ผมไม่ทราบว่าคลองหลักที่ตัดตรงในภาพข้างบนนี้ ขุดขึ้นเมื่อไหร่ ก็เลยไม่รู้ว่ากวีไปตามเส้นทางไหนนะครับ
บางสมัครปัจจุบันเป็นชุมชนที่เห็นอยู่ตรงกลางด้านบนของภาพ มีคลองไหลผ่านหลายสาย สายไหนชื่อบางสมัครผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมเลือกคลองที่ผ่านวัดบางสมัครแล้วปักหมุดไว้ตรงปากคลองที่มาออกคลองสำโรง (ไม่ว่าสายใหม่หรือเก่าก็ตำแหน่งใกล้กัน) แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นอีกสายหนึ่งซึ่งตัดลงมาตรงๆจากบ้านบางสมัคร ผ่าคลองสำโรงลงมาถึงบางเกลือครับ
บ้านมะพร้าวอันนี้ยาก เพราะชื่อนี้สูญไปแล้ว
เว็บไซต์อบต.บางเกลือ บอกว่าบ้านมะพร้าวคือบางเกลือ
ลำคลองสำโรงในสมัยนั้นคดเคี้ยวมาก เมื่อออกจากกรุงเทพฯ จะต้องถึงบางสมัครก่อนแล้วจึงจะถึงบ้านมะพร้าวแต่ผมดูภาพถ่ายจากอวกาศแล้วไล่ยังไำงก็ยังไม่พบทางที่จะให้ถึงบางสมัครก่อนบางเกลือได้
กวีบอกว่ามาถึงบ้านมะพร้าวตอนรุ่งเช้าพอดี มีหมายช่วยจำอย่างนี้ ต่อให้ไม่ได้เขียนสด มาเขียนจากความทรงจำในภายหลังก็เห็นจะหลงลืมได้ยาก
ผมว่าบ้านมะพร้าวนี่ไม่น่าจะเป็นบางเกลือนาครับ
จากบ้านมะพร้าวไปถึงบางวัวแล้วก็ออกแม่น้ำบางปะกงที่ปากตะครอง ล่องตามแม่น้ำบางปะกงลงมา เลี้ยวโค้งกระเพาะหมูเลี้ยวหนึ่งก็ถึงบ้านบางมังกงเตรียมออกปากแม่น้ำแล้วครับ
ระยะทางจากชะวากปากคลองตรงบางเหี้ยมาปากตะครองฝั่งบางปะกงก็ราว ๑๙ กม. จากปากตะครองไปตามแม่น้ำจนถึงบ้านบางมังกงอีก ๑๒ กม.
หลังจากนี้ออกปากแม่น้ำพายเรือในทะเล มีฝนตกคลื่นลมก็เลยแรง เรือทำท่าจะถูกคลื่นซัดตีออกไปห่างฝั่ง (กลอนว่า น้ำจะพัดปัดตีไปสีชัง) โชคดีคลื่นลมสงบก็เลยพายไปถึงบางปลาสร้อยได้โดยสวัสดี จากบ้านบางมังกงถึงบางปลาสร้อยก็อีกราว ๑๘ กม.ครับ
รวมเบ็ดเสร็จพายรวดเดียวบางเหี้ย-บางปลาสร้อย ๔๙ กม.
จากกรุงเทพมาสองวันสองคืนเต็มๆ พายเรือมาราว ๑๑๐ กม. ถ้าคิดว่าโหดแล้ว
ระยะทางเดินบกนั้นโหดกว่านี้มากนัก ขอให้รอดูต่อไปเถิดครับ