เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 10
  พิมพ์  
อ่าน: 72691 เกร็ดบางเรื่องเกี่ยวกับรัชกาลที่ 6
หนอนบุ้ง
อสุรผัด
*
ตอบ: 113


 เมื่อ 04 ต.ค. 07, 19:46

ป.ล. หนูหนอนบุ้ง ถ้าจะเข้ามาตอบ  ขอความช่วยเหลือจากหนูก่อน  กรุณารวบรวมเรื่องรัชกาลที่ ๖ ในกระทู้เก่าๆมาลงในกระทู้นี้ได้ไหมคะ    ดิฉัน search ไม่เจออีกแล้ว ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ไม่เป็นไรมิได้ค่ะ ตามบัญชา อาจารย์ท่านเรียกใช้ หนูบุ้งดีใจหน้าบานไม่รอช้าจัดให้ทันใจได้เป็นแผงดังนี้ค่ะ  ยิงฟันยิ้ม

ลิ้งค์เกี่ยวกับรัชกาลที่ ๖ หนูค้นให้โดยใช้คีย์เวิร์ดต่อไปนี้ 
มงกุฎเกล้า / วชิราวุธ / พึ่งบุญ / รามราฆพ / อนิรุทธเทวา / ประวัติต้นรัชกาลที่๖ / เสือป่า / UP / V_MEE

ถ้าจะให้แฟร์นิดๆ ก็ใช้คีย์เวิร์ดเพิ่มเติม เช่น พระปกเกล้า 

ลิ้งค์ต้นๆ เกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยกันมากหน่อย ส่วนลิ้งค์ท้ายๆ ก็เกี่ยวน้อยหน่อยค่ะ 

กบฏ ร.ศ. ๑๓๐ : สำหรับผู้อ่านเรือนไทยค่ะ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=226.0

๗๖ ปี วันมหาธีรราชเจ้า http://www.reurnthai.com/index.php?topic=820.0

พระราชพินัยกรรม ร.๖ เคยตีพิมพ์ที่ใดหรือไม่ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1815.0   

บันทึกเรื่องพระราชพินัยกรรมรัชกาลที่ ๖ "ฉบับเต็ม" http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2020.0

จดหมายเหตุ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรจนถึงสวรรคต
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1430.0   

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า vs สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1816.0   

Siamese volunteers force in the First World War
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1718.0   

มหาธีรราชานุสรณีย์ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1157.0   

เลิกธรรมเนียมนางร้องไห้ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=438.0   

ในสมัยรัชกาลที่6 กองเสือป่า มียศไหมครับ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2121.0   

สงสัยเรื่อง ชื่อ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2019.0   

อยากทราบข้อมูลและรูปเครื่องแต่งกายสมัยรัชกาลที่ ๖ ค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2171.0     

หลักฐานนามสกุลพระราชทาน http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2134.0   

นามสกุลพระราชทาน http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1976.0   

รูปตราโรงเรียนวชิราวุธ (คคห ๓) http://www.reurnthai.com/index.php?topic=182.0   

งาน "เพชรรัตน-สุวัทนา สองราชนารีในรัชกาลที่ ๖" ณ พระราชวังพญาไท
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1534.0   

แบบเรียนของโรงเรียนมหาดเล็ก-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1772.0   

ดุสิตธานี http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1421.0   

การพระราชทานเครื่องสรงน้ำ-รดน้ำสงกรานต์
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1807.0   

สถานที่แห่งนี้คือที่ไหนค่ะ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1468.0   

100 ปี ม.ล.ปิ่น มาลากุล http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1149.0   

พระบรมวงศานุวงศ์ประทับอยู่ที่พระตำหนักหรือพระราชวังใดบ้าง (คคห ๓๕)
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1299.30   

ทำไมพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ถึงไม่ได้ครองราชย์คะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=127.0

มีคำนี้รึเปล่าครับ "กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา"
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1392.0   

อยากถาม คุณเทาชมพู ถึงตำแหน่งเหล่านี้ใน พระไอยการนาพลเรือน ทหาร หัวเมือง
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1487.0   

ภาษิตนักรบ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=49.0   

พระองค์เจ้าปฤษฎางค http://www.reurnthai.com/index.php?topic=174.0 

"หลวงยกกระบัตร" คือตำแหน่งอะไรครับ? http://www.reurnthai.com/index.php?topic=138.0

คำว่านิสิตและนักศึกษามีที่มาอย่างไร http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1173.0 

ภาพชีวิตสมัยพระปกเกล้าฯ (โบนัสจัดให้) http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1196.0   

เจ้าพระยามหิธร (โบนัสจัดให้) http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1190.0

อยากทราบเกี่ยวกับพระราชวังค่ะ (โบนัสจัดให้) http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1500.0

เอ็นจอยค่าาาาา  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
หนอนบุ้ง
อสุรผัด
*
ตอบ: 113


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 ต.ค. 07, 19:49

ขอหนูร่วมแสดงความคิดเห็นนึดนึงค่ะ
อันว่าความสงสัยนั้น ทุกคนล้วนมีอยู่ในกมล
 
แต่เนื่องจากว่าบอร์ดนี้เป็นบอร์ดวิชาการ
หนูก็ขอเล่าประสบการณ์ความอยากรู้อยากเห็นเชิงวิชาการให้ฟังค่ะ

หนูเคยถามญาติผู้ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องที่ใครๆก็สงสัย
คำตอบที่ได้รับคือท่านเจ้าคุณเป็นคนที่มี "charisma" ดีมาก
บุคลิกสง่าผ่าเผย อกผายไหล่ผึ่ง งดงาม
จะเดินเหิน พูดจา เนิบนาบ เป็นผู้ดี (ทั้งๆ ที่ท่านก็เป็นลูกแม่นมเท่านั้น)

นัยน์ตาและน้ำเสียงท่านมีพลัง บ่งบอกถึงความมีบารมี มีบ่าวไพร่มาก
ญาติผู้ใหญ่หนูใช้คำบรรยายว่า ท่านมี pleasant personality
ที่ใครๆ อยู่ใกล้ รู้สึกสบายใจ
อีกอย่าง ท่านเป็นคนพูดน้อย เป็นผู้ฟังที่ดี
ใครร้อนรนมา เจอท่าน กลายเป็นเย็นได้ในพลัน

คุณป้าหนูเป็นเพียงหลานคุณหญิง วิ่งเล่นในบ้านนรสิงห์
ติดใจว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดี มีเมตตาบ่าวไพร่มาก


เอ... ที่หนูเขียนมาจะเกี่ยวไหมเนี่ยว่า ท่านได้รับพระเมตตาเลื่อนขั้นปีละ ๕-๖ ขั้น
อายุยังไม่เต็ม ๓๐ แต่ได้เป็นพลเอกซะแล้ว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 04 ต.ค. 07, 20:08

ขอบคุณมากนะจ๊ะ หนูบุ้ง   ถ้าหนูเอนจอยด้วย   ก็จะขอบ่อยๆ 
ที่เล่ามาเกี่ยวกับเจ้าคุณ ไม่ค่อยจะเป็นวิชาการเท่าไร  แต่ก็น่าฟัง   
ว่างๆหนูน่าจะตั้งกระทู้เล่าถึงพวกสุขุมบ้างจะดีไหม  เผื่อมีเกร็ดอะไรไม่ซ้ำกับในหนังสือ

ถ้าคุณป้าของหนูเคยวิ่งเล่นในบ้านนรสิงห์  ก็ย่อมจะวิ่งก่อน พ.ศ. 2484   จากนั้นบ้านกลายเป็นทำเนียบรัฐบาลไปแล้ว   ไม่มีสิทธิ์เข้าไปวิ่ง
คะเนจากอายุคุณป้า   เดาว่าตัวหนูเอง น่าจะเด็กมาก   ประมาณคุณ นิลกังขา  คุณ CrazyHOrse  หรืออาจจะรุ่นคุณพิพัฒน์ก็ได้  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 04 ต.ค. 07, 22:16

มึนค่ะ ลำดับญาติไม่ถูก

สรุปว่า
๑)คุณลุงเป็นญาติฝ่ายคุณแม่ของหนูบุ้ง
๒)คุณป้าไม่ใช่ญาติหนูบุ้ง
๓)คุณป้ากับคุณลุงไม่ได้เป็นญาติกัน  แค่สนิทกันเฉยๆ
๔)คุณป้านามสกุลสุขุม
ก็น่าจะลบได้นะคะ  ถ้าไม่มีใครติดใจอยากถามอะไร

อ้อ เพิ่งนึกได้   อยากทราบว่าพระยาสุขุมนัยวินิต  ถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ.ไหน และตำแหน่งงานสุดท้ายของท่านคืออะไร
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 04 ต.ค. 07, 22:22

ในฐานะสมาชิกใหม่  ขอบคุณคุณหนอนบุ้งอีกครั้งสำหรับลิ้งค์กระทู้ต่างๆ


ใน ความคิดเห็นที่ ๓๑  เจ้าพระยารามราฆพ มิใช่เป็นแค่บุตรแม่นมนะคะ  บิดาท่านคือพระยาประสิทธิศุภการ(ม.ร.ว. ละม้าย)
เกิดเมื่อ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๓

ตัวท่านเองได้รับยศของบิดาเมื่อท่านอายุได้ ๒๒(๒๗ ธันวาคม ๒๔๕๕)
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้าพระยาเมื่อท่านอายุ ๓๑( ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๖๔)
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 04 ต.ค. 07, 23:42

เสียดายจังครับ ผมเข้ามาอ่านความคิดเห็นที่ 35 ของคุณหนอนบุ้งไม่ทัน
ต้องขอบคุณ คุณหนอนบุ้งมากครับ สำหรับเรื่องน่าอ่านๆ และประมวลลิงค์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ที่คุณทำไว้ครับ



ปล. ถึงคุณ KoKoKo นะครับ
คนอย่างผมเองเมื่อก่อน (เอ๊า จนไม่กี่วันที่ผ่านมานี่ล่ะครับ) ก็ยังเป็นตัวป่วนในเรือนอยู่
เหมือนเด็กซนๆ แก่นๆ คอยยั่วแหย่แขกในเรือน (ทั้งๆที่บางท่านก็เป็นผู้ใหญ่กว่าผมมาก)
หลายครั้งทำไป ก็ต้องแอบไปกราบขอโทษอาจารย์เทาชมพูหลังไมค์ เพราะทราบดีว่าท่านคงไม่สบายใจกับพฤติกรรมแบบนี้

จนวันก่อน เห็นกระทู้ที่ท่านปักหมุดไว้ว่าบอร์ดนี้ ผู้พิการทางสายตาสามารถรับฟังข้อความได้
ขออนุญาตเล่าว่าความรู้สึกแรกที่รับรู้คือ "อึ้ง" และ "เสียดาย" อย่างบอกไม่ถูกซึ่งตามมาด้วย "ความรู้สึกผิด" ครับ
การอ่านด้วยตาของคน กับการฟังจากหู ความช้าเร็วมันต่างกันมากนะครับ

สมมุติว่าผมได้รับนวนิยายเรื่องเรือนมยุรามาเล่มนึง ผมมั่นใจว่าถ้าผมว่างๆอย่างทุกวันนี้ผมใช้เวลาอ่านวันเดียวจบได้
เพราะเราอ่านด้วยตา ความไวประมาณสามในสี่หน้าต่อนาที
(ที่พูดนี่หมายถึงอ่านแบบไวๆ เหมือนอ่านแฮรี่ พอตเตอร์ฉบับภาษาไทยทวนอีกทีหลังจากอ่านภาษาอังกฤษ นะครับ)

แต่กับผู้พิการทางสายตา ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะรับฟังความเห็นในกระทู้ยาวๆได้ครบกระทู้ไหมถ้าเขานั่งฟังทั้งวัน ?
ลองคิดดูนะครับ ว่ากระทู้นึงเอายี่สิบหน้าพอ ผมก็ไม่มั่นใจว่าถ้าเขาไปเจอความคิดเห็นที่นี่เต็มเอี๊ยดด้วยคุณภาพหลายความคิดเห็นต่อหน้า เขาจะฟังได้หมดทั้งกระทู้หรือ ?
แล้วถ้าเขามาฟังขยะอย่างที่นายติบอทิ้งเอาไว้ จากการแอบเข้ามาป่วน มากวน มาชวนให้เขวไป..... จะเสียเวลาในการรับฟังของเขาไหม ?


ต่อแต่นี้ไป นายติบอ..... เออ...... พูดไม่ออกครับ แหะๆ ขยิบตา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 05 ต.ค. 07, 07:34

ลบความเห็นของหนูบุ้งไปแล้ว    หนูเองก็คงรู้ว่าไม่สมควร ถึงได้บอกไว้ก่อน

เห็นด้วยกับหนูว่าไม่สมควร  คุณป้าไปตลาดอตก. หยอดเงินบริจาคให้เด็ก  แล้วยังบอกชื่อบอกนามสกุลตัวเอง
ไปเจอเด็กประหลาด     อ่านหนังสือหายากที่คนทั่วไปหาอ่านไม่ได้ ยังไม่พอ    ความจำดีเลิศ จำตอนไหนไม่จำ ไปจำตรงประโยคที่เอ่ยถึงพระนามเจ้านาย ด้วยพระนามเดิม  เหมือนเป็นเพื่อนฝูงกันมา   แล้วบอกคุณป้าประโยคนี้เป๊ะๆ   
เสียแรงเธอเป็นคนแสวงหาความรู้เรื่องเจ้านาย  ฝังอกฝังใจจนจำทุกคำได้  แต่ไม่ยักรู้ว่าอะไรควรมิควรในการพูดกับผู้ใหญ่ และในที่สาธารณะ
บันทึกการเข้า
KoKoKo
อสุรผัด
*
ตอบ: 49


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 05 ต.ค. 07, 17:13

         
        เมื่อหลายวันก่อนคุยกับเพื่อนคนไทยน่ะครับ ว่าเทศกาลไทยในญี่ปุ่นปีนี้จัดหลายรอบ เร็วๆนี้ก็เพิ่งจัดที่สวนสาธารณะอุเอะโนะมีการสร้างเรือนไทยไว้ด้วย เสียดายที่ฝนตกน่ะครับ เลยไม่ได้ไปร่วมงาน แต่ไปคอนเสิร์ตของไอซ์ ศรัญญู ที่คาบุกิโจะ มานะคับ สนุกดีนะครับ เทศกาลไทยสมัยก่อนจัดแค่สองที่ ก็คือที่สวนสาธารณะโยโยงิ และที่นาโงย่า หลังๆ จัดตามหัวเมืองใหญ่ ทั้งฮิโรชิมาโอซาก้า ฟุกุโอกะ เป็นต้น พูดถึงนาโงย่าเลยเกิดแว๊บขึ้นในหัว คุ้นๆเคยได้ยินวัดไทยในญี่ปุ่น ที่ค่อนข้างเก่า อยู่ที่นั่น เข้าไปหาในเวปสถานฑูตไทย ได้ประวัติที่น่าอ่าน เลยขออนุญาต หยิบมาให้อ่านกันน่ะคับ นอกจากนั้นแล้ว ยังสอบถามศาสตราจารย์กุ๊กเกิล ท่านเลยให้เวปที่มีรูปถ่ายสวยๆมาฝากน่ะคับ (เวปเป็นภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ เนื้อหาคล้ายๆ กับของสถานฑูต แต่มีรูปถ่ายสวยครับผม)

ประวัติของวัดนิตไทยจิ (วัดไทย-ญี่ปุ่น) 覚王山日泰寺
เมืองนาโงยา ประเทศญี่ปุ่น

         เมื่อปีพ.ศ. 2441 นักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ขุดค้นโบราณสถานทางเหนือของอินเดียใกล้กับเนปาลแล้วค้นพบอัฐิธาตุของมนุษย์ บรรจุไว้ในโถซึ่งมีจารึกอักษรโบราณในสมัยหลังพุทธกาลราว 3 ศตวรรษ

           ครั้นถอดความได้สำเร็จ ปรากฏว่าข้อความนั้นยืนยันว่า อัฐิธาตุนั้นคือ พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จ พระบรมศาสดา ศากยมุนีพุทธเจ้า การค้นพบครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของเอเชีย เพราะเป็นการยืนยันว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลที่มีอยู่จริง ยังผลให้ประวัติศาสตร์ที่เคยเชื่อกันในหลายวงการว่า พระพุทธเจ้ามิได้เป็นมนุษย์ในโลกนี้ เป็นอันสิ้นสุดไป

           โดยที่รัฐบาลอังกฤษที่ปกครองอินเดียอยู่ในเวลานั้น เห็นว่าพระบรมสารีริกธาตุที่แท้เช่นนี้ เป็นของมีค่าอย่างหาที่สุดมิได้สำหรับพุทธศาสนิกชน และเห็นว่าพระเจ้ากรุงสยามเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกพระองค์เดียวที่เหลืออยู่ในโลกเวลานั้น เพราะประเทศสยามเป็นพุทธจักรที่เป็น เอกราชอยู่หนึ่งเดียวเท่านั้น รัฐบาลแห่งอินเดียจึงถวายพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงรับมาประดิษฐานไว้บนพระเจดีย์ที่ยอดของพระบรมบรรพต(ภูเขาทอง) วัดสระเกศ ในกรุงเทพฯ

           ต่อมาได้มีสมณทูตจากประเทศต่างๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา รวมทั้งรัฐบาลญี่ปุ่น ขอส่วนแบ่งแห่ง พระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปันพระบรมสารีริกธาตุไปยังประเทศนั้นๆ สำหรับญี่ปุ่นได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุแก่พุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นโดยรวม โดยไม่จำเพาะเจาะจงให้กับนิกายใดเป็นการเฉพาะ

           ฝ่ายพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นได้ส่งตัวแทนจากพุทธนิกายไปยังกรุงเทพฯ เพื่ออัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุมายังประเทศของตน และได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2443 โดยคณะสมณทูตได้กราบบังคมทูลว่า จะสร้างพระเจดีย์ขึ้นใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรวมนิกายต่างๆ และเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระพุทธรูปโบราณ และพระราชทรัพย์เพื่อสร้างวัดใหม่นั้นด้วย พระพุทธรูปองค์นี้งามวิจิตรพิศดาร และมีอายุเก่าแก่ ว่าเป็นศิลปะคู่บ้านคู่เมืององค์หนึ่งของประเทศสยามขณะนั้น

           เมื่อคณะสมณทูตญี่ปุ่นกลับมาจากประเทศสยาม ได้ปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างต่างนิกาย แล้วตกลงเลือกสร้างวัดและพระเจดีย์ที่เมืองนาโงยา เพราะชาวเมืองเรียกร้องต้องการมากที่สุด จึงได้มีการก่อสร้างวัดนิตไทยจิ (วัดไทย-ญี่ปุ่น) ขึ้นที่เลขที่ 1-1 โฮโอโจ เขตจิคุซา เมืองนาโงยา จังหวัดไอจิ ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15พฤศจิกายน พ.ศ. 2447

        สถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนั้น ศาสตราจารย์จูตะ อิโต แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นผู้ออกแบบและสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2461 พระสถูปศิลาองค์นี้ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของศาสตราจารย์อิโต และได้รับการยอมรับในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมาว่างดงามทางพุทธสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง

           พระวิหารซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งรับพระราชทานมาจากประเทศสยามนั้น ได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2527 เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธรูป ภปร. เพิ่มมาอีกหนึ่งองค์ พร้อมทั้งทรงเขียนลายพระราชหัตถ์เพื่อช่างจารึกลงบนป้ายไม้ด้วยลายจำหลักทองชื่อ “พระพุทธศากยมุนี” โดยมีพระปรมาภิไธยย่อของพระองค์เอง และของพระบรมอัยกาธิราชประกอบอยู่ 2 ด้านของแผ่นป้าย ป้ายดังกล่าวประดิษฐานอยู่เหนือประตูทางเข้าพระวิหารในขณะนี้

           วัดนิตไทยจิ หรือวัดไทยญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศทั้งสอง และเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษทางพุทธศาสนาของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นวัดเดียวที่รวมนิกายต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยไม่ถือว่าสังกัดนิกายใดนิกายหนึ่ง เจ้าอาวาสของวัด ใช้ระบบสับเปลี่ยนให้ หัวหน้าสงฆ์จาก 19 นิกายดำรงตำแหน่งวาระ ละ 3 ปี

           โดยที่วัดนิตไทยจินี้ก่อตั้งขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปให้กับพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่น จึงถือได้ว่า มีความใกล้ชิดกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวงศ์ของไทยเป็นพิเศษ และราชวงศ์ของไทยหลาย พระองค์ได้เสด็จฯยังวัดแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ได้เสด็จฯ ยังวัดนิตไทยจิ ในระหว่างการเสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2474 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ ที่วัดนิตไทยจิ เมื่อปี พ.ศ. 2506 และเมื่อปี พ.ศ. 2530 ในโอกาสเฉลิมฉลอง 100 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น วัดนิตไทยจิได้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานที่บริเวณหน้าพระวิหาร ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ มาทรงเปิดแพรคลุมพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2530

         นอกจากนี้ ในวันปิยะมหาราช หรือตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เจ้าหน้าที่หน่วยงานไทย และชุมชนไทยในประเทศญี่ปุ่น จะร่วมกันถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ณ วัดแห่งนี้ด้วย

          วัดนิตไทยจิได้ฉลองครบรอบ 100 ปี ของการได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2543 และได้ฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งวัดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

ข้อมูลจากสถานฑูตไทย
http://www.thaiembassy.jp/rte0/content/view/293/202/

เวปไซต์ที่เกียวข้องและรูปถ่าย
http://www.a-namo.com/ku_info/chikisaku/pages_n/nittaiji.htm
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E6%97%A5%E6%B3%B0%E5%AF%BA
http://www.kakuozan.com/top.html

ปล.
ขอบคุณ คุณหนอนบุ้ง นะครับ ผมเลยได้อ่านกระทู้เก่าๆ น่าสนใจทั้งนั้นนะครับ
ถ้าจะกวนกระทู้เก่าๆ ให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่ จะได้รึเปล่านะครับ คุณเทาชมพู
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 05 ต.ค. 07, 17:43

ถ้ากระทู้นั้นสามารถโพสข้อความใหม่ได้  ไม่มีปัญหากับระบบ  ก็สามารถโพสข้อความได้ค่ะ
มันจะขึ้นมาอยู่หน้าแรกให้คนอื่นเห็นได้เอง
บันทึกการเข้า
หนอนบุ้ง
อสุรผัด
*
ตอบ: 113


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 00:06

คนอย่างผมเองเมื่อก่อน (เอ๊า จนไม่กี่วันที่ผ่านมานี่ล่ะครับ) ก็ยังเป็นตัวป่วนในเรือนอยู่
.......................แล้วถ้าเขามาฟังขยะอย่างที่นายติบอทิ้งเอาไว้ จากการแอบเข้ามาป่วน มากวน มาชวนให้เขวไป..... จะเสียเวลาในการรับฟังของเขาไหม ?

ฮั่นแน่ เจอแล้ว ยังตะหงิดๆ ที่อาจารย์เทาชมพูเคยพูดไว้ในกระทู้นี้ การใส่รูปในกระทู้ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2304.msg44415;topicseen#msg44415

คนที่เข้ามาเล่นเน็ตตามเวบบอร์ดต่างๆ  อาจไม่ใช่ปกติชนเสมอไป   บางครั้งคนพาลหรือคนมีอาการทางจิต ก็อาจพลัดเข้ามาได้   เพราะระบบสมาชิกไม่สามารถกลั่นกรองได้ว่า

อาจารย์ขา หนูจับขาคุณพี่ติบอไว้แล้วนะคะ อาจารย์จะให้ใส่ตะกร้าล้างน้ำ หรือ ถ่วงน้ำดีคะ

อิ อิ คุณพี่ติบอขา หนูบุ้งแอบช่วยป่วนให้หายพูดไม่ออกค่ะ แต่ก็ดีใจเหมือนกันที่คุณพี่คิดได้ หนูพลอยได้กระจ่างไปด้วย

เอ้า ฮุย เล ฮุย เหวี่ยงลงน้ำไปเล้ยยยยย  ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 00:39

อาจารย์ขา หนูจับขาคุณพี่ติบอไว้แล้วนะคะ อาจารย์จะให้ใส่ตะกร้าล้างน้ำ หรือ ถ่วงน้ำดีคะ


แง่ว..... คุณบุ้งจ๋า.......
นายติบอเป็นคนธรรมดาเน่อ
บ่ใจ้กลอย หรือแม่นาคดอก
อย่าล้างน้ำ ถ่วงน้ำ เลยน๊า......


บ่ฮักบ่ต้องฉงฉาน ข่อยสิไปตายเอาเมืองกุ่งเต๊บ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 08:24

ขอบคุณคุณหนอนบุ้งสำหรับคำตอบ   ตรงบ้างไม่ตรงบ้างค่ะ
ยังไม่ทราบปีพ.ศ. ที่พระยาสุขุมนัยวินิตถึงแก่กรรม  คงต้องค้นหาต่อไป

ประวัติของตระกูลนี้มีผู้เขียนเอาไว้ละเอียดลออดีแล้ว ถึง ๒ เล่ม ค่ะ 
บันทึกการเข้า
UP
แขกเรือน
องคต
*****
ตอบ: 516


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 08:46

เคยอ่านในจดหมายเหตุการเสด็จพระราชดำเนินนิวัตประเทศไทยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร โดยวิถีรอบพิภพ ซึ่งพระยาศรีวรวงศ์ (หม่อมราชวงศ์จิตร สุทัศน์) เรียบเรียง จำได้ว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เคยเสด็จฯ ไปทรงปลูกต้นไม้ไว้ที่วัดพุทธในญี่ปุ่นวัดหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้แล้วว่าวัดอะไร เมื่อเร็วๆ นี้ยังเห็นภาพในอินเทอร์เนตว่าต้นไม้ต้นนั้นยังอยู่ดี มีป้ายปักบอกประวัติไว้ด้วย แต่ตอนนี้หาภาพนั้นไม่เจอเสียแล้ว หากคุณ KoKoKo พอจะสืบหาและถ่ายภาพมาให้ชมได้บ้าง ก็จะเป็นพระเดชพระคุณมาก
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 11:21


       อ่านเรื่องเด็กที่อาจารย์เล่าต่อจากคห. หนูหนอนบุ้งแล้ว สงสัยว่าจะเป็นเด็กพิเศษ ออทิสติค ครับ

         เรื่องมุดใต้โต๊ะรับประทานอาหารจากผู้ใหญ่ ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนเคยอ่านพบว่าอ.คึกฤทธิ์ ตอนท่านยังเล็กอยู่ ท่านก็เคยมุดอยู่ใต้โต๊ะเสวย
ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ได้รับประทานขาไก่พระราชทานจากพระองค์ท่าน

         ลองค้น google เจอแล้วครับ จากบทความ การวิจารณ์ศิลปะ-วรรณกรรมแนวหลังอาณานิคม นพพร ประชากุล

          กษัตริย์ของเราที่ท่านเป็นตะวันตกมากๆ ก็จะมีวิถีชีวิตด้านหนึ่ง ด้านเหนือโต๊ะก็เป็นตะวันตก แต่ด้านใต้โต๊ะเป็นพื้นเมือง
อันนี้ อ.คึกฤทธิ์เป็นคนเล่าเองว่า สิ่งที่ประทับใจเป็นบุญวาสนาในชีวิตคือเมื่อตอนอายุ ๑๓-๑๔ ขวบยังทันถวายการรับใช้รัชกาลที่ ๖ ด้วยการอยู่รับใช้ใต้โต๊ะ
นวดพระบาท อ.คึกฤทธิ์ก็เล่าอย่างตรงไปตรงมาว่า บนโต๊ะท่านก็คุยเรื่องฝรั่ง เชคสเปียร์ แล้วท่านก็เสวยขาไก่ เสร็จก็โยนลงไปใต้โต๊ะให้มหาดเล็ก
สมัยนั้นก็คือ อ.คึกฤทธิ์ รับประทานต่อของเหลือจากพระองค์ท่านก็เป็นสิริมงคลอย่างสูง

         
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 06 ต.ค. 07, 12:10

เรื่องมุดใต้โต๊ะภวายงานนวดและปัดยุงสมด็จพระบรมโอรสาธิราช จำได้ว่า พล.โทประยูร ภมรมนตรีก็เล่าไว้
ในหนังสือ ๕ แผ่นดินของข้าพเจ้า  ว่าถวายอยู่งานพัดและนวด เวลาที่ทรงพระอักษรและเสวยหรือเมื่อทรง
ต้อนรับเสนาบดีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ถึงตอนเสวยไอสครีมพระองค์ท่านมักจะโปรดเกล้า ส่งมาประทานใต้โต๊ะ

บางครั้งพระราชทานขาไก่   ตอนนี้มักเกิดเรื่องวิบาก เพราะย่าเหลสุนัขตัวโปรดเข้ามาแย่ง

ไม่เห็นคุณคึกฤทธิมีปัญหากับย่าเหล  ท่านคงพูดกับย่าเหลรู้เรื่องเป็นแน่...
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 19 คำสั่ง