ผมถึงจะไม่สันทัดในด้านกลอนนัก แต่ก็มีกลอนของท่านติดอยู่ในความทรงจำมิเคยลืม แม้วันเวลาจะผ่านไปเท่าไร เช่น
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ
จากนิราศพระบาท
และยังมีกลอนที่แสนจะคลาสสิค ที่ยังตราตรึงยากจะลืมเลือน เช่นตอนที่พระอภัยมณีเกี้ยวนางละเวง บทเพลงหลายเพลงก็เอาไปประกอบด้วย
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
ถึงอยู่ในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม่เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมประทุมทอง
เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่ เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
นี่กระมังคือความเป็นอมตะ ที่เป็นสมบัติของไทยเราและของโลก เป็นสิ่งที่ไม่มีวันตายไป ด้วยความซาบซึ้งทุกครั้งที่ได้ขับลำนำเหล่านี้........
