เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9
  พิมพ์  
อ่าน: 53304 พระบรมรูป เพิ่งค้นพบใหม่
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 07:21

รูปนี้ฝากคุณอั้พครับ


บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 07:32

พระมหามงกุฏหนักเพียงใด พระรูปนี้คงบอกได้
ตั้งแต่มีกล้องเข้ามาในประเทศไทย ต้องถ่ายกลางแจ้งตลอด
ถ้าต้องการรูปที่คมชัด

ราว 2410 เริ่มถ่ายรูปในร่มได้แล้ว แต่ต้องเปิดหน้ากล้องนานร่วมครึ่งชั่วโมงครับ
นานจนกล้องจับการเคลื่อนไหวของแสงระยิบระยับในที่มืดได้

ในช่วงเวลานั้น พระบรมรูปอย่างที่เชิญมาให้ชม
ต้องฉายแสง 10 นาทีเป็นอย่างเร็วครับ
ไม่เว้นแม้แต่พระบรมรูปที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ ซึ่งฉายคราวบรมราชาภิเษกครั้ง 2411 แน่ๆ


ปล. ผมค้านคุณบานาเรื่องพระบรมรูปเสด็จวัดราชบพิธน่ะครับ
คุณลงพ.ศ 2513 นั่นรัชกาลที่ 9 แล้วครับ


บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 08:07

ขอบพระคุณคุณ พพ.ครับ รูปในความเห็นที่ ๓๐ ทำให้ทราบว่าธรรมเนียมการรับพระมหาสังวาลนพรัตน์เฉวียงพระอังสาขวาไปซ้ายนั้น เป็นธรรมเนียมเฉพาะการรับพระบรมราชาภิเษกขณะประทับบนพระที่นั่งภัทรบิฐ แต่ครั้นทรงในเวลาอื่น จะทรงเฉวียงพระอังสาซ้ายไปขวา และอาจเป็นไปได้ว่า ธรรมเนียมการทรงพระมหาสังวาลนพรัตน์จากพระอังสาขวาไปซ้ายจะเคร่งครัดขึ้นเฉพาะเมื่อทรงสถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ขึ้นแล้วในรัชกาลที่ ๕ และทรงกำหนดให้ทรงสายสะพายนพรัตนฯ เฉวียงจากพระอังสาขวาไปซ้าย เมื่อทรงพระมหาสังวาลทับสายสะพาย จึงต้องเฉวียงไปทางนั้นเท่านั้น ต่างจากในอดีตที่ไม่มีสายสะพายนพรัตนฯ มาเป็นเครื่องกำกับที่ชัดเจน

พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๔ องค์บน ในความเห็นที่ ๒๔ น่าสนใจมากครับ เห็นแล้วนึกถึงพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ที่มีพระบรมรูปรัชกาลที่ ๔ ทรงยืนในพระอิริยาบถอย่างพระสยามเทวาธิราช ทรงเครื่องอย่างในพระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้ งามดีแท้ ผมเห็นว่างามกว่าพระบรมฉายาลักษณ์องค์ล่างที่ดูแล้วเหมือนประทับไม่ค่อยจะทรงสบายนัก
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 20:27

คุณ Pipat กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎตามแบบวัฒนธรรมตะวันตกแล้ว  ชวนให้นึกถึงการสถาปนาเจ้าอุปราชสุริยะ  เป็นเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ เจ้านครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔  ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกแล้ว  ครั้งนั้นโปรดสวมมาลายอดเกี้ยวพระราชทานดูแล้วเหมือนพิธีสวมมงกุฎของฝรั่ง  และอีกครั้งเมื่อโปรดสถาปนาเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้านครน่านเป็นพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้านครน่านนั้น  เมื่ออาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาจบแล้ว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานสวมเสื้อครุยพระราชทาน  แล้วทรงสวมชฎาพระราชทานพระเจ้านครน่าน 
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 21:32

แหะๆ เข้ามาสารภาพว่างงกับพระบรมรูปในความคิดเห็นที่ 24 25 และ 27
ของคุณพิพัฒน์ครับ


ผมเคยทราบ (จากคุณ pipat น่ะแหละ)
ว่าพระจอมเกล้าท่านประชวรด้วยพระโรค facial pulsy
(ไม่ทราบว่าจะมีราชาศัพท์มั้ย - แต่ถึงมีนายติบอก็จำไม่ได้อยู่ดี ขนาดขากรรไกรเรียกว่าอะไรก็ยังจำไมได้ แหะๆ)
ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ถ้าเป็นที่แขนงประสาทเดียวกับที่ทรงประชวร
จะยิ้มไม่ขึ้น ในภาพถึงมุมพระโปษฐ์ตก......


แต่ดูไปดูมา ไม่รู้ว่าภาพไหนอัดผิด วาดผิดบ้าง
มุมพระโอษฐ์ตกสลับไปสลับมา.... งงอีหลีอีหลอกะด้อกะเดี้ยครับ แหะๆ
เห็นทีคงต้องเรียนถามคุณ UP และคุณ V_mee เรื่องสังวาลย์
หรือเรียนถามคุณ pipat เรื่องบันทึกของหมอ บรัดเล
เพื่อหาคำตอบที่ช่วยคลายข้อสงสัยของนายติบอแล้วล่ะครับ แหะๆ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 22:18

หนุ่มติบอแกล้งงง
ผมบอกไว้แล้วว่าพระรูปลายเส้นกลับซ้ายเป็นขวา งเทียบให้ดูด้วยนา.....
คำให้การหมอปลัดเล ดูเหมือนจะอยู่ประชุมพงศาวดารภาค 31
เอ....หรือจะอยู่ในWilliam L. Bradley, Siam Then จำไม่ได้แล้ว
แต่ในมอฟเฝ็ต แผ่นดินพระจอมเกล้า มีแน่ๆ ครับ
--------------
ขยายพระรูปมาฝากคนชอบดู
สังเกตว่า แสงลามวัตถุที่อยู่นิ่ง จนเกิดประกายระยิบระยับ
เพราะเปิดหน้ากล้องนานมากๆๆๆๆ เหมือนถ่ายไฟท้ายรถยนตร์ตอนมืดน่ะครับ


บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 18 มี.ค. 08, 23:09

ความคิดเห็นที่ 24 ก็กลับ (หรือเปล่าครับ ฮืม)
แหะๆ
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 00:10

24 บน
เป็นพระบรมรูปบนแผ่นเงิน เทคนิคนี้ จะได้รูปเดี่ยวที่เป็นเนกะตีฟ/โพสะตีฟในตัวครับ
คือเอียงไปทางหนึ่ง จะเห็นเป็นเนกะตีฟ เอียงอีกทาง เป็นเนกะตีฟ

แต่ตัวรูปจริงๆ นั้น เหมือนเรายืนหน้ากระจกเงา คือกลับซ้ายเป็นขวา
ถ้าต้องการให้กลายเป็นรูปจริง ก็ถ่ายก๊อปปี้รูปแรกนี้ รูปที่ 2 ก็กลายเป็นกลับขวาเป็นซ้ายครับ

สรุปว่า พระบรมรูป 24 นั้น กลับซ้ายเป็นขวาครับท่าน
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 00:44

ปั่นกระทู้ได้ผล อย่ากระนั้นเลย
นำรูปอื่นๆ ที่น่าชมมารวมไว้ด้วยดีกว่า จากนักสะสมคนเดิมครับ
คุณวีมีและคุณอัพ คงยิ้มชอบใจ

ขอยกให้เป็นผู้บรรยายหลักนะครับ ผมเป็นพนักงานจัดรูปครับ
(ถ้ามีข้อมูลทางเทคนิค ก็จะเสริมให้เป็นเครื่องเคียง)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 20:57

เจ้านายพระองค์นี้   เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ  หรือว่าเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีฯ คะ 
งามมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 21:43

เทียบพระรูปเจ้านายเมื่อทรงพระเยาว์หลายองค์
เห็นว่าน่าจะเป็นเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ครับ

ทรงมีสง่าราศรีและความผึ่งผาย  เกินกว่าเด็กในอายุเพียงนี้ จะแสดงออกได้
พระรูปมีขนาดใหญ่มากครับ เท่าสมุดเมนูอาหารทีเดียว

เดาว่าเป็นฝีมือช่างภาพหลวงคนใหม่ จี อาร์ แลมเบิร์ต
ซึ่งเข้ามาหากินในบางกอกราว 2420 และขุนสุนทรสาทิศลักษณ์คงไปเป็นหลวงอัคนีนฤมิตร เจ้ากรมแก้สหลวงแล้ว
แลมเบิร์ต เป็นช่างภาพชั้นนำ มีออฟิสทีเดียวสามแห่ง ทั้งปัตตาเวีย สิงค์โปร์ และกรุงเทพ
พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 หลังปี 2420 เป็นฝีมือเขาเกือบหมดครับ

ผมอาจจะเล่าเรื่องได้ไม่ครบถ้วน ชีวิตในรัชกาลที่ 5 ไม่มีความรู้เลยครับ
บันทึกการเข้า
กุ้งแห้งเยอรมัน
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1573



ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 21:50

ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ฯแน่นอนค่ะ พระรูปนี้หน้าตาละม้ายคล้ายสมเด็จพระปิตุฉาเจ้าสุขุมาลย์มารศรีฯ และทำให้รู้สึกว่า สองพระองค์งามทั้งพี่ทั้งน้อง
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 23:00

พระรูปนี้ โสกันต์แล้ว พระชนม์เห็นจะประมาณ ๑๓ 
เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ ประสูติเมื่อ  ๒๙ มิถุนายน  ๒๔๒๔
สันนิษฐานว่า พระรูปนี้ฉายประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๗
บันทึกการเข้า
pipat
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1802


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 19 มี.ค. 08, 23:04

ขยายได้อีกเล็กน้อยครับ


บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 20 มี.ค. 08, 08:28

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์ ทรงโสกันต์เมื่อวันที่ ๓  มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗  และเมื่อคราวโสกันต์นั้น  เมื่อพระบรมวงศ์ทรงตัดพระเมาฬีแล้ว  ภูษามาลาจะเจริญเส้นพระเกศาจนเกลี้ยง  แต่ในพระรูปนี้เส้นพระเกศาเริ้มขึ้นแล้ว  จึงพอจะคะเนได้ว่า พระรูปนี้คงจะทรงฉายราวเดือนมีนาคม ๒๔๓๗ หรือเมษายน ๒๔๓๘ (สมัยนั้นเปลี่ยนปีในวันที่ ๑ เมษายน) ก่อนเสด็จออกไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษไม่นานนัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 19 คำสั่ง