สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอันทรงค่า

[สไบแพร]

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะค่ะ ภาพแต่ละภาพเป็นภาพที่เก็บสะสมรวบรวม
มาจากโลกสื่อสารไร้พรมแดน หมายถึงอินเตอร์เน็ต นี่แหล่ะค่ะ
เก็บมานานพอสมควรแล้วค่ะ เลยอยากนำมาให้ทุกท่านได้ชื่นชมร่วมกัน
บางภาพอาจเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่ยังไงฝากไว้ในเรือนไทยแห่งนี้
เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้ที่สนเผื่อจะได้ช่วยกันรักษาและเห็นคุณค่าของสถาปัตยกรรมเก่า
ที่ทรงค่าเหล่านี้ค่ะ

[สไบแพร]

ภาพแรกพระที่นั่งอันตสมาคม สถานที่อันทรงคุณค่าและสวยงามมากแห่งหนึ่งค่ะ
อาคารแห่งนี้ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยและสามารถทุนแรงในการก่อสร้างได้มากกว่าในสมัยก่อน
แต่เชื่อว่า ยังก็ไม่สามารถสร้างได้เท่าเทียมค่ะ เนื่องจากในสมัยก่อนถึงแม้ไม่มีเครื่องทุนแรงเท่าสมัยนี้
แต่ช่างและแรงงานผู้ก่อสร้าง ทุกท่านสร้างด้วยใจ ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวและมีความมุ่งมั่นเชื่อมั่นในความสำเร็จ
จึงสามารถสรรสร้างผลงานที่ทรงคุณค่าไว้ให้พวกเรา คนรุ่นหลังได้ชื่นชมค่ะ

[สไบแพร]

[สไบแพร]

ไม่ทราบว่าที่แห่งนี้คือที่ไหนและยังคงอยู่ไหมแต่แบบรูปด้านนี้เขียนได้อย่างละเอียด
และสวยงามมากค่ะ

[สไบแพร]

แบบแปลนพระที่นั่งในวังพญาไทค่ะ

[สไบแพร]

สถานีรถไฟหัวลำโพงค่ะ

[สไบแพร]

บ้านนรสิงห์ ปัจจุบันคือตึกไทยคู่ฟ้า หรือทำเนียบรัฐบาลนี่เองค่ะ

[สไบแพร]

มาริโอ ตามานโญ สถาปนิก ในราชสำนักสยาม ผู้สรรสร้างอาคารอันสร้างคุณค่าเหล่านี้ค่ะ



ที่มา : www.sarakadee.com/m-boran/1998/04-06/tamagno1.htm

[สไบแพร]

ตำหนัง วังบางขุนพรม

[สไบแพร]

แบบแปลนพระมหามนเทียนในพระบรมมหาราชวังค่ะ

[pipat]

พี่แดงของผม เธอเป็นภัณฑารักษ์อยู่ที่พช.พระนคร
แล้วเธอก็ลาออก ไปอยู่ตูริน กับโรแบร์โต้ สามี
(เป็นนักสะสมปืนใหญ๋และนักจิตวิทยา...สมกันจริงๆ คู่นี้)

วัหนึ่งพี่เขากลับมากรุงเทพฯ บอกว่าพาพวกอิตาเลี่ยนอาวุโสหลายคนมาเยี่ยมกรุงเทพ
พวกนี้ไม่เคยมากรุงเทพเลย แต่พอพานั่งรถดูเมืองกรุง ผ่านพระราชวังสวนจิตร ผ่านสถานนีรถไฟ
เรื่อยมาจนเข้าถนนราชดำเนินนอก
ท่านผู้เฒ่าก็ตื่นเต้นโวยวายมาตลอดทาง
ร้องว่า อันนี้ฉันรู้จัก อันโน้นฉันก็รู้จัก นี่ไงที่เราเคยเห็นไง.....พี่แดงก็นั่งงงมาด้วยกับท่านเหล่านี้
ปรากฏว่า ก็คือคุณย่า คุณยายที่เป็นลูกสาวสถาปนิกอิตาเลี่ยนผู้ออกแบบของสวยงามเหล่านี้เอง
ท่านเห็นมาจากในรูปถ่ายและลายเส้นที่เก็บอยู่ที่บ้าน

ครั้งนั้นรัฐบาลอิตาลี่ เป็นเจ้าภาพ เชิญทายาทนายช่างเอก มาเยือนผลงานของตระกูล
เป็นนิทรรศการอย่างดีเยี่ยม หลังจากนั้นก็มีหนังสือพิมพ์ตามออกมา ทุกวันนี้ ที่เอเชียบุ๊ค ยังอาจจะพอหาได้ครับ
ตามานโญเป็นคนเด่นที่สุดในบันดาช่างเหล่านี้
และเป็นผู้บุกเบิกจนมีรุ่นน้องตามเข้ามาอีกหลายคน หากสนใจ ทางจุฬาลงกรณ์ฯเคยมีงานวิจัยเรื่องนี้
ดูเหมือนอาจารย์ผุสดี ทิพทัตตจะเป็นผู้วิจัย ให้รายชื่อช่างไว้ค่อนข้างครบถ้วน
แต่คงต้องอาศัยอ่านในห้องสมุด เพราะพิมพ์ตั้งแต่คราวกรุงเทพ 200 ปี

รูปลายเส้นที่นำมาลง เข้าใจว่า บางชิ้นจะไม่ได้สร้างครับ
ผมไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้ เล่าเสริมได้เพียงเล็กน้อยเท่านี้เอง

อ้อ อาจจะเป็นตามานโญ ที่แนะนำอาจารย์ศิลป์ พีระศรีให้เข้ามารับราชการกับสยาม

[หนอนบุ้ง]

คุณลุงของหนู มีญาติสนิทเป็นทายาทของหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ที่หนูขอเรียกในที่นี้ว่า “คุณป้า”
ปัจจุบันคุณป้าอายุ 77 ปี คุณอาสาวของป้าเป็นเมียแต่งของเจ้าคุณราม อดีตเจ้าของบ้านนรสิงห์ใน คคห 6
คุณป้าวิ่งเล่นในบ้านนรสิงห์ตั้งแต่ยังเล็ก จนโตเป็นสาว เจ้าคุณรามจึงขายบ้านนี้ให้แก่รัฐบาล

คุณป้าเล่าว่าสาเหตุที่ขายบ้านคือ ค่าใช้จ่ายในบ้านใหญ่ๆ นั้น สูงมาก
ไหนจะการกินการอยู่ของบ่าวไพร่ในบ้านหลายสิบชีวิต ไหนจะค่าบำรุงรักษาบ้าน
ห้องหับในบ้านนรสิงห์ก็แสนสลับซับซ้อน มีเป็นสิบๆห้อง
บ้านทั้งหลังใหญ่โตกว่าวังเจ้านายบางวังเสียอีก

คุณป้าเล่าว่า คุณแม่ของคุณป้าเป็นคนเสียงดัง
เจ้าคุณรามเคยแกล้งคุณแม่ พูดว่า “ขโมยลูกมันไปหัวหินดีกว่า”
การไปหัวหินสมัยก่อนเจ้าคุณรามฯ ใช้วิธีจองรถไฟทั้งตู้
บ่าวไพร่ในบ้านเกณฑ์ไปหมด ใครนั่งที่นั่งเบอร์ไรแจกแจงไว้เรียบร้อย
ค่าใช้จ่ายของท่านเจ้าคุณยุ่บยั่บขนาดไหน
ภายหลังที่รัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต เจ้าคุณรามก็ไม่มีรายได้อะไรมาก
การขายบ้านดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

[หนอนบุ้ง]

"นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง..."
บ้านบรรทมสินธุ์ ถ่ายเมื่อ 2489

[หนอนบุ้ง]

พระตำหนักวังสวนกุหลาบ (สถาปนิกคนเดียวกัน)
ตั้งอยู่ที่มุมถนนราชสีมากับถนนศรีอยุทธยา โดยทางด้านทิศเหนือติดกับถนนอู่ทองนอก และทิศตะวันออกติดกับสวนอัมพรซึ่งอาณาเขตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังดุสิต


เดิมเป็นวังที่ประทับของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ซึ่งเสด็จฯ มาประทับอยู่ที่วังนี้ตราบจนสิ้นพระชนม์ในปีพุทธศักราช 2467

หลังจากที่กรมหลวงนครราชสีมาสิ้นพระชนม์ลงแล้ว พระตำหนักนี้กลายเป็นที่ทำการของกรมสวัสดิการทหารบก ปัจจุบันพระตำหนักนี้เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานจิตรกรรมจากฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

[หนอนบุ้ง]

ไม่ทราบว่าที่แห่งนี้คือที่ไหนและยังคงอยู่ไหมแต่แบบรูปด้านนี้เขียนได้อย่างละเอียด
และสวยงามมากค่ะ

น่าจะเป็น "ห้องสมุดนีลเซนเฮส์"
รูปแบบนีโอคลาสสิค ผังอาคารเป็นรูปตัว H ทางเข้าเป็นห้องทรงกลม หลังคาทางเข้าเป็นโดม

เปิดทำการในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2465 ตั้งอยู่ที่ถนนสุรวงศ์