เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 23916 โคลงแบบสุนทรภู่
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
 เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 17:45

สุนทรภู่มีชื่อลือเลื่องเป็นเลิศในกระบวนกลอน กลอนแปดแบบสุนทรภู่ถือเป็นกลอนครูมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในบรรดาผลงานของท่าน มีนิราศสุพรรณที่แต่งโดยใช้ฉันทลักษณ์เป็นโคลงสี่สุภาพ

แต่ขึ้นชื่อว่าสุนทรภู่แล้ว จะเป็นแค่โคลงสี่ธรรมดาก็กระไรอยู่ โคลงของสุนทรภู่จึงมีเอกลักษณ์บางประการที่แตกต่างจากแบบแผนโคลงที่เขียนกันมา ผมขอเลือกตัวอย่างบทแรกของนิราศสุพรรณที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของโคลงแบบสุนทรภู่ดังนี้ครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาวเขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกฟ้าพาหนาว

บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 17:52

ลักษณะเด่นประการแรกของโคลงแบบสุนทรภู่คือ จะใช้สัมผัสสระระหว่างคำที่สองและสามของทุกบาท นอกจากจะทำให้ลีลาไหลลื่นแล้ว ยังเป็นการบังคับการแบ่งจังหวะการอ่านเป็น 2-3-2 ไปในตัว ดังนี้ครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาวเขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกฟ้าพาหนาว

ลักษณะนี้ถือเป็นลักษณะพิเศษ เพราะโคลงโดยทั่วไป ไม่นิยมใช้สัมผัสสระ ถ้ามีก็จะเป็นสัมผัสอักษรเสียมากกว่า และการแบ่งวรรคตอนของโคลงนั้น โดยทั่วไปค่อนข้างยืดหยุ่น 2-3-2 หรือ 3-2-2 ปะปนกันไปครับ

มีบ้างที่สุนทรภู่จะใช้สัมผัสอักษรแทน หรือบางครั้งก็ใช้สัมผัสสระจากคำที่สองไปคำที่สี่ แต่ก็เป็นส่วนน้อยครับ เกือบทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบนี้
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:02

ข้อสังเกตต่อมา สุนทรภู่จะพยายามใช้สัมผัสระหว่างคำสุดท้ายของวรรคแรกไปยังคำหน้าของบาทหลังในทุกๆบาท โดยที่จะใช้สัมผัสอักษรเป็นหลัก ยกเว้นบาทแรกที่มีการใช้สัมผัสสระปะปนกับสัมผัสอักษร ดูคร่าวๆไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าอย่างไหนมากกว่า ใครจะลองนับมาเป็นวิทยาทานก็จะขอบคุณมากครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาวเขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกฟ้าพาหนาว

ลักษณะเช่นนี้ จะว่าไปก็ไม่แปลกนัก เพราะเป็นความนิยมปกติของการแต่งโคลงอยู่แล้ว (ยกเว้นเรื่องการใช้สัมผัสสระวรรคแรก) แต่โคลงแบบสุทรภู่นั้นเน้นมาก ใช้บ่อยจนแทบจะเป็นบังคับสัมผัสเลยครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:06

ข้อสังเกตประการที่สาม อันนี้ดูเหมือนจะเล็กน้อย คือการใช้คำสร้อยบาทที่สาม ถึงแม้ว่าฉันทลักษณ์โคลงจะอนุญาตให้ใช้คำสร้อยท้าบบาทสามเป็นปกติ แต่กวีคนอื่นๆจะไม่ได้ใช้มากเท่ากับสุนทรภู่ ในนิราศสุพรรณใส่คำสร้อยท้ายบาทสามเกือบจะครบทุกบทครับ ถือเป็นลักษณะพิเศษเช่นกัน โดยจะลงด้วยคำว่า เอย มากที่สุด รองลงมาคือ แฮ มีใช้คำอื่นปะปนน้อยครั้งมากครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาวเขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกฟ้าพาหนาว
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:09

ข้อสังเกตประการที่สี่คือ ใช้สัมผัสสระระหว่างคำที่เจ็ดและแปดของบาทสามและสี่ครับ ถือว่าเป็นลักษณะพิเศษเหมือนกัน เพราะโคลงทั่วไปนิยมใช้สัมผัสอักษรมากกว่า นอกจากนั้น สุนทรภู่ใช้สัมผัสลักษณะนี้เป็นปกติเกือบทุกบทเช่นกันครับ

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า    ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาวเขนยแนบ  แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกฟ้าพาหนาว
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:17

ข้อสังเกตประการสุดท้าย

สุนทรภู่จะ ไม่ใช้ การร้อยโคลง ซึ่งใช้สัมผัสสระจากคำสุดท้ายของบทไปยังคำใดคำหนึ่งในวรรคแรกของบทถัดไปอย่างที่พบในโคลงลิลิตตะเลงพ่าย และงานประพันธ์โคลงของครูเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:25

เกือบลืมไปอีกประการหนึ่ง โคลงของสุนทรภู่นิยมเอกโทษโทโทษ ใช้มากจนเป็นปกติ บางท่านตั้งข้อสังเกตว่าสุนทรภู่แต่งโคลงด้วยหู เน้นเสียงเป็นหลัก แต่ผมไม่เห็นด้วยเสียทั้งหมด

เรื่องที่ว่าแต่งด้วยหูนั้นจริงครับ แต่ไม่ถึงกับเน้นเสียงเป็นหลัก ยังเคร่งครัดกับรูปอยู่ เพราะไม่เคยใช้คำที่ไม่สามารถเขียนเป็นเอกโทษหรือโทโทษเลยครับ

จบการตั้งข้อสังเกตแล้วขอเขียนโคลงเลียนครูหนึ่งบทครับ

น้ำนองคลองคลั่งน้ำ    คร่ำครวญ
ยามดึกนึกหน้านวลนิ่มเนื้อ
เจ้าจากหากไม่หวนหาพี่ นี้นา
จะท่องทางรกเรื้อร่ำไห้ใจสลาย
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 11 มิ.ย. 07, 18:37

มีโคลงบทหนึ่งที่เล่าลือกันว่าเป็นผลงานของสุนทรภู่ ดังนี้ครับ

เฉน็งไอมาเวิ่งเว้า    วู่กา
รูกับกาวเมิงแต่ยามู่ไร้
ปิดเซ็นจะมู่ซาเคราทู่
เฉะแต่ตอบห้วยไม้หลิ่งกล้นกลนถนาง

ผมอ่านแล้วขัดข้องใจ ด้วยเหตุผลว่าฉันทลักษณ์ไม่เข้าเกณฑ์โคลงแบบสุนทรภู่ ถึงแม้จะคิดว่าแต่งเอาสนุก สัมผัสในไม่ต้องคิดมากเพราะถูกบีบด้วยข้อจำกัดอื่น แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่พิกลเกินไปคือวรรคแรกของบาทที่สอง

รูกับกาวเมิงแต่ยา

ดูด้วยตาอาจเห็นว่าคำเกินมาหนึ่งคำ แต่ผมอ่านรวบ เมิงแต่ยาได้เป็นสองคำ ซึ่งถือว่าแปลกประการหนึ่ง เพราะเท่ากับว่าแบ่งวรรคตอนเป็น 3-2 ผิดความนิยมส่วนตัวของสุนทรภู่

หากใครจะแย้งว่าหากอ่านรวบ รูกับกาว เป็นสองคำ ก็สามารถเข้าเกณฑ์ 2-3 ได้ อันนั้นก็จริงอยู่ แต่จะทำให้ตกเอกคำที่สองไปครับ เพราะไปลงคงว่า กาว พอดี ถึงแม้ผมเองจะไม่ถือ แต่ไม่เคยเห็นท่านสุนทรทำอย่างนี้ครับ ดังนั้นข้อนี้น่าจะตกไป

ส่วนตัวผมคิดว่าโคลงบทนี้ไม่ได้แต่งโดยสุนทรภู่ครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 11:51


        คิดว่า สุนทรภู่ ท่านแต่งกลอนมีสัมผัสในแพรวพราว เมื่อท่านแต่งโคลง โคลงท่านจึง
มีสัมผัสในเช่นกัน

             จากโคลงของท่านที่คุณ CHO  นำมาแสดง เมื่อนำมาดัดแปลงเล็กน้อย ก็พอจะ
กล้อมแกล้มกลายเป็นกลอนได้ดังนี้  ครับ

                  เดือนช่วงดวงเด่นฟ้าดาดาว              จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย     

ยามดึกนึกหนาวหนาวแนบเขนยน้อย                 ฟ้าฉ่ำน้ำค้างย้อยเยือกเย็น

             
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 14:15

โคลงเก่าๆ (กว่ายุคสุนทรภู่) ก็มีการใช้สัมผัสในแพรวพราวอยู่แล้วครับ แต่นิยมใช้สัมผัสอักษรเป็นหลัก และไม่ยึดตำแหน่งตายตัวแบบโคลงสุนทรภู่

เช่นบทนี้จากนิราศนรินทร์ ของนายนรินทร์ธิเบศร์ (ก่อนสุนทรภู่เล็กน้อย)

โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ    แลโลม โลกเอย
แม้ว่ามีกิ่งโพยมยื่นหล้า
แขวนขวัญนุชชูโฉมแมกเมฆ ไว้แม่
กีดบ่มีกิ่งฟ้าฝากน้องนางเดียว

บางคนถึงกับวิจารณ์ว่าสุนทรภู่แต่งโคลงไม่เป็น แต่ผมคิดว่าสุนทรภู่แค่สร้าง "ทางโคลง" แบบใหม่ขึ้นมาโดยอิงกับทางกลอนของตัวเองที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว

ส่วนใครจะนิยมแบบไหน เชิญเลือกได้ตามใจครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 16:08

ยังไม่มีเวลาศึกษานิราศสุพรรณอย่างละเอียด แต่จำได้ว่าหลายบทในนั้นเป็น "กลบท" ค่ะ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 16:58

เฉพาะข้อสังเกตในคคห.2 ถ้าบาทแรกส่งวรรคแรกไปวรรคหลังด้วยสัมผัสอักษร จะเข้าลักษณะกลบทโตเล่นหาง

ต้องมีเกือบครึ่งหนึ่งในนิราศสุพรรณที่เข้าข่ายนี้เลยครับ

บางบทขยายเป็นกลบทอักษรล้วน (บังคับสัมผัสอักษรสามคำติดกันทุกบาท) เช่น

จำร้างห่างน้องนึก    น่าสวน
สองฝ่ายชายหญิงยวนยั่วเย้า
หวังชายฝ่ายหญิงชวนชื่นเช่น เหนเอย
กลเช่นเล่นซักเศร้าเสพเผื้อนเฟือนเกษม

น่าคิดว่าสุนทรภู่ตั้งใจเล่นกลบทนี้หรือไม่ เพราะลักษณะนี้เป็นลีลาที่สุนทรภู่ชอบเล่นอยู่แล้ว และมีหลายบทมากที่เกือบเข้าลักษณะ ขาดไปเพียงหนึ่งบาท ทั้งๆที่สมารถแก้ไขให้เข้ากลบทได้ แต่ก็ไม่ทำครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 17:12

บทนี้ตั้งใจแน่ครับ กลบทนาคบริพันธ์

สาวเอยเคยอ่อนหนุ้ม    อุ้มสนอม
ออมสนิทชิดกลิ่นหอมกล่อมให้
ไกลห่างว่างอกตรอมออมตรึก รฦกเอย
เลยอื่นขึ้นครองไว้ใคร่หว้าหน้าสวน



บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 21:42

กลบทนาคบริพันธ์อีกบทหนึ่งครับ ตามหลังบทก่อนหน้านี้นิดเดียว เป็นหนึ่งในไม่กี่บทที่ไม่ใช้คำสร้อยบาทสามเพื่อให้เป็นนาคบริพันธ์แบบปกติ
เคราะกำจำห่างน้อง    ห้องนอน
หวนนึกดึกเคยวอนค่อนหว้า
คิดไว้ไม่ห่างจรห่อนจาก
หากจิตรมิศหลายหน้าล่าน้องหมองหมาง
   
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 13 มิ.ย. 07, 22:02

ด้านกลอน สุนทรภู่เคยเล่นกลบทบ้างหรือเปล่าคะ
คนที่เอาโคลงมาเล่นกลบท ไม่น่าจะเป็นมือใหม่หัดแต่งโคลง แต่เป็นมือเก่าทีเดียว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.08 วินาที กับ 19 คำสั่ง