Kurukula
|
รบกวนท่านผู้รู้ภาษาจีนนิดนะครับ ผมอยากทราบว่าตอนต่างๆของเรื่องห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร ในพระบวรราชวัง มีตอนอะไรบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:28
|
|
อยากทราบชื่อตัวละครน่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:32
|
|
รูปนี้น่าจะเห็นชื่อชัดกว่านะครับ ทราบเพียงแต่เด็กที่ไว้จุก 2 ข้างน่าจะเป็นนาจา
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:35
|
|
เก๋งนี้น่าจะสร้างขึ้นประมาณรัชกาลที่ 4 ตอนที่สมเด็จพระปิ่นเกล้าประทับอยู่ ณ พระบวรราชวัง ปัจจุบันอยู่ในซอกหลืบหลังตึกประพาสพิพิธภัณฑ์ ถ้าไม่ดูแผนที่มาก่อนก็ไม่อาจทราบได้ว่ามีโบราณสถานอีกแห่งในวังหน้า
ภาพนี้น่าจะเป็นเห้งเจียในไซอิ๋ว แต่ไม่ทราบว่าตอนใดครับ (มีตะขาบด้วย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:37
|
|
อีกตอนครับ มีชื่อตัวละครเขียนกำกับไว้ทุกตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:39
|
|
นิตยสารศิลปากร ฉบับราวๆ ปี 2517 มีอยู่เล่มหนึ่ง ลงเรื่องการบูรณะที่นี่ไว้ คุ้ยดูในห้องสมุดน่าจะเจอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:45
|
|
ผมลองไปหาดูแล้วครับคุณพิพัฒน์ อาจารย์ศานติ ภักดีคำ เคยตีพิมพ์ไว้ในเมืองโบราณ แต่เนื่องจากเป็นงานที่แบ่งกับเพื่อน (ทั้งคลาส) เขาสามารถหยิบยกไปพูดถึงได้โดยซ้ำกับในหนังสือนั้น ผมคิดว่าน่าจะเลือกรูปที่ไม่ได้ตีพิมพ์มาค้นต่อเองมากกว่า แต่ก็ติดขัดอยู่บ้างที่ไม่ทราบภาษาจีน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:48
|
|
อีกสักภาพนะครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 12:51
|
|
เคยอ่าน"ห้องสิน" เด็กคนนั้นน่าจะเป็นโลเฉีย ส่วนผู้เฒ่าหนวดยาวขี่กวาง น่าจะเป็นเกียงจูแหย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 13:14
|
|
ไม่ทราบว่าผู้เฒ่าขี่กวางของอาจารย์เทาชมพูจะใช่ผู้นี้หรือไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 13:15
|
|
ครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 13:28
|
|
ตอน 2517 นั้น อาจารย์ท่านดังกล่าวยังไม่เข้าสู่ยุทธจักรกระมัง ไม่ใช่วารสารเมืองโบราณนะครับ นิตยสารศิลปากร ของกรมกร๊วกเขาน่ะ
นิตยสารเล่มนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเก๋งจีนนี้ทั้งเล่ม มีทั้งส่วนประวัติ การอ่านเนื้อเรื่อง และระบุตัวละคอน และการอนุรักษณ์ บางทีจะเก่ากว่า 2517 ลงไปอีกสักปี
ผมไม่มีใจกับเรื่องจีน จึงเลยมิได้จำติดหัวไว้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 13:38
|
|
จำได้แค่เกียงจูแหยเป็นผู้วิเศษ และเป็นแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้าติวอ๋อง ถ้าหากว่าในรูป มีผู้เฒ่านำหน้าทัพ ก็คิดว่าใช่ค่ะ ส่วนโลเฉีย คือที่มาของนาจานั่นแหละค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 07 ต.ค. 07, 20:08
|
|
ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูกับอาจารย์พิพัฒน์มากครับ จะลองไปค้นต่อดู ผมเองก็ไม่มีใจให้เรื่องจีนเหมือนกันครับ (ไทยนิยมเต็มเปี่ยม) แต่เพราะความจำเป็นก็คงต้องขวนขวายมาจนได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 08 ต.ค. 07, 00:47
|
|
อ่านภาษาจีนไม่ออกค่ะ พอจะอ่านพงศาวจีนอยู่บ้าง คิดว่าเเป็นเรื่องแปลที่แสนประเสริฐ สร้างความสนใจให้ติดตามอ่านทั้งที่มา คนแปล คนให้แปล วัตถุประสงค์และคนพิมพ์ คนสะสม ใครเอาติดตัวไปเมืองนอก ใครไปตามกลับมา์
ขอคุยเรื่องเห้งเจียก่อนนะคะ
ตอนนี้เป็นตอน เบ๊ายิดแชกุนค่ะ ไซอิ๋วฉบับคุรุสภา ๒๕๑๒ ชุดไซอิ๋วมี ๘ เล่ม ไซอิ๊วฉบับแรกพิมพ์ มี สี่เล่มใหญ่ค่ะ ของโสภณพิพรรฒธนากร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๔๙ คนที่แปลเป็นญวนค่ะ ชื่อนาย(ขอประทานโทษ) ตีน บรรณาธิการต้นฉบับหรือผู้เรียบเรียงคือ เทียนวรรณาโภหรือ เทียนวรรณค่ะ
ตอนนี้อยู่ในเล่ม ๕ ฉบับคุรุสภา
เบ๊ายิดแชุน เป็นดาวหนึ่งใน ๒๘ อยู่ทางทิศบูรพา หน้าท่านเป็นไก่ เมื่อเห้งเจียได้รบกับนางปีศาจแมลงป่อง ผู้มีฤทธานุภาพมาก นางอยากจะได้พระถังซัมจั๋งเป็นสวามี เลยจับตัวไป ลูกศิษย์ทั้งสามไปต่อสู้ ก็แพ้มายับเยิน นางเป็นแมลงป่องจึงมีพิษที่หาง แต่ก่อนอยู่ที่วัดลุ่ยอิมยี่ฟังพระแสดงธรรม พระยูไลยไม่ชอบเอามือปัด มันกลับต่อยนิ้วหัวแม่มือพระยูไลยเจ็บปวดเหลือทน แล้วหนีมาซ่อน
ตอนที่นางปีศาจพยายามปล้ำพระถังสามจั๋ง ผู้แปลคงแปลไว้ลุ่นๆ แต่ผู้เรียบเรียงไว้ฝีมือมาก ขอยกมาเพียงสั้นๆ เพื่อแสดงภาษาโบราณดังต่อไปนี้
"นางปีศาจก็ทำกิริยาลูบคลำจับต้องโดยจิตอันกำหนัดในกามราค แต่พระถังซัมจั๋งมิได้มีความยินดี นั่งสำรวมจิตมิได้มีความปฎิพัทธ์เกี่ยวข้องในกามคุณ นางปีศาจก็เล้าโลมกอดรัดหวังจะให้ความกำหนัดแห่งพระถังศัมจั๋งกำเริบขึ้น แต่พระถังซัมจั๋งก็นั่งนิ่งอยู่เหมือนบ้าใบ้ ไม่แสดงความกำหนัดเสน่หาในอสัตย์ธรรมสังวาสจนเวลาล่วงเข้ายามสาม นางปิศาจมีความกำหนัดเร่าร้อนไปด้วยเพลิงราค เข้ากอดปล้ำทำประการใดๆพระถังซัมจั๋งก็สภาวะนิ่งอยู่มิได้กำเริบ นางปีศาจสุดที่จะคิดเพราะเป็นสตรี เมื่อบุรุษไม่ยินดีแล้ว ก็ไม่สามารถจะให้สำเร็จความประสงค์ของตนได้..."
เห้งเจียไม่สามารถปราบได้ เพราะตอนรบกันนางเรียกสากตำข้าวบินมา เห้งเจียไม่ทันรู้ตัว ต้องถลาหนี ต้องไปเชิญ เบ๊ายิดแชกุนมาช่วย เพราะฉะนั้นแมลงป่องจึงแพ้ไก่ตั้งแต่นั้นมา
ลองเปลี่ยนใจมาอ่านพงศาวดารจีนบ้างซิคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|