เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9]
  พิมพ์  
อ่าน: 33643 " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป ๔ "
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 30 มิ.ย. 08, 10:31

เชิญผู้รู้ชมไปเรื่อยๆนะคะ


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 30 มิ.ย. 08, 10:32

ภาพนี้ อยู่ที่ฝาผนังโบสถ์ด้านใน เป็นด้านที่เผชิญหน้ากับองค์พระพุทธรูปประธานค่ะ ดิฉันว่าสวยมาก


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 30 มิ.ย. 08, 10:36

ดิฉันกับเพื่อนเดินเข้าคนละครั้ง เราออกมาด้วยความรู้สึกต่างกัน


บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 30 มิ.ย. 08, 10:37

นี่ไงคะ


บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 30 มิ.ย. 08, 22:46

ดูมาตั้งแต่เช้าแล้วครับ ยังดูไม่ออก
ขอตัวช่วยด้วย........
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 18 ก.ค. 08, 20:57

สังเกตการณ์ต่อจากคุณพิพัฒน์มาอีก 18 วันแล้วครับ
ขอตัวช่วยด้วยคนครับผม
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 27 ก.ค. 08, 10:22

จะรังเกียจไหม ถ้าดิฉันจะขอพักตรงนี้ไว้ก่อน แต่ขอเสริมข้อมูลสั้นๆว่า ภาพจิตรกรรมที่ฝาผนังโบสถ์โบราณสมัยอยุธยานี้ ได้ทำขึ้นใหม่ ที่วัดท่าซุง ดิฉันไม่สามารถหาข้อมูลที่แน่ชัดได้ว่า ภาพพุทธประวัตินี้ แต่งเติมวาดทับภาพเขียนเดิมสมัยอยุธยาหรือไม่ แต่สามารถบอกได้ว่าส่วนที่เสริมเข้ามานั้น เป็นภาพที่เขียนโดยคนเขียนพื้นบ้าน จึงมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ดีหรือไม่ ก็ขอเชิญผู้นใจไปสืบถามกันมา ช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะ
..
เมื่อวันเสาร์ ดิฉันได้มีโอกาสไปทำธุระที่วัดราชนัดดาราม เคยมองโลหะปราสาทก็จากภายนอก คราวนี้ ได้ไปยลชนิดใกล้ๆเลยค่ะ
รวมถึงได้ขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ยอดปราสาทด้วย
ไม่ได้นำกล้องคู่ใจไปค่ะ จึงไม่มีภาพมาฝาก
ดิฉันดีใจที่โชคดีได้มาที่โลหะปราาทในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมาก ทั้งที่ตอนเช้า ฝนตก ฟ้ามัวซัว แต่ก็เหมือนวันดีอีกวัน ที่ฟ้าเริ่มชำระสิ่งที่หม่นหมองออกไป เราจึงได้พบสิ่งที่ดีๆ ปลอดโปร่งหลายอย่าง โดยไม่คาดคิด
รวมถึงได้สนทนากับท่านเจ้าอาวาสที่ท่านเดินมาสนทนากับเราโดยบังเอิญ
ท่านปรารภสิ่งหนึ่งคือเรื่องโจร ซึ่งฉกฉวยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฝาครอบท่อระบายน้ำ และใจหยาบถึงขั้นพยายามตัดลูกกรงขโมยสิ่งสำคัญด้านบน
..ดิฉันได้เข้าไปชมพระพุทธรูปในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปรัตนโกสินทร์ หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่สาม บอกตรงๆในกระทู้นี้ค่ะ ว่างามจับใจ วัดนี้ไม่มีการจัดแสงไฟนะคะ ใข้แสงจากหน้าต่างล้วนๆ องค์พระจึงงามสง่า รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังก็มีไอเดียไม่เหมือนใครค่ะ
รัชกาลที่สามท่านสร้างให้หลาน ซึ่งต่อมาคือ พระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดีในรัชกาลที่สี่ เหมือนจะทรงล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต..
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 27 ก.ค. 08, 21:43

ขอบพระคุณสำหรับตัวช่วยของคุณกุ้งแห้งครับ
ผมดีใจมากครับ ที่ได้ทราบถึงความรู้สึกที่พี่กุ้งแห้งเล่าเอาไว้

การซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังเกิดขึ้นกับงานจิตรกรรมไทยเสมอครับ
เพราะประเทศเราเป็นประเทศเมืองร้อน อากาศค่อนข้างชื้น
แต่วิธีการเขียนงานจิตรกรรมที่ใช้สืบทอดกันมาไม่ทนชื้นเอาเสียเลย
บ่อยครั้งภาพเขียนก็เลยถูกน้ำฝนที่รั่วลงมาจากชายคาชะไปให้เสียหาย
หรือน้ำใต้ดินที่ซึมขึ้นมาจากพื้นทำให้พื้นสีที่รองไว้หลุดร่อน
ซึ่งถ้าเกิดขึ้นมาก การปล่อยเอาไว้ก็ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควรแก่ศาสนสถาน

ในลายพระหัตถ์ของสมเด็จฯ กรมพระยานริศฯ ที่มีถึงกรมพระยาดำรงฯ
ฉบับลงวันที่ 19 ส.ค. 2548 (ผมขออนุญาตบอกวันที่นะครับ
เพราะสานส์สมเด็จแต่ละชุดอาจจะอยู่กันต่างหน้า-ต่างเล่มได้)
สมเด็จครูท่านตรัสชมเชยถึงภาพจิตรกรรมชิ้นหนึ่งเอาไว้ว่า

"แต่ก่อนมีรูปเขียนมารประจญในพระวิหารเบื้องบุรพทิศ
เป็นฝีมือดีล่ำเลิศประเสรีฐยิ่งกว่าที่ไหนหมดในพระราชอาณาจักร
มีความเสียใจที่ไม่ได้รักษา ปล่อยให้หลังคารั่วจนฝนชะลอกเสียเปนอันมาก
เหลืออยู่ดูได้เปนหย่อมๆ ครั้นซ่อมใหม่ก็เลยถูกลบซ้ำ
ฝีมืออันประเสรีฐนั้นก็สูญสิ้น น่าเสียดายเปนอย่างยิ่ง
ผู้เขียนนั้นได้ทราบชื่อว่าพระอาจารย์นาค (ภิกษุ) ฝีมือยังมีอยู่อีก
ที่ด้านอุดหลังพระอุโบสถวัดราชบุรณะ แลที่หอพระไตรปิฎกวัดระฆัง
แต่ไม่ได้ตั้งใจทำจนสุดฝีมือเหมือนมารประจญที่นี้"


ผมอยากยกข้อความตรงมาเรียนพี่กุ้งแห้งฯ เรื่องจิตรกรรมฝาผนังว่า
บ่อยครั้ง ที่ภาพจิตรกรรมที่ถึงจะงามที่สุด สวยที่สุด หรือหายากที่สุด
ก็จำต้องลบเลือนไปตามกาลเวลาครับ และถึงแม้ว่าจิตรกรรมที่ลบเลือนได้ง่าย
จะไม่ได้อยู่รับใช้นักวิชาการผู้หยิบยกรายละเอียดของจิตรกรรมมาใช้ประโยชน์ได้นาน
แต่จิตรกรรมก็ยังคงรับใช้ศาสนสถานอย่างซื่อสัตย์และเตือนเราถึงความไม่เที่ยงอยู่เสมอ

ภาพจิตรกรรม "ฝีมือบ้านๆ" บางแห่ง ก็ทรงคุณค่าโดยตัวของจิตรกรรมเองนะครับ
อย่างภาพที่พี่กุ้งแห้งฯชอบน้อยที่สุดภาพหนึ่ง ก็ได้รับเลือกเป็นภาพปกหนังสือของ
อ. วรรณิภา ณ สงขลา นักอนุรักษ์จิตรกรรมที่น่าเคารพที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทยครับ




ปล. ภาพหนายผมขออานู๊ยาดม่ายบอกนะกั๊บ อิอิ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 28 ก.ค. 08, 09:38

คุณติบอคะ ถ้าคุณอยู่ใกล้ๆตรงนี้ โดนหยิกหนึ่งทีแน่ๆฐานอมพะนำ  โกรธ โกรธ โกรธ
คุณไม่บอกแล้วคนอ่านจะทราบได้อย่างไรล่ะคะ เราไม่ได้เขียนและอ่านกันแค่สองคนนะคะ  เศร้า เศร้า เศร้า
...
เพื่อนต่างชาติดิฉันคนหนึ่ง เป็นคนที่ดูเหมือนไม่สนใจศิลปะวัฒนธรรมเท่าไหร่ มาเมืองไทยที ไม่ชอบไปวัด สนใจแต่ว่าจะหาที่ไปรับประทานอาหารอร่อยๆที่ไหน หรือไปนวดให้หายเมื่อยที่ไหนบ้าง วันดีคืนดี เจ้าประจำที่เขานวดมาตลอดก็เกิดยุบกิจการไป  ดิฉันจึงแนะนำที่ๆเพื่อนเคยไปและชมเปาะให้เขา เขาชอบมาก แต่ยังเหลือวันว่างหนึ่งวัน ดิฉันจะทำอย่างไรดี
เพื่อนแนะนำให้พาไปรับประทานกุ้งเผาที่อยุธยา ดิฉันและเพื่อนผู้หญิงจึงขับรถพาเขาไปอยุธยากัน
ดิฉันพาเขาไปแวะที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา และใช้เวลาอยู่ที่นั่นเต็มๆสองชั่วโมง
อย่าว่าแต่ต่างชาติเลยค่ะ เพื่อนคนไทยของดิฉันเกิดมาก็ไม่เคยมาพิพิธภัณฑ์ ยังประทับใจ
แม้แต่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ที่กทม. ซึ่งงดงามมาก แต่คนมองข้ามไปข้ามมา อยู่ที่สนามหลวง ดิฉันพาฝรั่งมังค่าที่เลือกแล้วว่า น่าจะเจริญด้วยสติปัญญาไป ก็ไม่ผิดหวัง
ที่โลหะปราสาทวัดราชนัดดาก็เช่นกัน ดิฉันเห็นหนุ่มสาวไทยสะพายกล้องขึ้นบันไดไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ก็ปลื้ม
ฝรั่งมังค่าก็เช่นกัน หลวงพ่อเจ้าอาวาสให้ดิฉันเป็นไกด์ยืนอธิบายฝรั่งวิธีไหว้พระ ทำบุญ อธิษฐานแทนในวันนั้นพักหนึ่ง ฝรั่งระดับที่มาเที่ยววัด ก็เชื่อฟังให้ความร่วมมือเป็นอันดี
จากโลหะปราสาท เรามองเห็นมุมที่งามๆของภูเขาทอง เสาชิงช้า และกรุงเทพชั้นในได้
ถ้าไม่ขึ้นก็ไม่เห็นค่ะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 30 ก.ค. 08, 22:34

ส่งท้องแขนมาให้พี่กุ้งแห้งหยิกครับผม
เพราะยังอยากอมพะนำเอาไว้อีกซักกะหน่อยอยู่ดี
ก็มันแค่รูปเดียวอ่ะคับ ใครสนใจวิ่งไปห้องสมุดค้นชื่อผู้แต่ง
วรรณิภา ณ สงขลา แล้วไปไล่ปกหนังสือดู
ไม่เกินชั่วโมงเดียวรับรองครับ ว่าได้คำตอบ


เสียดายอย่างเดียว....
นอกจากเรื่องไม่คิดว่าพิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่สาธารณะล้ว.....
คนไทยเกลียดการเข้าห้องสมุดเป็นชีวิตจิตใจซะร้อยละ 99
(นายติบอแถม .99 ให้ด้วยเลยเอ๊า)
แต่มั่นใจว่าพี่กุ้งฯ อยู่ใน .01 ที่ไม่ใช่ครับ จิงมะกั๊บ  ยิ้ม



ปล. ตั้งแต่กลับมาเป็นนักศึกษาอยู่ 2 เดือนกว่าๆนายติบอบอกเพื่อนเสมอว่า
ยกเว้นเรื่องเงินแล้ว "รับฝากทุกเรื่อง ยกเว้นการค้นหนังสือในห้องสมุด" ครับ
เพราะหนังสือเล่มข้างๆน่ะ มักจะน่าอ่านกว่าหนังสือเล่มที่เราไปหาเสมอล่ะครับ อิอิ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 01 ส.ค. 08, 07:35

เรื่องพิพิธภัณฑ์ หรือแกลเลอรี่ ดิฉันไม่ผิดอะไรกับคนไทยทั่วไปมาก่อนค่ะ แม้จะเป็นคนที่ชอบเรียนประวัติศาตร์ ประเพณี ภาษาและศิลปะ แต่หลังจากได้ไปเปิดหูเปิดตาที่เมืองนอกเมืองนา เราก็แห่ตามเพื่อนฝรั่งไปพิพิธภัณฑ์ จนชอบ และรู้สึกว่า การเดินทางนั้นมีค่ามาก
ที่เคยเห็นว่าพิพิธภัณฑ์นั้นน่าเบื่อ เก่า นิ่ง โทรม ก็หักเห
อย่างพิพิธภัณฑ์เมืองร่างกุ้ง ก็ไปทุกครั้ง ใช้เวลาเป็นวัน จนจำได้ทุกมุม เพราะของน้อย และเล็กมาก แต่ก็ยังพอมีอะไรให้คิดเสมอ
ส่วนห้องสมุดน่ะ ของโปรดแต่เด็กค่ะ คุณติบอ
ตอนนี้มีห้องสมุดกูเกิ้ลแทนแล้วไงคะ ห้องสมุดสาธารณะที่เคยชอบอย่างเอยูเอ จุฬา นีลสันเฮยส์ บริทิช เคาน์ซิลไม่ได้ไปอีกเลย
แต่ถ้ายังเรียนยังสอน ก็คงมีโอกาสได้ไปบ่อยๆค่ะ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 14 ก.ย. 08, 08:12

ย้อนกลับไปอุทัยสักนิด
จากวัดท่าซุงเข้าตัวเมืองอุทัย มองจากตลาดริมน้ำข้ามไปที่เกาะฝั่งตรงข้าม
จะเห็นวัดนี้ ที่น่าสังเกต คือตัวเจดีย์ค่ะ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง