ส. บุญเสนอ เขียนเรื่องลิขสิทธิ์ว่า
มีสำนักพิมพ์หลายแห่งได้กรรมสิทธิ์บทประพันธ์ของเขา และซื้อราคาแพงกว่าของคนอื่น
ด้วยมั่นใจว่าอย่างไรเสียคงได้พิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง จึงกล้าลงทุนล่วงหน้าเอาไว้
วิธีการซื้อขายลิขสิทธิ์บทประพันธ์ที่กระทำกันค่อนข้างจะแปลกสักหน่อย
มิใช่เลือกซื้อกันเป็นเรื่องๆ ต้องเหมาหมดเป็นปีๆ หมายความว่าคุณปรีชาเขียนอะไรไว้บ้างตลอดพ.ศ.นี้
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสั้น, เรื่องเป็นเล่ม หรือเรื่องที่ลงพิมพ์ในหนังสือรายอะไรก็ตาม ผู้ซื้อได้ลิขสิทธิ์ทั้งหมด
..เท่ากับได้ลิขสิทธิ์แถมพก ตัวเงินตัวทองอยู่ที่หนังสือเล่ม
สำหรับบทประพันธ์ดังกล่าวในพ.ศ.ต่อๆ มาก็ซื้อขายในลักษณะเดียวกัน แต่อาจเป็นคนละสำนักพิมพ์
ใครมือไวและยาวกว่า ก็สาวได้ เฉพาะเรื่องยาวเช่น "เสือใบ" หรือ "เสือดำ" แยกขายต่างหากเป็นเรื่องๆ ไป
อ่านข้างบนนี้แล้ว ต้องแยกเป็น ๒ ประเด็นค่ะ ไม่ใช่ประเด็นเดียวอย่างคุณ ส.บุญเสนอ สรุปไว้
๑ ไม่ว่าคุณป. เขียนอะไรออกมา สำนักพิมพ์ซื้อหมด ไม่เกี่ยงเลย
เหมาพิมพ์ขาย จ่ายเงินให้หมด เท่ากับแรงงานของคุณป. ไม่มีวันสูญเปล่า ขายเป็นเงินได้ทุกตัวอักษร
มองเห็นได้ว่าคุณป.ต้องเป็นนักเขียนยอดนิยมในยุคของท่านแน่นอน สัญญาลิขสิทธิ์แบบนี้ ไม่ได้ทำกับนักเขียนทุกคน นักเขียนส่วนใหญ่(แม้แต่นักเขียนใหญ่อย่างมนัส จรรยงค์ หรือก.สุรางคณางค์) ก็ไม่ได้ทำสัญญาแบบนี้ แต่สนพ.จะเลือกซื้อเป็นเรื่องๆไป สนพ.มีสิทธิ์ปฏิเสธเรื่องไหนก็ได้
๒ ลิขสิทธิ์ในสมัยนั้น ซื้อขายครั้งเดียว เป็นของสนพ.ไปเลย ที่เราเรียกว่าขายขาดน่ะค่ะ ไม่ได้ซื้อขายเป็นจำนวนแต่ละครั้งอย่างในยุคหลัง
เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันประจำ ระหว่างผู้พิมพ์และนักเขียน ไม่ได้ถือว่าใครเอาเปรียบใคร เพราะยุคนั้นหนังสือที่พิมพ์ซ้ำมีน้อยมาก คนอ่านมีจำนวนไม่มาก สนพ.ก็กะพิมพ์ขายให้ลูกค้าในจำนวนแน่นอน ดังนั้นโอกาสจะฮือฮาจนพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงแทบไม่เห็นกันเลย
งานของคุณป. มีจำนวนมหาศาล ในเมื่อขายได้ทุกเล่ม เพราะสนพ.เหมาหมดเป็นปีๆ จำนวนปีที่ท่านผลิตสามเกลอ ยาวนานตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจนถึงประมาณ ๒๕๑๐ ประมาณ ๓๐ ปี เงินรายได้ รับรองว่ามากกว่าข้าราชการประจำที่ทำงานจนถึงเป็นอธิบดีแน่นอน
แต่ทำไมท่านถึงลำบากในบั้นปลาย อาจจะมีเหตุผลอื่น ที่ดิฉันไม่ทราบว่าอะไร แต่ไม่ใช่เพราะเขียนหนังสือรายได้น้อยจนเรียกว่าไส้แห้ง
คุณก.สุรางคณางค์ เขียนนิยาย ผลงานน้อยกว่าคุณป.หลายเท่า เธอก็สามารถสร้างฐานะ มีบ้าน ส่งเสียลูกๆให้มีการศึกษาถึงต่างประเทศได้ อีกคนที่ฐานะดีจากการเขียนหนังสือคือคุณเลียว ศรีเสวก หรือ "อรวรรณ" แต่ท่านมีฝีมือทำงานอื่นๆ ได้หลายอย่างด้วย เป็นศิษย์เก่าที่น่าภูมิใจของโรงเรียนเทพศิรินทร์
http://www.debsirin.or.th/history/anew3-33.html