ถึงวัดทองหมองเศร้าให้เหงาเงียบ เย็นยะเยียบหย่อมหญ้าป่าช้าผี
สงสารฉิมนิ่มน้องสองนารี มาปลงที่เมรุทองทั้งสองคน
ขอบุญญาอานิสงส์จำนงสนอง ช่วยส่งสองศรีสวัสดิ์ไปปัฏิสนธิ์
ศิวาลัยไตรภพจบสกล ประจวบจนได้พบประสบกัน
ทั้งแก้วเนตรเกสรามณฑาทิพย์ จงลอยลิบลุล่วงถึงสรวงสวรรค์
จะเกิดไหนได้อยู่คู่ชีวัน อย่ามีอันตรายเป็นเหมือนเช่นนี้ฯ
เวลาอ่าน ต้องแยกค่ะ
ถึงวัดทองหมองเศร้าให้เหงาเงียบ เย็นยะเยียบหย่อมหญ้าป่าช้าผี
สงสารฉิมนิ่มน้องสองนารี มาปลงที่เมรุทองทั้งสองคน
ขอบุญญาอานิสงส์จำนงสนอง ช่วยส่งสองศรีสวัสดิ์ไปปัฏิสนธิ์
ศิวาลัยไตรภพจบสกล ประจวบจนได้พบประสบกัน
นี่คือจบตอนแม่ฉิมแม่นิ่ม กวีรำลึกตอนผ่านวัดทอง(ไม่ทราบว่าชื่อเต็มคืออะไร) เพราะว่าผู้หญิงสองคนนี้ตายมาเผาที่นี่
ก็ส่งจิตรำลึกขอให้ไปสู่สุคติ ได้ขึ้นสวรรค์ จนกว่าจะได้พบกันอีกครั้ง
สังเกตว่าไม่มีการรำพันถึงความรักฉันชู้สาว เพียงแต่แผ่ส่วนกุศลไปให้ ส่วนลงท้ายก็เป็นการกล่าวอย่างเรียบๆ แค่ได้พบกัน เหมือนสองคนนี้เป็นญาติพี่น้อง ไม่ใช่คนรัก
ทั้งแก้วเนตรเกสรามณฑาทิพย์ จงลอยลิบลุล่วงถึงสรวงสวรรค์
จะเกิดไหนได้อยู่คู่ชีวัน อย่ามีอันตรายเป็นเหมือนเช่นนี้ฯ
นี่คือความอีกตอนหนึ่ง มีคำว่า "ทั้ง" เริ่มต้นไว้ เป็นการคั่นระหว่างบทก่อนกับบทนี้ให้รู้ว่าคนละคน
แก้วเนตร แปลว่าแม่แก้วตา(พี่) มณฑาทิพย์ เป็นสร้อยคำประกอบชื่อเกสรา บอกให้รู้ว่าเปรียบแม่คนนี้เป็นดอกไม้สวรรค์ น่าจะมีฐานะในสังคมดีกว่าหญิงชาวบ้านทั่วไป
ยิ่งอวยพรให้หล่อนเป็นดอกไม้สวรรค์ที่ลอย(กลับ)ขึ้นไปถึงสวรรค์ ก็ยิ่งเห็นว่ายกย่องคนนี้
จะเกิดไหนได้อยู่คู่ชีวัน วรรคนี้แน่นอนว่าเป็นเมีย
ส่วนวรรคท้ายแสดงว่าแม่เกษ ตายเพราะอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เจ็บป่วยหรือแก่ตาย
ในพระอภัยมณี สุนทรภู่ตั้งชื่อตัวละครหญิง เมียของศรีสุวรรณว่า นางแก้วเกษรา ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีที่สุดในบรรดาเมียๆของพระเอกพระรอง
สวย อ่อนหวาน ไม่มีความหึงหวง จงรักภักดีต่อสามี เสมอต้นเสมอปลาย แต่ไม่ค่อยมีบทบาท เป็นภาพที่เลือนๆเมื่อเทียบกับคนอื่น
เป็นได้ว่าเอาเค้าโครงการสร้างมาจากแม่เกษคนนี้แหละค่ะ