เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 8904 วาระแห่งชาติ แปลว่าอะไรครับ
ภูมิ
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 196


 เมื่อ 10 ต.ค. 07, 12:47

อะไรอะไรก็วาระแห่งชาติ
ตกลง วาระแห่งชาติ แปลว่าอะไรครับ  ยิ้มเท่ห์
แล้วมีผลทางการปฎิบัติอย่างไร

ไม่รู้จริงๆครับ อายจัง
บันทึกการเข้า
หนอนบุ้ง
อสุรผัด
*
ตอบ: 113


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 10 ต.ค. 07, 22:46

ขอร่วมด้วยช่วยเดาค่ะ

เข้าใจว่านักการเมืองมักจะมี วาระซ่อนเร้น (ฮิดเดิ้น อาเจ้นด้า)
คนมั่นใจตัวเองซู้ดๆๆๆ ก็จะประมาณว่าข้ามีอาเจ้นด้าของข้าเอง

ส่วนวาระแห่งชาติ หนูทายว่ามาจากคำ national agenda ที่เป็น ไพออริตี้ ของชาติมังคะ

ถ้ามั่วผิด ก็ขออภัยด้วยค่ะ ฮี่ๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
OBORO
ชมพูพาน
***
ตอบ: 158

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมเจอร์ฟิสิกส์


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 10 ต.ค. 07, 23:43

หลังจากคุยกับน้อง goog มา เลยเอาลิ้งค์นี้มาฝากครับ น่าจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง

http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=1648&stissueid=2498&stcolcatid=9&stauthorid=10



บันทึกการเข้า
ภูมิ
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 196


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 12 ต.ค. 07, 11:51

ขอบคุณครับ

ที่ยิ่งสงสัยไปกว่านั้นก็คือ การประกาศเป็นวาระแห่งชาติ มีความหมายอะไร  เป็นแค่คำขวัญเฉยๆใช่ไหม
บันทึกการเข้า
Hotacunus
องคต
*****
ตอบ: 613


AD FRANCIAM


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 13 ต.ค. 07, 04:38

วาระแห่งชาตินี้ ตามความเข้าใจของผมนะครับ คือ เป็น งานที่จะต้องลงมือทำเป็นอันดับแรกๆ เพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญ

แต่ในทางปฏิบัติคือ "พิธีการเผาฟาง" ครับ  ยิงฟันยิ้ม ประมาณมวยล้มต้มคนดู  ยิงฟันยิ้ม

ก็ประกาศไปเท่ๆ อย่างนั้นแหละครับ ถ้าทำกันจริงจัง ไม่โกงกินกัน ซักสองสามโครงการ ประเทศไทยก็คงเจริญไปได้อีกหลายขั้นแล้วครับ อิอิ  เจ๋ง


บันทึกการเข้า
หนอนบุ้ง
อสุรผัด
*
ตอบ: 113


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 13 ต.ค. 07, 08:20

ตามที่คุณภูมิได้ถามไว้ว่าแปลว่าอะไร ผลทางปฏิบัติเป็นอย่างไรนั้น

ตามความเห็นแรกของหนูเอง ออกไปทางเน็กกาถีบ ซึ่งขอบอกว่าหนูรู้สึกจริงๆ แบบนั้น แต่ภาวนาในใจว่าขอให้เลิกกันเสียทีนะท่านนะ

แต่ถ้าจะให้ตอบแบบบ้านๆ ตามความหมายตรงตัวก็ไม่น่าจะมีอะไรซ่อนเร้น ไม่ใช่แค่คำขวัญ แต่เป็นประกาศซึ่งบ่งบอกเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง ซึ่งยังผลทางการปฏิบัติให้เป็นไปตามวาระที่ได้ประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม

เรื่องนี้จะพูดกันให้ยาวและลึกไปกว่านี้ เห็นทีจะกลายเป็นข้อโต้เถียงทางการเมืองไปเสียมากกว่าโทปิคภาษาวรรณคดี

แบบว่า หนูหมั่นใส้น่ะ ประมาณว่า ประชาชน นักธุรกิจจะทำอะไรก็ได้ ถ้าย้ายเงินจากกระเป๋าเอ็งมากระเป๋าข้าเสียก่อน เมื่อนั้นแกจะทำอะไรข้าก็ยินดีและหนับหนุน เมื่อไหร่เอ็งทำอะไรข้ามหน้าข้า เมื่อนั้นข้าก็จะใช้อำนาจในมือสั่งรื้อเสียเลย ไอ้เงินก่อนหน้านี้ มันคนละเคสกันเฟ้ยยยย อุ๊บสสสส์  รูดซิบปาก

เอ้อออ ขอโทษค่ะ อัดอั้นจัง อิ อิ

ขอแอบบอกว่า เห็นด้วยกับคุณ Hotacunus ทุกประการ

บันทึกการเข้า
ภูมิ
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 196


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 15 ต.ค. 07, 09:16

ยิ้มเท่ห์
ได้แต่ยิ้ม(แห้งๆ)ครับ
บันทึกการเข้า
BLUECOLOR
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 ต.ค. 07, 18:49

ขออนุญาต เขียนความเห็น ดังนี้

1. เรื่องสำคัญ เร่งด่วน  ที่รัฐบาล (ตามอุดมคติ  คืออาสามาทำงานให้ประเทศชาติ มิใช่มาเล่นการเมือง)
เล็งเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็น ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก ๆ 
...พูดง่าย  จำเป็น  สมควร  เร่งด่วน และ สำคัญ 

2. การกำหนดเรื่องใดเป็นวาระแห่งชาติ   น่าจะอยู่ในดุลยพินิจว่า  เรื่องนั้นมีผลกระทบกับประเทศชาติโดยรวม
ทั้งที่ผ่านมา   รวมทั้งจะส่งผลต่อไปในระยะสั้นด้วย   

3. เมื่อรัฐบาลเล็งเห็นแบบนั้น  (ด้วยความคิดที่ไม่อคติเอนเอียง ) ก็ควรสร้างความเข้าใจให้ประชาชนในชาติได้ตระหนักและรับรู้  และสร้างความเข้าใจร่วมกันด้วย     จึงถือเป็นการสร้างความสมานฉันท์ ที่แท้จริง
... คือ มีความต้องการตรงกันเสียก่อน แล้วจึง สามัคคีปรองดองกันได้
ไม่ใช่ว่า ยังเห็นแย้งกันอยู่แท้ๆ  จะให้สามัคคี  ซึ่งด้วยเหตุและผล มันเป็นไปไม่ได้ อย่างที่พยายามทำอยู่ในหลายๆ เรื่อง

** ที่ว่านี้ค่อนข้างเลิศหรู   เพราะอยู่บนสมมติฐานว่า  รัฐบาล ในอุคมคติ  คือ  ทำงานเพื่อบ้านเมือง

หมายเหตุ (นอกเรื่อง)  -  ดิฉันจะเข้าใจผิดหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ   เคยคิดอยู่เสมอว่า คำว่า รัฐ  เฉยๆ นั้น หมายถึง ประเทศไทย   ไม่ใช่รัฐบาล    เข้าใจอย่างนั้นมาช้านาน   จนกระทั่งเมื่อ ห้าปีก่อนนี้  คำว่า รัฐ กลายเป็น รัฐบาล ไปเสียแล้ว
เลยต้องพยายามทำความเข้าใจเสียใหม่  แต่เรียนว่าไม่คุ้น และ ไม่อยากจะยอมรับเลย
 

บันทึกการเข้า
Karine!!
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130

กำลังค้นหาทางสว่างของชีวิต


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 21 ต.ค. 07, 00:20

วันนี้เพิ่งได้ร่วมผลักดันให้ "การอ่าน" เป็นวาระแห่งชาติคะ โดยการไปลงชื่อสนับสนุน
และไปงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติมา ก็ทำให้รู้สึกว่า คนไทย ก็รักการอ่านนี่หน่า เดินกันเบียดเสียด แย่งกันซื้อหนังสือกันมากมาย
แต่ทำไมคนไทยอ่านหนังสือกันเฉลี่ยแล้วไม่ถึง 10 บรรทัด

คงเป็นเพราะเฉลี่ย ทั้งประเทศ แต่คนที่อ่าน เป็นเพียงแต่คนเมือง

แต่งานสัปดาห์หนังสือก็คนแน่นทุกปีๆจริงๆนะคะ หรือคนไทย "อ่าน" กันเป็นวาระจริงๆ คือ 2 ปีต่อครั้งในงานหนังสือแห่งชาติเดือน เมษายนและตุลาคมเท่านั้น

เฮ่ออ

บันทึกการเข้า

การศึกษาก้าวไกล ประเทศไทยรุ่งเรือง (แต่ตอนนี้ตูรุ่งริ่งชอบกล)
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.122 วินาที กับ 19 คำสั่ง