เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
อ่าน: 23845 ตัวหนอนในสมุด
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 24 มี.ค. 08, 20:08

ถ้าเดาไม่ผิด....กระทู้นี้จะต่อด้วยเพชรพระอุมาแน่นอน
ดูเหมือนว่า วงการนิยายไทย จะมาสุดเพดานที่สองเรื่องนี้
(ในแง่โปรดั้คชั่นนะครับ คือไม่ยอมเลิก....ซะที)

ผมขอสารภาพก่อนเลยว่า เพชรพระอุมานี่ เป็นยาขมของผมอย่างแท้จริง
อ่านจบไปหนึ่งภาค สมองไม่รับอะไรเลย
จำได้แต่ว่า ไม่ค่อยจะปลงใจตามถ้อยคำที่อ่าน มันรู้สึกเว่อๆ ยังไงชอบกล

โชคดีที่กระแสผู้ชนะสิบทิศซาหายจ้อยไปแล้ว
ตอนเด็กๆ ชอบหน้าปกมาก เขียนรูปสวย มีชีวิตชีวา
แต่ไม่เคยจำอีกเหมือนกันครับ

ผมนี่เอาดีทางนิยายไม่ได้เลย....เซ็ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 24 มี.ค. 08, 21:09

อ้างถึง
ส. บุญเสนอ เขียนเรื่องลิขสิทธิ์ว่า
      มีสำนักพิมพ์หลายแห่งได้กรรมสิทธิ์บทประพันธ์ของเขา และซื้อราคาแพงกว่าของคนอื่น
ด้วยมั่นใจว่าอย่างไรเสียคงได้พิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง จึงกล้าลงทุนล่วงหน้าเอาไว้
      วิธีการซื้อขายลิขสิทธิ์บทประพันธ์ที่กระทำกันค่อนข้างจะแปลกสักหน่อย
      มิใช่เลือกซื้อกันเป็นเรื่องๆ ต้องเหมาหมดเป็นปีๆ หมายความว่าคุณปรีชาเขียนอะไรไว้บ้างตลอดพ.ศ.นี้
      ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสั้น, เรื่องเป็นเล่ม หรือเรื่องที่ลงพิมพ์ในหนังสือรายอะไรก็ตาม ผู้ซื้อได้ลิขสิทธิ์ทั้งหมด
..เท่ากับได้ลิขสิทธิ์แถมพก ตัวเงินตัวทองอยู่ที่หนังสือเล่ม
       สำหรับบทประพันธ์ดังกล่าวในพ.ศ.ต่อๆ มาก็ซื้อขายในลักษณะเดียวกัน แต่อาจเป็นคนละสำนักพิมพ์
ใครมือไวและยาวกว่า ก็สาวได้ เฉพาะเรื่องยาวเช่น "เสือใบ" หรือ "เสือดำ" แยกขายต่างหากเป็นเรื่องๆ ไป

       อ่านข้างบนนี้แล้ว ต้องแยกเป็น ๒ ประเด็นค่ะ  ไม่ใช่ประเด็นเดียวอย่างคุณ ส.บุญเสนอ สรุปไว้
        ๑  ไม่ว่าคุณป. เขียนอะไรออกมา  สำนักพิมพ์ซื้อหมด ไม่เกี่ยงเลย 
        เหมาพิมพ์ขาย จ่ายเงินให้หมด เท่ากับแรงงานของคุณป. ไม่มีวันสูญเปล่า  ขายเป็นเงินได้ทุกตัวอักษร
        มองเห็นได้ว่าคุณป.ต้องเป็นนักเขียนยอดนิยมในยุคของท่านแน่นอน  สัญญาลิขสิทธิ์แบบนี้ ไม่ได้ทำกับนักเขียนทุกคน  นักเขียนส่วนใหญ่(แม้แต่นักเขียนใหญ่อย่างมนัส จรรยงค์ หรือก.สุรางคณางค์) ก็ไม่ได้ทำสัญญาแบบนี้    แต่สนพ.จะเลือกซื้อเป็นเรื่องๆไป  สนพ.มีสิทธิ์ปฏิเสธเรื่องไหนก็ได้
        ๒  ลิขสิทธิ์ในสมัยนั้น ซื้อขายครั้งเดียว เป็นของสนพ.ไปเลย  ที่เราเรียกว่าขายขาดน่ะค่ะ    ไม่ได้ซื้อขายเป็นจำนวนแต่ละครั้งอย่างในยุคหลัง     
         เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันประจำ  ระหว่างผู้พิมพ์และนักเขียน   ไม่ได้ถือว่าใครเอาเปรียบใคร   เพราะยุคนั้นหนังสือที่พิมพ์ซ้ำมีน้อยมาก   คนอ่านมีจำนวนไม่มาก    สนพ.ก็กะพิมพ์ขายให้ลูกค้าในจำนวนแน่นอน  ดังนั้นโอกาสจะฮือฮาจนพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงแทบไม่เห็นกันเลย
         งานของคุณป. มีจำนวนมหาศาล   ในเมื่อขายได้ทุกเล่ม  เพราะสนพ.เหมาหมดเป็นปีๆ  จำนวนปีที่ท่านผลิตสามเกลอ ยาวนานตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจนถึงประมาณ ๒๕๑๐ ประมาณ ๓๐ ปี    เงินรายได้ รับรองว่ามากกว่าข้าราชการประจำที่ทำงานจนถึงเป็นอธิบดีแน่นอน   
          แต่ทำไมท่านถึงลำบากในบั้นปลาย อาจจะมีเหตุผลอื่น ที่ดิฉันไม่ทราบว่าอะไร    แต่ไม่ใช่เพราะเขียนหนังสือรายได้น้อยจนเรียกว่าไส้แห้ง
          คุณก.สุรางคณางค์ เขียนนิยาย ผลงานน้อยกว่าคุณป.หลายเท่า  เธอก็สามารถสร้างฐานะ มีบ้าน ส่งเสียลูกๆให้มีการศึกษาถึงต่างประเทศได้   อีกคนที่ฐานะดีจากการเขียนหนังสือคือคุณเลียว ศรีเสวก หรือ "อรวรรณ"  แต่ท่านมีฝีมือทำงานอื่นๆ ได้หลายอย่างด้วย  เป็นศิษย์เก่าที่น่าภูมิใจของโรงเรียนเทพศิรินทร์
   
http://www.debsirin.or.th/history/anew3-33.html
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 24 มี.ค. 08, 21:13

ฟ้าทะลายโจร ได้ดูแล้ว  มองเห็นความฝันของเด็กชายที่ติดใจการ์ตูนไทยและนิยายไทยรุ่นเก่าหลายเรื่อง  เอามาสานฝันขึ้นเป็นหนัง ในรูปแบบที่เขาเคยจินตนาการเห็นจากหนังสือ
สีสันบางฉากเหมือนเดินออกมาจากหนังสือการ์ตูนสี
ตัวละครไทยควบม้ายิงปืนเป็นคาวบอยไทยของป.อินทรปาลิต
ไม่พึ่งความจริงแบบเรียลลิสติค
แฝงอารมณ์ขันในภาพเว่อๆเอาไว้ อย่างตอนพระเอกเอาปิ่นโตประเคนผู้ร้าย มาดเท่มาก

เรื่องสตอรี่บอร์ด ไม่ทราบค่ะ เพราะไม่รู้เรื่องทางนี้  รู้แต่ว่าดูเรื่องนี้กับลูกสาวที่เรียนศิลปะ เธอชอบอกชอบใจมาก
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 00:09

หนังมีสองแบบ คือแบบที่อวดเรื่อง กับแบบที่อวดรูปแบบ
ผู้กำกับทั่วไปมักจะพยายามรวมสองส่วนนี้เข้าด้วยกัน

หนังที่อวดรูปก็อย่างเช่น โจรสลัดแห่งแคริเบียน มีเนื้อเรื่องถึงสามบันทัดหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ
ฟ้าทะลายโจรก็ระดับเดียวกัน
เวลาดูหนังประเภทนี้ เราจึงดูกันที่ลูกเล่นแห่งการสร้างสรรค์

สตอรี่บอร์ดคือบทหนังที่เขียนเป็นรูป เขียนละเอียดจนแทบจะพิมพ์เป็นเล่มขาย
ในเมืองไทย ถ้าจำไม่ผิด คุณเปี๊ยกเป็นคนทำใช้ก่อนคนอื่น
เพราะแกเป็นช่างเขียน แกจึงเห็นผ่านกรอบสี่เหลี่ยมเสมอ

ฟ้าทพลายโจรก็คือสตอรี่บอร์ดที่ใส่สี และกระดุกกระดิกได้
ตรงนี้เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
จุดแข็ง ทุกท่านคงเห็นกันแล้ว
จุดอ่อนในความเห็นของผมก็คือมันมิใช่หนัง มิใช่ภาพยนตร์ มิใช่การเล่าเรื่องผ่านความเคลื่อนไหวของตัวแสดงและฉาก
แต่เป็นฉากที่เคลื่อนไหวม้วนตัวแสดงเข้าไว้เหมือนคลื่นม้วนสรรพสิ่งเข้าใต้การเคลื่อนไปของน้ำทะเล
ถามว่า แล้วเป็นงัยล่ะ

ตอบว่า ภาพยนตร์ เป็นศิลปะที่ต้องใช้มากกว่าบทหนังสีลูกกวาดครับ
คนดูจะชอบลูกกวาดสีสวยที่เคลื่อนไหวไปมา ก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างไรนะครับ เพราะมิติหนึ่งของหนังคือความบันเทิงอยู่แล้ว
แต่สำหรับหนังที่โปรดั๊คชั่นเป็นพระเอก....ฟ้าทะลายโจรสอบผ่านแบบคาบเส้น

นี่ตัดเกรดแบบไม่เข้มงวดแล้วนะครับ
ถ้าเอาทิมเบอร์ตันเป็นเกณฑ์ละก้อ ต้องซ๋อมครับ ผ่านแบบมีเงื่อนไข
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราละครับ ว่าจะพอใจที่จะคิดว่าคนไทยทำได้แค่นี้ เก่งมากแล้ว....เย้ เย้  ๆๆๆๆๆ

หรือกัดฟัน เดินให้พ้นกรอบแคบๆ ที่เราสร้างมาขังเราเอง
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 00:24

โชคดีที่กระแสผู้ชนะสิบทิศซาหายจ้อยไปแล้ว
ตอนเด็กๆ ชอบหน้าปกมาก เขียนรูปสวย มีชีวิตชีวา
แต่ไม่เคยจำอีกเหมือนกันครับ



มั่นใจว่ายังไม่หายไปไหนหรอกครับ คุณพิพัฒน์
ไม่เชื่อลองดูภาพยนตร์หรือละครบิดเบือนประวัติศาสตร์อยุธยาช่วงราชวงศ์สุโขทัยตอนต้นหลายเรื่องสิครับ
บุเรงนองโผล่มาตอนไหน..... พี่แกก็ยังเป็นผู้ชนะสิบทิศซะตอนนั้น



ก็ผู้ชนะสิบทิศยัง never die อยู่ในอนุสติของผู้กำกับหนังวัยผู้ชนะสิบทิศฟีเวอร์นี่ครับ..... อิอิ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 01:09

ผมไม่ใช่ชาวชาตินิยมชนิดติดขอบ
แต่ผมงงคนไทยจริงๆ

มะยินหน่องมันมายึดประเทศเราเป็นขี้ข้า ย่ำยีเศวตฉัตรกรุงศรีไปเท่าไร
ดันไปนับเป็นวีระบุรุษ ติดกันทั้งสมาคมไฮโซ ขนาดสร้างซ้ำย่ำยีไม่รู้จักหยุด

พ่อโกโบรินั่นก็กรอกน้ำสบู่ใส่พุงคนไทยไปเท่าไร
ผลาญผู้หญิงไทยไปเท่าไหร่
ฆ่าคนไทยไปเท่าไหร่

ดั๊น.... มีคนชื่นชอบอยู่ซะมะละงั้น

เซ็ง
บันทึกการเข้า
ภูมิ
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 196


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 01:42

คนไทยชอบคนประสบความสำเร็จครับ ถึงแม้บางอย่างจะเป็น...ก็ตาม
อุ๊ป
 รูดซิบปาก รูดซิบปาก รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 06:18

ไม่ชอบพม่าเหมือนกัน  ตอนกวาดต้อนครัวไทย   
ใครก็ไม่รู้ เขียนหนังสือว่าเจาะเอ็นร้อยหวายล่ามไว้ด้วยกัน
เชื่ออยู่หลายปี


ญี่ปุ่นมาเมืองไทยไม่ชอบเหมือนกัน   ปลอมเป็นหมอฟันก็มี
กรมสืบราชการลับญี่ปุ่นเก่งนิ  เล่นส่งสายลับมาฝังตัวตั้งนาน

ชอบมอญ  แต่อ่านราชาธิราชแล้วนี่  อ่านบ่อยไม่สนุกเท่าไร  มีตอนโป๊แบบคลาสสิคด้วย

ชอบผู้ชนะสิบทิศ  ชอบไขลู เนงบา สีอ่อง  ชอบดาบอ่อนพันรอบตัว  ชอบรำผี  ชอบทรงผม  ชอบกุสุมาตอนเสียตัว   ชอบกุสุมาตอนจะหนีจากสอพินยา
ที่เหลือไม่ชอบเท่าไร


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 07:36

มียาขมสำหรับดิฉันเหมือนกันค่ะ
ที่บ้านจะมีหนังสือหลายประเภท ที่เป็นมรดกตกทอดก็พวกพระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน ดิฉันมีหน้าที่อ่านให้คุณยายและคุณป้า ทั้งสองท่านติดลิเก พอๆกับติดวรรณคดี และบทสวดมนตร์
รายสัปดาห์ก็สกุลไทย รายเดือนวีรธรรม กองหน้าร่าเริง ไม่นับการ์ตูนอัศวินสายฟ้า ปี่วิเศษ ฯลฯ
อีกประเภทก็เท่าที่พี่ๆทั้งลุง ป้าน้าอา พี่ชายพี่สาวบ้านเรา และอีกหลายๆบ้านที่เรียงรายอยู่ริมน้ำด้วยกัน
วิ่งรอกกันไปนั่งอ่าน อ่าน อ่าน เท่าที่จะมีขาไปได้
ใกล้สุด จ.ไตรปิ่น ต้องในตู้กับข้าวชั้นล่างของคุณลุง กองเป็นตั้ง อ่านแล้วงงว่าทำไม ผู้หญิงโบราณทำไมมันต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่ายังงั้นนะ พระเอกก็จนจริงๆ
ติดๆกัน บ้านป้าที่ทำขนมอร่อยที่สุดในโลก ก็ผู้ชนะสิบทิศ สามก๊ก สามเกลอ ผู้ชนะสิบทิศคือยาขมของดิฉัน ภาษามันพรรณนาโวหารจนไม่อยากถูกจีบจากผู้ชายที่มีลีลาแบบยาขอบ
เลยไปอีกหลายบ้านก็บ้านคุณป้าใหญ่ บ้านนี้เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญา ด้วยมีตู้ในห้องกลางใบใหญ่ อัดแน่นไปด้วยเดลิเมล์วันจันทร์ สตรีสาร และศรีสัปดาห์ นอกตู้ก็มีชัยพฤกษ์ วิทยาสาร Current Song Hits และ I.S Song Hits
..........



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 09:28

ไม่ศรัทธาความประพฤติส่วนตัวของผู้ชายอย่างจะเด็ด  รวมทั้งขุนแผนผู้เป็นที่มาของจะเด็ดด้วย  เลยไม่ติด "ผู้ชนะสิบทิศ" ค่ะ    อ่านเรื่องอื่นๆของยาขอบ มากกว่า   โดยเฉพาะสามก๊กฉบับวณิพก
แต่ก็นับถือว่าสำนวนของท่านพลิ้วพรายมาก   

การสร้างตัวละครนั้น เฟมินิสต์อาจจะออกมาโวย  ดูผู้หญิงจะมอบการถวายชีวิตแด่พระเอกเสียจนไม่เป็นอันคิดอะไรอื่น   พระเอกรับความชอบไปเต็มๆ   
โดยเฉพาะตอนที่บุเรงนองคิดจะอภิเษกจันทราคู่กับกุสุมาพร้อมกันสองคน   
ความคิดของยาขอบ ที่ว่าคนจะปลื้มจันทราที่เสียสละ   โล่งใจแทนนางเอกกุสุมาที่ได้แฮปปี้เอนดิ้ง นั้น      ผลที่ได้คือจะเด็ดรับกำไรไปเต็มๆคนเดียว
ก็ดีแล้วที่เสด็จพระองค์หญิงเฉิดโฉมท่านเสด็จมาห้ามเสียทัน  ไม่ให้เขียนตามนั้น
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 09:56

ชอบกุสุมาค่ะ
เหตุผลตอนเด็กๆไม่ใช่จากการอ่านหรอกนะคะ
อิทธิพลของนางเอกหนังค่ะ พิศมัย วิไลศักดิ์เล่นเป็นกุสุมา และดาราอีกคน สวย ประกวดนางงามมาแล้ว ดูดีเชียวหละ เล่นเป็นจันทรา นึกชื่อออกประมาณ วาสนา...(ไม่ใช่ชลากร)
ไม่ปลื้มค่ะ
เวลาอ่าน ก็จะนึกหน้าพิศมัยไปด้วย เลยปลื้มกุสุมาค่ะ
ยังงงๆเลยเมื่ออ่านเบื้องหลังว่า เจ้าองค์หนึ่งไปดักยาขอบ ไม่ยอมให้กุสุมาเท่าๆกับจันทรา
อยู่ข้างผู้มาทีหลังค่ะ
ไม่เกี่ยวกับศีลธรรมใดๆทั้งสิ้นนะคะ
เพราะผู้ชายอย่างจะเด็ด เป็นฝันของชายไทยยุคหนึ่งจริงๆ..
สังเกตได้ว่า มีงานทีไร ชอบร้องเพลง..เย้ยฟ้าท้าดิน กับผู้ชนะสิบทิศกันเสียจริงๆ
เฮ้อ...
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 10:43

แหะๆ... ที่ไหน ยุคไหนผู้ชายก็เป็นแบบนี้ล่ะครับพี่กุ้งแห้ง
คนไทยมีพ่อแผนเป็นยังไง พี่หรั่งแกก็มีเจมส์บอนด์ประมาณนั้น
ยังดีนะครับที่ผู้หญิงส่วนมากยังอายพอที่จะไม่กล้าลุกขึ้นมาเป็นตาม.....
ไม่งั้นล่ะ บ้านเมืองวุ่นวายกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แหงเลย เหอๆ


ปล. ช่องอะรัยว๊า.... ยังอุตส่าห์ยกละครพรรค์นี้แบบแม่สาลี่กะอีเย็นมาเล่นกันอยู่นั่นแหละ รกลูกกะตา
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 11:57

          สมัยนั้นมีสองนิยายอิงประวัติศาสตร์ จากสองนักประพันธ์เอก เล่าเรื่องสองแผ่นดิน
คือ  ผู้ชนะสิบทิศ ของยาขอบ กับ ขุนศึก ของไม้ เมืองเดิม
       นักแสดงนำเป็นที่จดจำเมื่อนิยายถูกนำมาทำเป็นละคร คือคุณกำธร - เสมาในขุนศึก และ
คุณนิรุตต์ - จะเด็ด
       ตะละแม่จันทราหนังใหญ่สามตอนจบที่คุณกุ้งว่า คือคุณกรุณา ยุวกร ครับ เธอแสดงหนังอยู่ไม่นาน
แล้วก็ออกจากวงการไป

       คุณติบอ ละครอย่าง นางทาสนี่แหละ สร้างกี่ครั้งก็ยังเรตติ้งดีแน่นอน สร้างรายได้ให้สถานีเป็นกอบกำ
สำหรับช่องหลายสี ที่รายได้หลักมาจากละครหลังข่าว
       เมื่อหลายปีก่อนช่องน้อยสีก็มี อาญารัก ที่มีเนื้อเรื่องรุ่นพ่อ แม่เหมือนกับนางทาส แต่รุ่นลูกมีเรื่องราว
มากกว่า และแตกต่าง เรื่องนี้ก็มีคนดูล้นหลามเช่นกัน ครับ 

เลือกโปสเตอร์หนัง ผู้ชนะสิบทิศ ตอนจบครับ - จะเด็ด -ไชยา สุริยันนั่งอยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยมเหสี ชายาทั้งขวาซ้าย


บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 12:13

นิยายไทยเรื่องเดียวที่ตกค้างอยู่ในความทรงจำของผม คือเรื่องแก้วตาพี่
แต่ต้องขอประทานโทษที่แม้แต่ชื่อผู้แต่ง ก็ลืมซะแระ

ชอบตรงที่มีการวางส่วนผสมให้เรื่องเดินไปได้อย่างน่าติดตาม
ชอยที่สุดก็ตอนที่สาวเจ้า ยืนริมหาด นิ่งไม่ขยับ จนพระเอกที่เดินเลาะชายหาดมาด้วยประสาทสัมผัสของคนตาบอด
ก็ยังไม่รู้ว่ามีสิ่งขวางหน้า ชนเขาจังเบ้อเร่อ

เป็นฉากเปิดตัวคู่พระนางที่เท่มากในความรู้สึกของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง
แต่เมื่อได้ไปอ่านนิยายแปลมากเรื่องเข้าในภายหลัง
ก็พบว่า นิยายของโลกนั้น เปลี่ยนคนอ่านได้จริงๆ
เปลี่ยนเข้าไปถึงระดับจิตวิญญาน

ในขณะที่นิยายไทย อ่านร้อยเรื่อง ไม่เปลี่ยนอะไรเลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 25 มี.ค. 08, 12:32

แก้วตาพี่ เป็นงานของนิตยา นาฏยสุนทร หรือคุณหญิงสุรีพันธุ์  มณีวัต ค่ะ
มีการดำเนินเรื่องแบบ flashback ย้อนตัดสลับกันไปมา   ไม่ได้เดินเรื่องตามลำดับเวลาตามธรรมเนียมการแต่งเรื่อง   เท่มาก
ฉากเปิดตัวพระเอกที่คุณพิพัฒน์ว่า อยู่ท้ายของเล่มหนึ่ง (เรื่องนี้สองเล่มจบ)   พระเอกนางเอกแต่งงานกันไปแล้วตอนเปิดเรื่อง  แล้วพระเอกมาทบทวนความหลังที่พบกันครั้งแรก

ละครย้อนยุค ที่เป็นชีวิตครอบครัวของขุนนาง มากเมีย  มีการกลั่นแกล้งรังแกกันในหมู่ผู้หญิง
คนทำดีกว่าจะได้ดีก็สะบักสะบอม   
เป็นรสชาติของละครหลังข่าวที่เรื่องไหนเรื่องนั้น เรตติ้งพุ่งสูง
นางทาส ของวรรณสิริ  ทำกี่ครั้งๆก็ดังค่ะ   ตั้งแต่สมัยมลฤดี ยมาภัยเล่นเป็นนางเย็น แล้ว
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.086 วินาที กับ 19 คำสั่ง