ข้อแย้งที่คุณเหงายกมา ไม่แปลกใหม่ เคยอ่านมานานแล้ว
สิ่งใหม่ น่าจะเป็นท่าทีของคุณเหงา ซึ่งน่าสนใจกว่าถ้อยคำที่ยกมาแย้ง
เจ้าของทริดสะดี ยกข้อค้านเหล่านี้มา เพื่อจะชี้ว่าจารึกนี้ ไม่น่าจะเป็นของสมัย พ.ศ. 1800
น่าจะเป็นสมัยรัชกาลที่ 4 และแกก็เปิดเผยแล้วว่า แกกล่าวหาว่าพระเจ้าแผ่นดินของเรา
ปลอมจารึก
เพื่อใช้จารึกนี้ ต่อต้านเสอร์จอห์นเบาริ่ง ตัวแทนอำนาจแห่งจักรวรรดินิยมอังกฤษ
เช่น แกบอกว่า จารึกเน้นความสำคัญของบัลลังก์ แล้วอ้างริชาร์ดใจสิงห์ หรือใครสักคน ที่นั่งบัลลังก์ครองอังกฤษ
แสดงว่ารัชกาลที่ 4 ต้องอ่านวรรณกรรมอังกฤษแน่ๆ จึงเอามาแปลงลงจารึก
หรืออ้างตรีบูร ว่าบอกตัวเลขผิด ไปใช้ตัวเลขหลังสมัยสุโขทัยนาน......แสดงว่า ใช้ข้อมูลใหม่กว่ามาใส่พระโอษฐ์พ่อขุน
อย่างนี้เป็นต้น
คุณเหงามาแนวใหม่ เท่าที่ผมสังเกตนะครับ คือแกสรุปทำนองว่า สิ่งที่ใส่ลงในจารึก ไม่มีในโลก หรือไม่สมควรเกิดขึ้น
เช่นแกให้ไปหาว่า
"แล้วมันมีอักษรไหนในโลกที่เขียนแล้วสระทุกตัวมันอยู่"ซ้าย"ของพยัญชนะบ้างล่ะ
ยกตัวอย่างมาให้ดูสักอักษรหน่อยสิ นอกจากอักษรสมัยพ่อขุนราม"
ตรงนี้สงสัยว่า ถ้าในโลกไม่มีอักษรที่ว่าแล้ว แปลว่าจารึกหลักนี้เป็นอย่างไรหรือ
"พ่อขุนรามนี่น่าสงสารเนอะ ประดิษฐ์อักษรมาให้ใช้ แต่ไม่มีลูกท่านหลานเธอคนไหนยอมใช้ตามเสด็จพ่อเลยสักคน....เหอๆๆ"
เมื่อไม่มีใครใช้ แล้วแปลว่าจารึกหลักที่ 1 นี่ ควรจะเป็นยังไงต่อครับ แล้วที่อาจารย์ประเสริฐชี้ความต่อเนื่องกับจารึกสมัยลิไท
แกโกหกหรือครับ
"เรื่องการเมืองการปกครอง มีที่ไหนที่ปกครองแบบพ่อปกครองลูกบ้างล่ะ
ถ้าปกครองแบบพ่อปกครองลูกได้ แสดงว่าประชากรในเมืองนี้ต้องน้อยและน้อยมากๆ"
ผมไม่มีความรู้เรื่องการเมืองการปกครอง จึงสงสัยว่าระบบพ่อปกครองลูกนี่ ใช้เป็นมาตรวัดจำนวนพลเมืองได้ด้วย
แต่ที่สงสัยก็คือ ตรงใหนในจารึก ที่บอกว่าพ่อขุนรามปกครองระบบนี้ เห็นแต่คนรุ่นหลังมาอธิบายใส่
ดังนั้น มันจึงไม่เกี่ยวกับอายุจารึกเลยแม้แต่น้อย ท่านต้องไปถามคนอธิบาย ไม่ใช่มาถามจารึก
"เมื่อก่อนลายสือไทนี้บ่มี..."ท่อนนี้จารึกเพื่อ???
ประจานบ้านเมืองตัวเองว่าไม่มีอักษรใช้ เลยต้องประดิษฐ์มาใช้งั้นหรอครับ???"
เป็นครั้งแรก ที่มีคนตีความท่อนนี้เป็นการประจาน ถ้างั้น จารึกหลักนี้ ก็มีวัตถุประสงค์ที่จะด่าว่าประเทศตัวเอง
นับว่าเป็นจารึกที่พิลึกสุดๆ ราวกะหนังซาดิสม์ยุคปัจจุบัน รึว่า นายฟาเรนไฮท์ 911 จะได้ไอเดียจากจารึกพ่อขุน?


?
"แล้วงานเผาเทียนเล่นไฟอะไรนั่นที่พ่อขุนรามท่านจัด มันงานหลวงไม่ใช่หรอ
แล้วทำไมให้ประชาชนแห่กันมาดูพิธีของกษัตริย์ได้โดยไม่มีการห้ามปราม???"
ต้องย้อนไปยืมคำถามของคุณเหงา ข้อแรกมาใช้ว่า มีประเทศใหนในโลก ที่จัดงานหลวง แล้วห้ามประชาชนดู
แม้แต่สมัยอยุธยา ที่ลือกันว่าห้ามหวงอย่างสุดๆ พวกฝรั่งก็บันทึกว่าคนดูเต็มสองฝั่งแม่น้ำ
แต่ที่ผมฉงนก็คือ เอาละ สมมติว่าจารึกนี้ โกหก แล้วแปลว่าอะไรล่ะ
"แล้วพอวันพระ บัลลังก์พ่อขุนรามก็เปลี่ยนเป็นที่พระมานั่งเทศน์ให้ชาวบ้านฟัง
ก็นั่งแทนที่พ่อขุนรามนั่นแหละ(พ่อขุนรามนั่งพื้น???)
หรือทางกรมพิธีการจนมากๆ ไม่มีปัญญาเตรียมอาสนะให้พระสงฆ์มานั่งเทศน์ต่างหาก???
เลยต้องสลับกันนั่งพระแท่น พอวันธรรมดาพ่อขุนรามก็นั่งว่าราชการ
วันพระก็เปลี่ยนเป็นพระนั่งแทน นั่งเวียนเทียนแบบนี้นั่นแหละ
เหมือน"ราชบัลลังก์"ไม่มีความสำคัญ ให้ใครมานั่งก็ได้"
ผมชอบประโยคนี้มากจริงๆ อยากจะขอยืมไปให้คณะลิเกเชิญยิ้มใช้เป็นบทแสดง ไม่ทราบว่าจะรังเกียจใหม
แต่...เอาละ สมมติว่าจารึกนี้ น่าสมเพชอย่างที่กรุณาชี้ให้เห็น
แล้วแปลว่าไรล่ะ แปลว่าคนจารึกนี่ เป็นโรค?





? อย่างนั้นละหรือ
แล้วเอาข้อความทั้งหมด มาบอกอายุจารึกได้ใหม
ผมอ่านข้อวิเคราะห์ของคุณเหงาแล้ว ก็ให้สมเพชคนสร้างจารึกนี้เต็มที ทั้งหลักคงจะเป็นตลกเจ็บปวด เพื่อประจานประเทศชาติ
แล้วยังสงสารไปถึงดอกเตอร์คนที่อุตส่าห์อุทิศผลงานวิชาการเล่มเขื่อง ที่คุณเหงาไปนำมากล่าวซ้ำนี้
ให้นักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้สร้างจารึกนี้ขึ้นมา แต่กลายเป็นตลกโบราณไปเสียฉิบ
เขียนอีกนะครับ