เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 23
  พิมพ์  
อ่าน: 129709 คนเขียนเพลง
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 285  เมื่อ 27 พ.ย. 08, 10:03

บรรยากาศของการชุมนุมสามแห่ง ทำเนียบถนนพิษณุโลก สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิทำให้เขียนอะไรไม่ออกไปหลายวันค่ะ กำลังจะเขียนถึงโจ คอคเกอร์ และมวลมิตรที่ขึ้นเวทีวู้ดสต็อคอีกหลายคนรวมถึงCCR
คงจะต้องขอพักคั่นบรรยากาศด้วยความหมายของเพลงสักเพลงที่ตรงใจเซ็งๆของดิฉัน
ระหว่างนี้ ไปเจอเพลงๆหนึ่งของ พอล แมคคาร์ทนี่ย์ ที่สมบูรณ์มาก เห็นทั้งสี่หนุ่มชัดเจน แต่ที่ตลกคือ คุณโยโกะ โอโนะ ไปยืนข้างจอห์น เลนนอนในสตูดิโอทำไม
เหมือนเป็นอีกเมมเบอร์หนึ่งของสี่เต่าทอง
หรือจอห์นจงใจส่งเข้าประกวด สร้างความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกให้เพื่อนๆไปทั่ว
ทำนอง love me, love my เมีย
เฮ้อ..


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 286  เมื่อ 27 พ.ย. 08, 11:54

บรรยากาศที่วิดีโอถ่ายทำเพลง let it be มันสดในห้องส่ง ชอบมาก
ทำให้ดิฉันนึกถึงสไตล์รายการเพลง การจับกล้อง มุมภาพ สมัยนั้น ถ้าเทียบเป็นเมืองไทย ที่ใกล้เคียงก็โลกดนตรี ทางช่องห้า
ผู้กำกับรายการมีสามคนที่เก่งมาก บุญชาย ศิริโภคทรัพย์ มาที่หนึ่ง คุณบุญชายนี่เป็นลูกจีน มีสตางค์ ไปจบอเมริกามาโดยตรงทางสายนี้
รองลงมาก็คุณจ้อน นามสกุลดัง ลูกนายพลทหารบก ตอนนี้ดิฉันนึกไม่ออก เสียชีวิตไปแล้วก่อนวัยอันควร
และพระเอกละครรูปหล่อ เซ็กซี่ แต่ท่ามาก (อิอิ) ตรัยเทพ เทวะผลิน ลูกชายร้านส.ธรรมภักดี
สามหนุ่มนี้ เขาผลัดเปลี่ยนเวียนวนกันกำกับรายการเพลงทางช่องห้า ยุคทองเลยค่ะ
วงอะไรจะเกิดหรือไม่เกิดก็ต้องไปออกโลกดนตรีค่ะ
..
คุณเสกสรร ภู่ประดิษฐ์ เสียชีวิตไปแล้วอีกเช่นกัน เป็นโฆษกประจำรายการ
เจ็ดสีคอนเสิตเขาเกิดทีหลัง ทำอะไรรายการโลกดนตรีไม่ได้เลย ..
วันไหนมีอัดรายการโลกดนตรี รถหน้าสนามเป้าจะติดกันจม ยุคทองของช่องห้านั้นผู้การถาวร ช่วยประสิทธิ์ท่านบุกเบิก ตามด้วยท่านปทีป ชัยปาณี
สองนายพลคนเก่งของช่องห้าที่ทำให้ช่องกองทัพบก เกรียงไกรไม่แพ้ใครในยุคหนึ่ง
..เพลง Let it be กล่าวถึง MOther Mary คือแม่แท้ๆของพอล แมคคาร์ทนี่ย์ ที่เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุ 14 ปี เป็นคนที่ให้ words of wisdom กับเขาว่า let it be...นั่นเอง
บางคนตีความหมายว่าเป็นแม่พระ
เพลงนี้ เปิดในงานฝังศพของลินดา ภรรยาสุดที่รักของพอลเองที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
ลินดาเป็นอเมริกันค่ะ อาชีพเป็นหลักเป็นแหล่งระดับเจ๋ง คือช่างภาพสาว ไม่น่าแปลกใจที่บุตรสาวคนโตของพอล ชื่อ แมรี่ (ชื่อเดียวกับคุณย่า)จะดำเนินรอยตาม
ลินดา หรือเลดี้ลินดา สวยมากค่ะ สวยธรรมชาติ


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 287  เมื่อ 27 พ.ย. 08, 20:50

ลินดา อีสท์แมน สะสมชื่อเสียงยุคฮิปปี้ส์ด้วยการถ่ายภาพวงดนตรีดังๆ เมื่อต้องมาถ่ายภาพคณะ the animals เจ้าของเพลงดัง  the house of the rising sun ในลอนดอน ก็ไปเข้าตาหนุ่มพอล แห่งวงสี่เต่าทอง ในคลับแห่งหนึ่ง แต่ไม่ยักมีใครแนะนำเธอให้เขารู้จักเสียที
พอลเป็นหนุ่มขี้อาย แต่ไม่ใช่ไม่มีแฟนเสียเลย คนหนึ่งที่คบนานเป็นตัวเป็นตน สวยระดับนักแสดงนำและร่ำรวย แต่เมื่อเจอลินดา สาวหน้าตาไร้เครื่องสำอาง และเป็นคนเก่ง เขาจะพลาดวินาทีสำคัญนี้ไปได้อย่างไร
พอลเดินไปแนะนำตัวเองเลยว่า ผมชื่อพอล..
และวินาทีนั้น .. ที่ตัดสินใจ พอลเล่าให้ลูกๆฟังว่า ถ้าไม่ตัดสินใจอย่างนั้น แมรี่ สเตลล่า และเจมส์ คงไม่นั่งอยู่ตรงนี้
..
ภาพนี้ของพอล แมรี่ เป็นคนถ่าย


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 288  เมื่อ 28 พ.ย. 08, 00:46

ยังนึกบ่นอยู่เลยครับว่าคุณกุ้งหายไปไหน....อิอิ  โชคดีที่บรรยากาศรอบตัวผมเวลานี้ไม่เครียดอะไรเลยครับ  เพราะมีแต่ชาวนากำลังง่วนเกี่ยวข้าวและนวดข้าว  เครียดนิดหน่อยก็ปัญหาราคาข้าวอ่ะครับ  แต่ผมสิสนุกแวะไปกินอาหารแซ่บๆตามบ้านต่างๆที่กำลังรวมกันทำงาน  อาหารหลากหลายอากาศก็เย็นสบายไม่หนาวสาวๆก็ตรึม....อิอิ  แค่นี้ก็ heaven on earth สำหรับชนชั้นระดับเราแล้วครับ..... อายจัง

เซอร์พอลร้องเพลงอมตะเพลงนี้ในบรรยากาศแบบสบายๆ  ภาพของจอห์นกับโยโกะก็ไม่มีอัไรนี่ครับถ้าไม่คิดมาก  แต่คงบาดใจแฟนเพลงสาวๆบ้างก็เท่านั้น  หรือบีทเทิ้ลอยู่ในเฟรมแล้วจะมีใครเข้าไปร่วมไม่ได้  ภาพเซอร์พอลกับลินดาในคอนเสิร์ทก็ดูน่ารักดีออกครับ  เธอก็เป็น Wings คนหนึ่ง  เพลงโปรดของผมสำหรับวงนี้คือ I will, In my life โดยเฉพาะเพลงหลังนี่ผมเคยดูในภาพยนต์เก่าๆเรื่องหนึ่ง  ที่เกี่ยวกับสงครามเวียดนาม  เป็นดอลลี่ หรือใครก็ไม่แน่ใจร้องเพลงนี้ได้ดีมาก  แต่ผมจำไม่ได้จริงๆเพราะดูแค่ครั้งเดียวเป็นแบบวีดีโอคาสเสทท์ซะด้วย  จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อหนัง

เรื่องของ จอห์น ฟอร์เกตตี้  ผมอยากฟังครับ  สไตล์เพลงไม่เหมือนใครเล่นไม่ยากแต่ร้องยากชะมัด  ผมชอบเพลง Long as I can see the light ชอบที่มีแซกโซโฟน และท่อนขึ้นต้นอ่ะครับ  Put a candle in the window, cause I feel I've got to move......... แลบลิ้น

บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 289  เมื่อ 28 พ.ย. 08, 14:56

คุณบานาเข้าใจผิดนะคะ
ไอ้เครียดน่ะ ไม่ได้เครียดอะไรหรอกค่ะ ก็รู้อยู่ว่าจุดจบมันอยู่ตรงไหน แต่มันเซ็งค่ะ .. ต้องหา words of wisdom เหมือนพอล เพราะความคิดสร้างสรรค์กระตุก
และถ้าหากโลกนี้ขาดเสียงเพลง ดิฉันคงคิดอะไรไม่ออก
ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง แต่ว่ายังอยู่ในประเด็น
เพื่อนสาวดิฉันคนหนึ่ง เธฮเป็นคนจริงจังกับการสร้างฐานะมาก พี่สาวเธอกระซิบว่า น้องสาวไม่เคยฟังเพลงเลย เอาแต่เรื่องงาน ปกติ เราทำงานในแวดวงเดียวกัน แต่เธอย้ายไปเป็นฝ่ายการตลาด พอห่างกันไม่เท่าไหร่ วันดีคืนดี เส้นโลหิตในสมองแตก..อายุแค่สามสิบกว่า เปิดหนังสือพิมพ์อ่านตอนเช้า ฟุบไปเฉยๆ ต้องส่งโรงพยาบาลทันควัน
ได้หมอดี คนสวยเลยกลับมาสวยใหม่ได้ แต่.... ความคมไม่เหมือนเดิม พูดคำข้ามคำ สมองทำงานไวเหมือนเดิม แต่ประสาทพูด รับไม่ทันไปเฉยเลย
อันดนตรีมีคุณ...เป็นทั้งยาอายุวัฒนะ และเยียวยาอีกต่างหาก หากเธอฟังดนตรี ฟังเพลงทุกวัน คงไม่เป็นอย่างนี้ 
...
ฟังไปเถอะค่ะ เพลง ไม่ว่าจะพ็อพ ร็อค คลาสสิค แล้วแต่ความชอบหรือพื้นฐาน บ้านเดียวกัน ความชอบต่างกันมีถม ตอนเล็กๆ พี่คนหนึ่งของดิฉัน ทำเป็นไม่ชอบเพลงฝรั่ง รักชาติ ชอบลูกทุ่งทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวกันสักนิด
ไม่งั้นจะมีสุภาษิต ลางเนื้อชอบลางยาหรือคะ
แต่พอล่วงสู่วัยหนึ่งก็เห็นฟังเพลงแผ่นเดียวกับดิฉันได้ แถมลูกชายลูกสาวยังร้องเพลงรุ่นดิฉันได้ปร๋อตั้งแต่เล็กๆ
เหมือนพอล ซึงซึมซับความสามารถทางดนตรีจากพ่อ เขาเล่าว่า พ่อชอบเล่นเปียโน และชอบให้ลูกร้องเพลงด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ สอนให้เขาสองคนร้องเพลงแบบharmonyมา จนเมื่อมาทำงานแต่งเพลงร่วมกับจอห์น เมื่อจอห์นร้องเพลง พอลก็สามารถประสานได้โดยอัตโนมัติ
ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งเนื้อร้องเป็น พอลได้มาจากแม่
เพราะแม่ชอบอ่านบทกวีให้ฟังตั้งแต่เด็ก
คนในเจอเนอเรชั่นดิฉัน ไม่มีอินเตอร์เน็ต นอกจากแบบเรียนที่โรงเรียนสอน ก็มีวิทยุ ทีวี และหนังสือเท่านั้น
พวกเราโตมากับเพลง และรายการทีวีที่ดี อย่างหนูน้อยบีเวอร์ ..โลกพิศวง แดนสนธยา และโบนันซ่า
พอล โตมาอย่างไร ก็อยากให้ลูกๆของเขาโตมาอย่างนั้น เด็กๆต้องช่วยตัวเอง กินอาหารจากที่ลินดาทำ ใช้เงินเท่าๆเด็กคนอื่น พ่อแม่ดูแลใกล้ชิด
ผล ลูกทั้งสาม สองไปแล้วที่ประสบความสำเร็จ แมรี่เป็นช่างภาพมืออาชีพ ผลงานล่าสุดคือถ่ายให้นิตยสารvanity fair สเตลล่า เป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง ออกแบบรองเท้าให้แอดีดาส เสื้อผ้าให้ H& Mและมีแบรนด์ของตัวเอง ส่วนเจมส์ลูกคนเล็กที่หน้าเหมือนพอลแต่ผมทอง ก็เอาดีทางดนตรีแบบพ่อ
เพลงwhen I' m sixty four พอลแต่ง ก่อนจะมาเจอลินดาด้วยซ้ำ ลินดาเป็นนางในฝัน และที่น่าเศร้า เธอจากพอลไปก่อนที่เขาจะอายุครบ 64 และจากไปด้วยโรคเดียวกับที่คุณแม่ของเขาเป็น
มะเร็งทรวงอกค่ะ...
เพลงที่พอลกับลินดามีความหลังด้วยกัน คือ a whiter shade of pale ของ โพรคอล ฮารัม



 


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 290  เมื่อ 28 พ.ย. 08, 15:44

เพลงที่ความหมายพัลวันแต่เรื่องความรักที่พอลแต่ง ช่วงที่อินเลิฟกับคนรักคนก่อนมีหลายเพลง ฟังแล้วก็โหวงเหวง แต่ฮิต เช่น and I love her หรือที่ดังไม่รู้เรื่องทำเงินมหาศาลทั้งโลก เพื่อนๆนักเรียนดิฉันต้องร้องเพลงนี้กันเป็นทั้งที่พวกเรายังเด็กมาก มีแต่tomorrowก็ไปคลั่งไคล้เพลง yesterday กันเสียอีกแน่ะ
อาหารอร่อยกว่านั้นมันไม่มีนี่คะ

ในบรรดาเพลงของพอล ดิฉันว่า มีเพลงหนึ่งที่คนอื่นร้องได้ดีกว่าเจ้าของเสียอีก ก็คือ With a little help from my friend
กลับไปที่อเมริกา ปี 1969 ที่วู้ดสต็อค มีนักร้องเลือดอังกฤษอยู่คนหนึ่ง ไปร้องที่นั่น โดยใช้เพลงของชาวบ้าน เช่น สี่เต่าทอง โจ ค็อคเกอร์ หรือ หมาบ้าโจ



What Would You Do If I Sang Out Of Tune
Would You Stand Up And Walk Out On Me
Lend Me Your Ears And I'll Sing You A Song
I Will Try Not To Sing Out Of Key


บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 291  เมื่อ 29 พ.ย. 08, 01:41

โจ ตอนหนุ่มๆหล่อไม่เบาครับ  เพลงนี้ผมว่า บาร์บบร่า สตรัยแซนด์ ร้องเพลงนี้ได้เพราะที่สุด  แต่ได้ฟังของโจร้อง(ครั้งแรก)ก็ไปอีกแบบครับ  การสอนศิลปะในบ้านเราผมว่ายังน้อยไปครับ  จะมีแต่ในเมืองหรือกรุงเทพ  แต่ต่างจังหวัดโรงเรียนที่โชคดีเท่านั้นถึงจะมีครูสอนศิลปะดีดีในชั้นประถม  ซึ่งผมว่ามันสำคัญมากพอพอกับวิชาการด้านอื่นๆ  มันช่วยในความอ่อนโยนและความคิดสร้างสรรได้รับการปลูกฝังและพัฒนาในเด็กควบคู่กับการเติบโต  เราจะได้เด็กที่เป็นนักคิดนักสร้างสรรที่ดีดีอย่างคุณกุ้งอีกเยอะเลยครับ  และศิลปะในด้านเพลงไม่ว่าจะร้องจะเล่นหรือเพียงแต่ฟัง  มันช่วยบำบัดหลายอย่างนอกจากความเครียด  และยังช่วยในการพัฒนาด้านอีคิวอีกด้วย(อิอิ....มาแนววิชาการเลยวันนี้)
"เสพแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์"  มีคนบอกงั้น  เห็นจะจริง  เพราะอาจไม่ใช่แค่ทำให้สงบอย่างเดียว  อาจเกิดความเศร้าซึ้งหรือแม้แต่พลุ่งพล่าน....อิอิ  มีครับดนตรีที่ทำให้คนฮึกเหิมได้  เรียกว่าเร้าใจ  ปลุกใจ  หรืออะไรแล้วแต่จะเรียก  แต่สำหรับผมมีความสุขทุกครั้งครับเพราะผมเลือกฟังตามอารมณ์ที่อยากฟัง  บางทีก็ฟัง บาวารอตติ  คีทาโร่  บางอารมณ์ก็ฟัง ELP, Green day,Nirvana และตอนนี้ไปลานข้าวก็ฟังหมอลำ  ม่วนอีหลี.......อิอิ
เพลงรุ่นพอล  ก็ต้องเรียกว่าอิทธิพลจากในบ้าน  เพลงนี้ก็ชุดซาเจนท์ เปปเปอร์  ไม่อยากได้ยินก็ต้องฟังเพราะเปิดกรอกหูบ่อยๆ  จนคุ้นและชอบ  และสนใจหาเพลงอื่นๆของวงนี้มาฟังแล้วก็หัดเล่นไปด้วย  บีทเทิ้ลเพลงแรกที่เล่นก็ พลีส มิสเตอร์โพสแมน  เพราะง่ายคอร์ดวนๆ  เพลงโฆษณาที่ชอบก็ของ ฟิล คอลลิน เพลง Groovy kind of love แค่เพลงเดียวทำให้ผมต้องมีเพลงของฟิลทุกเพลงมาสะสม  แต่ CCR ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับวงนี้น้อยมาก  แต่ได้ฟังเพลงวงนี้เยอะมากคาดว่าคงรุ่น นีล ยัง  เพราะซาวนด์ดิบๆไม่มีเครื่องช่วยอะไร  เล่นจริงกับอัดแผ่นเสียงไม่แตกต่าง  ไม่รู้ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าครับ.......รออ่าน...อิอิ please....... ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 292  เมื่อ 30 พ.ย. 08, 15:45

ยังอยู่ค่ะ ยังอยู่ แต่..อย่าค่ะ คุณบานา อย่าเพิ่งใจร้อน

เราขอหยุดตรงที่โจก่อน เพลงที่วู้ดสต็อคมีอีกversionหนึ่งของโจ
ภาพจะออกไปทางมีเดียมลองช็อตเยอะ สังเกตมือไม้เวลาร้อง
ต่อมาไม่นาน เขาถูกล้อโดยตลกอเมริกันชื่อดัง เบลูชี่
ที่โจเอง ก็ไม่รู้จัก ไม่รู้สึกรู้สา หรือยัวะ ตรงกันข้ามกลับขำ แล้วบอกว่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น มันเป็นไปเองตอนร้อง
ไม่เหมือนใครค่ะ
อยากให้ชมอีกวาระหนึ่ง โจอาวุโสขึ้น หลายครั้งที่เขาได้รับเชิญให้ร้องคู่กับผู้มีชื่อเสียงอื่นๆ ตั้งแต่ แพทตี้ ลาเบล
ปาวาร็อตติ หรือร้อง โดยท่อนโซโล เอริค แคลปตันเล่นให้ หวานซะไม่มีอ้ะ


่โจ กับปาวาร็อตติ ร้องคุ่เพลง you are so beautiful สำหรับสุภาพสตรี มีคนเคยร้องให้คุณฟังหรือยังคะ ดิฉันว่า เพลงนี้ใครร้องให้ฟัง ก็จะรู้สึกว่ามันเพราะทั้งนั้น
แต่เสียงของโจ มันพร่า ลึก หวาน ทรงพลัง และยิ่งใหญ่
พวกแมนๆเขาชอบกันมาก
ดิฉันเองเพลินกับท่าเหวี่ยงมือไม้ รวมถึงนิ้วที่กระดิกไปมาเหมือนเล่นเปียโน บางทีก็หันมาคอนดัควงเขาเฉยเลย
ที่จริงโจน่ะ ตีกลองเก่ง เพื่อนๆให้เลือกเอาว่าจะร้องหรือตีกลองอย่างใดอย่างหนึ่ง แถมบอกว่าอย่าร้องเลย เล่นกลองเหอะ เพราะถ้ายูไม่เล่น เราก็ไม่รู้จะไปหาใครมา
แต่เรื่องก็จบลงตรงที่โจ เป็นนักร้องดีกว่า
นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เสียงแบบนี้ จำได้ติดหู แม้เวลาจะเปลี่ยนไป


you are so beautiful
แต่งโดย Billy Preston and Bruce Fisher

YOU ARE SO BEAUTIFUL TO ME
YOU ARE SO BEAUTIFUL TO ME
CAN'T YOU SEE
YOUR EVERYTHING I HOPED FOR
YOUR EVERYTHING I NEED
YOU ARE SO BEAUTIFUL TO ME

SUCH JOY AND HAPPINESS YOU BRING
SUCH JOY AND HAPPINESS YOU BRING
LIKE A DREAM
A GUIDING LIGHT THAT SHINES IN THE NIGHT
HEAVENS GIFT TO ME
YOU ARE SO BEAUTIFUL TO ME


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 293  เมื่อ 02 ธ.ค. 08, 15:23

ฟังโจ หมาบ้า แล้วลองกลับไปฟัง วงเล็ด เซปปลิ้นใน บันไดสู่สวรรค์ หรือพูดภาษาวันนี้ง่ายๆไม่ให้ลิเกว่า"ทางไปสวรรค์ " เพลงนี้.. มีคนแปลความไว้มากมาย อย่างสุภาพสตรีที่ซื้อบันได เป็นได้ทั้งผู้หญิงบ้าเพชรนิลจินดา หรือเป็นได้ทั้งผู้ส่องสว่าง
ส่วน piper ก็มีหลายความหมาย อ่านกันตาแฉะ ล้วนแต่คาดเดา
มีนักแปลความหมายจากนิวซีแลนด์คนหนึ่งตีความซะ น่าทึ่ง
เอาเป็นว่า ในเมื่อตัวคนแต่งเอง คือรอเบิร์ต พูดสบายๆว่า ผมขอเสนอบทเพลงแห่งความหวังให้ฟังกัน
ดิฉันก็เลยสุมหัวกันกับเพื่อนรัก ถกกันไปกันมา จนได้มาแบบหนึ่ง ที่อิงทั้งเรื่องของวิญญาณ และเทวดา ทางเลือกว่าจะไปสวรรค์หรือนรก ถ้าเดินผิดไปแล้วยังมีโอกาสเปลี่ยนใจได้
piper ทำให้นึกถึงเทวดากาบรีเอล ในวันพิพากษาโลก ในไพ่ทาโรต์เบอร์ 20 judgement
ที่จริง จิมมี่ เพจเองก็คลั่งไคล้อลิสเตอร์ ครอว์ลี่ย์ เจ้าพ่อทาโรต์ คนหนึ่งอยู่แล้ว
ส่วนปรัชญาตะวันออกน่ะ รอเบิร์ตชื่นชม
จึงเป็นได้ทั้งทางพุทธ คริสต์
สำหรับดิฉัน สวรรค์น่ะ ไปง่าย ไม่ต้องใช้เงินซื้อหรือทำบุญแบบเจ้าบุญทุ่ม คุณแค่รับกระแสเพลงแห่งความดีของพระเจ้า ไม่เลือกเดินทางผิด
คุณก็ไปที่นั่นได้เหมือนกัน

ไปฟังอีกทีค่ะ แล้วคิดเหมือนดิฉันกับเพื่อนไหม ..



Stairway to heaven
-robert plant
ทางไปสวรรค์

มีสุภาพสตรีนางหนึ่ง ผู้เชื่อว่า
สรรพสิ่งที่ส่งประกายล้วนหมายถึงทอง
เธอกำลังซื้อทางไปสวรรค์

เมื่อถึงสวรรค์ เธอหวังว่า
ถึงร้านทั้งหลายจะปิด
แค่พูดคำเดียว เธอก็จะได้ทุกสิ่งที่ใฝ่หา
อูว์..แล้วเธอก็กำลังซื้อทางไปสวรรค์

มีสัญลักษณ์บอกบนฝาผนัง
แต่เธอก็ต้องดูให้แน่ใจ
เพราะบางครั้ง คำๆเดียวมีสองความหมาย

บนต้นไม้ ที่กิ่งไม้
มีนกที่ร้องเพลงได้
แต่บางครั้ง สิ่งที่ได้รับก็ไม่เป็นไปตามที่คิด

โอ มันช่างน่าฉงนเสียจริง

ความรู้สึกของฉัน
เมื่อมองไปทางทิศตะวันตก
วิญญาณฉันกำลังอาลัยอาวรณ์
ที่จะต้องจากร่างไป

ในจิตสำนึก
ฉันเห็นควันเป็นวงๆ ลอยผ่านหมู่ไม้
และได้ยินเสียงกลุ่มคนมากมายที่มุงดูอยู่
เสียงนั้นกระซิบว่า ไม่นาน
ถ้าเราทุกคนร่ำหาเสียงเพลง
เทวดาผู้เป่าจะนำเราไปสู่คำตอบ

และวันใหม่จะส่องสว่าง
สำหรับผู้ยืนหยัดด้วยศรัทธา
ป่าทุกป่าจะกังวานด้วยเสียงหัวเราะ

ถ้ามีเสียงจอแจอยู่ที่รั้วพุ่มไม้รายรอบ
จงอย่าตื่นตระหนกตอนนี้
แค่เสียงในผู้คนทำบ้านรับเทศกาลใบไม้ผลิ
รอการมาของสาวน้อยโปรยดอกไม้

มีทางเดินสองแพร่งให้เลือกเดิน
ในกาลเวลาข้างหน้า
ยังพอมีโอกาสเลือกเส้นทางใหม่ได้
อูว์ ..มันช่างน่าฉงนเสียจริง

เสียงฮัมเพลงยังอื้ออึงอยู่ในสมอง ไม่ลางเลือน
ถ้าคุณยังไม่ตระหนักรู้
เทวดาผู้เป่าเพลงกำลังส่งกระแสเชิญชวนอยู่

คุณสุภาพสตรีที่รัก คุณได้ยินเสียงในสายลมไหม
เสียงนั้นแหละ นำทางไปสู่สวรรค์
และระหว่างที่เราวนเวียนอยู่ในเส้นทาง
เมื่อเงาของเราสูงเหนือวิญญาณ
สุภาพสตรี คนที่เรารู้ว่าใครก็เดินมา
สว่าง..ใส เพราะเธออยากให้เห็นว่า
สรรพสิ่งกลายเป็นทองได้อย่างไร

และถ้าคุณตั้งใจฟังให้ดี
คุณจะบรรลุสัจจธรรมในที่สุด
เมื่อทุกคนหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน
พลังจะแข็งแกร่งปานศิลา
และจะไม่กลิ้งไปมาดังก้อนกรวด
..
โอ เธอกำลังซื้อทางไปสวรรค์

There's a lady who's sure
All that glitters is gold
And she's buying a stairway to heaven
When she gets there she knows
If the stores are all closed
With a word she can get what she came for
Ooh, ooh, ooh, ooh, ooh
And she's buying a stairway to heaven

There's a sign on the wall
But she wants to be sure
'Cause you know sometimes words have
Two meanings
In a tree by the brook
There's a songbird who sings
Sometimes all of our thoughts are
Misgiven

Ooh, it makes me wonder
Ooh, it makes me wonder

There's a feeling I get
When I look to the west
And my spirit is crying
For leaving

In my thoughts I have seen
Rings of smoke through the trees
And the voices of those
Who stand looking

Ooh, it makes me wonder
Ooh, it really makes me wonder

And it's whispered that soon
If we all call the tune
Then the piper will lead us to reason
And a new day will dawn
For those who stand long
And the forests will
Echo with laughter

Oh, whoa, whoa, whoa, whoa, ooh, whoa, oh

If there's a bustle in your hedgerow
Don't be alarmed now
It's just a spring clean
For the May queen
Yes, there are two paths you can go by
But in the long run
There's still time to change
The road you're on

And it makes me wonder
Aw, uh, oh

Your head is humming and it won't go
In case you don't know
The piper's calling you to join him

Dear lady, can you hear the wind blow?
And did you know
Your stairway lies on the whispering wind?

(Solo)
And as we wind on down the road
Our shadows taller than our soul
There walks a lady we all know
Who shines white light and wants to show
How everything still turns to gold
And if you listen very hard
The truth will come to you at last
When all are one and one is all
To be a rock and not to roll

And she's buying a stairway
To heaven...





บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 294  เมื่อ 03 ธ.ค. 08, 00:24

Piper.. ผมล่ะนึกถึงแต่ปี่สก๊อต  ไม่งั้นก็นักมวยปล้ำ  และไม่รู้เรื่องทาโร่  แต่เห็นคุณกุ้งแปลแล้วสุดยอดเลยครับ  ช่วงนี้มีแต่งานแต่งเลยเถิดไปจนเรียกว่าหยำเป..อิอิ  บรรยากาศพาไปอ่ะครับ you are so beautyful เหมาะจริงๆในงานแต่ง  ประเภท now and forever วุ้ย....อิจฉา  แก่ดีกรีไปหน่อยนี่ก็ยังมึนไม่หายเลยครับยังเหลืออีกงาน  เพื่อนสาวตอนเรียนมหาลัยไม่ไปคงไม่ได้  คงต้องยืมเพลงนี้ไปบรรเลงในงานซะหน่อย....อิอิ  เกิดไอเดีย

เอามาฝากเพลงนึงครับในบรรยากาศ  Every Woman In The World  ของ the air supply
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 295  เมื่อ 03 ธ.ค. 08, 12:02

เพลงรักง่ายๆของพอล แมคคาร์ทนี่ย์ในวันสบายใจ
สำหรับผู้ที่ยังมีหัวใจให้กับความรัก..
ที่เป็นแฟนเรือนไทยและกุ้งแห้งเยอรมัน
I WILL

Lyrics:
Who knows how long I've loved you
You know I love you still
Will I wait a lonely life time
If you want me to I will
ใครรู้บ้างว่าฉันรักเธอมานานแค่ไหน
เธอสิรู้ ว่าฉันยังรักเธออยู่
หรือฉันจะต้องรออย่างเดียวดายไปชั่วชีวิต
ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ฉันก็ยอม

For if I ever saw you
I didn't catch your name
But it never really mattered
I will always feel the same
ถึงแม้ว่า รู้สึกว่าคุ้นหน้าเธอมาก่อน
แต่ดันจำชื่อไม่ได้
แต่ไม่เห็นมันจะสำคัญตรงไหน
เพราะฉันก็ยังรู้สึกอย่างนี้ไม่เปลี่ยน

Love you forever and forever
Love you with all my heart
Love you whenever we're together
Love you when we're apart
รักเธอเสมอและตลอดไป
รักเธอหมดใจทั้งดวง
รักเธอทุกยามที่อยู่ใกล้
รักเธอแม้ยามไกลห่างกัน

And when at last I find you
Your song will fill the air
Sing it loud so I can hear you
Make it easy to be near you
For the things you do endear you to me
And you know I will
และเมื่อฉันหาเธอจนพบ
เพลงของเธอจะกรุ่นอยู่ในสายลม
ร้องให้ก้องจนฉันได้ยินสิ
ทำให้รู้ว่าเธออยู่ใกล้ๆ
ทุกสิ่งที่เธอทำช่างประทับใจ
และเธอก็รู้ว่า ฉันจะรักเธอตลอดไป ตลอดไป
I will
Ooo, la
ยังไงก็อย่างงี้ ..ตลอดไป


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 296  เมื่อ 03 ธ.ค. 08, 14:28

ภาพเด็กน้อยที่โผล่หน้าออกมาในเสื้ออันอบอุ่นคือแมรี่ ลูกสาวคนแรกของพอล กับลินดา ดูหน้าของสองสาว คนหนึ่งเป็นช่างภาพชื่อดัง และอีกคนเป็นนักออกแบบแฟชั่น
แมรี่กับสเตลล่า ได้แม่และพ่อมาคนละครึ่งๆนะคะ


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 297  เมื่อ 03 ธ.ค. 08, 14:31

และนี่คือเจมส์ ลูกชายคนเดียว ที่อยู่ที่บ้านพ่อแม่ตลอดแม้ในช่วงลินดาป่วยหนัก คอยดูแลเธอ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 298  เมื่อ 04 ธ.ค. 08, 00:41

Yeah  I will love you forever and forever...........
คุณกุ้งแปลได้ประทับใจมากครับ  ทั้งเพลงของบ๊อบ และ ของพอล  ดูภาพลูกของพอลแล้วขำ  หน้าเหมือนคุณพ่อทุกคน(ดีนะที่ลูกสาวได้ลินดามาบ้าง)  ดูภาพวีดีทัศน์ที่สาวๆสมัยนั้นคลั่งใคล้บีทเทิ้ลแล้วยิ่งใหญ่จริงๆ  เป็นสี่หนุ่มที่มีฝีมือแล้วโชคดีมาก  ยิ่งเห็นพอลเล่นกับลูกแล้วน่ารักมาก  ช่วงนี้วันพ่อซะด้วย  นึกถึงเพลงของ John Cash ที่ Cat เอามาร้องได้น่าฟังเข้ากับบรรยากาศเลยเอามาฝากคุณกุ้งครับ......... อายจัง



Father & Son
Cat Stevens

Father
It’s not time to make a change,
Just relax, take it easy.
You’re still young, that’s your fault,
There’s so much you have to know.
Find a girl, settle down,
If you want you can marry.
Look at me, I am old, but I’m happy.

I was once like you are now, and I know that it’s not easy,
To be calm when you’ve found something going on.
But take your time, think a lot,
Why, think of everything you’ve got.
For you will still be here tomorrow, but your dreams may not.
Son
How can I try to explain, when I do he turns away again.
It’s always been the same, same old story.
From the moment I could talk I was ordered to listen.
Now there’s a way and I know that I have to go away.
I know I have to go.
Father
It’s not time to make a change,
Just sit down, take it slowly.
You’re still young, that’s your fault,
There’s so much you have to go through.
Find a girl, settle down,
If you want you can marry.
Look at me, I am old, but I’m happy.
(son-- away away away, I know I have to
Make this decision alone - no)
Son
All the times that I cried, keeping all the things I knew inside,
It’s hard, but it’s harder to ignore it.
If they were right, I’d agree, but it’s them you know not me.
Now there’s a way and I know that I have to go away.
I know I have to go.
(father-- stay stay stay, why must you go and
Make this decision alone? )
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 299  เมื่อ 04 ธ.ค. 08, 11:58

ท่ามกลางสาระและกวีในบทเพลงทั้งหลายที่ฟังแล้วอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ บรรยากาศเก่าๆหลังยุคบีทเติ้ลส์ที่อังกฤษรุกโลกดนตรีแหลกด้วยวงที่เก่งกาจดาหน้ากันเข้ามา
อเมริกันหนาว..
มีเพลงๆหนึ่งที่ฉีกมาก
จนทำให้ดิฉันต้องไปควานหาเนื้อเพลงมาให้ได้ เพื่อที่จะร้องเพลงนี้ และในยุคนั้น วิธีแรกก็คือไปหาเทปของเขา เทปที่สรรหาก็ต้องเป็นเทปชั้นดี ที่มีเนื้อเพลงในกล่องด้วย
สมัยทำงานโฆษณา แหล่งช็อปปิ้งคือร้านเทปในวอยละลายทรัพย์ค่ะ เดินไปหาข้าวเที่ยงรับประทานกันเสร็จ ก็แวะร้านเทปเป็นกิจวัตร เป็นพีค็อค ม้วนละประมาณ 18-25 บาท
ซื้อหลายๆม้วน อาตี๋เจ้าของร้านลดให้อีกต่างหาก ไปเจอพวกกันในร้าน โดยเฉพาะพวกอาร์ตไดเร็คเตอร์ซึ่งอุดหนุนได้ทุกวัน
อยากจะเล่าว่า มีเพื่อนครีเอทีฟชายบางคน หาวิธีผูกมิตรกับดิฉัน ด้วยการซื้อเทปให้ฟัง
จะด้วยหวังว่าจะให้ดิฉันชอบเพลงที่เขาฟัง หรือพยายามเดาใจไม่ทราบ
เขาซื้อแผ่น ฟังกี้มิวสิคให้ค่ะ
แล้วถามว่าชอบไหมครับ ใครจะกล้าบอกล่ะคะ ว่าไม่ชอบ ก็บอกว่า เพลินดี
เขาคนนี้ คงเหมือนคุณบานาน่ะแหละค่ะ ชอบคิดว่าผู้หญิงฟังเพลงแบบที่พวกเขาฟังไม่เป็น ลองแบบนั้นไปก่อนเหอะ
แต่กับเพื่อนสนิทๆ เขาจะรู้เลยว่า ถ้าส่งเพลงแบบนั้นมาให้ดิฉันฟังจะต้องถูกเอ็ดด้วยสายตา ให้อ่านเองว่า ชิชะ ดูถูกรสนิยมชั้นมากไปแล้วนะยะ
ก็แค่เรื่องขำๆ ในหมู่เพื่อนค่ะ
กลับมาที่เพลงๆที่ดิฉันต้องไปหาเนื้อ เมื่อฟังครั้งแรกๆ ก็เพลงของเฟรดดี้ เมอคิวรี่ วงควีนไงคะ
เจ้าของไอเดียเอาร็อคมาทำเป็นดราม่าบนเวที ในสไตล์opera แต่แต่งตัวแต่งหน้าซะดึงดูด
แนวเดียวกับที่พีท กับรอเจอร์ ดัลทรีย์ แห่ง the who ทำมาแล้วใน Tommy

ดิฉันขออนุญาตคั่น ด้วยการให้การบ้านคุณบานา เพื่อไม่ให้หยำเปมาก ก็คือให้แปลเพลงนี้ค่ะ
 

bohemian rhapsody

Is this the real life?
Is this just fantasy?
Caught in a landslide
No escape from reality
Open your eyes
Look up to the skies and see
I'm just a poor boy (poor boy), I need no sympathy
Because I'm easy come, easy go
little high, little low
Anyway the wind blows, doesn't really matter to me, to me

Mama, just killed a man
Put a gun against his head
Pulled my trigger, now he's dead
Mama, life had just begun
But now I've gone and thrown it all away
Mama, ooo
Didn't mean to make you cry
If I'm not back again this time tomorrow
Carry on, carry on, as if nothing really matters

It's too late, my time has come
Sends shivers down my spine
Body's aching all the time
Goodbye everybody - I've got to go
Gotta leave you all behind and face the truth
Mama, ooo - (anyway the wind blows)
I don't want to die
I sometimes wish I'd never been born at all

<short guitar solo, proceeds into faster part>

I see a little silhouetto of a man
Scaramouche, scaramouche, will you do the fandango?
Thunderbolts and lightning - very very frightening me
Galileo, Galileo,
Galileo, Galileo,
Galileo Figaro - magnifico

I'm just a poor boy nobody loves me
He's just a poor boy from a poor family
Spare him his life from this monstrosity
Easy come easy go - will you let me go
Bismillah! No - we will not let you go - let him go
Bismillah! We will not let you go - let him go
Bismillah! We will not let you go - let me go
Will not let you go - let me go (never)
Never let you go - let me go
Never let me go - ooo
No, no, no, no, no, no, no -
Oh mama mia, mama mia, mama mia let me go
Beelzebub has the devil put aside for me
for me
for me
for me

<guitar bridge>

So you think you can stone me and spit in my eye?
So you think you can love me and leave me to die?
Oh baby - can't do this to me baby
Just gotta get out - just gotta get right outta here

<guitar solo>

Ooh yeah, ooh yeah
Nothing really matters
Anyone can see
Nothing really matters - nothing really matters to me
<instrumental ending>
Anyway the wind blows...
<fade out>


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 23
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 19 คำสั่ง