เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 8
  พิมพ์  
อ่าน: 58402 เรื่องของน้ำอบ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 25 ม.ค. 08, 15:40

คุณจะรู้สึกยังไง ถ้าหากว่าคุณเข้ามาในโลกเสมือน ด้วยความตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้  และคุยกับเพื่อนใหม่ๆที่มีความสนใจร่วมกัน   
แต่กลับถูกกล่าวหา  ถูกด่าสาดเสียเทเสีย แม้แต่ญาติผู้ใหญ่ของดิฉันที่ล่วงลับไปแล้วก็ไม่ถูกละเว้น  จากใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า  ไม่เคยมีเรื่องราวขัดแย้งกัน
         
 เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์โดยตรงในอินเทอร์เน็ตที่ดิฉัน ประสงค์จะบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้  เพื่อ
๑) ปกป้องชื่อเสียงของดิฉัน ที่จะไม่ถูกนำไปอ้างในทางผิด จากผู้ไม่หวังดี   
๒) เป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่น หากเคราะห์ร้ายประสบอย่างดิฉันเข้าบ้าง  จะได้มีตัวอย่างเรื่องนี้ไว้เป็นแนวทางออกว่าควรจะทำอย่างไร
๓) ขอความช่วยเหลือจากทุกท่านที่พอจะให้เบาะแสเกี่ยวกับคนนี้  ข้อเท็จจริง ความรู้ทางกฎหมาย   หรืออะไรก็ตามที่พอเป็นประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามที่ท่านพอจะทราบ 
ก็อาจจะเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน ป้องกันภัยสังคมที่แฝงอยู่ในโลกเสมือนได้อีกทางหนึ่ง
 
เรื่องนี้เป็นความจำเป็นให้ดิฉันต้องเปิดเผยชื่อจริงของ "เทาชมพู" อันได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (ป.ม.  ท.ช.  ต.จ.  จ.ภ.)ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ  2547  จากผลงานวรรณกรรม ในนามปากกาว่า ".วินิจฉัยกุล"และ"แก้วเก้า"
ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม   เข้าไปอ่านได้ที่นี่
http://www.vcharkarn.com/vcafe/31627
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 25 ม.ค. 08, 15:44

      เมื่อปลายปี 2549 มีข้อความพาดพิงถึง "เทาชมพู" โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า"คุณน้ำอบ" ใน www.khunnamob.org กล่าวหาว่าเทาชมพูเป็นบุคคลเดียวกับ"โมนิค" ซึ่งมีกรณีพิพาทกันอยู่ก่อนหน้าหลายปี ในห้องสมุดของ www.pantip.com
      ข้อความที่ใช้ ไม่มีทางคิดเป็นอื่นได้ว่าหมายถึงผู้ใดอีก นอกจากกล่าวถึง"เรือนกล้วยไม้" อันเป็นสถานที่รับรองแขกของดิฉัน   เคยเชิญสมาชิกบางคนในเรือนไทยไปสังสรรค์   
 ยังระบุชื่อคุณจ้อ และเวบวิชาการไว้อย่างชัดเจน

      "ถามว่า รู้ได้อย่างไรว่า โมนิค คือเทาชมพู  ความจริงรู้ละเอียดกว่านี้ค่ะแต่ขอบอกเพียงเท่านี้ เหตุที่รู้นั้น เพราะ..มีการโทร.มาข่มขู่สมาชิกเทวกุล หลายท่าน ว่าถ้าไม่ยอมบอกว่าคุณน้ำอบเป็นใคร จะแฉ เขาก็บอกว่า ก็เอาสิอยากจะแฉก็แฉ มีอะไรให้คุณแฉก็แฉไป  จะมาขู่ว่าจะลงหนังสือพิมพ์ ก็ลงไป
        ดิฉันแปลกใจว่า ไปขู่ สมาชิกบางท่าน ของเทวกุล เขาทำไม
นั้นคือชนวนที่ทำให้มีการ เกาะติด จนสืบรู้ว่า เป็นคนนี้ อยู่รัฐนี้ ที่อเมริกา และกลับมาเมืองไทยตอนนี้อยู่ที่นี่
         ถึงมีคนบอกว่า เขาคือ เทาชมพู  เพราะมีคนที่มีอุปาระคุณต่อเวบวิชาการ เป็นคนที่ดิฉันรู้จัก เขาบอกว่า จะเรียก ดร.จ้อมาคุย และจะบอกให้ ตามเทาชมพูมาคุยกันมั้ย
         ดิฉันบอกว่า เขาควรจะมีศักด์ศรีกว่านี้สิ ในเมื่อกล้าพูดให้ร้ายดิฉันขนาดนั้น นั้นหมายความว่า เขาจะต้องคิดเบ็ดเสร็จแล้วว่าดิฉัน จะไม่สามรรถทำอะไรเขาได้เลย
         เพราะดิฉันเป็นเพียงเด็กโรคจิต คนบ้า เพ้อฝันเพียงเท่านั้นเอง แต่ เขากลับกลัว อิทธิพลมืด
แต่คิดอยู่คะว่า บางที บางวันจะไป จ๊ะเอ๋..ถึงเรือนกล้วยไม้เสียหน่อย
เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีเข้ามารังควานถึงตรงนี้ ทั้งที่ดิฉันไม่เข้าไปยุ่งในส่วนของเขาเลย "

(ท่านที่ไม่คุ้นกับกรณีพิพาทระหว่าง"โมนิค" กับ"คุณน้ำอบ" โปรดอ่านได้จากลิงค์ต่อไปนี้ หรืออ่านข้อสรุปได้จากท้ายกระทู้)

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3401884/K3401884.html
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 25 ม.ค. 08, 15:57

ดิฉันขอยืนยันว่าไม่เคยโทรข่มขู่บุคคลที่ใช้นามสกุล เทวกุล ไม่ว่าใคร  การกระทำนี้เป็นของใครก็ไม่ทราบ  แต่ไม่ใช่ดิฉัน
นอกจากนี้ ดิฉันอยู่ในประเทศไทย  ไม่ได้อยู่ในรัฐไหนของต่างประเทศแห่งไหน ทั้งนั้น  จะอยู่ต่างประเทศไม่ได้ เพราะมีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐ  ทำงานมาจนลาออกเพื่อรับบำนาญ เมื่อครบ ๒๕ ปี ในพ.ศ. ๒๕๓๘
ต่อจากนั้นก็เป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง  สอนทุกปี ติดต่อมาจนทุกวันนี้  แฟนหนังสือของว.วินิจฉัยกุลย่อมรู้ดี  เพราะมีประวัติย่อลงไว้ท้ายนิยายทุกเล่ม ว่าทำงานอะไรอยู่ที่ไหนทั้งในอดีตและปัจจุบัน

เมื่อข้อความของน้ำอบแพร่ออกไป คุณ "โมนิค" เจ้าของนามแฝงนี้ได้ออกมาปฏิเสธความเข้าใจผิดของน้ำอบ ในห้องสมุด ของเว็บ pantip.com   
และกล่าวขอโทษที่ดิฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย แต่กลับถูกเข้าใจผิด นอกจากนั้น ยังมีบางท่านแสดงความเห็นคัดค้านการกล่าวหาของคุณน้ำอบอีกด้วย
แต่แทนที่ คุณน้ำอบ จะทบทวนความเห็น  กลับกล่าวถึงดิฉันว่าเป็นคนเดียวกับคุณโมนิค มากขึ้นอีก  และเปลี่ยนหัวข้อกระทู้ถึงสามครั้ง
คือเริ่มจากครั้งแรก ชื่อกระทู้เป็นคำถามลอยๆ ว่า "สงสัยเรื่องที่มีการกล่าวหาคุณน้ำอบ" มาเป็น
"โมนิค = เทาชมพู"
แล้วเปลี่ยนเป็น
"คนขี้ขลาดที่ชื่อคุณหญิงวินิตา ดิถียนต์"
จนมาถึงชื่อปัจจุบันคือ
"ส้มตำรสแซ่ป..."
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 25 ม.ค. 08, 18:41

นี่คือตัวอย่างจากกระทู้ดังกล่าว ที่น้ำอบกล่าวถึงดิฉันและคุณโมนิค  ส่วนคุณโปรดปรานเป็นใครไม่ทราบ

นังโมนิค นังเทาชมพู นังพีพี(โปรดปราน)ออกมาเจอกันเลย แล้วฉันจะตั้งวงสนทนาให้อย่างใจดี...ว่า "ขอแส่เรื่องชาวบ้าน"  จะจองหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ให้ หอประชุมเล็กไม่เอา เกรงว่าคนจะไม่มีที่นั่งพอ  แล้วฉันจะเชิญพี่ๆสื่อมวลชนที่รู้จัก ตลอดจนในเมื่อฉันมีสิทธิ์ใช้ ช่อง ๕ สุววรณภูมิได้อยู่  จะใช้หนทางสื่อสารให้หมด
ไหนๆก็สารภาพออกมาแล้วว่า แท้ที่จริงอยากแส่  และไปแค่พันทิป มันไม่เป็นธรรมกับฉัน..ออกมาดีเบทพร้อมกัน    แล้วเรามาดูกันว่า ผู้ที่ถูกพาดพิงในกรณีของฉัน แต่ละท่านจะส่งใครออกมาชี้แจงบ้าง   และส่วนเธอก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน  เรามาดูว่าใครจะ "พังกลางเวที"
และอีกทางหนึ่ง ถ้าเธอสองคน ทั้งนังโมนิค และนังเทาชมพูมิใช่คนเดียวกัน เธอเป็นโจทก์ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลได้เลย  แล้วคอยดูว่คนอย่างฉันจะไปหรือไม่
ฉันต้องการเจอกับพวกเธอลักษณะนี้เลย เอากันชนิดที่ ลิ้นมันพลิกไม่ได้  ตัวอักษรมันดิ้นไปดิ้นมา ฉันว่ามันไม่แฟร์สำหรับฉัน
ไม่ต้องรอให้ลากออกมา เหมือนวัว เหมือนควาย เดินออกมาสู้กันในชีวิตจริงๆ อย่างที่มนุษย์ที่เจริญแล้วด้วยสติปัญญาอย่างเธอพึงจะกระทำ
ปล.นั่งขำ ที่นัง โมนิค เต้นเป็นเจ้าเข้าเดือดร้อนแทน นังเทาชมพู ที่ตอนนี้ คนในแวดวงวิชาการเขาตามด่ากันให้ทั่ว เพราะทำตัว ยกตนข่มท่าน ระรานเขาไปทั่วในชีวิตจริง  5555
นี่ขนาดนังนี่ มันเถียงคอเป็นเอ็นนะว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่คนเดียวกัน
 
•••แก้ไขล่าสุด : เมื่อ 27 พ.ย. 2549 เวลา 14:00 น. โดย คุณน้ำอบ

คงจะไม่ต้องบอกว่าคำพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยเจอจากใครมาก่อน  ไม่ว่าในหรือนอกอินเทอร์เน็ต    ไม่เข้าใจด้วยว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงพูดกับดิฉันขนาดนี้  ในเมื่อดิฉันไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับหล่อนมาก่อนเลย
หล่อนทำท่าเหมือนรู้จักดิฉัน  เพราะเอ่ยถึง "แวดวงวิชาการ" แต่จะเรียกว่ารู้จักจริง  ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ  เพราะคนรู้จักดิฉัน ย่อมจะรู้ว่าข้าราชการบำนาญ คือผู้ออกจาก"แวดวงวิชาการ" แล้ว   
ไม่มี" แวดวง" อะไรกับเขามา ๑๑ ปีแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ม.ค. 08, 19:34 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 25 ม.ค. 08, 20:41

ถ้าถามว่าดิฉันตอบคำพูดนี้ไหม ก็ขอตอบว่าไม่ได้ตอบโต้อย่างใดทั้งสิ้น   ไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธ

ในเมื่อน้ำอบอ้างถึง "สวนกล้วยไม้" และ "แวดวงวิชาการ"   ก็ถือได้ ว่ารู้ว่าเทาชมพูเป็นใคร    อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าเป็นครูบาอาจารย์
ดิฉันจะไปที่ไหนก็ตาม ก็ต่อเมื่อมีคำเชิญอย่างถูกต้องตามมารยาทจากเจ้าภาพ   ที่สำคัญคือเป็นงานที่เหมาะสมกับความรู้ของเรา  และมีประโยชน์ต่อสังคม    ไม่ใช่ไปร่วมรายการอะไรก็ได้
อีกอย่างหอประชุมมหาวิทยาลัยใหญ่ๆในกรุงเทพฯ  ต้องจองกันล่วงหน้า บางแห่งคิวแน่นนานเป็นปี  ทางมหาวิทยาลัยก็พิจารณาด้วยว่ากิจกรรมที่จัด เหมาะสมจะให้จัดหรือไม่  และจากหน่วยงานไหนทั้งของภาครัฐและเอกชน
จะมาจัดอะไรแบบนี้  ไม่น่าจะเป็นไปได้

ดิฉันเชื่อว่าตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง    คิดว่าถ้าเฉยเสีย ไม่โต้ตอบ  อีกฝ่ายก็คงจะเบื่อแล้วเลิกไปเอง
วิธีนี้หนึ่งในแฟนคลับของดิฉันเคยแนะนำไว้   เขาใช้เวลาเขาเจอตัวป่วนในอินเทอร์เนต เขาก็เลยคิดว่าถ้าดิฉันเจอปัญหาก็คงจะใช้ได้เหมือนกัน

แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ยักใช่   วิธีนี้ไม่ได้ผลในกรณีนี้   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 25 ม.ค. 08, 20:57

เรื่องที่กล่าวหาว่าดิฉันเป็นคนเดียวกับคุณโมนิค  ดูความคิดเห็นของชาวเน็ตส่วนหนึ่งได้จากลิ้งค์นี้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pookpui&month=11-2006&date=03&group=1&gblog=145
โดยเฉพาะความคิดเห็นล่างๆ ตั้งแต่ 75 เป็นต้นไป
 

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 26 ม.ค. 08, 20:08

ถ้อยคำที่น้ำอบกล่าวถึงดิฉัน โดยรวมไปกับชื่อโมนิคบ้าง เทาชมพูบ้าง เป็นคนเดียวกันบ้าง หรือแยกเป็นสองคนบ้าง   มีมากมายเกินกว่าจะเอามาลงในกระทู้นี้ได้
ขอยกตัวอย่างเฉพาะเรื่องการกล่าวถึงญาติผู้ใหญ่ของดิฉันก็แล้วกัน

ความเห็นที่ : 73  โพสต์เมื่อ : 9 ส.ค. 2550 เวลา 21:05 น. 
 ขอให้ไปนะคะ...ที่เอ็มเมอรัล......จริงมั้น โมนิค ลูกหลานสกุล นาวานุเคราะห์ขี้ขลาดแบบเธอ น่าอายแทนนะ  มาเลยจะอยู่หรือจะตาย มาซัดกันสักตั้ง
นี่เห็นใจนะว่าในชีวิต เธอเองก็โดนเล่นงานไว้เสียอ่วม เรื่องการงาน เป็นไง ฟื้นแล้วหรือ


และ

ยายโมนิคหรือยายเทาชมพู มันมีสิทธิ์ตรงไหนหรือคะ  ที่มากล่าวร้าย ป้ายสีเรา เรื่องต่ำๆตลอดเวลา เป็น
เวลามาหลายปีดีดัก
ถึงได้ถามมันไงว่า แม่มันอยู่ในตระกูลนาวานุเคราะห์นั้น  โดนคนในตระกูลเขาด่าให้แบบที่จะต้องมาระบายออกกับเราด้วยความเก็บกดอย่างนั้นหรือ


การพาดพิงไปถึงคุณแม่ดิฉันนั้น  มาจากกระทู้เก่าเรื่องหนึ่ง ดิฉันตอบคุณ V_Mee ว่า
--------------------------------------------------------------------------------
 ยินดีที่มาเจอคนรู้จักของคุณลุงถนัด และคุณบัว ในเว็บนี้
ดิฉันเป็นหลานสาวของคุณถนัด นาวานุเคราะห์ ค่ะ 
ส่วนคุณบัว ก็รู้จักกันสมัยท่านทำงานที่หอวชิราวุธานุสรณ์

จากนั้นก็ sms ไปบอกคุณ V_Mee ว่าดิฉันเป็นญาติกับคุณถนัด นาวานุเคราะห์ทางไหน เพื่อจะยืนยันว่าไม่ใช่การแอบอ้าง  คุณ V_Mee ก็ตอบมาอย่างดี

ข้อความนี้ ลงเมื่อ  13 มิ.ย. 05, เป็นเวลาสองปีกว่า ก่อนน้ำอบจะพาดพิงถึง  เป็นข้อความเล็กๆบรรทัดเดียวลงในกระทู้ยาวเหยียดนับร้อยความเห็นกระทู้หนึ่ง    ซึ่งไม่น่าจะมีใครจดจำรายละเอียดขนาดนี้ได้

นาวานุเคราะห์แม้เป็นนามสกุลพระราชทานในรัชกาลที่ ๖   ก็ไม่ใช่นามสกุลที่คุ้นหูในปัจจุบัน  เพราะคนในสกุลนี้ไม่ได้เป็นนักการเมือง หรือดารา ที่จะมีชื่อลงในสื่อบ่อยๆจนจำกันได้
แต่สองปีต่อมา น้ำอบกลับนำมาระบุได้ชัดเจน   ราวกับว่ามีใครคนหนึ่งในเรือนไทยจำได้อย่างแม่นยำ และส่งข้อมูลให้  เพื่อนำไปใช้พาดพิงถึงบุพการีของดิฉัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 28 ม.ค. 08, 21:06

ข้อกล่าวหาในเรื่องอื่นๆของน้ำอบมีสารพัดเรื่อง  ทุกเรื่องเป็นเรื่องเท็จ    เช่นกล่าวหาดิฉันว่ามีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆของเว็บวิชาการจนสปอนเซอร์ถอนตัวจากเว็บ
ข้อนี้เป็นความเท็จ ๑๐๐%   เพราะดิฉันไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็นกับเงินทองของเว็บเลยแม้แต่บาทเดียว   สปอนเซอร์สนับสนุนเท่าไรดิฉันก็ไม่เคยรู้   มาทำงานที่นี่ก็ทำฟรี เช่นเดียวกับนักวิชาการอื่นๆ
ทางเว็บเขาก็ลงเอาไว้ชัดเจน

สปอนเซอร์รายหนึ่งไม่มีงบประมาณให้เว็บวิชาการในปีหนึ่ง ไม่ใช่ถอนตัว  ต่อมาเมื่อเขามีงบประมาณสนับสนุน เขาก็ให้ตามเดิม 
คุณจ้อ คุณเปี้ยว คุณอ๊อฟยืนยันตรงกันได้ในข้อนี้    คุณจ้อตกลงจะเป็นพยานให้หากว่าต้องขึ้นถึงศาล  เพราะข้อกล่าวหานี้ทำให้ดิฉันเสียหายได้หากมีผู้หลงเชื่อตามนั้น

หลังจากดิฉันต้องผจญคำพูดทำนองนี้ยาวนานมาจนเกือบถึงปลายปี ๒๕๕๐ โดยไม่รู้จะทำอะไรนอกจากอดทน
วันหนึ่ง นายตำรวจที่รู้จักกันมาหลายปีแล้ว มาเยี่ยมที่บ้าน    ดิฉันตัดสินใจเล่าเรื่องให้ฟัง ในฐานะประชาชนที่ร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายตำรวจคนนั้น ดิฉันขอเรียกสั้นๆว่า "หมวด"  ก็รับปากว่าจะไปเจรจาให้    โดยถามว่าดิฉันต้องการอะไรบ้าง   ดิฉันก็บอกว่า ขอให้ยืนยันข้อเดียวว่าดิฉันไม่ใช่คนเดียวกับคุณโมนิค    และไม่เคยไปว่ากล่าวเธอไม่ว่าด้วยเรื่องใดๆ
หมวดก็ติดต่อไปหาน้ำอบ   

เมื่อมาถึงตอนนี้  คนอ่านบางคนคงจะถามว่า หมวดรู้จักน้ำอบได้อย่างไร
คำตอบก็คือ   ก่อนหน้านี้  ดิฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า เป็นฝ่ายรับและฝ่ายทนอยู่ฝ่ายเดียวแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยนั้น เห็นทีจะไม่ดี   
แต่ถ้าจะเผชิญปัญหา   ดิฉันจะต้องรู้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ทำอะไรอยู่ที่ไหน   เป็นคนเดียวกับในรูปที่ลงหรือไม่
นอกจากนี้เขามีเส้นสายใหญ่โต  เป็นคนสำคัญ อย่างที่เล่าถึงตัวเองไว้ในเว็บจริงหรือไม่
ดิฉันถึงค้นหานามแฝงของเธอจากกูเกิ้ล  ก็พบว่าเธอเข้าไปในกระดานสนทนาของเว็บไซต์อื่นๆด้วย   มีรูปอยู่ในนั้นก็มี
มีเรื่องขัดแย้งกับบางเว็บไซต์ อีกด้วย

ดิฉันหลังไมค์ไปหาคุณโมนิค   ซึ่งเคยตั้งกระทู้ช่วยชี้แจงให้ทราบแล้วว่าเราเป็นคนละคนกัน     เล่าว่าเธอผู้นั้นยังไม่ยอมจบเรื่อง แต่กลับใช้ถ้อยคำต่างๆนานาถึงดิฉันมาตลอด
ดิฉันต้องการรู้ชื่อและนามสกุลจริงของเธอ   ว่าเป็นใคร   เป็นคนที่ดิฉันรู้จักหรือไม่  เพราะดูจากรูปแล้ว ไม่รู้จัก
ก็ได้ชื่อและนามสกุลจริงมา

เมื่อได้ชื่อและนามสกุลจริง การหาเลขประจำตัวประชาชนก็ไม่ยาก  สามารถหาได้ในเว็บไซต์ของราชการบางแห่ง ที่เปิดให้สอบถามถึงผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ ด้วยการพิมพ์ชื่อลงไป
จึงพบว่า เธออยู่ในรายชื่อผู้ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ณ เขตบางซื่ออันเป็นภูมิลำเนา อีกด้วย  ก็นับว่าแปลกอยู่บ้าง  สำหรับผู้มีกิจกรรมทางการเมือง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 28 ม.ค. 08, 21:29

เมื่อได้ชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนมา  ก็พอจะหารายละเอียดอย่างอื่นได้ต่อไปอีก  แม้กระทั่งหมายเลขโทรศัพท์
จนในที่สุดหมวดก็โทรไปขอพูดด้วย   ในตอนแรกเจ้าตัวก็รับอย่างดี  ว่าใช่ชื่อนี้นามสกุลนี้ แต่เมื่อรู้ว่าหมวดโทรมาเรื่องอะไร  คำพูดทั้งหลายก็เปลี่ยนไป
ผลจากนั้นเป็นอย่างไร อ่านได้จากข้อความนี้  ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆข้อความที่เอ่ยถึงเรื่องนี้

"ฉันไม่สนใจหรอกนะว่า ใครจะมาชมหรือไม่ชมฉัน แต่ฉันรำคาญพวกที่เรื่องของตัวเองไม่สนใจ มีแต่เสือกเรื่องชาวบ้าน
พวกนังเทาชมพู อุตส่าห์ส่งตำรวจ มาขู่ ..นี่ให้เกียรติเครื่องแบบที่ใส่อยู่นะ  ถ้าไม่งั้น จะท้าว่า "มึงถอดเครื่องแบบแล้วมาชกกันกูนี่"  ไม่ต้องมาขู่กูรำคาญ
อย่าลืมนะ..วันไหน เจอฉันไปที่ สน.ทองหล่อ ถอดเครื่องแบบรอไว้เลย ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ไปทำร้ายเจ้าพนักงาน
ไอ้พวกหมาขี้เรื้อน จนป่านนี้ยังไม่หายคันอีกหรือยังไง"


ในความเป็นจริง    หมวดรออยู่ที่สถานตำรวจจากวันนั้นจนวันนี้ ก็ไม่เห็นมีคนไปหา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 29 ม.ค. 08, 19:07

ในตอนแรก น้ำอบพาดพิงถึงดิฉันครั้งใด ก็เอ่ยถึงในนามแฝง ว่า "เทาชมพู"   มีคำว่า "ยาย" บ้าง "นัง" บ้าง ประกอบ
แต่หลังจากหมวดไปเจรจากลับมาแบบไม่สำเร็จ   น้ำอบก็เริ่มเอ่ยชื่อจริงของดิฉัน  ระบุชื่อและนามสกุลรวมทั้งคำนำหน้าชื่อ
*********************
บอกตามตรงว่าพี่ยังไม่ได้เข้าไปดูที่บล็อคยายMONIQUEหรือยายเทาชมพูนี่อีกเลย ยังไม่ว่างค่ะ ตลอดจน ทั้งที่ ตำรวจสน.ทองหล่อ แอบอ้างว่า คุณหญิงวินิดา เป็นเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความ  กับพี่ ข้อหา "หมิ่นประมาท" 

เพราะอีตาตำรวจนี้ พี่ตามจิก เป็นรายชั่วโมงเลยนะ แต่ไม่รับสาย  ..

สำหรับยาย MONIQUEเอาเรื่องล่าสุด  พี่บอกให้มันไปพาเจ้าของบ้านมาหาพี่ มารที่ สน.ทอ งหล่อเลย จะไปได้ทีเดียว ตอนนี้ มันทำไปถึงไหนแล้ว

ตอนนี้พี่จำ "เรื่องที่มันปายสี" ไม่หมด เยอะจัด สรุปว่า พี่นี่โคตรเลวเลย

แต่..พี่คิดว่าคนอย่างมัน ที่บ้านคงจะไม่มีกระจกส่องตัวเองเลยเหมือนกัน ว่าตัวเองเป็นอย่างไร

อ่อ...ที่สำคัญ ..มันซัดแหลกเรื่องลูก  กระทู้ก่อนหน้านี้ มันก็หาว่าลูกของพี่เป็นหัวหน้าวินมอเตอร์ไซด์  เพราะแม่มันมั่ว

อยากรู้จริง ว่า พี่แอบไปเอาผัวคนไหนของมันมา"กก"
..
ออกมาแก้ข่าวกันซะเน้อ
ไม่งั้นคนจะคิดว่า

MONIQUE  =  เทาชมพู  =  คุณหญิงวินิดา ดิถียนต์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 30 ม.ค. 08, 12:44

จากนั้นอีกไม่นานนัก  น้ำอบเล่าว่าลูกสาวของเธอซ้อนท้ายจักรยานในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่  มีหมาตัวหนึ่งวิ่งไล่จนจักรยานล้ม 
ลูกสาวได้รับบาดเจ็บ  ต้องพาไปโรงพยาบาล
เธอหาว่าหมาตัวนั้นมีคนส่งเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อทำร้ายลูกสาวเธอ
แล้วมาลงที่ดิฉัน

โพสต์เมื่อ : 17 ส.ค. 2550 เวลา 01:46 น.       

พี่นั่งคิดแล้วบางทีก็อยากจะขับรถออกไปบ้านอีนังเทาชมพู แล้วจ่อยิงมันทิ้งคาบ้านมันเลย  แต่ถ้าพี่ทำ พี่จะกลายเป็นคนเลวใช่มั้ย  สังคมจะมองพี่เป็นคนเลวที่สุดเลยใช่มั้ย  แต่กับไอ้พวกชาติหมาในร่างคนพวกนั้นหล่ะ  มันเลวเทียบกับอะไรได้บ้างที่ทำกับเด็ก และทำให้กลายว่าเกิดอุบัติเหตุ
พี่ก็ไม่โง่ ที่จะทำไม่เป็น ยิ่งอุบัติเหตุทางท้องถนน ทำง่ายจะได้ที่จะทำให้คดี..ลอบสังหาร หรือ  ฆาตกรรม กลายเป็น คดีอุบัติเหตุ  แต่พี่มีความรู้สึกว่า เลวก็ให้มันรู้ไปเลยว่า "กูเลว" ไม่ต้องตีสองหน้า  ________________________________________
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 30 ม.ค. 08, 12:57

มาถึงตรงนี้ ดิฉันก็อยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป    เพราะเป็นการขู่ฆ่าทำร้ายถึงชีวิต   จึงต้องขึ้นสถานีตำรวจเป็นครั้งแรก
ขอให้ร้อยเวรลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เป็นหลักฐาน
หลักฐานการแจ้งความก็ยังเก็บไว้จนบัดนี้   เผื่อจะต้องนำออกมาใช้

ต่อจากนั้นก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี   เพราะเรื่องประเภทนี้ ไม่เคยเกิดมาก่อนในชีวิต
มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นใครจะเจออย่างเราสักคน 
สาเหตุอย่างหนึ่งก็คือ เหตุเกิดจากในอินเทอร์เนต  ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่การสื่อสารล้ำสมัย   ไม่ใช่เหตุเกิดตามถนนหนทางหรือในอาคารบ้านเรือนอย่างธรรมดา

คนที่ขู่ปองร้ายดิฉัน เป็นคนที่มีแต่ชื่อ และรูปถ่าย    ไม่รู้จักว่าเป็นใคร  ทำอะไร อยู่ที่ไหน  เปรียบเสมือนคนอยู่ในเงามืด ส่วนดิฉันเหมือนคนอยู่ในที่แจ้ง 
เพราะเขารู้ว่าดิฉันเป็นใคร  ที่อยู่ที่ไหน 

ดิฉันจะเริ่มตรงจุดไหนดี  ในเมื่อสิ่งที่เราและแฟนคลับคิดว่าเป็นการ"ป่วน" กันอย่างธรรมดา  สมควรจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เพื่อให้เงียบไปเอง
กลายเป็นเรื่องถึงขั้นเอาชีวิตกันเสียแล้ว

ถึงตรงนี้ ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากหาทนายความ     เมื่อได้มาแล้ว   ทนายความก็แนะนำให้ดิฉันขึ้นโรงพัก เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 30 ม.ค. 08, 13:24

อันที่จริง สถานีตำรวจก็อยู่ไม่ไกลบ้านเท่าไร  แต่ว่าคนอย่างดิฉันไม่เคยมีธุระอะไรจะต้องไปที่นี่เลยสักครั้งเดียว   ก็เลยงงๆอยู่เหมือนกันว่าจะเริ่มตรงไหนดี
เมื่อตัดสินใจว่าจะไปแจ้งความ ก็ไปด้วยตัวเอง  ไม่เอาใครไปด้วยแม้แต่ทนายความ 

ความจริงในฐานะศิลปินแห่งชาติ  ทางจังหวัดก็เคยส่งนายตำรวจมาดูแล   เรียกว่าเกิดอะไรที่บ้านก็โทรหาเขาได้
แต่ว่านายตำรวจคนนั้นเพิ่งจะย้ายไป  ยังไม่ได้ติดต่อกับคนใหม่   ดิฉันก็เลยเดาสุ่มไปสถานีตำรวจคนเดียว
แต่งตัวธรรมดา เดินเข้าไป  ไม่มีมาดอย่างใดทั้งสิ้น   สามีไปทำงาน แต่เขานัดไปเจอกันที่สถานีตำรวจแล้วรับกลับบ้าน

เปิดประตูเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน เป็นห้องยาวโล่งตลอดมีโต๊ะทำงานของนายตำรวจเรียงรายกันไป   ตามหน้าโต๊ะต่างๆมีประชาชนชาวบ้านมานั่งจับกลุ่มกันอยู่   คงจะเป็นพวกเจ้าทุกข์
มองหาว่าโต๊ะไหนว่าง  ก็เจออยู่ตัวหนึ่งเพิ่งจะว่าง    ดิฉันก็เลยเข้าไปนั่ง   บอกว่าจะมาแจ้งความ

นายตำรวจคนนั้น ขอเรียกแต่เพียงชื่อว่า สารวัตรณรงค์ฤทธิ์   เป็นรองผู้กำกับฯ   ฟังเรื่องที่ดิฉันเล่าอย่างเอาใจใส่
เพื่อให้เรื่องราวกระชับและเข้าใจง่าย   ดิฉันเตรียมเอกสารไปด้วยล่วงหน้า   เป็นการสรุปเรื่องย่อที่เกิดขึ้น และตัวอย่างข้อความที่หมิ่นประมาทดิฉัน   
เพื่อสารวัตรจะได้อ่านเข้าใจง่ายๆ  ไม่ต้องซักถามกันยืดยาวเปลืองเวลากันทั้งสองฝ่าย  เท่าที่สังเกตดูนายตำรวจที่นี่ก็มีงานทำกันแทบไม่ได้ว่างเว้นเลยทั้งวัน
ดิฉันก็หยิบเอกสารจากแฟ้มส่งให้สารวัตรอ่าน  และตอบคำถามที่สารวัตรถามเพิ่มเติม    เรื่องแจ้งความก็จบลงได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลา

ดิฉันอยากจะขอบอกท่านทั้งหลายที่อาจจะมีโอกาสขึ้นโรงพักเป็นเจ้าทุกข์ ไม่ว่าคดีอะไรก็ตาม  ขอเรียนว่ากรุณาอย่ากลัวโรงพักหรือตำรวจ    ของจริงไม่ได้น่ากลัวหรือเลวร้ายอย่างที่เรามักจะถูกให้วาดภาพว่าเป็นเช่นนั้น

อย่างน้อยดิฉันคนหนึ่งละค่ะ  ที่รู้สึกเช่นนี้

ข้อสำคัญคือเราต้องช่วยการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ให้เขาสะดวกขึ้น เช่นเตรียมหลักฐานไปให้พร้อม  บอกเล่าให้รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องอะไร  ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยในเรื่องไหน 
มีหนทางไหนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้รวดเร็วขึ้น จากเบาะแสที่แจ้งให้ทราบ  ก็บอกไป   คือมีอะไรก็อย่าอมพะนำไว้  บอกไปให้หมด
หลักฐานมีมากน้อยแค่ไหน ควรจะจัดเรียงไว้เป็นระเบียบ  ทำเป็นเอกสารส่งให้ตำรวจได้เห็น เพื่อจะย่นย่อเวลาในการสืบสวนจับกุมได้ง่ายขึ้น

เพราะนายตำรวจคนหนึ่ง ไม่ได้รับผิดชอบเฉพาะคดีของเราคนเดียว    คนหนึ่งมีเป็นหลายสิบคดีพร้อมๆกันในมือ  ต้องสะสางกันทุกคดีในมือคนๆเดียว
มีตั้งแต่คดีใหญ่ๆไปจนคดีเล็กๆ สัพเพเหระ
ดังนั้นอะไรที่ช่วยให้เขาปิดคดีเราง่ายขึ้น ก็ต้องช่วยทำเท่าที่จะทำได้  อย่าทำแค่แจ้งความด้วยวาจา เซ็นชื่อว่าเป็นเจ้าทุกข์ แล้วที่เหลือส่งให้ตำรวจทำหมด   พอไม่คืบหน้าก็โวยวายว่าตำรวจไม่สนใจ

ตั้งแต่ขึ้นโรงพักในครั้งนี้  ดิฉันเห็นใจการทำงานของตำรวจมากขึ้นเยอะค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 30 ม.ค. 08, 15:21

สารวัตรต้องการหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท   ทนายความจึงยกไปให้ในครั้งต่อไปที่นัดไปพบ
ต้องใช้คำว่า" ยก" ก็เพราะรวมหน้ากระดาษที่พิมพ์จากเว็บนั้น  ได้แฟ้มใหญ่มหึมาถึง ๔-๕ แฟ้ม  หิ้วกันจนตัวเอียง
รวมเป็นพันหน้าเห็นจะได้
เนื่องจากมีการใช้ถ้อยคำต่อเนื่องยาวนานมากกว่า ๑ ปี  ลงเกือบทุกวัน

ในเมื่อ ๑ ครั้งนับเป็น ๑ คดี ก็ไม่ต้องสงสัยว่าทั้งหมดปาเข้าไปกี่ร้อยกี่พันคดี

จึงเป็นข้อเตือนใจว่า ถ้าหากว่าคุณตกอยู่ในสถานการณ์แบบดิฉัน  อย่าได้เมินเฉยต่อถ้อยคำ ว่าเป็นสิ่งรกหูรกตา เลยปิดจอคอมพ์แล้วไม่อ่านอีก
แต่คุณจะต้องเซฟเอาไว้ให้หมด  ทุกหน้า ทุกคำ   เก็บลง folder ไว้โดยเฉพาะก็ได้  เพื่อเป็นหลักฐาน
ยิ่งมากเท่าไรคุณก็ยิ่งมีโอกาสพิสูจน์ความจริง ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลมากเท่านั้น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 30 ม.ค. 08, 15:36

เมื่อตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อหานี้เข้าขั้นจะทำเป็นคดีได้  ก็จะส่งหมายเรียกไปยังอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ปากคำ  ว่ากระทำอย่างที่เจ้าทุกข์มาร้องเรียนหรือเปล่า
นี่คือขั้นตอนตามกฎหมายที่ตำรวจต้องปฏิบัติ  คดีของดิฉันหรือคดีของใครก็ไม่ได้รับการยกเว้น

การส่งหมายเรียกเขาส่งไปตามที่อยู่ตามหลักฐานราชการ  คือที่อยู่ในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ไม่ใช่ที่อยู่โดยพฤตินัย  ซึ่งเจ้าตัวอาจจะไปเช่าห้องพักที่ไหนอยู่ก็ได้
เหตุผลก็คือที่อยู่ในหลักฐานพวกนี้ ชัวร์แน่ๆว่าถึง    ต่อให้เจ้าตัวย้ายไปที่ไหนก็ตาม  ก็ต้องมีญาติที่อยู่ในบ้านนั้นแหละส่งข่าวไปบอกกันได้ ว่ามีหมายจับตำรวจมาถึงแล้วนะ
ปกติถ้าญาติไม่ใจไม้ไส้ระกำเสียเหลือแสน ก็ต้องตื่นตระหนกส่งข่าวบอกกันทุกราย     เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือยิ่งแสนสะดวก โทรกริ๊งเดียวบอกกันได้

หมายเรียกส่งไปครั้งแรกถ้าไม่มีคนรับ หรือถูกส่งกลับมา  ก็ต้องส่งอีกครั้ง
ถ้ายังเพิกเฉย  ก็ต้องออกหมายจับ  ผู้เซ็นอนุมัติคือศาล  ไม่ใช่สารวัตรเจ้าของคดี

หมายเรียกที่ว่านี้ส่งไป ๒ ครั้งตามเลขที่บ้านในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน   ลงทะเบียนด้วย  ปรากฏว่าถูกตีกลับ ไม่รับ
ศาลจึงออกหมายจับ  แต่กว่าจะออกหมายจับในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ    ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมหาหลักฐานจนแน่ใจ จึงจะส่งได้

เพราะฉะนั้นใครที่คิดง่ายๆว่า การลงข้อความในอินเทอร์เนต เห็นแต่ถ้อยคำ ไม่เห็นหน้า ไม่เห็นตัว ไม่ถูกจับได้ขณะกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่พอดี    ย่อมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
โปรดทราบว่าคิดผิด    มีหลักฐานหลายอย่างที่จะนำมามัดตัวได้ในกรณีนี้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 19 คำสั่ง