เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
อ่าน: 23915 2550 - แบคแพค ตะลุยพม่า!!
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 09 ก.พ. 08, 17:05

อู้มาซะนาน เล่าต่อครับ



บทที่ 11: งานเทศกาลวันออกพรรษา



ก่อนจะเล่าต่อ นายติบอขอทวนความจำนิดนึงครับ
ว่าประเพณีการเผาเทียนเล่นไฟของพุทธศาสนิกชนทุกชาติ
เราจะทำกันในคืนวันออกพรรษาเพื่อระลึกถึงการเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ของพระพุทธองค์
ยกเว้นคนไทยที่รับอิทธิพลฮินดู ไปลอยกระทงกันเดือน 12 ฉลองให้พระรามแทน
(เหลือแต่พญานาค ที่ยังจำได้ เลยมาเล่นไฟกันอยู่กลางแม่น้ำโขงซะละ)

คืนนี้ทั่วเมืองพุกามก็เลยมีการเผาเทียน เล่นไฟ กัน



สืบเนื่องจากความ "น่าตื่นตาตื่นใจ" ของประเพณี และสถานที่
ความ "หิว" และความ "เหนื่อย" ก็เลยถูก "ความอยากรู้อยากเห็น" เข้าแทนที่ในบัดดล
เรา 3 คนก็เลยเลือกที่จะเดินลัดเลาะไปตามถนนกันก่อน
เพื่อชมบรรยากาศของสังกัสสะนครยุคพุทธศักราช 2550









ที่พระพุทธเจ้ายังคงเทศนาโปรดปัญจวคีย์ทั้ง 5 ในป่าอิสิปัตนมฤคทายวัน
เหมือนเมื่อครั้งพุทธกาล













เราเดินตามแถวตะเกียงดินเผาดวงน้อยๆ
ที่ส่องแสงวับแวมนำทางไปตามริมรั้วไปจนสุดถนน
ถึงวัดแห่งหนึ่ง ชื่อ ที่เป็นสำนักสงฆ์มาตั้งแต่สมัยอาณาจักรพุกามยังเรืองอำนาจ
และยังคงเป็นสำนักสงฆ์ อยู่ในปัจจุบัน









เราแวะไหว้พระกันที่นั่น ก่อนจะเดินจากมา









จนถึงลานชุมนุมขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้านนยองอู
บันทึกการเข้า
chai1960
มัจฉานุ
**
ตอบ: 67



ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 26 ก.พ. 08, 20:45

เล่าได้สนุกดี...แต่มีบทอู้มากไปหน่อย... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

อ่านข้าม ๆ ในบทราชวงศ์...ขออภัยด้วยนะ...ทศไว้ก่อน...วันหลังค่อยมาอ่าน... แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น



บันทึกการเข้า

ประวัติศาสตร์เหมือนสายน้ำมีทั้งช่วงที่ไหลรินฉ่ำใสและช่วงที่ถาโถมทำลาย
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 12 เม.ย. 08, 15:11

แวะมาต่อกระทู้ก่อน
เพราะช่วงนี้นายติบอพอจะหาเวลาว่างได้
(เดี๋ยวจะพาลไม่ได้เล่าอีก)


ตอนที่ 12: ชเวสิกง


ลานกลางหมู่บ้านในเมืองนยองอู ก็เหมือนลานกลางหมู่บ้านทั่วไป
ที่ใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆของคนในชุมชน
คืนนี้ บรรยากาศของงานเฉลิมฉลองของพุทธศาสนิกชน
ที่ยังคงศรัทธาในพระบรมศาสดาอยู่ทุกอนุสติของเขา จึงเริ่มต้นที่นี่

แม้ว่าช่วงที่คณะเดินทางจะไปเยี่ยมเยียนแดนอริมัทนประเทศ
จะเป็นเวลาอดอยากแร้นแค้นขาดแคลนนักท่องเที่ยว ของเมืองมรดกโลกอย่างไรก็ตาม....
แต่ประชาชนที่ขวนขวายหาเงินสักพันสองพันจั๊ตในแต่ละวัน...
ก็ยังคงจัดงานเฉลิมฉลองของพวกเขาตามประเพณี เพื่อระฦกถึงพระพุทธองค์ที่เขาเคารพรักอยู่อย่างมิเสื่อมคลาย

ตามปรกติ งานออกพรรษาที่นี่คงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งหัวแดง หัวดำ
ที่แห่แหนกันมาดูงานบุญประเพณีที่ปีนึงจะมีสักหน.....
แต่เมื่อรัฐบาลและฝ่ายค้านมีปัญหากันขั้นรุนแรง..... นายติบอกะเพื่อนอีก 2 คน
ก็เลยกลายเป็นนักท่องเที่ยวแค่ไม่ถึงสิบคนที่อยู่ในขบวนแห่แหนตระการตา

ขบวนเริ่มจากหนุ่มพม่าตัวผอมเกร็งนุ่งอลองจียาวกรอมเท้า
สวมเสื้อผ้าป่านสีขาวมีผ้าคล้องสองบ่า ประทานาข่าเต็มสองข้ามแก้ม
เดินรำนำขบวนมากับพระเณร หลายรูป
ตามมาด้วยสาวพม่าประทานาข่ามากพอๆกับหนุ่มๆกลุ่มแรก
ถือโคมหลากสีรูปดอกบัวทำจากกระดาษโปร่งแสง
จุดเทียนดวงน้อยนิดส่องแสงวับแวมให้เห็นทางอีกกลุ่มใหญ่

และปิดท้ายด้วยรถกระบะคันเก่า ที่ตกแต่งด้วยไฟหลอดน้อยๆหลายร้อยหลอด
บรรทุกเอาคณะนักดนตรีที่บรรเลงเพลงพื้นบ้านด้วยเครื่องดนตรีหลากชนิดไว้
ตั้งแต่กลองแอวตัวยาวหลายเมตรรุ่นโบราณ ไปจนถึงคีย์บอร์ดสมัยใหม่
บรรเลงเพลงเป็นท่วงทำนองให้ขบวนแห่ของชาวพุกาม











เรา 3 คนก็ได้แต่เดินตามขบวนมหาชนยาวหลายร้อยเมตรของชาวนยองอูไป
จนถึงจุดหมายของพวกเขา.... ที่พระมหาเจดีย์ชเวสิกง องค์สูงที่ปลายถนนเบื้องหน้า











พระมหาเจดีย์ชเวสิงกง เป็นพระมหาเจดีย์ประจำเมืองพุกาม
ซึ่งสร้างขึ้นตามรูปแบบศิลปะแบบพุกามแท้ที่ปรับปรุงรูปแบบมาจากศิลปะแบบปยูเดิม
พระมหาเจดีย์องค์นี้เชื่อว่าเป็นที่บรรจุพระเขี้ยวแก้วจำลอง
ซึ่งพระเจาอโนรธาได้รับพระราชทานมาจากพระเจ้าวิชัยพาหุจากลังกา
เนื่องจากเมื่อพระเจ้าวิชัยพาหุทรงขับไล่ชาวโจฬะออกจากลังกาแล้ว
ในลังกาไม่เหลือพระสงฆ์ในการสืบทอดพระศาสนา
พระเจ้าอนิรุทธิ์จึงทรงให้ความช่วยเหลือในการทำนุบำรุงพระศาสนาแก่พระเจ้าวิชัยพาหุ
ทางลังกาจึงทรงตอบแทนโดยการส่งพระเขี้ยวแก้วจำลองมามอบให้เป็นของขวัญแก่ชาวพุกาม










แต่คืนนี้.... ใต้แสงตะเกียงนับพันนับหมื่นดวง.....
ประวัติศาสตร์ ไม่ได้มีความหมายกับนักเดินทางเท่าบรรยากาศตรงหน้าครับ
เสียดายนายติบอไม่มีความสามารถเก็บรูปมาฝากกันได้เท่าที่เห็น....
สมาชิกท่านอื่นอย่าต่อว่านะครับ รูดซิบปาก











แต่ไม่มีงานฉลองใดไม่มีวันเลิกรา....
คืนนี้นักเดินทางทั้ง 3 ก็จำต้องบอกลาพระเขี้ยวแก้วมาในที่สุด
และ... ก่อนจะกลับไปพักผ่อน
เราขอปิดท้ายกันที่อาหารตามสั่งแบบหาสัญชาติไม่เจอ
ใต้แสงเทียน(ที่เต็มไปด้วยแมลงรบกวน) ที่ร้านเชอรี่กันซักหน่อยครับ


อิ่ม.... อกอิ่มจัย งุงิ





บันทึกการเข้า
Kurukula
สุครีพ
******
ตอบ: 1303



ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 15 เม.ย. 08, 12:50

คุณติบอถ่ายรูปเบลอเนาะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 18 ก.ค. 08, 22:13

กระทู้ข้ามชาติ.... บักตั้วก็ไม่มาเล่าต่อซะที
มีแต่มาแซวว่าเราถ่ายรูปเบลอ... แล้วก็ดับแนวไปเลย ฮึ

นายติบอเล่าต่อเองครับ


ตอนที่ 13: เช้าวันแรก

หลังจากคืนวันแรกที่มาถึงเมืองพุกาม เราตื่นขึ้นแล้วพบว่าไม่มีน้ำอุ่นให้อาบ!!!
อุ๋ย.... หนาวสะท้านแต่เช้าเลยครับ เหตุเกิดเพราะเรามาพม่ากันตอนที่คนอื่นเขาไม่กล้ามา
รีสอทยี่สิบกว่าห้องที่เราเข้าพักก็เลยไม่มีคนอยู่..... เครื่องทำน้ำอุ่นที่ควรจะเปิดตลอดเวลา....
ก็เลยเปิดเฉพาะตอนค่ำ แหม่ คิดว่าเราเป็นฝรั่งอาบน้ำกันวันละครั้งรึงาย...... ม่ายมีทางซะร๊อก
พี่ไทยจะวีนให้คราวนี้ล่ะ...... แต่หลังจากที่เราเข้าไปคุยกับโรงแรมแล้ว
เฮ่อ... เขาก็ได้แต่ say sorry มาอยู่ดี ร้องไห้ อาบน้ำเย็นๆก็ได้เจ๊อะๆ

อาหารเช้าวันแรกมีขนมปังปิ้ง ไข่กวนที่ให้เลือกได้ว่าจะใส่อะไรบ้าง....
มี 2 ตัวเลือก คือหอมแขกที่ทอดยังไงก็ไม่สุก กับมะเขือเทศลูกไม่ใหญ่นัก
เนยสีส้มหน้าตาแปลกๆ และแยมสตรอว์เบอรี่สีน้ำตาล
เสริฟคู่กับชาแขกหวานอร่อยสีส้มแป๊ดใส่นมใสๆ กับกาแฟจางๆ
ผลไม้เป็นกล้วยหอมที่ยังเขียวปี๋และฝาดหน่อยๆ แตงไทย กับมะละกอห่ามๆ
แล้วเราก็กินกันหมด (เพราะมันเป็นสวรรค์บ้านไร่เลย ถ้าเอาไปเทียบกับการเที่ยวอินตะระดึ๋ยตะระเดีย หิหิ)



อาหารเช้าวันแรกพยายามถ่ายแล้วแต่มันก็ไม่สวยนะครับ
เอาดอกไม้หน้าโรงแรมมาฝากเป็นบรรณาการก่อนนำเที่ยวแล้วกันครับผม








บันทึกการเข้า
Bana
องคต
*****
ตอบ: 439



ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 19 ก.ค. 08, 00:22

เข้ามาให้กำลังใจท่านพี่  ว่าต่อเลยครับ (มีรูปสาวพม่าแจ่มๆมาฝากด้วยจะเป็นพระคุณ)....อิอิ  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 04 ก.พ. 10, 02:40

ทิ้งกระทู้ไว้นาน(มากกกกกกกกกกกกกกก) จนไปพม่ามาอีก 2 รอบ
และอาจจะมีรอบที่ 3 ในเร็ววัน.... จนโดนคุณมานิตบ่นถึงในกระทู้พม่า (อีกกระทู้ไปเสียแล้ว)
ขออนุญาตมาเคาะสนิมที่นี่นะครับ



ปล. ผมโดนเตือนว่าเป็นกระทู้ที่ไม่มีการตอบมากกว่า 120 วัน กรุณาเริ่มหัวข้อใหม่ล่ะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 19 คำสั่ง