jaiya
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ปัญหาที่พบนะคะ คือ เราเขียนคำพูดที่หยาบคายลงไป อย่างเช่นบทสนทนาระหว่างเพื่อนสนิท ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันบางทีเขาก็พูดกูมึงกันนะคะ
เราต้องการพยายามจะสื่อให้เห็นถึงความหยาบกร้าน ของตัวเอก ว่ามีการสบถ มีการผรุสวาทฯลฯ หรือต้องการจะแสดงพื้นเพของตัวเอก
กลับกลายเป็นว่า ผู้อ่านไม่ยอมรับ ปัญหาเช่นนี้จะแก้ไขอย่างไรคะ ที่จะทำให้เราสร้างจินตนาการให้ผู้อ่านได้ว่า ตัวเอกมีนิสัยหยาบกร้าน หรือกำลังพูดกับเพื่อนสนิทรุ่นเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องใช้คำพูดหยาบคาย หรือใช้แล้วคนอ่านรับได้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 28 มี.ค. 08, 20:51
|
|
ถ้าตัดสินใจว่าจะตามใจคนอ่าน ก็ ๑) ตัดคำพูดที่คิดว่าหยาบออกไป ลดเป็นคำอื่นที่ไม่แรงเท่านี้ ๒) บรรยายประกอบเสียให้สิ้นสงสัยไป ว่าตัวละครเป็นคนหยาบกร้าน
แต่ก็ยังสงสัยว่าคำพูดของตัวละครของคุณ แรงขนาดไหน ชนิดคนอ่านรับไม่ได้ กี่คนคะที่รับไม่ได้ ช่วยลงตัวอย่างหน่อยได้ไหม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jaiya
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 29 มี.ค. 08, 09:35
|
|
ตัวอย่างค่ะ นี่เป็นฉากที่ตัวเอกกินยาฆ่าตัวตาย แล้วความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมา เคยลองเอาไปให้คนรู้จักอ่าน เขาบอกว่า หยาบคายแบบนี้เขาไม่อ่านหรอก ทั้งๆ ที่ทั้งเรื่องมีตอนนี้อยู่ตอนเดียวที่ใช้คำพูดรุนแรง ปัญหาอีกอย่าง กลับไปอ่านทวนทั้งเรื่องแล้วรู้สึกว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดี ทำได้แค่ให้คนรู้สึกว่าตัวเอกโดนกดดันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่สามารถทำให้คนรู้สึกได้ว่า จากเหตุนี้แล้วตัวเอกกลายเป็นคนที่รักคนอื่นไม่เป็น โหยหาความรัก แต่ไม่อาจสัมผัสได้ ทั้งๆ ที่คนรักมอบความรักให้เต็มที่แต่ตัวเอกยังรู้สึกว่ามันไม่พอ ไม่อยากอธิบายตรงไปตรงมา อยากให้คนอ่านเข้าใจจากสถานการณ์ได้เองมากกว่าค่ะ
.... มือที่กุมโทรศัพท์อยู่กำลังอ่อนแรงเต็มที หญิงสาวพยายามใช้พลังงานครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด กล่าวกับเพื่อนที่อยู่ปลายสาย
“นา ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย…” มือข้างที่ถือโทรศัพท์นั้นตกลงบนเตียง
“ปริม! เธอเป็นอะไร ปริม! ทำไมไม่พูด” เสียงโวยวายตกใจดังมาจากอีกฝั่งหนึ่ง แต่ก็ปราศจากการตอบกลับ
ร่างบนเตียงดิ้นทุรนทุราย น้ำลายไม่รู้ว่ามาจากไหนมากมายไหลออกมาฟูมปาก หน้าตาที่เจ้าตัวภูมิใจในความสวยกลับบิดเบี้ยว ที่ร้ายที่สุดคือความทรงจำอันร้ายกาจในอดีตต่างพากันมารุมทำร้าย
“อีปริม ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม ให้ถูบ้านให้สะอาด ทำไมไม่ทำ อีนี่ดื้อด้านนัก” เสียงแม่ดังก้องอยู่ในหู
“คุณแม่ ปริมไม่ยอมซักผ้าคะ” เสียงพี่ดาวคนใช้รายงาน
“อีนังปริม ไปซักผ้าอย่าให้ฉันลงมือนะ ลูกดาวไม่ต้องไปช่วยมันนะ” เสียงแม่เกรี้ยวกราดอยู่เสมอ
“อีร่าน อีลูกไม่รักดี เที่ยวแต่คบผู้ชาย”
พี่ชายของเธอสองคนทำหน้ายิ้มเยาะ สะใจที่เห็นน้องสาวคนเล็กโดนแม่เล่นงาน
“ปริมเราเลิกกันเถอะ ผมทนคุณไม่ไหวแล้ว” ตั้มบอกก่อนจะเดินออกไป
“ไม่เอา ปริมไม่ยอม ปริมรักตั้ม อย่าทิ้งปริมไป”
เสียงดังโครมครามอยู่ด้านนอกห้อง ใครบางคนเข้ามาอย่างรีบร้อน ปรียาภรณ์รู้สึกแต่เพียงเสียงพูดฟังไม่ได้ศัพท์ ร่างหมดสติของเธอถูกอุ้มออกไปจากห้องพักในคอนโดระดับกลางอย่างรวดเร็ว คนทั้งสองรีบเร่งแข่งกับเวลาที่มีอยู่น้อยนิดไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดทันที ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 29 มี.ค. 08, 20:57
|
|
คุณ jaiya มีทางเลือก ๒ ทาง ๑ ถ้าคุณรู้สึกว่า คำพูดตอนนี้สมเหตุสมผล และคุณอยากคงเอาไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องยึดคำวิจารณ์ของเพื่อนคนนี้เป็นเสียงชี้ขาด เพื่อความสบายใจ เอาไปให้เพื่อนคนอื่นๆอ่าน ว่าพวกเขารับได้ไหม เพื่อนบางคนอาจจะไม่รู้สึกระคายเคืองอะไรเลยก็ได้ ถ้าอยากเป็นประชาธิปไตย หลังจากให้หลายๆคนอ่าน ก็ลองโหวตดูว่าส่วนใหญ่ให้แก้ไขหรือให้คงไว้อย่างเดิม
๒ ถ้าเห็นด้วยกับเพื่อน อยากแก้ไข ก็ลดดีกรีความแรงในคำผรุสวาทลงไป เช่น
ร่างบนเตียงดิ้นทุรนทุราย น้ำลายไม่รู้ว่ามาจากไหนมากมายไหลออกมาฟูมปาก หน้าตาที่เจ้าตัวภูมิใจในความสวยกลับบิดเบี้ยว ที่ร้ายที่สุดคือความทรงจำอันร้ายกาจในอดีตต่างพากันมารุมทำร้าย
“ปริม ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม ให้ถูบ้านให้สะอาด ทำไมไม่ทำ นังนี่ดื้อด้านนัก” เสียงแม่ดังก้องอยู่ในหู “คุณแม่ ปริมไม่ยอมซักผ้าคะ” เสียงพี่ดาวคนใช้รายงาน “นังปริม ไปซักผ้า อย่าให้ฉันลงมือนะ ลูกดาวไม่ต้องไปช่วยมันนะ” เสียงแม่เกรี้ยวกราดอยู่เสมอ “ลูกไม่รักดี เที่ยวแต่คบผู้ชาย” พี่ชายของเธอสองคนทำหน้ายิ้มเยาะ สะใจที่เห็นน้องสาวคนเล็กโดนแม่เล่นงาน
ป.ล. พี่ดาวนี่เป็นคนใช้หรือคะ ทำไมแม่เรียกคนใช้เสียเพราะเชียวว่าลูกดาว ทีลูกสาวตัวเอง เรียกทั้งอี ทั้งนัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jaiya
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 29 มี.ค. 08, 21:03
|
|
พี่ดาวเป็นคนใช้จอมประจบค่ะ แม่ของตัวเอก เป็นคนพูดจาดีไพเราะกับคนอื่น ยกเว้นไว้คนเดียวคือลูกสาว เพราะว่าตอนมีลูกคนนี้ สามีไปมีเมียน้อย เลยโทษเด็กว่าเป็นตัวต้นเหตุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 29 มี.ค. 08, 21:17
|
|
นางเอกที่เกิดมาน่าสงสาร ได้ใจคนอ่านไป ๕๐% แล้วค่ะ ที่เหลือคือฝีมือคนแต่งว่าจะทำยังไงให้คนอ่านเทใจให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 31 มี.ค. 08, 22:06
|
|
นิยายมิใช่การเลือกตั้งไม่ใช่หรือครับ หรือว่าใช่
เคยมีคนทำหนัง ทำตอนจบออกมาหลายๆ แบบ เพื่อเอาใจคนดู มีขนาดคิดที่จะให้เลือกตอนจบตามใจชอบ
ขอเอาใจช่วยให้เดินไปในทางที่ตนเองเลือก และภูมิใจในการเลือกนั้นๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 31 มี.ค. 08, 22:25
|
|
ถ้าคิดว่าเขียนนิยายให้ตัวเองอ่าน ใครจะอ่านหรือไม่อ่านก็ไม่ว่ากัน ก็ไม่ต้องสนใจเสียงของคนอื่น แต่ถ้าคิดว่าเขียนเพื่อให้คนอื่นอ่าน ยิ่งมีได้หลายๆคน ยิ่งดี ก็ต้องสนใจเสียงของคนอื่นบ้างละค่ะ
ความภูมิใจมีหลายแบบ บางคนภูมิใจที่ได้ทำตามใจตัวเอง บางคนภูมิใจที่ได้สร้างสิ่งที่ใคร่ครวญแล้ว เห็นว่าเป็นสิ่งดี บางคนก็ภูมิใจที่ได้สร้างอะไรขึ้นมาแล้ว มีคนสนใจ ฮือฮา ให้ความสนใจใคร่รู้
เส้นทางมีหลายทางให้เลือก ไม่ใช่ทางเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jaiya
อสุรผัด

ตอบ: 10
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 31 มี.ค. 08, 23:02
|
|
เขียนนิยายแล้วไม่มีคนอ่านก็สะเทือนใจอยู่ค่ะ สองเรื่องแรกเขียนออกแนวที่ไม่ตรงกับความต้องการของคนอ่าน ผลตอบรับทำเอาใจหายเลยค่ะ
เรื่องแรกกว่าจะได้พิมพ์ก็ส่งมาเป็นสำนักพิมพ์ที่ห้า โชคดีที่แนวแฟนตาซี กับแนวรักเริ่มจะซาลงนิดหนึ่ง แนวสืบสวนที่เขียนจึงได้มีโอกาสพิมพ์กับเขาบ้าง
ส่วนเรื่องที่สองเป็นแนวรัก จะเรียกว่าแนวนางซินก็ได้ค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้ส่งที่ไหน เพราะคนเขียนยังไม่ค่อยพอใจที่ตัวเองยังทำให้สมเหตุสมผลไม่ได้ ทำไมคนสมบูรณ์พร้อมอย่างพระเอก มารักคนที่ไม่สวยอย่างนางเอก นางเอกเรื่องนี้ไม่สวยแล้วไม่สวยเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าตอนจบกลับมาเป็นคนสวย จริงๆ ก็เขียนเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องการดึงดูดกันของจิตที่อ่อนและแข็งซ่อนไว้ แต่ยังไม่หนักแน่นพอ ทำให้คนอ่านเข้าใจไม่ได้ เลยคิดว่าถ้ามีเวลาจะลองแก้เรื่องนี้ดูอีกทีค่ะ
เรื่องที่สามกำลังคิดว่าจะส่งที่ไหนอยู่ค่ะ เป็นแนวจินตนาการเพ้อฝัน นำเอาตำนานกรีกมาผสม สารภาพว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพิมมาลา ที่เอาวรรณคดีไทยมาประยุกต์
เรื่องที่เขียนมาถามในกระทู้นี่เป็นเรื่องที่สี่ค่ะ ออกแนวชีวิตบีบคั้น ยากที่สุดเท่าที่เขียนมาเลยค่ะ ปีหนึ่งแล้วยังไม่จบ และเนื่องจากเขียนลงในบอร์ดของตัวเอง ทำให้เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าคนอ่านเขาคิดอย่างไรกับนางเอกที่ไม่ค่อยจะเป็นนางเอกเท่าไร ถึงชีวิตของนางเอกในเรื่องจะล้มเหลวกี่ครั้ง คนอ่านก็ยังลุ้นให้กลับมาเป็นคนดีมีชีวิตที่ดี ส่วนที่ยากที่สุดคือ ส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลทางจิตเวชค่ะ ไม่ใช่แค่ฉากที่หมอนั่งคุยกับคนไข้ แต่เป็นเรื่องแนวทางการรักษา การทำจิตบำบัด ในอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลอยู่บ้างแต่ไม่ค่อยละเอียด ทำเอาอยากไปลองเป็นคนไข้ดูสักครั้งเหมือนกัน เผื่อว่าจะเข้าใจวิธีการรักษามากขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 31 มี.ค. 08, 23:48
|
|
ผมเป็นคนอ่านที่ดี คือรออ่าน....ไม่บังอาจเขียนแข่ง ดังนั้น จึงสรุปความเห็นเมื่ออ่านจบแล้ว....แต่โชคร้าย ที่ไม่ได้อ่านเรื่องไทยมานานหนักหนา แต่ผมเชื่อว่า การที่คนอ่าน แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หรืออยากโดดมากำกับการตัวละคอน น่าจะดีกว่าซื่อบื้ออ่าน....จริงใหมครับ
ความคิดที่ว่า อยากไปเป็นคนไข้เสียเอง ผมเห็นว่าเป็นลางดีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 01 เม.ย. 08, 08:42
|
|
คุณพพ. ท่านแนะนำอย่างศิลปิน คือเป็นตัวของตัวเอง แสวงหาตัวตนและความถนัดที่แท้จริงจนพบ อย่าไปตามใจมหาชน ถ้าทำตามนี้ได้ ฝึกปรือฝีมือจนเข้าขั้น ก็เป็นศิลปินได้ค่ะ
แต่ดิฉันแนะนำแบบคนเรียนภาษา ข้อเขียนที่คุณ Jaiya เขียนออกไปสู่สายตาคนอื่น ถือเป็นการสื่อสาร การสื่อสารคือสองฝ่ายต้องเข้าใจตรงกัน คุณมีหน้าที่ทำให้คนอ่านเข้าใจได้อย่างที่คุณเข้าใจ จึงจะบรรลุเป้าหมาย ถ้าหากว่าคุณพบว่ามีอะไรยาก หรือแม้แต่คุณเองก็ยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้งนัก ก็ต้องพักเรื่องเอาไว้ก่อน แล้วไปฝึกฝนจนกระทั่งกลับมาสื่อสารได้ชัดเจน เท่านั้นละค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 01 เม.ย. 08, 09:43
|
|
มีการถกกันมาแต่ดึกดำบรรพ์เกี่ยวกับหน้าที่ของศิลปะ ตำราท่านบอกว่า แต่แรกเริ่มเดิมที ศิลปะคือการจำลองโลก แล้วก็มีคนเสนอความเห็นอื่นๆ ตามมาเป็นกระพรวน สุดท้ายก็รวบยอดกลายเป็นสามสดมภ์ดังนี้ art is representation art is expression art is comunication
แต่ไม่ว่าจะเข้าแนวใหน ผมก็ยังเห็นว่า ผู้รับเป็นฝ่ายอยู่เฉยๆ รออาหารจากศิลปิน จึงเห็นว่า พ่อครัวที่ตามใจปากคนกิน จะตกงานในอนาคตครับ
ที่คุณ jaiya ยกตัวอย่างการเขียนมา ก็เปรียบเหมือนเครื่องชูรส แกงเผ็ดจืดเกินไปก็เสียของ ต้มยำไม่เปรี้ยวก็เห็นมีแต่ที่ร่างกุ้ง....แปลว่าเป็นของปลอม
รสชาติเป็นส่วนผสมที่จำเป็นในทุกอย่าง แม้แต่รสจืด แต่ต้องเหมาะที่ เหมาะเวลา ที่อ่านมา ผมว่าก็เหมาะสมดีอยู่แล้ว
อาจจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|