จากความเห็นที่ 78 ของคุณวรณัย
ตามข้อคิดหรือวิชาการที่ผมศึกษามานะครับ ผมต้องการบอกในกระทู้ว่า
๑) นิกายวัชรยาน เข้ามาในสุโขทัย ประมาณช่วงเวลา
พร้อมกับอำนาจการปกครองของเขมร เขมรหรือขอมเป็นผู้มาตั้งเมืองสุโขทัย โดยเริ่มต้นที่เขาปู่จาในลัทธิไศวะ พุทธศตวรรษที่ 16 พอพุทธศตวรรษที่ 17 นิกายไวษณพเป็นที่นิยมในเขตศูนย์กลาง และก็มาถึงสุโขทัย นั่นคือการสร้างเมืองรุ่นแรกก่อนเมืองสุโขทัยที่วัดพระพายหลวงในพุทธศตวรรษที่ 17 โดยใช้แผนผังคูน้ำแทนคติจักรวาล มหาสมุทรทั้ง 4 เช่นเดียวกับที่นครวัด วัชรยานนิยมในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แล้วปรากฏรูปเหมือนของท่านที่สุโขทัย วัชรยานจึงเข้ามาสู่สุโขทัยในช่วงนี้ครับ และ ผังเมืองสุโขทัยรับกับทิศกับคูน้ำวัดพระพายหลวงซึ่งเมืองสุโขทัย ก็คือเมืองบายนทางทิศเหนือ โดยมีวัดมหธาตุในสมัยราชวงศ์พระร่วงเป็นศูนย์กลางของเมือง
๒) ชาวสุโขทัย นับถือนิกายวัชรยาน ก่อน เถรวาท ถูกหรือไม่
ครับ เพราะเป็นคติศาสนาที่มากับการปกครองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ส่วนเถรวาทจากลังกาวงศ์เพิ่งเข้ามาในสมัยพญาลิไท
๓) หลักฐานที่แสดงว่านิกายวัชรยาน เป็นที่นับถือของชาวสุโขทัย คือ
วัดมหาธาตุ เป็นปราสาทเกือบกลางเมือง หันทางทิศตะวันออก ยังคงมีบรรณาลัยศิลแลงสองด้าน มีฐานรูปเคารพแบบเขมรไม่มีร่องน้ำ แบบวัชรยาแตกกักอยู่จำนวนสามถึงสี่ชิ้น ฐานใหญ่ร่องพระสามองค์ คติของวัชยาน ตั้งอยู่ด้านหน้าเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ ปรางค์สามองค์ที่วัดพระพายหลวง และวัดศรีสวาย คติการสร้างปรางค์สามองค์ฐานเดียวกัน ไม่ใช่ของฮินดู ที่วัดพระพายหลวง มีปรางค์สามองค์หันไปทางทิศตะวันออก สององค์พัง แต่แลงถูกนำไปใช้อย่างอื่นภายในวัด เหลือเพียงปรางค์องค์เดียว ฐานรูปเคารพแบบวัชรยาน จำนวนมาก แตกหักอยู่ภายในวัด ส่วนวัดศรีสวาย มีปรางค์สามองค์ฐานติดกัน ทรงปรางค์ วัดเจ้าจันทร์"น่าจะ"เป็นสุคตาลัย หรือสถานบูชาแห่งอโรคยศาลา
หลักฐานโบราณวัตถุ คือพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาในซุ่มเรือนแก้ว จัดแสดงอยู่ที่สุโขทัยและกรุงเทพฯ พระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ในคติพระวัชรสัตว์ พระโพธิสัตว์เปล่งรัศมีในถ้ำนารายณ์ (หายไปแล้ว) รูปพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ถูกทุบทำลายหรือแตกหักเอง
๔) นิกายวัชรยาน หมดไปจากสุโขทัย เมื่อมีเถรวาทเข้ามาแทนที่ ถูกหรือไม่
ไม่ถูกต้องครับ ศาสนาพุทธแบบวัชรยาน สร้างให้สุโขทัยเป็นเมืองขึ้นมาครั้งแรก แต่เมื่ออำนาจของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 หมดลง การนับถ่อศาสนาของสุโขทัย ก็ผสมฮินดูและพุทธวัชรยานกันต่อในระดับหนึ่ง ในเวลาน สิ่งก่อสร้างในคติวัชรยาน ยังไม่ได้ถูกดัดแปลงมากนัก วัดมหาธาตุยังเป็นปราสาทกลางเมือง หินทรายสีเทาที่หาไม่ได้ในภูมิภาค ก็ยังใช้เป็นส่วนประกอบของศาสนาสถานและรูปเคารพ แต่ในสมัยสมัยใช้หินปูน ปูนปั้น และหินตระกูลหินตะกอน อย่างหินชนวน และโลหะมาแทน
๕) มีความพยายามจะทำลายวัชรยาน โดยชาวสุโขทัย แต่ยังหลงเหลือหลักฐานมาให้เห็น ถูกหรือไม่
ชาวสุโขทัย ไม่ได้ทำลาย แต่ดัดแปลงศาสนาสถานเดิม ให้รับกับความเชื่อใหม่ที่เข้ามาภายหลัง ทั้งดัดแปลง ทั้งรื้อ และก็นำหินที่เป็นวัสดุเก่านั้นไปใช้สร้างใหม่ เช่นเจดีย์ในวัดมหาธาตุ นำศิลาแลงจากปราสาทหลังกลางและบรรณาลัยไปสร้างเป็น สถูปแบบลังกา ปรางค์เก่าที่อยู่ระหว่างบรรณาลัยก็แปลงเป็นสถูปสามชั้นทรงปิรามิด แล้วค่อยแปลงเป็นห้ายอดภายหลังอีกครั้งหนึ่ง
๖) การค้นพบนี้ นักวิชาการผู้นำเสนอ
ไม่มีใครเสนอครับ เพราะไม่มีนักวิชาการคนไหนทำครับ แต่บังเอิญผมศึกษามาทางมานุษยวิทยา ผมก็ใช้วิธีการทางมานุษยในการศึกษาประวัติศาสตร์ แทนการมองจากประวัติศาสตร์ศิลป์
๗) หลักฐานนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง หรือว่าเป็นการนำเสนอโดยนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นแนวคิดเท่านั้น
เป็นแนวคิดครับ เพราะอะไรที่ขัดกับแบบเรียน ม. 2 ทุกอย่างเป็นแนวคิดหมด อย่างของค่ายศิลปวัฒนธรรม ก็เป็นแนวคิดทั้งหมด เช่นเรื่องนางนพมาศ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ลอยกระทง สังคโลก ฯลฯ ล้วนเป็นแนวคิดหมด เพราะประวัติศาสตร์สุโขทัย แตะต้องไม่ได้แล้ว
๘ ) ผู้สนับสนุน มีใครบ้าง ผู้คัดค้าน ในแวดวง มีใครบ้าง
ไม่มีใครศึกษาประวัติศาสตร์แบบคติชนวิทยาและคติศาสนาความเชื่อเลยในประเทศไทย นอกจากตามประวัติศาสตร์จารึกและประวัติศาสตร์ศิลปะเดิมครับ
๘) การคัดค้าน คุณวรณัยพบไหมว่า มีใครบ้าง และคัดค้านอย่างไร
ยังไม่มีครับ เพราะในประเทศไทยมีคนเชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการของศาสนาพุทธในประเทศไทยไม่กี่คน ผมศึกษาประยุกต์มาจากงานของอาจารย์ผาสุขและเอกสารวัรชยานของต่างประเทศ ประกอบกับการศึกษาเรื่องวัชรยานในประเทศไทยจากหลักฐานที่ค้นพบตามที่ต่าง ๆ เองครับ
ไปเจอที่นี่
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=18"ศาสตราจารย์คล็อด จาคส์ (Claude Jacques 2003) กล่าวว่าเมื่อพิจารณาจากจารึก พิมายน่าจะเป็นพุทธสถานในนิกายศรีคณะ
ขณะที่รองศาสตราจารย์ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ (๒๕๔๒: ๒๑ - ๒๓) เรียกรูปแบบศิลปะในพุทธศาสนาสมัยอารยธรรมเขมรทั้งหมดว่าอยู่ในลัทธิวัชรยานหรือตันตระยาน (เป็นลัทธิจากอินเดียที่ให้กำเนิดพระชินะหรือที่เรียกว่า “พระธยานิพุทธ” ห้าพระองค์ ตัวแทนขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ทรงพระนามว่า พระอักโษภยะ ไวโรจนะ รัตนสัมภวะ อมิตาภะ และอโมฆสิทธิ) และในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ทรงสถาปนาลัทธิวัชรยานเป็นศาสนาประจำชาติ มีการสร้างรูปพระวัชรสัตว์พุทธเจ้า ซึ่งในลัทธิวัชรยานถือเป็นอาทิพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์แรกซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาด้วยพระองค์เอง)
มีการสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระรัตนตรัยมหายาน ซึ่งประกอบไปด้วยรูปพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา ผู้เป็นพระวัชรสัตว์พระพุทธเจ้าประทับนั่งปางนาคปรก ถือหม้อน้ำอมฤตหรือลูกสมอไว้ในอุ้งพระหัตถ์ เคียงข้างด้วยรูปพระโลเกศวร (พระศรีสูรยไวโรจนจันทโรจิ) ยืนสี่กร และรูปพระนางปรัชญาปารมิตา (พระศรีจันทรไวโรจนหิณีศะ) ยืนสองกร
นอกจากนี้ยังพบรูปพระวัชรธร (พระอาทิพุทธปางประทับนั่ง พระหัตถ์ทั้งสองถืออาวุธ ซึ่งเป็นรูปสายฟ้าและกระดิ่ง ไว้ตรงพระอุระ) ทำด้วยหินทรายขนาดมาตรฐาน สูงประมาณ ๕๐ เซ็นติเมตร อยู่ในวิหารพระไภษัชยคุรุหลายแห่ง เช่นที่กุฏิฤๅษีพิมาย จังหวัดนครราชสีมา กู่แก้ว จังหวัดขอนแก่น กู่สันตรัตน์ จังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น"
น่าสนใจมาก อ.พิริยะเสนอแนวคิดเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณวรณัยน่าจะเคยอ่าน
เห็นบอกไว้ในค.ห. 63 ว่า
"ผมมีหนังอาจารญืพิริยะทุกเล่ม และอ่านครบทุกเล่ม เช่นเดียวกับหนังสือในเครือศิลปวัฒนธรรมและหนังสือเก่า ของอาจารย์ น และอีกหลายสำนัก ก็อ่านครบทุกเล่ม"
แนวคิดของอ.พิริยะที่เรียกรูปแบบศิลปะในพุทธศาสนาสมัยอารยธรรมเขมรทั้งหมดว่าอยู่ในลัทธิวัชรยานหรือตันตระยาน เหมือนหรือแตกต่างจากของคุณวรณัยยังไงบ้างคะ