เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ดีไหม"
ดิฉันคิดหนัก เออ ไม่เลว เพราะสิ่งที่เจ้านายพูด มันก็สามารถจะcampaignableกับหนังเดิมได้เหมือนกัน แต่จะทำไงดี ไม่ให้มันเป็นสารคดี ดูแล้วได้อารมณ์ร่วม
นี่คือโจทย์
...
และที่สำคัญ ต้องทำให้สะท้อนความคิดหลัก ที่ดิฉันชอบว่า เครือซิเมนต์ไทย เชื่อมั่นในคุณค่าของคนด้วย
คิดได้ปุ๊บ ก้ลงมือเขียนสคริปท์ และสตอรี่บอร์ดค่ะ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง