เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 4395 คาเฟ่ปรีดีฯ
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
 เมื่อ 04 ม.ค. 01, 16:05

หลังจากที่สอบถามหลายท่าน ทั้งบนเรือนไทย และในห้องสมุดพันทิพย์
/>
เกี่ยวกับร้านกาแฟที่ ท่านปรีดี พนมยงค์ ชอบไปนั่งทานกาแฟสมัยที่เป็น
/>
นักเรียนอยู่ในนครปารีส ผมก็ได้ไปถ่ายรูปมาฝากแฟนๆ เรือนไทยจนได้ครับ
/>


ร้านกาแฟที่ว่าชื่อ Cafe de la Paix
ตั้งอยู่ตรงจตุรัสหน้าโรงโอเปราปารีส

Paris Opera Hourse ( Opera de
Paris Garnier ) ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก
/>
รู้สึกว่าจะสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19



เมื่อสมัยที่
ปรีดี พนมยงค์ เป็นนักเรียนกฎหมายอยู่ที่ปารีส ท่านชอบมานั่งทาน
/>
กาแฟที่ร้านนี้ และ พูดคุยปรึกษาปัญหาการเมืองกับเพื่อนฝูง
ซึ่งคาดว่าไม่เพียง

แต่เฉพาะนักเรียนไทยด้วยกัน
แต่จะมีนักเรียนจากเวียดนาม และชาติอื่นๆ ด้วย
/>
คาดว่าสมัยก่อนนั้นนักเรียนต่างชาติไม่มีมากเหมือนในสมัยนี้
ทำให้นักเรียนจาก
/>
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี


/>
เพื่อนๆ ชาวเวียดนามของอาจารย์ปรีดี หลายคนมีส่วนในขบวนการเรียกร้อง
/>
เอกราชของเวียดนามจากฝรั่งเศษ
และว่ากันว่าสหายเหล่านี้เคยหลบอยู่ในกรุงเทพฯ

ในช่วงหนึ่ง...
เขาว่ากันอีกแหละครับว่า ยุคนั้นกรุงเทพเป็นสวรรค์ของขบวนการ
/>
เรียกร้องอิสระภาพของชาติต่างๆ ในภูมิภาคนี้ทีเดียว

(
ก็เนื่องจากว่าผู้นำรู้จักกันเป็น อย่างดี ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน )
src='http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW266x000.jpg'>
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 01:50

หลายๆ คนอาจะสงสัยว่าทำไมต้องร้านกาแฟด้วย

ผมอ่าน Scientific American ฉบับใหนก็ไม่รู้ครับนานมาแล้ว

เขาบอกว่ากาแฟกับการเมืองนั้นเข้ากันได้ดีทีเดียว



Scientific American ยังบอกอีกว่า ในช่วงที่กาแฟเริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศ

อังกฤษนั้น กษัตรย์อังกฤษในขณะนั้นถึงกับสั่งห้ามขายกาแฟทีเดียว

พระองค์เกรงว่าจะโดนช่วงชิงพระราชสมบัติ เพราะคนหันมาคุยการเมืองกันมากขึ้น



เหตุก็เพราะว่าคนอังกฤษนั้นดื่มแต่เบียร์ ดื่มแล้วก็เมา พอเมาก็คุยกันเรื่องอื่น

( เรื่องผู้หญิง เรื่องฟุตบอล เรื่อง... ) ไปตามเรื่อง แต่ไม่คุยเรื่องการเมือง

เพราะถ้าคุยแล้วเป็นต้องฆ่ากัน คนสมัยก่อนแขวนดาบไว้ที่เอวอยู่แล้ว

เมาๆได้ทีถ้าคุยเรื่องการเมืองแล้วแตกคอละก็ได้ฆ่ากันง่ายๆ

แต่พอมีกาแฟเข้ามา ผู้คนเริ่มคุยกันได้อย่างสุภาพบุรุษ (อย่างน้อยก็ไม่เมาล่ะ)

ก็เลยเริ่มมีการคุยเรื่องการเมืองกัน ทำให้พระองค์รู้สึกหวั่นพระทัย

เลยแบนซะ เพื่อจะได้ปกครองประชาชน (ขี้เมา) ของพระองค์ได้อย่างสบาย

พระราชหฤทัย...



จะเห็นว่ากาแฟกับการเมืองเกี่ยวกันมาตั้งนมนานแล้วครับ

ไม่เชื่อดูสภากาแฟตามซอยต่างๆ ในบ้านเราสิครับ
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW266x001.jpg'>
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 01:54

ยังไม่เคยไปเที่ยวปารีสอย่างเป็นกิจจะลักษณะซักที เคยแต่ไปแว่บๆ แค่ 1 วัน 1 คืน
ขอถามครับ โรงโอเปราหน้าร้านกาแฟร้านนี้ คือโรงอุปรากรที่มาของนิยายเรื่อง The Phantom of the Opera รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 01:55

แต่ถ้าถามผมว่ากาแฟร้านท่านปรีดีอร่อยมัย
แหะๆ ไม่กล้าเข้าไปลองครับ เพราะหรูเหลือเกิน
ถ่ายรูปเสร็จนักเรียนจนๆ อย่างผมเลยต้องไปหา
คาปูซิโนทานร้านใก้ลๆกัน ฮือๆๆ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 01:58

คาดว่าน่าจะใช่นะครับ
ต้องให้คุณเทาฯ มายืนยันอีกทีหนึ่ง แหะๆ

ว่าแต่คุณ นกข. ได้ลอง กาแฟอังกฤษหรือเปล่าครับ
หรือว่ามัวแต่ติดใจ Fish and Chip ?
บันทึกการเข้า
โสกัน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 02:42

ที่คุณนกข. เปรยว่าโรงมหาอุปรากรที่ Place de l'Opera นั้นใช่ที่มาของนิยาย Phantom of the Operaใหม ผมขอชิงคุณเทาตอบครับ เพราะบังเอิญชอบละครเพลงเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ผู้ประพันธ์นิยายเรื่องนี้ คือ Gaston Leroux

(ภาพประกอบ) แกชอบดูอุปรากรอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อทางการฝรั่งเศษ ดำริสร้างโรงมหาอุปรากรแห่งชาติขึ้นในกรุงปารีสขึ้น และให้ Charles Garnierเป็นสถาปนิกออกแบบสร้าง เมื่อปี 1860 งานก่อสร้่างมีปัญหามากมาย และกูกดัดแปลงใช้เป็นโกดัง เป็นคุก ฯลฯ  จนปี 1875 จึงใช้เปิดการแสดง ในโรงมหาอุปรากรนี้มี ทางเดินซอกแซก ห้องหับลี้ลับมากมาย และเหนือที่นั่งมีไฟแชนดาเลียร์หนัก6-7พันกิโล ห้อยอยู่  ในปี 1896 เจ้าไฟนี่พวงหนึ่งก็หลุ่นตุ๊บลงมาทับคนดูตายไปคนหนึ่ง นาย Leroux ก็เอามาผูกเรื่องแต่งเป็นนิยายว่ามี Phantom สิงสู่ในโรงอุปรากร คนโจทย์ขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า โรงอุปรากรในนิยายคือ โรงอุปรากรที่อยู่ Place de l"Opera ในปารีสนี่แหละ
บันทึกการเข้า
ลำดวน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 02:53

สมัยนั้น ปารีสเป็นที่นักเนียหัวก้าวหน้าไปเรียนกันมาก  ที่กลับมาแล้วมาทำการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองก็มี อดีตนายก โจวเอินไหล  เติ้งเสี่ยวผิง ทางเวียตก็มี ลุงโฮฯไงคะ  ลุงโฮฯนี่ตอนที่รวมกำลังกู้ชาตินั้น  ก็มาเข้าๆออกๆอีสานมาเหมือนกัน  และขบวนกู้ชาติลาวและเขมรนี่ก็  มีเชื้อมาจากแหล่งเดียวกันเหมือนกันมังคะ
บันทึกการเข้า
โสกัน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 02:53

ขออภัย ภาพนาย Leroux มีอาถรรพ์หรือไงไม่ทราบ
postในข้อความที่ส่งครั้งแล้วไม่ยอมขึ้นไปครับ
บันทึกการเข้า
โสกัน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 02:59

ใช่ครับ ผู้นำเขมรแดงก็เอาวิทยานิพนธ์ที่เขียนทำปริญญา
ในฝรั่งเศสไปใช้ เกิดเป็น Kampuchea Year Zero
และ killing Fields ขึ้นมา
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 03:17

อืม... คงคล้ายๆ กับนักเรียนจากทวีปแอฟาริกาในอังกฤษ
ช่วงปี 70-80 ละมั้งครับ

คุณอาผมเล่าว่า (ฟังเขาเล่ามาอีกแล้ว) นักเรียนจากประเทศ
อณานิคมของอังกฤษ ใน เคมบริดจ์ อ็อกฟอร์ด เบอร์มิงแฮม หรือที่อื่นๆ
ในช่วงนั้นก็จับกลุ่มคุยกันแต่เรื่องการเมือง ประกาศอิสระภาพกันทั้งนั้น
( แต่ไม่แน่ใจว่าคุยกันในร้านกาแฟหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยเห็นคนผิวดำ
ทานกาแฟซักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ในบาร์เบียร์แน่นอน )

พวกนี้พอเรียนจบกลับประเทศไป ก็ไปเป็นผู้นำเรียกร้องอิสระภาพให้กับ
ประเทศของตน เหตุการณ์คล้ายๆกัน เพียงแต่เกิดหลังกันหลายสิบปี

เอ ... นักเรียนไทยสมัยนี้คุยอะไรกันหว่า?
บันทึกการเข้า
โสกัน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 03:38

ผมว่าคนอังกฤษยุคใหนๆ จะดื่มเบียร์จับกลุ่มคุยกันตามผับมากกว่า เบียร์อังกฤษนั้นอ่อนอัลกอฮอร์ ดื่มจนพุงกางก็ยังไม่เมา ส่วนน้ำชา(และกาแฟ) นั้นส่วนใหญ่ทานกันที่บ้านกับเพื่อนที่สนิทกันไม่กี่คนเท่านั้น ฉะนั้นที่ว่ากษัตริย์อังกฤษสั่งแบนกาแฟด้วยเหตุผลที่ว่าอาจสะเทือนบัลลังก์นั้น ออกจะเกินไปนะผมว่า....แหม พูดเรื่องการเมือง แล้วคันปากอยาก"โส" ต่อเหลือเกิน แต่เกรงใจคุณเทาฯ น่ะซีครับ เราเอาเรือนไทยของเธอมาคุยเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรือนไทยเท่าไร
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 03:57

คุณเทาชมพูใจดี ไม่ว่าหรอกครับ ยิ้ม

เรื่องกษัตริย์อังกฤษแบนกาแฟนี่ผมก็ว่าตามหนังสือเขาว่าละครับ
แต่พูดถึงเรื่องเหล้าแล้วเปี้ยวปากครับ เหอๆๆๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 07:37

มานั่งลุ้นคุณโสกันให้เล่าต่อค่ะ  คันปากอยากออกความเห็นด้วยเหมือนกัน
ขอเปิดสภากาแฟในมุมหนึ่งบนเรือนไทย ก็แล้วกันนะคะ:)
บันทึกการเข้า
คาปูชิโน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 09:59

ผู้นำเขมรแดงที่กล่าวถึงในความเห็นที่8 ใช่พอลพตหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 04 ม.ค. 01, 10:21

คิดว่าเป็น เขียว สัมพันธ์ นะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง